Rabbit Care Logo
ใช้ใจแคร์ ดูแลครบ
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ในการเก็บข้อมูลเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการใช้งาน และเพื่อเก็บข้อมูลสถิติ ท่านสามารถศึกษารายละเอียด เพิ่มเติมได้ที่นโยบายคุกกี้

ประกันสุขภาพเด็กคุ้มครองเด็กเล็กและแรกเกิด

หมดกังวลเรื่องอาการป่วย
สุขภาพลูกน้อยเราช่วยแคร์ให้

Rabbit Care - ประกันสุขภาพเด็ก

ทำไมต้องซื้อประกันสุขภาพเด็กกับ Rabbit Care?

แคร์ค่ารักษา

มอบค่ารักษาฯจากอุบัติเหตุ สูงสุด 100,000 บาท

แคร์ค่าห้อง

รับค่าห้องสูงสุด 50,000 บาท/วัน
(สูงสุด 30 วัน/ครั้ง)

แคร์คืนให้

ครบสัญญารับเงินคืน สูงสุด 600,000 บาท

แคร์ตั้งแต่คลอด

หมดห่วงความคุ้มครอง ทำประกันได้
ตั้งแต่วันแรกที่ลูกคลอด

แคร์คุ้มครองครบ

สมัครแผนเดียว ครบทั้งค่ารักษา,
ค่าห้องและค่าผ่าตัด เซฟรายจ่ายทุกปี

แคร์อนาคตของลูก

ทำประกันเหมือนการสะสมเงิน เพราะเมื่อลูกโตขึ้นมีเงินคืน

ประกันสุขภาพสำหรับเด็ก

ลงทะเบียนรับความแคร์ง่าย ๆ ใน 3 ขั้นตอน

ขั้นตอนที่ 1 : เลือกแผนที่ใช่

ค้นหาแผนประกันภัยจากบริษัทชั้นนำ พร้อมเปรียบเทียบราคาคุ้มค่า เพื่อเลือกความคุ้มครองที่ตอบโจทย์คุณ

ขั้นตอนที่ 2 : ใส่ข้อมูลส่วนตัว

กรอกข้อมูลส่วนตัวของผู้ซื้อ เพื่อรับการติดต่อกลับ จากผู้เชี่ยวชาญด้านแผนประกันภัยของ Rabbit Care

ขั้นตอนที่ 3 : เลือกซื้อความแคร์

เลือกซื้อแผนประกันภัย พร้อมรับความคุ้มครองใน 1 วันทำการถัดไป เมื่อผ่านการพิจารณาเงื่อนไขของบริษัทประกันภัย

บริษัทประกันภัยชั้นนำที่เราคัดสรรมาให้คุณ

คำถามและข้อสงสัยที่พบบ่อย

ทำไมต้องทำประกันสุขภาพให้เด็กเล็กหรือเด็กแรกเกิด?

คนเป็นพ่อเป็นแม่ก็ต้องรักและห่วงลูกเป็นธรรมดา แต่จะมีสักกี่ครอบครัวที่เล็งเห็นความสำคัญของการซื้อประกันสุขภาพให้ลูกที่ยังเป็นเด็กเล็กหรือเด็กแรกเกิด บางครอบครัวอาจคิดว่าเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น เปลืองเงินเปล่า ๆ แต่หารู้ไม่ว่าเด็กมีร่างกายที่บอบบางไม่แข็งแรง จะเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ได้ ดังนั้นการทำประกันก็เหมือนเป็นการลดความเสี่ยงด้านค่าใช้จ่ายในการรักษาเด็กเล็กและเพิ่มความอุ่นใจให้แก่ครอบครัวอีกด้วย

 

เหตุผลที่ควรทำประกันสุขภาพเด็กในทันที

 

  • ลักษณะการใช้ชีวิตของคนเริ่มเปลี่ยนไป  เนื่องด้วยในปัจจุบัน พ่อแม่ออกไปทำงานนอกบ้านกันมากขึ้น ซึ่งทำให้ต้องนำเด็กไปฝากไว้กับคนอื่นที่ไม่ได้เลี้ยงด้วยนมแม่ เด็กแรกเกิดจึงมีภูมิต้านทานน้อยลง
  • เด็กก็จะมีโอกาสติดเชื้อได้มากขึ้น สาเหตุสืบเนื่องมาจากข้อ 1 เมื่อเด็กแรกเกิดมีภูมิต้านทานน้อยลง เด็กก็จะมีโอกาสติดเชื้อได้มากขึ้นตามไปด้วย
  • ค่าใช้จ่ายสำหรับบริการทางการแพทย์สูงมาก ปัจจุบันค่าใช้จ่ายสำหรับบริการทางการแพทย์ในโรงพยาบาลเอกชนสูงมาก คุณคงไม่ให้ลูกคุณไปต่อคิวที่โรงพยาบาลรัฐในขณะที่ป่วยอยู่หรอกใช่ไหม
  • ประกันสุขภาพไม่ได้มีผลทันที  เนื่องจากประกันสุขภาพไม่ได้ให้ความคุ้มครองทันที คุณต้องรออย่างน้อย 30 วัน เพราะฉะนั้นทำก่อนมีสิทธิ์ก่อน
  • เด็กต้องการการรักษาที่ดีกว่าผู้ใหญ่ การรักษาอาการป่วยสำหรับเด็กเป็นเรื่องที่จำเป็นต้องระวังอย่างมาก เพราะเด็กเล็กจะมีภาวะการแพ้ต่อสภาพแวดล้อมได้ง่าย ซึ่งการรักษาอาจจำเป็นต้องใช้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญหรือเครื่องมือในการรักษาที่พิเศษกว่าคนทั่ว ๆ ไป
  • มีเชื้อโรคใหม่เกิดขึ้นตลอดเวลา หากคุณสังเกตให้ดีจะพบว่า มีข่าวคราวเกี่ยวกับการระบาดของเชื้อโรคสายพันธุ์ใหม่อยู่เรื่อย ๆ ทั้งเชื้อโรคที่เคยหมดไปแล้วกลับมาใหม่ หรือ เชื้อโรคที่มีการกลายพันธุ์เกิดเป็นสายพันธุ์ใหม่ ทำให้เป็นอันตรายต่อเด็กเล็กที่มีภูมิต้านทานต่ำและยากต่อการรักษาให้หายได้


จากสาเหตุที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น ทำให้เห็นว่า การทำประกันสุขภาพเด็กมีความสำคัญอย่างมากที่พ่อแม่ไม่ควรละเลย เพราะลูกน้อยของคุณจำเป็นต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างดีที่สุดเพื่ออนาคตที่ดีของพวกเขา

ประกันสุขภาพเด็ก ทำไปแล้วจะคุ้มไหม?

การลงทุนมีความเสี่ยงเสมอ แต่การลงทุนกับประกันภัยก็เป็นความเสี่ยงที่ได้รับผลตอบแทนคุ้มเกินคุ้ม โดยเฉพาะประกันสุขภาพเด็ก เพราะเด็กต้องเจอกับเชื้อโรค มลภาวะต่าง ๆ รวมทั้งอุบัติเหตุที่มาแบบไม่คาดคิด จนทำให้พ่อแม่รับมือกันไม่หวาดไม่ไหว

ดังนั้น ให้ประกันภัยสุขภาพคุ้มครองลูกคุณด้วยอีกแรงก็น่าจะเกิดผลดี แต่ว่าบริษัทประกันภัย ส่วนใหญ่จะให้ความคุ้มครองในกรณีใดบ้างนะ
 

ประกันสุขภาพเด็กเล็ก ให้ความคุ้มครองในกรณีต่าง ๆ ดังนี้

 

  1. ค่าห้องและค่าอาหาร
  2. ค่าบริการทั่วไป
  3. ค่าใช้จ่ายกรณีที่มีการรักษาพยาบาลฉุกเฉินหลังเกิดอุบัติเหตุ
  4. ค่าใช้จ่ายสำหรับแพทย์เยี่ยมไข้
  5. ค่ารักษาทางการแพทย์ต่าง ๆ


