อู่ในเครือเมืองไทยประกันภัย

หากคุณเป็นลูกค้าของเมืองไทยประกันภัยแล้วรยนต์ของคุณมีปัญหาแล้วล่ะก็ ทางบริษัทก็มาพร้อมกับอู่ในเครือเมืองไทยประกันภัยที่พร้อมจะดูแลรถของคุณให้กับมาอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน โดยอู่ซ่อมรถเมืองไทยประกันภัยมีบริการหลากหลายเพื่อตอบรับทุกความต้องการของผู้ใช้งาน เราไปดูกันเลยว่าอู่ในเครือเมืองไทยประกันภัยมีบริการอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง

• ตรวจเช็กสภาพรถยนต์ : เมืองไทยประกันภัย อู่ในเครือได้ให้บริการด้านการตรวจเช็กสภาพรถยนต์ในด้านต่าง ๆ เพื่อเตรียมความพร้อมให้รถอยู่ในสภาพที่สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการเช็กสภาพรถในจุดเล็ก ๆ ไปจนถึงการตรวจละเอียดหลายรายการไม่ว่าจะเป็น ระบบช่วงล่างต่าง ๆ ระบบเครื่องยนต์ ระบบแอร์ รวมไปถึงยางและการตรวจเช็กอีกหลากหลายรูปแบบที่อู่ซ่อมรถในเครือเมืองไทยประกันภัยพร้อมให้บริการ
• ดูแลรักษาสภาพรถยนต์ : สำหรับการเปลี่ยนอะไรต่าง ๆ การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง เปลี่ยนแบตเตอรี่ ทำความสะอาดรถ รวมไปถึงอีกหลากหลายการบำรุงดูแลรักษาที่จะช่วยให้รถยนต์ของโปรดขอทุกคนอยู่ในสภาพดีเยี่ยมซึ่งอู่ในเครือเมืองไทยประกันภัยก็พร้อมให้การบริการ
• ซ่อมแซมส่วนสึกหรอและเปลี่ยนอะไหล่ : อู่ซ่อมรถเมืองไทยประกันภัยยังพร้อมรองรับกับการซ่อมแซมรถยนต์ที่เกิดความเสียหายจากอุบัติเหตุ หากคุณเป็นลูกค้าของเมืองไทยประกันภัยสามารถนำรถที่มีปัญหาเข้าอู่ซ่อมรถ เคลมประกันเมืองไทย
• ทำสีและซ่อมแซมตัวถัง : การเก็บสีและความเรียบร้อยของตัวรถทางอู่ในเครือเมืองไทยประกันภัยก็พร้อมให้การบริการเพื่อให้รถของคุณกับมามีสภาพคล้ายกับปกติให้ได้มากที่สุด

หากต้องการเข้าอู่เมืองไทยประกันภัยก็สามารถค้นหา “อู่ซ่อมรถเมืองไทยประกันภัยใกล้ฉัน” และก็อย่าลืมตรวจเช็กข้อมูลความถูกต้อง กับอู่ที่รับเคลมประกันในเครือก่อนเข้ารับบริการ

แม้ว่าเราจะป้องกันแค่ไหนก็ตามแต่ก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นได้ แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน อย่างแรกที่ต้องทำคือการตั้งสติให้อยู่ จากนั้นตรวจโดยรอบอย่างคร่าว ๆ ว่ามีอะไรเสียหายหรือไม่ หากรถยนต์เกิดความเสียหายและคุณต้องการใช้บริการอู่ในเครือเมืองไทยประกันภัย เรามีขึ้นตอนง่าย ๆ ที่จะแนะนำให้คุณทราบดังนี้

1. แจ้งอุบัติเหตุกับบริษัทประกัน : เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่ต้องทำอย่างแรกหลังจากตั้งสติได้แล้ว ให้รีบติดต่อไปที่เจ้าหน้าที่ของเมืองไทยประกันภัยหมายเลข 1484 แจ้งการเกิดอุบัติเหตุ โดยสามารถทำการแจ้งได้ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งเจ้าหน้าที่จะให้คำแนะนำต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการแจ้งความ หรือว่าจะเป็นการแนะนำให้ติดต่อรถลากหรือรถยกในกรณีที่รถเสียหายหนัก
2. ประเมินความเสียหาย : ระหว่างรอเจ้าหน้าที่มายังจุดเกิดเหตุเพื่อทำเรื่องส่งไปอู่ในเครือเมืองไทยประกันภัย อย่าลืมที่จะลงรถไปประเมินความเสียหายเบื้องต้นและเก็บรายละเอียดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพหรือบันทึกเป็นวิดีโอเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการแจ้งเคลม 
3. อนุมัติการซ่อม : เมื่อเจ้าหน้าที่ประเมินความเสียหายแล้วจะออกใบเคลมให้คุณ หากความเสียหายอยู่ในขอบเขตที่บริษัทประกันคุ้มครอง คุณสามารถนำใบเคลมนี้ไปที่อู่ซ่อมรถเมืองไทยประกันภัยที่คุณสะดวก หรืออาจค้นหาจาก “อู่ซ่อมรถเมืองไทยประกันภัยใกล้ฉัน” ก็ได้
4. ซ่อมแซมรถยนต์ :อู่ในเครือเมืองไทยประกันจะทำการประเมินความเสียหายอย่างละเอียด พร้อมกับวางแนวทางการซ่อมแซมความเสียหายต่าง ๆ จากนั้นจึงทำการลงมือซ่อมแซมให้รถยนต์ของคุณกลับมามีสภาพดังเดิม ไม่ว่าจะเป็นเปลี่ยนอะไหล่ ซ่อมแซมตัวรถ ทำสีและการซ่อมบำรุงต่าง ๆ ตามความเสียหายที่เกิดขึ้น
5. รับรถยนต์ : เมื่อรถซ่อมแซมเรียบร้อยก็สามารถนำรถออกจากอู่ในเครือเมืองไทยประกันภัยได้เลย

เน้นย้ำอีกครั้งหาเกิดเหตุควรรีบติดต่อกับบริษัทประกันภัยทันที เพื่อให้คุณได้รับความช่วยเหลือที่ถูกต้องและทันท่วงที

เมื่อรถยนต์เกิดความเสียหายอะไหล่ต่าง ๆ ไม่อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ก็จำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนอะไหล่ชุดใหม่เพื่อให้รถยนต์สามารถใช้งานได้ โดยหากคุณเข้ารับการซ่อมแซมที่อู่ในเครือเมืองไทยประกันภัย หรือจะเป็นอู่รถยนต์ที่อื่นก็ตาม คุณสามารถเลือกประเภทของอะไหล่ที่จะมาเปลี่ยนได้ โดยปัจจุบันมีอะไหล่ให้เลือกเปลี่ยนด้วยกัน 2 รูปแบบคือ 

1. อะไหล่แท้ (OEM) :

อะไหล่แท้หรือ Original Equipment Manufacturer คืออะไหล่ที่ถูกผลิตจากบริษัทผู้ผลิตรถยนต์โดยตรง เลือกใช้วัสดุที่ได้มาตรฐาน ผ่านการคำนวญมาเป็นอย่างดี ทำให้มั่นจะได้ว่าเป็นอะไรที่ไม่ผิดสเปกสามารถนำมาใช้งานกับรถรุ่นนั้นได้ ซึ่งอู่ซ่อมรถเมืองไทยประกันภัยก็มีการสต๊อกอะไหล่แท้ (OEM) ไว้ให้คุณได้เลือกใช้งาน 

2. อะไหล่เทียบ :

หรือ Aftermarket Parts คืออะไรที่ทางแบรนด์รถยนต์ไม่ได้เป็นผู้ผลิตออกมาเอง แต่เป็นบริษัทหรือผู้ผลิตรายอื่นทำออกมาจำหน่ายโดยเทียบกับอะไหล่ OEM ซึ่งทำให้สามารถใช้ทดแทนเมื่ออะไหล่ในรถยนต์เสียหาย โดยมีจุดประสงค์หลัก ๆ ก็คือในเรื่องของราคาที่จะถูกกว่า และในอะไหล่เทียบบางรุ่นอาจจะให้ประสิทธิภาพการใช้งานที่ดีกว่า OEM โดยต้องสอบถามกับทางอู่ในเครือเมืองไทยประกันภัยว่ามีอะไหล่ในแบบที่คุณต้องการหรือไม่

 การเลือกใช้อะไหล่ประเภทไหนขึ้นอยู่กับความต้องการและความสมัครใจของเจ้าของรถ อู่ซ่อมรถ เคลมประกันเมืองไทยหรือว่าใครก็ไม่สามารถบังคับได้ โดยราคาก็จะแตกต่างกันตามประเภท รุ่น ยี่ห้อ เป็นอีกปัจจัยที่เจ้าของรถควรคำนึงถึง ซึ่งสามารถขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญได้

ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในการซ่อมรถกับอู่ในเครือเมืองไทยประกันภัยจะขึ้นอยู่กับความเสียหายที่เกิดขึ้น อะไหล่ที่เลือกใช้ รวมไปถึงประเภทของกรมธรรม์ประกันภัยที่คุณได้ทำไว้ โดยถ้าคุณได้ทำประกันรถยนต์ชั้น 1 กุบทางไทยประกันภัยไว้แล้วล่ะก็ คุณสามารถเรียกเคลมค่าซ่อมบำรุงรถยนต์ที่อู่ซ่อมรถในเครือเมืองไทยประกันภัยกับทางบริษัทได้

แต่ในกรณีที่คุณมีความต้องการอะไหล่รถยนต์ที่ที่มีประสิทธิภาพดี มีราคาสูง และต้องการเปลี่ยนอะไหล่ที่อยู่นอกเหนือความคุ้มครองจากกรมธรรม์ประกันรถยนต์ที่คุณได้ทำเอาไว้ ตรงส่วนนี้อาจจะทำให้มีค่าใช้จ่ายส่วนต่างที่เพิ่มขึ้นจากการซ่อมบำรุงในแบบปกติ ทางที่ดีคุณควรขอคำปรึกษาจากอู่ซ่อมเมืองไทยประกันภัยหรือผู้เชี่ยวชาญ

หากคุณได้ทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ไว้กับเมืองไทยประกันภัยแล้วล่ะก็คุณจะได้รับสิทธิพิเศษมากมายไม่ว่าจะเป็นรถสไลด์หรือรถลากในกรณีฉุกเฉินเมือ่รถของคุณเกิดปัญหาไม่สามารถใช้งานต่อได้ บริการให้คำปรึกษาตลอด 24 ชั่วโมง บริการอู่ในเครือเมืองไทยประกันภัยที่มีการกระจายตัวอยู่ทั่วประเทศ รวมไปถึงบริการจองเช่ารถและอีกมากมายให้คุณได้เลือกใช้งาน