เปรียบเทียบและซื้อประกันรถมอเตอร์ไซค์ชั้น 1 จากบริษัทประกันชั้นนำ

ประเภทของประกันรถมอเตอร์ไซค์โดยทั่วไปจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่

1. ประกันรถมอเตอร์ไซค์ภาคบังคับ

ประกันภัยรถจักรยานยนต์ภาคบังคับ หรือที่รู้จักกันในชื่อ พ.ร.บ. เป็นประกันภัยที่ผู้ใช้งานรถมอเตอร์ไซค์ทุกคนจะต้องทำ เพื่อให้สามารถใช้งานรถมอเตอร์ไซค์ได้อย่างถูกกฎหมาย โดยประกัน พ.ร.บ. จะมอบวงเงินคุ้มครองขั้นพื้นฐานให้ ในกรณีที่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากอุบัติเหตุขณะใช้งานรถมอเตอร์ไซค์ ราคาเบี้ยประกันจะแตกต่างกันไปตามขนาดของเครื่องยนต์ 
 

2. ประกันมอเตอร์ไซค์ภาคสมัครใจ

คือประกันภัยที่จะเลือกทำหรือไม่ทำก็ได้ ขึ้นอยู่กับความประสงค์ของผู้ใช้รถเอง โดยประกันรถมอเตอร์ไซค์รูปแบบนี้ จะเป็นการเพิ่มความคุ้มครองให้ครอบคลุมมากขึ้น พร้อมทั้งวงเงินคุ้มครองที่มากขึ้น เพื่อช่วยเพิ่มความอุ่นใจให้กับผู้ใช้งานรถมอเตอร์ไซค์นั่นเอง มีหลากหลายรูปแบบดังต่อไปนี้ ประกันภัยรถมอเตอร์ไซค์ชั้น 1, ประกันภัยรถมอเตอร์ไซค์ชั้น 2+, ประกันภัยรถมอเตอร์ไซค์ชั้น 3 และ ประกันภัยรถมอเตอร์ไซค์ชั้น 3+

ประกันรถมอเตอร์ไซค์ จะมีประเภทการคุ้มครองที่แตกต่างกันออกไป คล้ายกับประกันรถยนต์ ก็คือ ชั้น 1, ชั้น 2, ชั้น 3 สำหรับเบี้ยประกัน หากเป็น ประกันรถมอเตอร์ไซค์ชั้น 1 ต้องมีราคาสูงกว่าประกันรูปแบบอื่น ๆ อยู่แล้ว และถึงแม้ว่าเบี้ยประกันจะมีราคาสูง แต่ก็ยังเป็นประกันที่ได้รับความนิยมมากที่สุดอยู่ดี หากจะถามถึงเหตุผลว่า “ทำไม ประกันรถจักรยานยนต์ชั้น 1 ถึงได้รับความนิยม” ก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่อง ความคุ้มครองที่ค่อนข้างตอบโจทย์ ครอบคลุมทุกความต้องการ

เพราะรถมอเตอร์ไซค์ ก็ต้องการการดูแลเอาใจใส่ที่ดีไม่แพ้รถยนต์ โดยเฉพาะรถบิ๊กไบค์ หรือ รถจักรยานยนต์ที่มีราคาแพง ควรมีประกันภัยมอเตอร์ไซค์ชั้น 1 ถึงแม้เบี้ยประกันจะแพงกว่าประเภทอื่น ๆ แต่ในเรื่องของความคุ้มครองก็ถือว่าเป็นความคุ้มครองที่ดีที่สุด คุ้มค่าที่จะจ่ายเบี้ยประกันไป ตอบโจทย์กับรถจักรยานยนต์ที่ราคาสูง มีค่าบำรุงรักษาที่สูง ค่าอะไหล่ที่แพง หรือหายากมาก ๆ นั่นเอง ซึ่ง ประกันภัยรถมอเตอร์ไซค์ชั้น 1 จะให้ความคุ้มครองดังต่อไปนี้

• ความรับผิดชอบต่อคู่กรณี
  • ความรับผิดชอบต่อชีวิต และร่างกาย
  • ความรับผิดชอบต่อทรัพย์สิน
  • ค่ารักษาพยาบาล
• ความรับผิดชอบต่อผู้เอาประกัน
  • รถมอเตอร์ไซค์ไฟไหม้
  • รถมอเตอร์ไซค์หาย
  • เงินชดเชยกรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ หรือทุพพลภาพภาวร
  • ค่ารักษาพยาบาล
  • การประกันตัวผู้ขับขี่ในคดีศาลอาญา

ซึ่ง การทำประกันภัยรถมอเตอร์ไซค์ชั้น 1 อาจจะมีเงื่อนไขในการรับประกันด้วยเหมือนกัน เช่น รถที่ทำประกันจะต้องมีราคาขาย 80% ของปีนั้น ๆ หรือต้องเกิน 400,000 บาท หรือราคาของรถจักรยานยนต์ต้องเกิน 500,000 บาท ทั้งนี้ ข้อกำหนดและเงื่อนไขของแต่ละบริษัทก็แตกต่างกันออกไป ผู้เอาประกันควรตรวจสอบให้ถี่ถ้วนอีกครั้งก่อนทำการสมัคร โดยสามารถเปรียบเทียบประกันรถมอเตอร์ไซค์ หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญผ่านบริการของ Rabbit Care ได้แบบไม่เสียค่าใช้จ่าย

หลายคนอาจจะทราบกันดีแล้วว่า การทำ พ.ร.บ. ถึงแม้จะให้ความคุ้มครอง แต่เมื่อเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันขึ้น หลายครั้งที่วงเงินคลุมครองมีจำกัด ทำอาจไม่เพียงพอต่อค่ารักษาพยาบาลต่าง ๆ แน่นอนว่าก่อนจะทำประกันอะไรก็ตาม การรู้จักกับรายละเอียดต่าง ๆ จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม และหลายคนอาจยังสงสัยว่าประกันรถจักรยานยนต์ชั้น 1 เมื่อเปรียบเทียบกับประกันรถยนต์แล้ว มีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร?

เบื้องต้นเราขอจำแนกความต่างของประกันรถจักรยานยนต์ ดังนี้ 
 

• ประกันชั้น 1 มอเตอร์ไซค์ ครอบคลุมทั้งผู้ซื้อประกันและคู่กรณี และในทุกกรณีทั้งชน, สูญหาย, ไฟไหม้ โดยจะมีค่าเสียหายส่วนแรกหากไม่มีคู่กรณี 
• ประกันชั้น 2+ มอเตอร์ไซค์ ชดเชยให้ทั้งบุคคลภายนอก ความเสียหายต่อรถคันที่ซื้อประกัน เฉพาะกรณีที่เฉี่ยวชนกับยานพาหนะบก 
• ประกันชั้น 3 มอเตอร์ไซค์ ชดเชยความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สิน เฉพาะรถคู่กรณี ไม่ซ่อมรถผู้ทำประกันเมื่อเกิดอุบัติเหตุ 
• ประกันชั้น 3+ มอเตอร์ไซค์ ทดแทนสินไหมค่าซ่อมทั้งรถคู่กรณี และรถเรา และต้องเป็นกรณีรถชนรถที่มีคู่กรณีเท่านั้น

จะเห็นว่าประกันของรถมอเตอร์ไซค์เปรียบเทียบแล้วจะคล้ายกับประกันภัยรถยนต์อยู่บ้าง แต่ประกันมอเตอร์ไซค์ อาจจะมีเงื่อนไขและรายละเอียดปลีกย่อยของประกันชั้น 1 มอเตอร์ไซค์ที่แตกต่างกันออกไปจากประกันรถยนต์ ทั้งประเภทชั้นประกัน บริษัทประกันรถมอเตอร์ไซค์ หรือการเลือกอู่ซ่อม หรือศูนย์ฯ เพื่อเข้าซ่อมแซม

อย่างที่ทุกคนรู้กันดีว่า ประกันรถมอเตอร์ไซค์ ชั้น 1 จะมีราคาเบี้ยประกันที่แพงที่สุดในบรรดาประเภทประกันภัย ยิ่งเบี้ยประกันรถมอเตอร์ไซค์แพงเท่าไหร่ ข้อดีก็คือ ได้รับความคุ้มครองที่เพิ่มขึ้น เลยไม่ใช่เรื่องผิดเลย ถ้าใคร ๆ ก็อยากจะใช้ประกันรถมอเตอร์ไซค์ที่มีราคาสูงเพราะอยากได้ความคุ้มครองเยอะ ๆ

ซึ่งที่มาของราคาเบี้ยประกันเหล่านี้ ก็มาจากความคุ้มครองที่ค่อนข้างครอบคลุมทุกความต้องการ ซึ่งในบางประกันไม่สามารถให้ได้ เช่น ประกันรถสูญหาย ที่จะมีเฉพาะ ประกันชั้น 1 มอเตอร์ไซค์ เท่านั้น หรือมอเตอร์ไซค์ที่ใช้มีราคาแพง เสี่ยงสูญหายได้ง่าย ประกันชั้น 1 มอเตอร์ไซค์ เรียกได้ว่าตอบโจทย์อย่างมาก

แต่ของแพงก็ใช่ว่าจะดีเสมอไป เราต้องดูด้วยว่า เบี้ยประกันรถมอเตอร์ไซค์ ที่จ่ายไป คุ้มครองรถมอเตอร์ไซค์ของเราได้ดีแค่ไหน? แล้วคุ้มที่จะเสียไปหรือไม่? เพราะโดยปกติของคนที่กำลังจะตัดสินใจซื้ออะไรสักอย่าง ไม่ว่าจะราคาเท่าใด ต้องหาข้อมูล หรือรีวิวของผู้ที่เคยซื้อก่อนหน้าที่ว่า ดีพอที่จะตัดสินใจซื้อหรือไม่ เช่น

• ประกันรถมอเตอร์ไซค์ชั้น 1 ที่ xxx ราคาแพงจัง ไม่น่าซื้อเลย
• ประกันรถมอเตอร์ไซค์ ชั้น 3+ ของ xxx ราคาถูกมาก ๆ
• ประกันรถมอเตอร์ไซค์ ชั้น 2+ ของ xxx ราคาถูกก็จริง แต่พอจะเคลมก็เคลมไม่ได้ 
   

แต่สิ่งที่ดีที่สุดก่อนตัดสินใจซื้อประกันรถมอเตอร์ไซค์ก็คือ “การเปรียบเทียบเบี้ยประกันด้วยตัวเอง”  เพราะการใช้ราคาที่ต้องจ่ายเป็นตาชั่งในการตัดสินใจ ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ง่ายที่สุด (รวมไปถึงความคุ้มครองที่ได้รับ ซึ่งความคุ้มครองก็จะไปในทิศทางกับเบี้ยประกันรถมอเตอร์ไซค์)  ดังนั้น การคำนวณเบี้ยประกันรถมอเตอร์ไซค์ก่อนซื้อ จึงเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้การตัดสินใจเลือกประกันมีความคุ้มค่ามากขึ้นจากเดิม

ในประกันบางแผนจะมีการระบุเรื่องของค่าเสียหายส่วนแรกเอาไว้ และพบได้บ่อยในประกันรถมอเตอร์ไซค์ชั้น 1  ซึ่งค่าเสียหายส่วนแรก หรือ Deductibles คือ เงินค่าเสียหายที่ระบุในกรมธรรม์ว่าให้ผู้เอาประกันรถเป็นคนรับผิดชอบจ่ายค่าเสียหายในส่วนแรกนี้เมื่อเราเป็นผู้ทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น และจะจ่ายมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับบริษัทประกันและทุนประกันของรถมอเตอร์ไซค์คันนั้น ๆ ที่ได้ตกลงกันไว้ 

สาเหตุที่ต้องมีค่าใช้จ่ายส่วนนี้ เป็นเพราะว่าบริษัทประกันต้องการให้ผู้ขี่รถมอเตอร์ไซค์มีความระมัดระวังให้มากขึ้นนั่นเอง