อุบัติเหตุที่มักเกิดขึ้นกับเด็ก มีดังนี้ 
 

  • หายใจไม่ออก เกิดจากการให้เด็กนอนที่นอนอ่อนหนานุ่ม ซึ่งจะทำให้เด็กเอาหน้ามุดลงไปกับที่นอน จนขาดอากาศหายใจได้
  • สำลัก เกิดจากการรับประทานอาหารที่ต้องดูดหรือกลืน ทำให้เด็กเกิดอาการสำลักอาหารเข้าไปในหลอดลม จนเศษอาหารเข้าไปปิดกั้นทางเดินหายใจได้
  • พลัดตกจากที่สูง เกิดจากการปล่อยเด็กเล็กให้อยู่ตามลำพังบนที่สูง เช่น บนโต๊ะ หรือบนเตียง ซึ่งเวลาที่เด็กพลิกตัวไปมาอาจทำให้ตกลงมาได้รับบาดเจ็บได้
  • กลืนสารพิษ เมื่อเด็กคว้าสื่งของใดได้ก็มักจะเอาเข้าปากอยู่เสมอ เพราะฉะนั้นควรเก็บสิ่งของหรือน้ำยาอันตรายต่าง ๆ ให้พ้นจากมือเด็กจะดีที่สุด
  • จมน้ำ เป็นข้อที่ควรระวังมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นทารกหรือเด็กเล็ก เพราะหากเป็นทารกที่ยังอาบน้ำเองไม่ได้ พ่อแม่ก็ต้องอุ้มเด็กอาบน้ำด้วยตัวเอง ซึ่งอาจจะเผลอทำเด็กหลุดออกจากมือจมลงไปในน้ำได้ หรือ เด็กทารกที่นั่งได้แล้ว พ่อแม่ก็มักจะปล่อยให้อาบน้ำเอง เมื่อเด็กเริ่มเล่นและเอี้ยวตัว ก็อาจทำให้หน้าคะมำลงไปในน้ำ สำลักน้ำและเสียชีวิตได้

เลือกประกันสุขภาพให้เด็กเล็กหรือเด็กแรกเกิดอย่างไรดี?

พ่อแม่หลายคนคงมีคำถามว่าจะทำประกันสุขภาพให้ลูกแบบไหนดี มีวิธีเลือกยังไงถึงจะได้สิ่งที่ดีที่สุด วันนี้ rabbit care จึงมีหลักการพิจารณาเลือกประกันสุขภาพเด็กมาฝากกัน

 

เลือกประกันสุขภาพเด็กเล็กหรือเด็กแรกเกิดอย่างไรดี?

 

  1. ความคุ้มครองแบบผู้ป่วยนอก ความคุ้มครองนี้ คุณจะต้องพิจารณาเองว่า ใน 1 ปี ลูกของคุณจะมีโอกาสเจ็บป่วยกี่ครั้งและต้องซื้อประกันในวงเงินเท่าไหร่ถึงจะเพียงพอ เพราะหากคุณซื้อประกันในวงเงินน้อย คุณจะต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลเพิ่มเอง
  2. ความคุ้มครองแบบผู้ป่วยใน เนื่องจากเด็กมีความเสี่ยงในการนอนโรงพยาบาลและต้องได้รับการดูแลที่ใกล้ชิดมากกว่าผู้ใหญ่ ดังนั้นการทำประกันความคุ้มครองแบบผู้ป่วยในจึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่ไม่ควรมองข้าม
  3. เงื่อนไขความคุ้มครอง เงื่อนไขความคุ้มครองเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่คุณควรพิจารณาให้ดี เพราะความคุ้มครองแต่ละแบบจะมีความแตกต่างกันออกไป ดังนี้
    • ความคุ้มครองแบบครั้งต่อครั้ง อธิบายอย่างง่าย ๆ คือ คุณจะต้องรับภาระค่าใช้จ่ายและค่ารักษาพยาบาลส่วนเกินเอง ในกรณีที่ค่ารักษาเกินวงเงินที่บริษัทประกันภัยกำหนด
    • ความคุ้มครองแบบเหมาจ่าย คือ บริษัทประกันจะเป็นผู้กำหนดวงเงินความคุ้มครองใน 1 ปีให้คุณ ดังนั้น คุณไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลรายครั้งเลยว่าจะเกินวงเงินหรือไม่
  4. ระยะเวลาการรอคอย คือ ระยะเวลาที่ผู้เอาประกันยังไม่สามารถเรียกร้องเงินชดเชยได้ ต้องให้ผ่านระยะเวลาการรอคอยไปก่อนจึงจะสามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ ซึ่งระยะเวลาการรอคอยนี้แต่ละบริษัทก็จะมีข้อกำหนดที่แตกต่างกันไป เช่น 1 เดือนหรือ 90 วัน
  5.  ความคุ้มครองเพิ่มเติม คุณควรพิจารณาความคุ้มครองเพิ่มเติมอื่น ๆ นอกเหนือจากความคุ้มครองหลักด้วย เช่น ค่าชดเชยในการนอนโรงพยาบาล ค่าแพทย์ทางเลือก ค่าทำฟัน เป็นต้น ทั้งนี้ก็เพื่อให้ลูกๆของคุณได้รับการรักษาที่ดีที่สุด และคุณจะได้ไม่ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายมากจนเกินไปนั่นเอง

ทำประกันสุขภาพคุ้มครองเด็กเล็กและแรกเกิดจะได้อะไรบ้าง?

  • ได้เบี้ยประหยัด ที่คุ้มค่ากับค่ารักษาพยาบาลยามเจ็บป่วยและเกิดอุบัติเหตุของเด็กเล็ก
  • ได้ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอกจากอุบัติเหตุ และต่อเนื่องจนถึงค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยใน
  • รับเพิ่ม 70% ของค่าใช้จ่ายส่วนที่เกินตามตารางค่าผ่าตัดและค่ารักษาพยาบาล
  • ไม่ต้องสำรองเงินจ่ายค่ารักษาพยาบาลอีกต่อไป เมื่อเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลในเครือ
  • ได้เบี้ยประกันที่ถูกแสนถูก แต่ความคุ้มครองคุ้มค่าเกินราคา

 

 สุดท้ายนี้หากคุณตัดสินใจที่จะทำประกันสุขภาพเพื่อลูกแล้วละก็ คุณควรรีบทำเสียตั้งแต่เนิ่น ๆ เพราะหากลูกป่วยขึ้นมาแล้วมาทำประกันทีหลังประกันจะไม่คุ้มครอง

ควรทำประกันสำหรับเด็กตั้งแต่อายุเท่าไหร่ดี?

โดยทั่วไปแล้วประกันสุขภาพเด็กนั้น คุณสามารถทำให้ลูกได้เลยตั้งแต่แรกเกิดจนกว่าจะถึงอายุ 14 - 15 ปี หากทำช่วงหลังอายุจากนี้ ส่วนมากจะขยับให้เป็นประกันสุขภาพสำหรับผู้ใหญ่แทน กลับกัน หากคุณทำประกันสำหรับเด็กอยู่แล้ว และถ้าต่ออายุทำประกันสุขภาพเด็ก แม้เด็ก ๆ จะมีอายุเลย 15 ปี ไปแล้ว แต่ยังสามารถต่อประกัน รวมถึงเบิกค่าเคลมต่าง ๆ ได้จนถึงอายุ 20 - 22 ปี (ขึ้นกับแต่ละกรมธรรม์และเงื่อนไขของแต่ละบริษัทฯ)

 

นอกจากนี้ ประกันสำหรับเด็กจะทำได้ง่าย ยังมีราคาเบี้ยประกันที่ถูกกว่าผู้ใหญ่ มีข้อจำกัดหรือข้อยกเว้นน้อยกว่ามาก แถมยังได้รับการคุ้มครองในระยะยาวที่คุ้มค่า เช่น หากเป็นผู้ใหญ่จะต้องคำนึงถึงอาชีพว่าบริษัทฯรับทำประกันหรือไม่ แต่สำหรับเด็กแล้วจะเน้นเงื่อนไขเรื่องโรคประจำตัว และวัยที่ไม่เกินจากเงื่อนไข ก็สามารถทำประกันสำหรับเด็กได้แล้ว ซึ่งรายละเอียดจะแตกต่างกันไปในแต่ละบริษัทที่รับประกัน

 

สรุปแล้ว หากผู้ปกครองมีทุนทรัพย์ที่เพียงพอ การเลือกทำประกันสำหรับเด็กตั้งแต่แรกเกิดจะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายหากลูกเกิดเจ็บป่วยได้เป็นอย่างดี คุ้มค่าทั้งค่าใช้จ่ายที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตอีกด้วย คลิกเลย กับ บริการเปรียบเทียบประกันสุขภาพ จาก แรบบิท แคร์ ที่ช่วยให้ผู้ปกครองทุกคนอุ่นใจได้ทุกการเติบโตของลูกหลาน

มีโรคอะไรบ้างที่เด็กมักเจ็บป่วย?

สำหรับเด็กเล็กหรือเด็กแรกเกิดนั้น มีโอกาสที่จะเจ็บป่วยได้ง่ายและบ่อยครั้ง เนื่องจากร่างกายยังไม่มีภูมิคุ้มกันที่ครบถ้วน ซึ่งโรคที่เด็กเล็กมักจะเป็นนั้น มีดังนี้

 

โรคมือ เท้า ปาก

โรคที่พบได้บ่อยในเด็กทารกและเด็กเล็ก ผู้ป่วยจะมีไข้ เจ็บคอ และมีแผลบริเวณปาก ฝ่ามือ ฝ่าเท้า เป็นผื่นและกลายเป็นตุ่มพองใส ถ้าอาการรุนแรงอาจเป็นเหตุให้เกิด เยื่อหุ้มสมองอักเสบ, สมองอักเสบ หรือกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบได้

 

โรคอีสุกอีใส

อีกหนึ่งโรคที่มักจะพบในเด็ก 5 - 9 ปี ผู้ป่วยจะมีอาหารอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร มีผื่นขึ้น โดยโรคอีสุกอีใสในเด็กมักจะไม่รุนแรง และสามารถหายได้เองใน 7-10 วัน นอกจากนี้ยังสามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีนป้องกันอีสุกอีใสได้ตั้งแต่อายุ 12-18 เดือน

 

โรคไข้เลือดออก

มียุงเป็นพาหะนำโรค ผู้ป่วยจะมีอาการมีไข้สูงหลายวัน ปวดศีรษะ ปัสสาวะน้อย ปวดเมื่อยตัว คลื่นไส้อาเจียน หากไม่รีบรักษาจนร้ายแรง ทำให้ชีพจรแผ่วแต่เร็ว ความดันต่ำ อาจทำให้ช็อกถึงขั้นเสียชีวิตได้

โรคไข้เลือดออกเป็นโรคที่เป็นง่ายและอันตรายไม่ว่าผู้ป่วยจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ แต่ยังไม่มียาที่รักษาเฉพาะ ดังนั้นสิ่งที่คุณควรทำคือ หมั่นกำจัดแหล่งกำเนิดยุงตามน้ำขังต่าง ๆ หากมีอาการใกล้เคียงควรรีบไปพบแพทย์โดยเร็ว

 

โรคท้องร่วง

โรคท้องร่วงพบได้บ่อยมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่เด็กเล็ก เนื่องจากเด็กเล็กมักจะสัมผัสสิ่งของต่าง ๆ โดยไม่ได้ระมัดระวัง และอาจหยิบจับของกินเข้าปากโดยที่ไม่ทันล้างมือ เป็นเหตุให้ท้องร่วงได้ โดยโรคท้องร่วง หากมีอาการรุนแรง อาจทำให้ร่างกายเกิดภาวะขาดน้ำ มีไข้ขึ้นสูง ในบางรายหากขาดน้ำมาก อาจมีภาวะช็อค เป็นอันตรายควรรีบพบแพทย์ทันที


ไวรัส RSV

เป็นไวรัสชนิดหนึ่งที่ก่อโรคทางระบบทางเดินหายใจ พบบ่อยในเด็กที่มีอายุน้อยกว่า 5 ปี และมักระบาดในฤดูฝนและฤดูหนาวในไทย โดยผู้ป่วยจะมีจะมีอาการเหมือนไข้หวัดธรรมดาคือ ไข้ ไอ จาม น้ำมูกไหล แต่หากมีอาการไอมาก เสมหะมาก หายใจมีเสียงวี๊ดหรือมีเสียงครืดคราด มีอาการหอบเหนื่อยหายใจเร็วควรรีบมาพบแพทย์ทันที


นอกจากนี้ยังมีอาการเจ็บไข้ได้ป่วยอีกเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่พบได้บ่อย ดังนั้นการทำประกันสำหรับเด็กเพื่อรองรับอาการเจ็บป่วยที่ไม่คาดฝันจะดีที่สุด และสำหรับใครที่กังวลว่าลูกหลานอาจเป็นโรคเฉพาะทางที่ประกันสำหรับเด็กไม่รับเบิกเคลม สามารถปรึกษาเพื่อเปรียบเทียบ หาประกันที่เหมาะกับลูกหลานคุณได้ เพียงติดต่อ แรบบิท แคร์ ที่มาพร้อมแคร์เอเจ้นท์ที่ให้คำปรึกษา และคอยช่วยเหลือคุณในทุกขั้นตอนก่อนและหลังซื้อประกัน

ประกันสำหรับเด็กสามารถใช้ลดหย่อนภาษีให้ผู้ปกครองได้หรือไม่?

เบื้องต้นนั้น  กฎหมายกําหนดให้ผู้ปกครองสามารถใช้ค่าเลี้ยงดูบุตรลดหย่อนภาษีได้ คนละ 15,000 บาท แต่รวมกันแล้วไม่เกิน 3 คน โดยบุตรจะต้องเป็นผู้ที่มีอายุไม่เกิน 25 ปี และต้องยังศึกษาอยู่ในระดับมหาวิทยาลัย หากยังศึกษาอยู่ในไทย สามารถลดหย่อนเพิ่มได้อีกคนละ 2,000 บาท

 

ในกรณีที่มีอายุเกิน 25 ปี แต่หากศาลตัดสินให้เป็นบุคคลเสมือนไร้ความสามารถต้องอยู่ในการอุปการะดูแล จะยังคงนำค่าใช้จ่ายส่วนนี้มาลดหย่อนภาษีได้ สรุปแล้ว ผู้ปกครองสามารถลดหย่อนได้ที่คนละ 17,000 บาท/คน (ในกรณีที่บุตรยังเรียนอยู่)


ตัวอย่าง

คุณแคร์มีลูก 2 คน กำลังเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลาย คุณแคร์จะสามารถลดหย่อนภาษี 17,000 บาท/คน หรือรวมกันแล้ว ลดหย่อนได้สูงสุดที่ 34,000 บาท และหากคุณแคร์ได้ซื้อประกันชีวิตให้คุณพ่อคุณแม่ ก็จะสามารถนำส่วนนี้ไปลดหย่อนภาษีได้เพิ่มเติม

 

ในขณะที่ คุณห่วงใยมีลูก 4 คน และทั้งหมดกำลังศึกษาอยู่มหาวิทยาลัยในไทย คุณห่วงใยจะสามารถลดหย่อนได้สูงสุด 51,000 บาท เท่านั้น เนื่องจากกฎหมายกำหนดไว้วางลดหย่อนได้สูงสุดไม่เกิน 3 คน นั่นเอง


นอกจากนี้ การซื้อประกันสำหรับเด็ก ไม่สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้เหมือนกับการซื้อประกันชีวิต หรือซื้อประกันสุขภาพให้ตนเอง แต่การซื้อประกันชีวิตให้พ่อแม่จะสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 15,000 บาท

ไม่ทำประกันสุขภาพเด็กได้ไหม?

หากที่ทำงานของคุณมีสวัสดิการให้เบิกการรักษาพยาบาล จะไม่ทำประกันสุขภาพเพื่อลดค่าใช้จ่ายรายเดือนก็สามารถเลือกไม่ทำเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายได้ แต่หากประเมินแล้วว่าวงเงินในการเบิกเคลมเมื่อลูกเจ็บป่วยไม่เพียงพอ การทำประกันสำหรับเด็กจะช่วยได้มากกว่า เนื่องจากการรักษาเด็กนั่นมีความละเอียดอ่อนกว่าผู้ใหญ่มาก ทำให้มีค่ารักษาพยาบาลที่แพงกว่าผู้ใหญ่ด้วย

 

นอกจากนี้ ประกันสุขภาพเด็กส่วนใหญ่จะให้ความคุ้มครองค่าใช้จ่ายเหล่านี้ ซึ่งช่วยแบ่งเบาภาระด้านการเงินให้กับผู้ปกครองได้เป็นอย่างดี

 

  • ค่าห้อง ค่าอาหาร
  • ค่าบริการทั่วไป
  • ค่าใช้จ่ายกรณีที่มีการรักษาพยาบาลฉุกเฉินหลังเกิดอุบัติเหตุ
  • ค่าใช้จ่ายสำหรับแพทย์เยี่ยมไข้
  • ค่ารักษาทางการแพทย์ต่างๆ

ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของเรา