Rabbit Care Logo
ใช้ใจแคร์ ดูแลครบ
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ในการเก็บข้อมูลเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการใช้งาน และเพื่อเก็บข้อมูลสถิติ ท่านสามารถศึกษารายละเอียด เพิ่มเติมได้ที่นโยบายคุกกี้

ซื้อประกันรถยนต์ไฟฟ้า EV กับแรบบิท แคร์ แคร์คุณเรื่องอะไรบ้าง

แรบบิท แคร์ การันตี ราคาประกันรถยนต์

การันตี ราคาคุ้มค่า

เจอราคาเจ้าไหนถูกกว่า เราลดราคาให้คุณเพิ่ม*

ประกันรถยนต์ ผ่อน 0% 10 เดือน

ผ่อน 0% 10 เดือน

ผ่อนสบาย ช่องทางไหนก็ได้ ไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

ประหยัดประกันรถยนต์ได้สูงสุดถึง 70%

ประหยัดได้สูงสุด 70%

ไม่มีเคลม ปีต่อไป ลด 50% ระบุชื่อผู้ขับขี่ลดเพิ่ม 20%

ประกันรถยนต์มีรถใช้ทดแทน ระหว่างซ่อม

มีรถใช้ทดแทน

บริการเช่ารถสำรอง 3 วัน เมื่อรถเข้าศูนย์จากอุบัติเหตุ

ประกันรถยนต์ ชดเชยค่าเดินทางกลับบ้าน

ชดเชยค่าเดินทาง

คืนค่าเดินทางสูงสุด 500 บาท ระหว่างรถยนต์เข้าอู่ซ่อม

ประกันรถยนต์ บริการช่วยเหลือ 24 ชม.

บริการช่วยเหลือ 24 ชม.

ช่วยเหลือฉุกเฉินทั่วไทย

ศูนย์ซ่อมของประกันรถยนต์ครอบคลุมทั่วไทย

ศูนย์ซ่อมครอบคลุม

ซ่อมรถมาตรฐาน ที่ศูนย์ให้เลือกทั่วไทย

บริการช่วยเหลือแจ้งเคลมประกันรถยนต์

มีเจ้าหน้าที่แนะนำ

ผู้เชี่ยวชาญช่วยเหลือตลอดการซื้อกรมธรรม์

เจาะลึกเรื่องประกันรถไฟฟ้า คู่มือฉบับสมบูรณ์เพื่อคนใช้ EV

ในยุคที่ยานยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle หรือ EV) กำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย การทำความเข้าใจเกี่ยวกับ ประกันรถไฟฟ้า จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่กำลังมองหารถยนต์พลังงานสะอาด หรือผู้ที่เป็นเจ้าของรถไฟฟ้าอยู่แล้ว เพราะนอกจากจะช่วยปกป้องรถยนต์คันโปรดของคุณจากอุบัติเหตุและความเสียหายต่าง ๆ แล้ว ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นจากเหตุการณ์ไม่คาดฝันได้อีกด้วย

บทความนี้ เราจะพาคุณไปเจาะลึกทุกแง่มุมของ ประกันรถไฟฟ้า ตั้งแต่ความหมายของประกันรถไฟฟ้า ความแตกต่างจากประกันรถยนต์น้ำมันแบบเดิม ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาเบี้ยประกันรถยนต์ EV ไปจนถึงความคุ้มครองที่ได้รับจากประกันภัยแต่ละประเภท พร้อมทั้งเคล็ดลับและข้อเสนอดี ๆ ในการเลือกซื้อ ประกันรถยนต์ไฟฟ้า ที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าคุณจะได้รับความคุ้มครองที่ดีที่สุดในราคาที่สมเหตุสมผล

ประกันรถไฟฟ้า คืออะไร

ประกันรถไฟฟ้า หรือ ประกันรถยนต์ไฟฟ้า (EV) คือ รูปแบบประกันภัยรถยนต์ที่ออกแบบมาเพื่อคุ้มครองรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าโดยเฉพาะ ซึ่งประกันรถยนต์ EV มีความแตกต่างจากประกันภัยรถยนต์แบบเดิมที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน (น้ำมัน) เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้ามีเทคโนโลยีและชิ้นส่วนที่แตกต่างกัน ทำให้เกิดความเสี่ยงและลักษณะความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นแตกต่างกันไปด้วย ดังนั้น ประกันรถยนต์ไฟฟ้า จึงได้รับการออกแบบให้มีความครอบคลุมและเหมาะสมกับรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ

  • ความแตกต่างจากประกันรถยนต์ทั่วไป ประกันรถยนต์ไฟฟ้าบางบริษัทประกันจะให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมถึงความเสียหายที่เกิดกับแบตเตอรี่ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของรถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงระบบไฟฟ้าต่าง ๆ และอุปกรณ์เฉพาะอื่น ๆ ที่ใช้ในรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งอาจไม่มีในประกันของรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน
  • ความสำคัญของประกันรถไฟฟ้า เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้ามีราคาที่สูงกว่ารถยนต์น้ำมัน การทำประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้าจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นจากอุบัติเหตุ ความเสียหาย หรือเหตุการณ์ไม่คาดฝันอื่น ๆ

ประกันรถไฟฟ้าราคา เท่าไร ราคาเบี้ยประกันรถไฟฟ้าขึ้นกับปัจจัยอะไรบ้าง

ราคาประกันรถไฟฟ้า หรือ เบี้ยประกันรถยนต์ไฟฟ้า นั้นมีความหลากหลาย ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นประเภทของประกันภัย (เช่น ประกันรถยนต์ EV ชั้น 1, 2+, 2, 3+) รุ่นรถยนต์ไฟฟ้า ยี่ห้อรถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงประวัติการขับขี่ของผู้เอาประกันภัย

โดยทั่วไปแล้ว ราคาประกันรถไฟฟ้า มักจะสูงกว่าประกันรถยนต์น้ำมันเล็กน้อย เนื่องจากต้นทุนในการซ่อมบำรุงและค่าอะไหล่รถยนต์ไฟฟ้าที่สูงกว่า

  • ประเภทของประกันภัย ประกันรถยนต์ EV ชั้น 1 มักจะมีราคาเบี้ยประกันรถยนต์ EV ที่สูงที่สุด เนื่องจากให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมมากที่สุด ทั้งความเสียหายต่อตัวรถยนต์และคู่กรณี รวมถึงค่ารักษาพยาบาลต่างๆ ในขณะที่ประกันรถยนต์ EV ชั้น 2+ 2 และ 3+ 3 จะมีราคาเบี้ยประกันรถยนต์ EV ที่ถูกลงตามลำดับ แต่ความคุ้มครองก็จะลดลงตามไปด้วย
  • ยี่ห้อและรุ่นรถยนต์ไฟฟ้า รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นที่มีราคาสูง หรือมีเทคโนโลยีที่ซับซ้อน มักจะมีค่าเบี้ยประกันที่สูงกว่ารถยนต์ไฟฟ้ารุ่นที่ราคาถูกกว่า
  • ประวัติการขับขี่ ผู้ขับขี่ที่มีประวัติการขับขี่ที่ดี ไม่มีอุบัติเหตุ หรือเคลมประกันบ่อยครั้ง ก็อาจจะได้รับส่วนลดเบี้ยประกันได้
  • อายุของผู้เอาประกัน โดยทั่วไปแล้ว ผู้เอาประกันที่มีอายุมากกว่าจะมีโอกาสได้รับเบี้ยประกันที่ถูกกว่าผู้เอาประกันที่มีอายุน้อยกว่า
  • บริษัทประกันภัย แต่ละบริษัทประกันภัยก็จะมีนโยบายและราคาเบี้ยประกันที่แตกต่างกันไป การเปรียบเทียบราคาเบี้ยประกันจากหลาย ๆ บริษัทจึงเป็นสิ่งสำคัญ



ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาเบี้ยประกันรถไฟฟ้า



เพื่อให้คุณเห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น เรามาเจาะลึกปัจจัยต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อ ราคาประกันรถยนต์ไฟฟ้า กันอีกครั้ง

  • มูลค่ารถยนต์ รถยนต์ไฟฟ้าที่มีราคาสูง จะมีค่าเบี้ยประกันที่สูงกว่ารถยนต์ไฟฟ้าที่มีราคาต่ำกว่า เนื่องจากบริษัทประกันภัยต้องแบกรับความเสี่ยงที่สูงกว่าในการชดเชยความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
  • เทคโนโลยีและอะไหล่ รถยนต์ไฟฟ้าที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัย หรือมีอะไหล่ที่หายาก และมีราคาสูง จะมีค่าเบี้ยประกันที่สูงกว่ารถยนต์ไฟฟ้าทั่วไป เพราะค่าซ่อมแซมและค่าอะไหล่ที่แพงกว่า
  • ความเสี่ยงของพื้นที่ ในบางพื้นที่ที่มีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุสูง หรือมีความเสี่ยงในการเกิดโจรกรรมสูง ก็อาจทำให้ค่าเบี้ยประกันสูงขึ้นได้
  • ค่า Excess คือ ค่าเสียหายส่วนแรกที่คุณต้องจ่ายเองเมื่อเกิดอุบัติเหตุ หากคุณเลือกค่า Excess ที่สูงขึ้น ก็อาจทำให้ค่าเบี้ยประกันของคุณถูกลงได้
  • โปรโมชั่นและส่วนลด บริษัทประกันภัยต่าง ๆ มักจะมีโปรโมชั่นและส่วนลดต่าง ๆ ให้กับผู้เอาประกันภัย เช่น ส่วนลดสำหรับลูกค้าใหม่ ส่วนลดสำหรับผู้ที่มีประวัติการขับขี่ดี หรือส่วนลดสำหรับการซื้อประกันออนไลน์



ประกันรถไฟฟ้า BYD Atto 3

ประกันรถไฟฟ้า BYD จาก แรบบิท แคร์ ราคาเริ่มต้นที่ 29,000 บาท โดย ไทยวิวัฒน์ โดยประกันรถ BYD Atto3 มีเฉพาะประกันชั้น 1 รถไฟฟ้า BYD สำหรับประกัน Atto3

ประกันภัยรถ Tesla Model 3

ค่าประกันรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 จาก แรบบิท แคร์ ราคาเริ่มต้นที่ 46,800 บาท โดย ไทยวิวัฒน์ มีเฉพาะประกันชั้น 1

ประกันรถไฟฟ้า MG EP

ที่ แรบบิท แคร์ ประกันชั้น 1 MG EP เริ่มต้นที่ 25,000 โดย ธนชาต

ประกันรถไฟฟ้า ORA Good Cat

ค่าประกันรถไฟฟ้าจาก แรบบิท แคร์ ราคาเริ่มต้นที่ 6,600 บาท สำหรับชั้น 3+ โดย ไทยไพบูลย์ ราคาประกันชั้น 1 เริ่มต้น 25,500 โดย ธนชาต

ประกันรถไฟฟ้าแพงไหม

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ ประกันรถไฟฟ้า คือ "ประกันรถไฟฟ้าแพงไหม?" คำตอบคือ ราคาประกันรถไฟฟ้า อาจจะดูสูงกว่า ประกันรถยนต์ ทั่วไปเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้สูงจนเกินไปเมื่อเทียบกับความคุ้มครองที่ได้รับ เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้ามีเทคโนโลยีที่ซับซ้อน และมีอะไหล่บางชิ้นที่ราคาสูง ทำให้ค่าซ่อมแซมอาจมีราคาสูงกว่ารถยนต์น้ำมัน ดังนั้นบริษัทประกันภัยจึงจำเป็นต้องตั้งเบี้ยประกันให้สอดคล้องกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

เหตุผลที่ทำให้ประกันรถไฟฟ้ามีราคาสูงกว่า

  • แบตเตอรี่มีราคาแพง แบตเตอรี่เป็นส่วนประกอบที่สำคัญที่สุดของรถยนต์ไฟฟ้า และมีราคาสูง หากเกิดความเสียหายกับแบตเตอรี่ ค่าซ่อมแซมอาจมีราคาสูงมาก
  • อะไหล่เฉพาะของรถยนต์ไฟฟ้า อะไหล่บางชิ้นของรถยนต์ไฟฟ้า เช่น มอเตอร์ไฟฟ้า หรือระบบควบคุมไฟฟ้า จะมีราคาแพงกว่าอะไหล่รถยนต์น้ำมันทั่วไป
  • ความเชี่ยวชาญในการซ่อม การซ่อมรถยนต์ไฟฟ้าต้องใช้ช่างที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง ซึ่งอาจมีจำนวนจำกัด ทำให้ค่าบริการสูงกว่ารถยนต์น้ำมัน



ข้อดีของการทำประกันรถไฟฟ้า

  • ความคุ้มครองที่ครอบคลุม ประกันรถยนต์ไฟฟ้า ส่วนใหญ่ให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมความเสียหายที่เกิดกับรถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงแบตเตอรี่และระบบไฟฟ้าต่าง ๆ ทั้งนี้ควรตรวจสอบรายละเอียดต่าง ๆ ให้ดีก่อนการทำประกันเสมอ
  • ความอุ่นใจในการขับขี่ เมื่อมีประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้า คุณจะรู้สึกอุ่นใจในการขับขี่มากขึ้น เพราะรู้ว่าหากเกิดอุบัติเหตุหรือความเสียหาย จะมีประกันภัยคอยดูแล
  • การลดภาระค่าใช้จ่าย หากเกิดอุบัติเหตุหรือความเสียหาย การทำ ประกันรถยนต์ไฟฟ้า จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมรถยนต์ไฟฟ้าของคุณ

ตารางเปรียบเทียบความคุ้มครองประกันรถยนต์ไฟฟ้า

ประเภทประกันภัย

ความคุ้มครอง

ประกันชั้น 1คุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถยนต์และคู่กรณี ครอบคลุมถึงความเสียหายจากอุบัติเหตุ ภัยธรรมชาติ ไฟไหม้ รถหาย และบางบริษัทประกันคุ้มครองความเสียหายต่อแบตเตอรี่และระบบไฟฟ้า
ประกันชั้น 2+คุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถยนต์และคู่กรณี เมื่อเกิดอุบัติเหตุที่มีคู่กรณีเป็นยานพาหนะทางบก คุ้มครองความเสียหายจากไฟไหม้ รถหาย
ประกันชั้น 2คุ้มครองความเสียหายต่อคู่กรณี (ไม่ครอบคลุมความเสียหายต่อรถยนต์ตัวเอง) คุ้มครองความเสียหายจากไฟไหม้ รถหาย
ประกันชั้น 3+คุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถยนต์และคู่กรณี เมื่อเกิดอุบัติเหตุที่มีคู่กรณีเป็นยานพาหนะทางบก
ประกันชั้น 3คุ้มครองความเสียหายต่อคู่กรณี (ไม่ครอบคลุมความเสียหายต่อรถยนต์ตัวเอง)

 

หมายเหตุ ราคาเบี้ยประกันข้างต้นเป็นราคาโดยประมาณและอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ขึ้นอยู่กับบริษัทประกันภัย ยี่ห้อรถ รุ่นรถ และปัจจัยอื่น ๆ

ส่วนลดเบี้ยประกันรถยนต์ไฟฟ้าที่ แรบบิท แคร์ มีอะไรบ้าง

แรบบิท แคร์ เป็นแพลตฟอร์มเปรียบเทียบประกันภัยออนไลน์ที่ช่วยให้คุณสามารถค้นหาและเลือกซื้อ ประกันรถยนต์ไฟฟ้า ที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว ที่สำคัญ แรบบิท แคร์ ยังมีโปรโมชั่นและส่วนลดพิเศษต่าง ๆ ที่จะช่วยให้คุณประหยัดค่าเบี้ยประกันได้อีกด้วย

  • ส่วนลดสำหรับลูกค้าใหม่ ลูกค้าใหม่ที่ซื้อประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้าผ่านแรบบิท แคร์ อาจได้รับส่วนลดพิเศษในการซื้อประกันครั้งแรก
  • ส่วนลดสำหรับผู้ที่มีประวัติการขับขี่ดี ผู้ที่มีประวัติการขับขี่ดี ไม่มีอุบัติเหตุ หรือเคลมประกันบ่อยครั้ง อาจได้รับส่วนลดเบี้ยประกันเพิ่มเติม
  • ส่วนลดสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าบางรุ่น รถยนต์ไฟฟ้าบางรุ่น หรือบางยี่ห้อ อาจมีส่วนลดพิเศษจากแรบบิท แคร์
  • โปรโมชั่นตามช่วงเวลา แรบบิท แคร์ มักจะมีโปรโมชั่นพิเศษตามช่วงเวลาต่างๆ เช่น โปรโมชั่นวันเกิด หรือโปรโมชั่นในช่วงเทศกาลต่าง ๆ
  • ส่วนลดจากพันธมิตร แรบบิท แคร์ มีพันธมิตรกับบริษัทประกันภัยชั้นนำหลายแห่ง ทำให้คุณอาจได้รับส่วนลดเพิ่มเติมเมื่อซื้อประกันผ่านแรบบิท แคร์
  • Cashback แรบบิท แคร์ อาจมีโปรแกรม Cashback เมื่อซื้อประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้าผ่านแพลตฟอร์ม ช่วยให้คุณประหยัดเงินได้อีกทาง
  • ผ่อนชำระเบี้ยประกัน แรบบิท แคร์ มีตัวเลือกการผ่อนชำระเบี้ยประกัน ทำให้คุณสามารถแบ่งจ่ายค่าเบี้ยประกันได้อย่างสะดวกสบาย



ข้อดีของการเลือกซื้อประกันรถยนต์ไฟฟ้าผ่านแรบบิท แคร์

  • เปรียบเทียบราคาได้ง่าย แรบบิท แคร์ ช่วยให้คุณสามารถเปรียบเทียบราคาเบี้ยประกันจากหลายๆ บริษัทประกันภัยได้อย่างง่ายดาย
  • มีตัวเลือกหลากหลาย แรบบิท แคร์ มีตัวเลือกประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้าที่หลากหลาย ให้คุณเลือกได้ตามความต้องการ
  • บริการที่ปรึกษา แรบบิท แคร์ มีทีมที่ปรึกษาพร้อมให้คำแนะนำและตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้า
  • ความสะดวกสบาย คุณสามารถซื้อประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้าผ่านแรบบิท แคร์ ได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปติดต่อบริษัทประกันภัยเอง
  • ความปลอดภัย แรบบิท แคร์ มีระบบรักษาความปลอดภัยในการทำธุรกรรมออนไลน์ ทำให้คุณมั่นใจได้ว่าข้อมูลของคุณจะปลอดภัย

ประกันชั้น 1 รถไฟฟ้า คุ้มครองอะไรบ้าง

ประกันชั้น 1 รถไฟฟ้า เป็นประเภทประกันภัยรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมมากที่สุด โดยจะคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถยนต์ของคุณและคู่กรณี ไม่ว่าจะเป็นความเสียหายจากอุบัติเหตุ ภัยธรรมชาติ ไฟไหม้ รถหาย รวมถึงค่ารักษาพยาบาลต่าง ๆ เรียกได้ว่า เป็นประกันภัยที่ให้ความอุ่นใจมากที่สุดในการขับขี่

ความคุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถยนต์

  • อุบัติเหตุ คุ้มครองความเสียหายที่เกิดจากอุบัติเหตุ ไม่ว่าคุณจะเป็นฝ่ายผิดหรือไม่ก็ตาม
  • ภัยธรรมชาติ คุ้มครองความเสียหายที่เกิดจากภัยธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม พายุ ลูกเห็บ แผ่นดินไหว
  • ไฟไหม้ คุ้มครองความเสียหายที่เกิดจากไฟไหม้ ไม่ว่าจะเป็นไฟไหม้จากอุบัติเหตุหรือจากสาเหตุอื่น ๆ
  • รถหาย คุ้มครองกรณีรถยนต์สูญหายจากการถูกโจรกรรม
  • ความเสียหายจากอุบัติเหตุเล็กน้อย ประกันชั้น 1 บางแห่งอาจคุ้มครองความเสียหายเล็กน้อย เช่น รอยขีดข่วน หรือความเสียหายจากเศษหินกระเด็นใส่



ความคุ้มครองความเสียหายต่อคู่กรณี

  • ความเสียหายต่อทรัพย์สิน คุ้มครองความเสียหายต่อทรัพย์สินของคู่กรณี เช่น รถยนต์ บ้าน หรือสิ่งปลูกสร้างอื่น ๆ
  • ความเสียหายต่อร่างกาย คุ้มครองค่ารักษาพยาบาล และค่าชดเชยต่าง ๆ สำหรับความเสียหายต่อร่างกายของคู่กรณี



ความคุ้มครองอื่น ๆ

  • ความคุ้มครองแบตเตอรี่ ส่วนใหญ่บริษัทประกันจะให้ความคุ้มครองความเสียหายต่อแบตเตอรี่ ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของรถยนต์ไฟฟ้า
  • ค่าบริการรถยก คุ้มครองค่าบริการรถยกเมื่อรถยนต์ของคุณเสีย หรือเกิดอุบัติเหตุ
  • ค่ารักษาพยาบาล คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารในรถยนต์
  • ค่าประกันตัวผู้ขับขี่ คุ้มครองค่าประกันตัวผู้ขับขี่ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุจนเป็นคดีความ

ตารางสรุปความคุ้มครองของประกันชั้น 1 รถไฟฟ้า

ความคุ้มครอง

รายละเอียด

ความเสียหายต่อตัวรถยนต์อุบัติเหตุ, ภัยธรรมชาติ (น้ำท่วม, พายุ, ลูกเห็บ, แผ่นดินไหว), ไฟไหม้, รถหาย, ความเสียหายจากอุบัติเหตุเล็กน้อย (บางกรณี)
ความเสียหายต่อคู่กรณีความเสียหายต่อทรัพย์สิน, ความเสียหายต่อร่างกาย, ค่ารักษาพยาบาล, ค่าชดเชยต่าง ๆ
ความคุ้มครองอื่นๆค่าบริการรถยก, ค่ารักษาพยาบาลผู้ขับขี่และผู้โดยสาร, ค่าประกันตัวผู้ขับขี่
ความคุ้มครองเพิ่มเติมบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง, รถใช้ระหว่างซ่อม, ความคุ้มครองอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ, ค่าเดินทางระหว่างซ่อมรถ ฯลฯ

ประกันรถยนต์ไฟฟ้าชั้น 1 ดีอย่างไร

ประกันรถยนต์ไฟฟ้าชั้น 1 เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่เป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าที่ต้องการความคุ้มครองที่ครอบคลุมและครอบคลุมที่สุด เนื่องจากให้ความคุ้มครองที่ครบถ้วนทั้งความเสียหายต่อตัวรถยนต์ไฟฟ้าของคุณ และความเสียหายต่อคู่กรณี รวมถึงความคุ้มครองอื่น ๆ ที่จะช่วยให้คุณอุ่นใจในการขับขี่มากยิ่งขึ้นไม่ต่างจากการเลือกทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ให้รถยนต์สันดาป

  • ความคุ้มครองที่ครอบคลุม ประกันชั้น 1 รถยนต์ไฟฟ้า ให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมความเสียหายทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุ ภัยธรรมชาติ ไฟไหม้ รถหาย หรือแม้แต่ความเสียหายเล็กน้อย เช่น รอยขีดข่วน หรือเศษหินกระเด็นใส่
  • ความคุ้มครองแบตเตอรี่ รถยนต์ไฟฟ้ามีแบตเตอรี่เป็นส่วนประกอบที่สำคัญที่สุดและมีราคาสูง ประกันรถยนต์ไฟฟ้าชั้น 1 ส่วนใหญ่จะให้ความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นกับแบตเตอรี่ ซึ่งเป็นความคุ้มครองที่ประกันประเภทอื่น ๆ อาจไม่มีให้
  • ความอุ่นใจในการขับขี่ เมื่อมี ประกันชั้น 1 รถยนต์ไฟฟ้า คุณจะรู้สึกอุ่นใจในการขับขี่มากขึ้น เพราะรู้ว่าหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น คุณจะมีประกันภัยคอยดูแลและชดเชยค่าเสียหายให้
  • การลดภาระค่าใช้จ่าย หากเกิดอุบัติเหตุหรือความเสียหาย ค่าซ่อมแซมรถยนต์ไฟฟ้าอาจมีราคาสูงมาก การมี ประกันชั้น 1 จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายเหล่านี้ของคุณได้
  • บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ประกันชั้น 1 ส่วนใหญ่มักจะมีบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง เช่น บริการรถยก บริการช่วยเหลือเมื่อรถเสีย ซึ่งจะช่วยให้คุณได้รับความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน
  • การดูแลที่ครอบคลุม ประกันรถยนต์ไฟฟ้าชั้น 1 มักจะมีการดูแลที่ครอบคลุมมากกว่าประกันประเภทอื่น ๆ เช่น มีอู่ซ่อมที่ได้รับมาตรฐาน หรือมีบริการรับส่งรถยนต์เพื่อซ่อม



สรุปข้อดีของประกันรถยนต์ไฟฟ้าชั้น 1

  • ความคุ้มครองสูงสุด ให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมมากที่สุด ทั้งความเสียหายต่อรถยนต์ของคุณและคู่กรณี
  • ความคุ้มครองแบตเตอรี่ ส่วนใหญ่บริษัทประกันจะให้ความคุ้มครองความเสียหายต่อแบตเตอรี่ ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของรถยนต์ไฟฟ้า
  • ความอุ่นใจในการขับขี่ ช่วยให้คุณอุ่นใจในการขับขี่ เพราะรู้ว่ามีประกันภัยคอยดูแลและชดเชยค่าเสียหาย
  • ลดภาระค่าใช้จ่าย ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมรถยนต์ไฟฟ้า เมื่อเกิดอุบัติเหตุหรือความเสียหาย
  • บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน มีบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง ให้คุณสะดวกสบายเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน
  • การดูแลที่ครอบคลุม มักมีการดูแลที่ครอบคลุม เช่น อู่ซ่อมที่ได้รับมาตรฐาน



ประกันชั้น 1 รถไฟฟ้า ราคาเท่าไหร่

ประกันชั้น 1 รถไฟฟ้าจาก แรบบิท แคร์ ราคาเริ่มต้นที่ 25,000 บาทในรุ่นรถ MG EP โดย ธนชาต

ประกันรถไฟฟ้าชั้น 2+ คุ้มครองอะไรบ้าง

ประกันรถไฟฟ้าชั้น 2+ เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่เป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าที่ต้องการความคุ้มครองในราคาที่ประหยัดกว่า ประกันชั้น 1 แต่ก็ยังได้รับความคุ้มครองที่ครอบคลุมในระดับหนึ่ง โดย ประกันชั้น 2+ จะเน้นไปที่การคุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถยนต์ของคู่กรณี และความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถยนต์ของคุณเองในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุที่มีคู่กรณีเป็นยานพาหนะทางบก

ความคุ้มครองความเสียหายต่อคู่กรณี

  • ความเสียหายต่อทรัพย์สิน คุ้มครองความเสียหายต่อทรัพย์สินของคู่กรณี เช่น รถยนต์ บ้าน หรือสิ่งปลูกสร้างอื่น ๆ
  • ความเสียหายต่อร่างกาย คุ้มครองค่ารักษาพยาบาล และค่าชดเชยต่าง ๆ สำหรับความเสียหายต่อร่างกายของคู่กรณี



ความคุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถยนต์ของคุณเอง (เมื่อมีคู่กรณี)

  • อุบัติเหตุ คุ้มครองความเสียหายที่เกิดจากอุบัติเหตุ เมื่อมีคู่กรณีเป็นยานพาหนะทางบก



ความคุ้มครองอื่น ๆ

  • ค่าประกันตัวผู้ขับขี่ คุ้มครองค่าประกันตัวผู้ขับขี่ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุจนเป็นคดีความ
  • ภัยธรรมชาติ คุ้มครองความเสียหายที่เกิดจากภัยธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม พายุ ลูกเห็บ แผ่นดินไหว
  • ไฟไหม้ คุ้มครองความเสียหายที่เกิดจากไฟไหม้
  • รถหาย คุ้มครองกรณีรถยนต์สูญหายจากการถูกโจรกรรม



สิ่งที่ประกันชั้น 2 ไม่คุ้มครอง

  • ความเสียหายต่อรถยนต์ของคุณเอง เมื่อไม่มีคู่กรณี เช่น ขับรถชนเสาไฟฟ้า ชนกำแพง หรืออุบัติเหตุที่เกิดจากความประมาทของคุณเอง

ตารางสรุปความคุ้มครองของประกันรถไฟฟ้าชั้น 2+

ความคุ้มครอง

รายละเอียด

ความเสียหายต่อคู่กรณีความเสียหายต่อทรัพย์สิน, ความเสียหายต่อร่างกาย, ค่ารักษาพยาบาล, ค่าชดเชยต่างๆ
ความเสียหายต่อรถยนต์ของคุณเอง (เมื่อมีคู่กรณี)อุบัติเหตุ (เมื่อมีคู่กรณีเป็นยานพาหนะทางบก)
ความคุ้มครองอื่น ๆค่าประกันตัวผู้ขับขี่
สิ่งที่ประกันรถยนต์ EV ชั้น 2+ ไม่คุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์ของคุณเองเมื่อไม่มีคู่กรณี

 

ข้อดีของการเลือกทำประกันรถไฟฟ้าชั้น 2+

  • ราคาเบี้ยประกันที่ถูกกว่า มีราคาเบี้ยประกันที่ถูกกว่าประกันชั้น 1 เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย
  • ความคุ้มครองพื้นฐาน ให้ความคุ้มครองพื้นฐานที่จำเป็น เช่น ความเสียหายต่อคู่กรณี และความเสียหายต่อรถยนต์ของคุณเองเมื่อมีคู่กรณี
  • เหมาะสำหรับผู้ขับขี่ที่มีประสบการณ์ เหมาะสำหรับผู้ขับขี่ที่มีประสบการณ์สูง ไม่ค่อยเกิดอุบัติเหตุในการขับขี่
  • เหมาะสำหรับรถยนต์ที่ใช้งานมาสักพัก เหมาะสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่มีอายุการใช้งานมาก หรือมีสมรรถภาพลดลง

 

ข้อเสียของการเลือกทำประกันรถไฟฟ้าชั้น 2+

  • ความคุ้มครองที่จำกัด ให้ความคุ้มครองที่จำกัดกว่าประกันชั้น 1
  • ไม่คุ้มครองความเสียหายเมื่อไม่มีคู่กรณี ไม่คุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถยนต์ของคุณเอง เมื่อไม่มีคู่กรณี

สรุปความแตกต่างระหว่างประกันรถไฟฟ้าชั้น 1 และ ชั้น 2+

คุณสมบัติ

ประกันรถไฟฟ้าชั้น 1

ประกันรถไฟฟ้าชั้น 2

ความคุ้มครองครอบคลุมความเสียหายทุกรูปแบบ ทั้งความเสียหายต่อรถยนต์ของคุณและคู่กรณีคุ้มครองความเสียหายต่อคู่กรณี และความเสียหายต่อรถยนต์ของคุณเอง เมื่อมีคู่กรณี
ราคาเบี้ยประกันสูงกว่าถูกกว่า
ความเหมาะสมเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความคุ้มครองสูงสุด และผู้ที่กังวลเรื่องค่าซ่อมรถยนต์ไฟฟ้าเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย และผู้ที่ขับรถอย่างระมัดระวัง
ความคุ้มครองแบตเตอรี่ส่วนใหญ่จะให้ความคุ้มครองความเสียหายต่อแบตเตอรี่ไม่มีความคุ้มครองความเสียหายต่อแบตเตอรี่
บริการช่วยเหลือฉุกเฉินมักจะมีบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมงอาจไม่มีบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน หรือมีแต่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
ข้อดีให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมที่สุด, อุ่นใจในการขับขี่, มีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินราคาเบี้ยประกันถูกกว่า, เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย, ความคุ้มครองพื้นฐานที่เพียงพอ
ข้อเสียราคาเบี้ยประกันสูงกว่าความคุ้มครองที่จำกัด, ไม่คุ้มครองความเสียหายเมื่อไม่มีคู่กรณี

 

การเลือกซื้อ ประกันรถไฟฟ้า ที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณนั้น ต้องพิจารณาหลายปัจจัย ทั้งประเภทของประกันภัย งบประมาณ และความเสี่ยงในการขับขี่ของคุณเอง หากคุณต้องการความคุ้มครองที่ครอบคลุมมากที่สุด ประกันชั้น 1 รถไฟฟ้า เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด แต่หากคุณต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย และมีความระมัดระวังในการขับขี่ ประกันรถยนต์ EV ชั้น 2+ ก็อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า

 

อย่าลืมเปรียบเทียบราคาเบี้ยประกันรถยนต์ EV และเงื่อนไขความคุ้มครองจากหลาย ๆ บริษัทประกันภัย ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ และใช้แพลตฟอร์มเปรียบเทียบประกันภัยออนไลน์อย่าง แรบบิท แคร์ เพื่อช่วยให้คุณค้นหาและเลือกซื้อประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้าที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว

ความคุ้มครองประกันภัยรถยนต์แต่ละประเภท

คำถามและข้อสงสัยที่พบบ่อย

รถยนต์ไฟฟ้า หรือรถยนต์ EV คืออะไร?

รถยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle หรือ EV) คือ รถยนต์ที่ถูกออกแบบให้ใช้แหล่งพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ ด้วยการชาร์จไฟเข้าไปยังแบตเตอรี่ที่เป็นแหล่งกักเก็บพลังงานในการขับเคลื่อน ไม่มีเครื่องยนต์ ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำมันในการเผาไหม้ แต่ทดแทนด้วยแบตเตอรี่, อุปกรณ์แปลงกระแสไฟฟ้า และมอเตอร์ไฟฟ้า ดูและง่าย ไม่ซับซ้อน

 

ซึ่งรถยนต์ EV มีจุดเด่นเรื่องประหยัดค่าใช้จ่าย เนื่องจากใช้พลังงานพลังไฟฟ้าจึงทำให้มีราคาน้อยกว่าพลังงานเชื้อเพลิงอย่างน้ำมัน นอกจากนี้ตัวเครื่องทำงานเงียบสนิทแม้เหยียบคันเร่ง ไม่สร้างมลภาวะ ทำให้ได้รับความนิยมอย่างมากในฐานะนวัตกรรมใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และกำลังได้รับความสนใจอย่างมากในไทย แม้แต่สถานีให้บริการอัดประจุไฟฟ้า ที่เป็นแหล่งชาร์จไฟรถ และผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าเอง ก็มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ

นอกจากรถยนต์ไฟฟ้า หรือ รถยนต์ EV แล้ว ยังมีรถยนต์ประเภทอื่นนอกเหนือจากการใช้น้ำมันหรือไม่?

ปัจจุบันรถยนต์ที่ไม่เน้นการขับเคลื่อนด้วยการเติมน้ำมัน มี 6 ประเภท ที่ถูกออกแบบมาให้ตอบโจทย์การใช้งานที่แตกต่างกัน และมีจุดมุ่งหมายในการประหยัดพัฒนางาน ลดมลภาวะของโลก มีดังต่อไปนี้

 

  • รถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) เป็นรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยการใช้พลังงานจากแบตเตอรี่เพียงอย่างเดียว จะไม่มีกระบวนการสันดาปของเครื่องยนต์ภายใน
     
  • รถยนต์ไฟฟ้าแบบอี-พาวเวอร์ (E-Power) เป็นรถยนต์ที่พัฒนาขึ้นโดยนำเอาการทำงานของเครื่องยนต์ในระบบ Hybrid กับระบบ EV มาผสมผสานกัน
     
  • รถยนต์พลังไฟฟ้าแบบไฮบริด (HEV) ระบบการทำงานที่ใช้พลังงานจากน้ำมันเชื้อเพลิงผสมกับพลังงานไฟฟ้า
     
  • รถยนต์พลังไฟฟ้าปลั๊ก-อิน ไฮบริด (PHEV) เป็นรถยนต์ที่มีการผสมผสานระหว่างเครื่องยนต์เบนซินหรือดีเซล ทำงานร่วมกับ แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่ชาร์จพลังงานไฟฟ้าได้ โดยสามารถใช้พลังงานทั้งจากไฟฟ้าและน้ำมันได้
     
  • รถพลังงานไฮโดรเจน (Fuel Cell) คือรถยนต์ที่มีการนำเอาพลังงานไฮโดรเจนมาดัดแปลงเป็นกระแสไฟฟ้าเพื่อใช้ในการขับเคลื่อนรถยนต์
     
  • รถยนต์พลังไฟฟ้าแบบใช้แหล่งพลังงาน (PEVS) มีแบตเตอรี่เป็นแหล่งพลังงานหลักอย่างเดียว และใช้วิธีการชาร์จแบตเพื่อชาร์จไฟให้กลับมาใช้งานได้ใหม่ แยกเป็น 2 แบบได้แก่ แบบ Battery Electric Vehicle (BEV) ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ 100% กับแบบ Fuel Cell Electric Vehicles (FCEV) ใช้พลังงานจากเชื้อเพลิงไฮโดรเจน

 

ซึ่งก่อนการทำประกันรถยนต์ไฟฟ้า ผู้ทำประกันควรตรวจสอบเงื่อนไข คุณสมบัติให้ดีเสียก่อนว่า รถยนต์ที่ตนใช้นั้นเป็นประเภทไหน และบริษัทประกันฯรับทำรถยนต์พลังไฟฟ้าที่ตนขับหรือไม่ด้วย

รถยนต์ไฟฟ้าสามารถทำประกันรถยนต์ทั่วไปได้หรือไม่?

รถยนต์ EV เป็นนวัตกรรมใหม่ที่หลายๆ ประเทศรวมถึงในไทยเริ่มให้ความสนใจ ทำให้ประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้าอาจมีไม่มากเท่ากับประกันรถยนต์ทั่วไปนัก แต่เบื้องต้นมีบริษัทประกันฯ ที่เปิดโอกาสให้รถยนต์ขับเคลื่อนไฟฟ้าสามารถทำร่วมกันกับรถยนต์ทั่วไปได้ ขึ้นอยู่กับบริษัทประกันฯ ว่ามีเงื่อนไข ข้อตกลงอย่างไร

 

บางบริษัทประกันฯเริ่มต้นทำแผนประกันรถยนต์ไฟฟ้าที่ครอบคลุมได้ไม่แตกต่างจากประกันรถยนต์ทั่วไป บางบริษัทประกันฯ เปิดโอกาสให้รถยนต์ EV สามารถทำประกันรถยนต์ทั่วไปได้ โดยมีเงื่อนไขเพิ่มเติมว่าเบี้ยประกันอาจมีราคาสูงกว่ารถยนต์ทั่วไป เป็นต้น

 

ทั้งนี้ แม้บางแห่งรับทำประกันฯให้ แต่ศูนย์ซ่อมฯ หรืออู่ฯที่ให้บริการ ควรมีผู้เชี่ยวชาญ หรือช่างเฉพาะทางที่มีความรู้เกี่ยวกับระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าประจำอยู่ด้วย เพื่อให้มั่นใจว่ารถยนต์ EV ได้รับการดูแลรักษาที่ถูกต้อง

นอกจากทำประกันรถยนต์ไฟฟ้าแล้ว รถยนต์ EV ต้องทำ พ.ร.บ. หรือไม่?

ตามกฎหมายและประกาศของกรมขนส่งฯ แจ้งไว้ว่า แม้จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้า หรือ รถยนต์ EV ก็ยังต้องนำมาจดทะเบียนและเสียภาษีให้ถูกต้องตามกฎหมาย โดยมีขั้นตอนในการจดทะเบียนซึ่งมีความสะดวกรวดเร็วเช่นเดียวกับการจดทะเบียนรถประเภทอื่น และสามารถรับแผ่นป้ายทะเบียนรถได้ทันที เพียงเข้ารับการตรวจสภาพเพื่อความถูกต้อง และเตรียมเอกสารหลักฐานให้ครบถ้วน

 

โดยการคิดอัตราภาษีตามน้ำหนักของรถซึ่งจะถูกกว่าภาษีรถประเภทเดียวที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิง แต่ถ้าเป็นรถประเภทอื่น ๆ นอกเหนือไปจากรถนั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง เช่น รถตู้, รถบรรทุก การจัดเก็บภาษีตามน้ำหนักรถแต่หาร 2 ซึ่งจะทำให้เสียภาษีถูกกว่าครึ่งหนึ่ง และหากรถยนค์ EV ไม่ได้จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย จะถือว่ามีความผิดตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 ปรับสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท

แรบบิท แคร์ มีประกันรถยนต์ไฟฟ้าชั้นไหนให้เลือกบ้าง?

เนื่องจากแรบบิท แคร์ เป็นโบรกเกอร์ประกันรถยนต์ชั้นนำ เราจึงมีความคุ้มครองจากบริษัทประกันภัยมากมายหลายเจ้าให้คุณได้เลือก ประกันภัยบางเจ้าอาจขายประกันรถยนต์ไฟฟ้าทุกประเภท บริษัทประกันภัยรถยนต์บางเจ้าอาจขายเฉพาะประกันภัยชั้น 1 ซึ่งขึ้นกับความนิยมของผู้บริโภค ด้วยเหตุนี้เองน้องแคร์ขอแนะนำให้คุณติดต่อมาหาเราที่ Care Center เบอร์ 1438 หรือจะแชทหาเราผ่าน Line Official เพื่อเช็กกับกับเราให้ชัวร์ว่ารถยนต์ EV ของคุณสามารถเลือกทำประกันภัยชั้นไหนได้บ้าง มีบริษัทประกันภัยเจ้าไหนที่มีแผนประกันรถยนต์ไฟฟ้า 2022 ให้กับคุณ ซึ่งเรายินดีช่วยเหลือและให้คำปรึกษาเพื่อให้คุณได้ประกันภัยที่เหมาะสมกับคุณมากที่สุด

 

นอกจากนี้คุณสามารถเช็กราคาเบื้องต้นผ่านเครื่องมือเปรียบเทียบประกันรถยนต์บนหน้าเว็บไซต์ของเราก็ได้เช่นกัน รับประกันได้ว่าถ้าคุณเลือกขับรถ EV เรามีประกันภัยให้คุณอย่างแน่นอน

สนใจซื้อประกันรถยนต์ไฟฟ้ากับแรบบิท แคร์ ต้องทำอย่างไร?

คุณสามารถติดต่อมาหาเจ้าหน้าที่ของเราได้ที่ Care Center เบอร์ 1438 เพื่อแจ้งความประสงค์ในการซื้อประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้า หรือจะเลือกใช้เครื่องมือเปรียบเทียบประกันรถยนต์บนหน้าเว็บไซต์ของเราก็ได้ เมื่อกรอกข้อมูลพื้นฐานแล้วก็สามารถชำระเงินได้ทันที ซื้อประกันรถยนต์ EV เลือกซื้อกับเราแรบบิท แคร์ ง่าย ครบ จบในที่เดียว ซื้อเลย  

ซื้อประกันรถยนต์ไฟฟ้าเลือกซ่อมอู่หรือซ่อมศูนย์ดี?

น้องแคร์ขอแนะนำให้คุณซื้อเลือกศูนย์ย่อมดีที่สุด เพราะรถยนต์ไฟฟ้า 2022 นั้นยังคงเป็นนวัตกรรมใหม่ หากมีการชำรุดจากอุบัติเหตุเราจะอุ่นใจได้มากกว่าถ้าได้ช่างซ่อมเป็นผู้มีประสบการณ์จากศูนย์บริการโดยตรง แม้ว่าการเลือกซ่อมศูนย์หรือซ่อมห้างจะมีราคาแพงกว่า แต่ก็การันตีได้ว่าคุณจะได้งานซ่อมมาตรฐาน ได้อะไหล่แท้ และการบริการอย่างดีเยี่ยมนั่นเอง เลือกประกันรถยนต์ซ่อมศูนย์เมื่อไหร่ให้นึกถึงเรา แรบบิท แคร์ เพราะเราใส่ใจ ดูแลให้บริการอย่างครบครัน

ซื้อประกันรถยนต์ไฟฟ้ากับแรบบิท แคร์ เลือกผ่อนได้หรือไม่?

แรบบิท แคร์ ขอมอบสิทธิพิเศษให้ลูกค้าที่ซื้อประกันรถยนต์ไฟฟ้าชั้น 1 สามารถผ่อนประกันรถยนต์จ่ายได้ 0 เปอร์เซ็นต์ นาน 10 เดือน ซึ่งเป็นข้อเสนอทางเลือกที่เป็นมิตรกับการเงินของลูกค้า ส่วนประกันรถยนต์ชั้น ๆ อื่น คุณสามารถตรวจสอบข้อเสนอได้ด้วยการติดต่อมาสอบถามกับเราโดยตรงที่ Care Center 1438

ซื้อประกันรถยนต์ไฟฟ้ากับแรบบิท แคร์ จ่ายเงินผ่านช่องทางไหนได้บ้าง?

ลูกค้าสามารถเลือกจ่ายเงินได้หลายช่องทาง เช่น โอนเงินผ่านบัญชีธนาคาร บัญชีพร้อมเพย์ บัตรเครดิต บัตรเครบิต ซึ่งลูกค้าเลือกช่องทางที่สะดวกได้เลย

หากซื้อประกันรถยนต์ไฟฟ้าไปแล้ว จะแต่งรถหรือนำอุปกรณ์มาติดเสริม ต้องทำอย่างไร?

น้องแคร์ ขอแนะนำให้คุณติดต่อเพื่อแจ้งให้เราได้ทราบโดยแจกแจงรายละเอียดอย่างชัดเจนว่าตกแต่งเสริมในส่วนใดบ้าง เช่น การติดล้อแม็กซ์ การใส่สปอยเลอร์หลัง การติดไฟตกแต่ง พร้อมส่งหลักฐานเป็นรูปถ่ายมาให้กับเรา เพื่อให้เราลงรายละเอียดคุ้มครองอุปกรณ์ตกแต่งของคุณเพิ่มเติม มิเช่นนั้นหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา คุณจะไม่ได้รับค่าซ่อมแซมในส่วนอุปกรณ์เสริมแต่งนั้น ๆ

 

ทั้งนี้การติดอุปกรณ์ตกแต่งเพิ่มเติมจะต้องเสียเบี้ยประกันเพิ่มมากขึ้น ขึ้นกับมูลค่าของการตกแต่งโดยบริษัทประกันภัยจะเป็นผู้รับผิดชอบคำนวนเบี้ยประกัน

ซื้อประกันรถยนต์ไฟฟ้าผ่านแรบบิท แคร์ ดีกว่าซื้อตรงกับบริษัทประกันอย่างไร?

เพราะว่าเราเป็นโบรกเกอร์ประกันภัย เราจึงมีแผนประกันรถยนต์ไฟฟ้าให้คุณเลือกมากมายหลายเจ้า คุณจะได้ตัวเลือกที่มากกว่าอีกทั้งสามารถเปรียบเทียบเบี้ยประกันได้อย่างเห็นภาพ เพื่อรับความคุ้มครองที่เหมาะสมที่สุดกับตัวคุณ นอกจากนี้คุณจะได้รับบริการความแคร์จากเราอย่างเต็มรูปแบบ ตั้งแต่การให้คำปรึกษา ไปจนถึงประสานงานกับบริษัทประกันภัยเมื่อต้องการแจ้งเคลม

พันธมิตรประกันภัยชั้นนำที่เราคัดสรรมาให้คุณ

โลโก้ วิริยะ

วิริยะประกันภัย

ราคาเริ่มต้นเพียง 7,500 บาท

กรุงเทพประกันภัย

กรุงเทพประกันภัย

ราคาเริ่มต้นเพียง 6,600 บาท

โลโก้ แอกซ่าประกันภัย

แอกซ่าประกันภัย

ราคาเริ่มต้นเพียง 6,101 บาท

โลโก้ คุ้มภัยโตเกียวมารีนประกันภัย

โตเกียวมารีนประกันภัย

ราคาเริ่มต้นเพียง 6,200 บาท

โลโก้ ธนชาตประกันภัย

ธนชาตประกันภัย

ราคาเริ่มต้นเพียง 6,500 บาท

โลโก้ แอลเอ็มจี ประกันภัย

แอลเอ็มจีประกันภัย

ราคาเริ่มต้นเพียง 7,300 บาท

ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของเรา