ทำไมต้องซื้อประกันชีวิตผู้สูงอายุ

สำหรับประกันชีวิตผู้สูงอายุนั้นจำเป็นหรือไม่ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการ และจุดมุ่งหมายของผู้ทำ หากใครที่เข้าข่ายผู้สูงอายุ อยากมีเงินมรดกทิ้งไว้ให้ลูกหลาน หรือบางคนที่ต้องการซื้อประกันชีวิตให้พ่อแม่ การทำประกันชีวิตสำหรับผู้สูงอายุก็น่าสนใจมาก ๆ นอกจากจะบังคับให้คุณจ่ายเบี้ยประกัน เพื่อบังคับการออมบ่อย ๆ แล้ว บางรายให้สิทธิ์พิเศษ การคุ้มครองต่าง ๆ อีกด้วย

ไม่ต้องตรวจสุขภาพ และไม่ต้องตอบคำถามสุขภาพ

เนื่องจากประกันชีวิตผู้สูงอายุ เป็นประกันชีวิตที่ออกแบบมาเพื่อผู้สูงอายุโดยเฉพาะ แยกจากประกันชีวิตประเภทอื่น ๆ โดยสิ้นเชิง แต่ก็ต้องแลกกับเงื่อนไขที่ว่า ถ้าเสียชีวิตภายใน 2 ปีแรก จากอาการเจ็บป่วย ไม่ว่าโรคอะไรก็ตาม บริษัทจะไม่จ่ายเงินเอาประกันให้ และในกรณีที่เป็นอุบัติเหตุ จะไม่มีเงื่อนไขนี้ แต่ควรบอกทางบริษัททำประกันตั้งแต่ต้น เพื่อป้องกันการถูกบอกล้างประกันเมื่อตอนเคลมในเรื่องการบิดเบือนความจริง

การเลือกบริษัทประกันชีวิตสำหรับผู้สูงอายุควรคำนึงถึงหลายปัจจัย เช่น

• เงื่อนไขของแผนประกันชีวิต

ควรตรวจสอบแผนประกันชีวิตว่ามีข้อจำกัดหรือเงื่อนไขในการเอาประกันชีวิตของผู้สูงอายุหรือไม่ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีประวัติโรคประจำตัว

• ความน่าเชื่อถือของบริษัทประกันชีวิต

ควรตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทประกันชีวิตว่ามีความเชื่อถือและเป็นที่ยอมรับในตลาดหรือไม่ และประเมินความเสี่ยงของบริษัทประกันชีวิตเพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงในการให้บริการแผนประกันชีวิต

• ประสิทธิภาพและความสามารถด้านการเงิน

ควรตรวจสอบประสิทธิภาพการดำเนินงานและการจัดการเงินของบริษัทประกันชีวิตว่ามีประสิทธิภาพและความสามารถในการจัดการการเคลื่อนไหวของเงินในอนาคตหรือไม่

• อัตราค่าเบี้ยและความคุ้มครอง

ควรเปรียบเทียบอัตราค่าเบี้ยและการคุ้มครองของแผนประกันชีวิตระหว่างบริษัทประกันชีวิตต่างๆเพื่อเลือกแผนประกันชีวิตที่เหมาะสมกับความต้องการของผู้เอาประกันชีวิต

• การบริการลูกค้า

ควรเลือกบริษัทประกันชีวิตที่มีการบริการลูกค้าที่มีคุณภาพและเป็นกันเอง

• ระบบการชำระเงิน

ควรเลือกบริษัทประกันชีวิตที่มีระบบการชำระเงินที่สะดวกและง่ายต่อผู้เอาประกันชีวิต

• ความสามารถในการรับสินไหมทุกกรณี

ควรตรวจสอบว่าบริษัทประกันชีวิตสามารถรับสินไหมทุกกรณีหรือไม่ เช่น การเสียชีวิตจากการสัมผัสรังสี หรือการเสียชีวิตจากการเดินทางไกล

• การรับประกันที่เหมาะสม

ควรเลือกบริษัทประกันชีวิตที่มีแผนประกันชีวิตที่เหมาะสมกับความต้องการและความเหมาะสมของผู้เอาประกันชีวิตแต่ละคน

การคำนวณเบี้ยประกันชีวิตสำหรับผู้สูงอายุจะคำนวณจากหลายปัจจัย อาทิ

• อายุของผู้เอาประกันชีวิต
• สุขภาพของผู้เอาประกันชีวิต
• ประวัติการเจ็บป่วย
• รูปแบบของประกันชีวิตที่เลือก

อายุของผู้เอาประกันชีวิต

เป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการคำนวณเบี้ยประกันชีวิต เนื่องจากผู้สูงอายุมักจะมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหรือการเสื่อมสภาพสุขภาพที่สูงกว่าผู้ที่มีอายุน้อยกว่า

สุขภาพของผู้เอาประกันชีวิต

ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการคำนวณเบี้ยประกันชีวิต หากผู้เอาประกันชีวิตมีประวัติการเจ็บป่วยหรือมีโรคเรื้อรัง อาจทำให้เบี้ยประกันชีวิตสูงขึ้น

รูปแบบของประกันชีวิตที่เลือก

ก็มีผลต่อการคำนวณเบี้ยประกันชีวิต ประกันชีวิตชนิดต่างๆ จะมีความคุ้มครองแตกต่างกันและมีเงื่อนไขการจ่ายเงินเบี้ยประกันชีวิตที่แตกต่างกันด้วย

ในการคำนวณเบี้ยประกันชีวิตสำหรับผู้สูงอายุ บริษัทประกันชีวิตจะคำนวณค่าเบี้ยโดยอิงจากปัจจัยเหล่านี้ และอาจต้องตรวจสอบสุขภาพของผู้เอาประกันชีวิต

การทำประกันชีวิตสำหรับผู้สูงอายุมีข้อดีมากมาย ดังนี้

• ช่วยป้องกันค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด

ในกรณีเกิดเหตุร้ายแรง หรือการเสียชีวิตของผู้เอาประกันชีวิต ซึ่งสามารถช่วยให้บุตรหรือญาติของผู้เอาประกันชีวิตไม่ต้องเผชิญกับภาระของค่าใช้จ่ายในกรณีฉุกเฉิน

• มีความมั่นคงในการเงิน

การมีประกันชีวิตสามารถช่วยสร้างความมั่นคงในการเงินให้กับผู้เอาประกันชีวิต ซึ่งสามารถช่วยลดความกังวล

• ปกป้องจากการปัญหาด้านสุขภาพ

โรคประจำตัวและการเจ็บป่วยเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้เมื่อไรก็ได้ การทำประกันชีวิตสามารถช่วยป้องกันไม่ให้ผู้เอาประกันชีวิตต้องเผชิญกับค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่สูงเกินกว่าความสามารถในการจ่ายเงินของตนเอง

• สะดวกสบายในการทำประกันชีวิต

การทำประกันชีวิตสำหรับผู้สูงอายุสามารถทำได้ง่าย และไม่ต้องมีการตรวจสุขภาพในบางกรณี ซึ่งจะช่วยลดความไม่สะดวกสบายในการทำประกันชีวิตของผู้สูงอายุ

ดังนั้น การทำประกันชีวิตสำหรับผู้สูงอายุมีประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้เอาประกันชีวิตและครอบครัว แต่ควรระมัดระวังในการเลือกบริษัทประกันชีวิตและแผนประกันชีวิตที่เหมาะสมสำหรับสถานการณ์และความต้องการของแต่ละบุคคล

เงื่อนไขการจ่ายเงินผลประโยชน์ทั้งหมดจะขึ้นอยู่กับตัวบริษัทประกัน โดยผู้เอาประกันจะต้องมีอายุระหว่าง 50-70 ปี ไม่ต้องตรวจ และไม่ต้องตอบคำถามสุขภาพ

สำหรับเงื่อนไขในการจ่ายเงินผลประโยชน์ของประกันชีวิตผู้สูงอายุจะเน้นจ่ายในกรณที่เสียชีวิตเท่านั้น เนื่องจากไม่ใช่ประกันสุขภาพ ยกเว้นว่าเราซื้อสัญญาเกี่ยวกับสุขภาพอื่น ๆ เพิ่มเติม และในกรณีที่ผู้ถือกรมธรรม์เสียชีวิตใน 2 ปี นับตั้งแต่วันที่ทำ เราสามารถแบ่งได้ 2 กรณี คือ

- เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ

จะจ่ายเท่ากับจำนวนเงินเอาประกันเต็มจำนวน และได้รับเบี้ยที่ เราจ่ายไปทั้งหมดคืน + เงินอีก 2-5% ของเบี้ย  (ขึ้นอยู่กับแต่ละบริษัท)

- เสียชีวิตจากโรค

จะไม่จ่ายเท่ากับจำนวนเงินประกัน แต่จะจ่ายเบี้ยที่เราจ่ายไปทั้งหมดคืน + เงินอีก 2-5% (ขึ้นอยู่กับแต่ละบริษัท)

ลูกค้าสามารถดูรายละเอียดประกันชีวิตจากบริษัทต่าง ๆ ได้ที่ แรบบิท แคร์ และสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เบอร์โทร 1438 จะมีเจ้าหน้าที่บริการตลอด 24 ชั่วโมง