รู้หรือไม่! ไส้กรองอากาศรถยนต์มีกี่ประเภทและควรเลือกใช้แบบไหนดี

การกรองอากาศรถยนต์ถือว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก เพราะเราอยู่ในรถก็มักจะสูดดมอากาศอยู่แล้ว ดังนั้นหากได้อากาศที่ไม่บริสุทธิ์ จะทำให้คุณเกิดการระคายเคืองในระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอ จาม มีน้ำมูก หรือแพ้อากาศ ดังนั้นคุณ ควรล้างทำความสะอาดไส้กรองอากาศตามคำแนะนำของกรมการขนส่งทางบก

หากเคยสัมผัสกับการตรวจเช็คหรือซ่อมรถด้วยตัวเอง คุณจะเห็นว่า รอบรถยนต์มีไส้กรองอยู่หลายประเภท แต่ละประเภทก็ทำหน้าที่แตกต่างกันไป และปัจจุบันนี้แต่ละแบบมีให้เลือกหลายประเภทอีก บทความนี้ แรบบิท แคร์ เลยขอพาไปดูว่า แต่ละประเภทแตกต่างกันอย่างไรและควรเลือกแบบไหนให้เหมาะกับการใช้งานรถยนต์ของคุณมากที่สุด

ไส้กรองอากาศ คือ หนึ่งในส่วนของไส้กรองรถยนต์ที่ทำหน้าที่ดักจับฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกแปลกปลอมเข้าไปในบริเวณเครื่องยนต์ เพื่อยืดอายุการใช้งานของรถยนต์ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเคียงคู่คุณไปนาน ๆ โดยส่วนของไส้กรองอากาศนี้ ในปัจจุบันมีให้เลือกอยู่ประมาณ 3 ประเภทหลัก ดังนี้

• ไส้กรองอากาศรถยนต์แบบกระดาษ : ไส้กรองชนิดนี้มีราคาถูกสุด เหมาะกับคนงบน้อย แต่หากสกปรกหรือมีปัญหาก็ต้องทิ้งอย่างเดียว
• ไส้กรองอากาศรถยนต์แบบผ้า : ประสิทธิภาพการกรองใกล้เคียงกับไส้กรองรถยนต์แบบกระดาษ แต่จะสามารถระบายอากาศได้ดีกว่า ถอดล้างทำความสะอาดได้ และอายุการใช้งานมากกว่า
• ไส้กรองอากาศรถยนต์แบบสแตนเลส : คุ้มค่ากับการลงทุนที่สุด หากงบถึง แรบบิท แคร์ ขอแนะนำให้ใช้ไส้กรองอากาศรถยนต์แบบนี้ เพราะมีความทนทานสูง อายุการใช้งานสูงสุด และประสิทธิภาพการกรองก็ดีสุดเหมือนกัน

ไส้กรองอากาศรถยนต์ที่ส่งผลถึงสุขภาพของผู้ใช้งานรถยนต์โดยตรงคือ ไส้กรองเครื่องปรับอากาศรถยนต์ เพราะมีหน้าที่ดักจับฝุ่นละอองและสิ่งแปลกปลอมไม่พึงประสงค์ที่ลอยปะปนอยู่ในอากาศภายในห้องโดยสารของรถ โดยไส้กรองตัวนี้จะคอยดักจับก่อนที่สิ่งเหล่านั้นจะเข้าไปในระบบแอร์ ทั้งยังช่วยลดการอุดตันบริเวณคอยล์เย็นให้ระบบทำความเย็นให้สามารถใช้งานสร้างความเย็นฉ่ำไปได้อีกนาน มีให้เลือก 3 ประเภทหลัก ดังนี้

• ไส้กรองเครื่องปรับอากาศรถยนต์แบบกระดาษธรรมดา : ไส้กรองชนิดนี้ได้รับความนิยมสูงสุดเพราะมีราคาไม่แพง และสามารถดักจับฝุ่นละอองและสิ่งแปลกปลอมได้ดี
• ไส้กรองเครื่องปรับอากาศรถยนต์แบบกระดาษคาร์บอน : ไส้กรองชนิดนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซับกลิ่นเพิ่มขึ้นมาจากแบบกระดาษ
• ไส้กรองเครื่องปรับอากาศรถยนต์แบบนาโน : เป็นไส้กรองอากาศรถยนต์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด สามารถกรองฝุ่นละอองและดักจับแบคทีเรียได้แบบมีประสิทธิภาพ รวมถึงดูดซับกลิ่นได้ครบจบในหนึ่งเดียว

ไส้กรองอากาศรถยนต์จะทำงานได้เต็มประสิทธิภาพไม่ใช่แค่เลือกประเภทให้เหมาะกับการใช้งาน แต่ควรเปลี่ยนใหม่เมื่อถึงระยะทางที่ใช้งาน (เลขไมล์) หรือระยะเวลาตามกำหนดของแต่ละส่วนด้วย น้องแคร์จึงสามารถสรุปได้ง่าย ๆ ว่าไส้กรองควรเปลี่ยนเมื่อขับครบ 20,000 กิโลเมตรหรืออย่างน้อยปีละครั้ง เพราะอย่างนั้นอย่าลืมหมั่นเช็คระยะรถยนต์เหมือนได้ตรวจสุขภาพ เพื่อซ่อมบำรุงเมื่อถึงเวลา

ในขั้นตอนแรกคุณต้องปลดคลิปล็อคของไส้กรองอากาศออกให้หมด หลังจากนั้นให้คุณยกฝาครอบและดึงไส้กรองออกมาด้วยความระมัดระวัง หากไส้กรองด้านที่รับฝุ่นเปื้อนหรือสกปรกมาก น้องแคร์แนะนำให้คุณเปลี่ยนไส้กรองใหม่ทันที เพราะนั่นแปลว่าไส้กรองที่คุณใช้งานอยู่จะกรองอากาศรถยนต์ได้ไม่มีประสิทธิภาพ หากไม่เปื้อนมากหรือเพิ่งเปลี่ยนไป คุณสามารถใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดทำความสะอาดได้ แต่สิ่งที่ห้ามทำเด็ดขาดคือการเป่าลมเพราะจะทำให้ฝุ่นหรือผงหลุดไปในเครื่องยนต์ได้

การเปลี่ยนไส้กรองอากาศในรถยนต์ของคุณทำได้ไม่ยาก เพียงแค่คุณต้องมีอุปกรณ์และเครื่องมือที่พร้อม วันนี้น้องแคร์จะมาบอกวิธีเปลี่ยนไส้กรองอากาศแบบง่าย ๆ ที่สามารถทำได้ที่บ้าน :

อุปกรณ์ที่ใช้ในการเปลี่ยนไส้กรอง

• ไขควงปากแบน
  
• ไส้กรองตัวใหม่
  
• ผ้าชุบน้ำ ในกรณีใช้ไส้กรองตัวเก่า
  
• เครื่องเป่าลม
  
  
  

ขั้นตอนการเปลี่ยนไส้กรองอากาศรถยนต์

• 1. เลือกซื้อไส้กรอง โดยขั้นตอนนี้คุณต้องซื้อให้ถูกเบอร์ที่ใช้กับรถของคุณ
  
• 2. จอดรถบนพื้นที่เรียบ เพื่อป้องกันรถไหล หลังจากนั้นให้คุณเข้าเกียร์ P และดับเครื่องให้สนิท
  
• 3. เปิดฝากระโปรงรถอย่างระมัดระวัง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุเช่น โดนหน้า หรือโดนหนีบมือ
  
• 4. หาหม้อกรองอากาศ ส่วนใหญ่จะเป็นพลาสติกสีดำ มีลักษณะใหญ่ที่สุด ในบรรดาชิ้นส่วนเครื่องยนต์ทั้งหมด คุณจะสามารถหาหม้อกรองอากาศได้ง่าย ๆ
  
• 5. ใช้ไขควงไขน๊อตที่ติดอยู่ที่ฝาออกให้หมด ขั้นตอนนี้อย่าลืมเก็บน๊อตไว้ดีดี เพราะต้องใส่กลับเหมือนเดิม
  
• 6. หากมีฝุ่นเกาะที่บริเวณหม้อกรอง อาจใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดออกได้ แต่ห้ามเป่าลมเด็ดขาดหากยังไม่ยกไส้กรองออกมา
  
• 7. ยกไส้กรองออกมาด้วยความระมัดระวัง เพื่อป้องกันฝุ่นลงไปติดในส่วนอื่นๆของรถยนต์
  
• 8. เป่าลมหรือทำความสะอาดไส้กรอง ในขั้นตอนนี้คุณควรยกออกมาวางไว้บริเวณที่ห่างจากรถยนต์เพื่อป้องกันฝุ่นเข้าไปในเครื่องยนต์
  
• 9. เช็ดไส้กรองอากาศให้แห้งสนิท หลังจากนั้นนำไส้กรองกลับเข้าไปในหม้อกรองอากาศให้เรียบร้อย
  
• 10.ปิดหม้อกรองให้สนิท และขันน๊อตกลับไปเหมือนเดิม

โดยเฉลี่ยแล้วราคาของเครื่องกรองอากาศรถยนต์ จะอยู่ที่ 3000 บาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรุ่น ยี่ห้อ สถานที่จัดจำหน่าย ผู้ขาย โปรโมชั่น และอื่น ๆ

ก่อนที่จะตัดสินใจเปลี่ยนหรือเลือกซื้อ เครื่องกรองอากาศ หลายคนอาจสงสัยว่าเราควรคำนึงจากอะไร วันนี้น้องแคร์มีคำตอบมาให้:

1. ดูความเหมาะสม

คุณควรเลือกซื้อไส้กรองอากาศรถยนต์ที่เหมาะกับรุ่นรถของคุณ เพราะลักษณะของเครื่องกรองอากาศแต่ละรุ่นจะมีความแตกต่างกันไป เพราะฉะนั้นหากซื้อมาผิดก็จะทำให้ไม่สามารถใส่เครื่องกรองนั้นไปในรถของคุณได้ เสียทั้งเงินและเวลา

2. วัสดุของไส้กรอง

วัสดุของไส้กรองก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่คุณควรคำนึงถึงก่อนเลือกซื้อไส้กรองอากาศรถยนต์ ลักษณะของไส้กรองต้องมีความแข็งแรงและมีคุณภาพดี ไส้กรองที่ดีและมีคุณภาพจะทำให้รถยนต์มีการเผาไหม้ได้ดีขึ้น เพิ่มอัตราการเร่ง และประหยัดน้ำมันลงได้

3. งบประมาณ

เครื่องกรองอากาศรถยนต์มีหลายยี่ห้อหลายราคา ก่อนตัดสินใจซื้อคุณควรคำนึงถึงงบประมาณ ควรเลือกซื้อไส้กรองที่มีราคาไม่แพงจนเกินไปแต่มีคุณภาพดี

ไส้กรองอากาศมีให้เลือกหลายรุ่น หลายยี่ห้อ ยี่ห้อไหนดี ไปดูกันเลย!!

1. Datatec Tornado

เป็นไส้กรองอากาศรถยนต์แบบผ้า สำหรับรถรุ่น ISUZU, ALL NEW D-MAX, MU-X ปี 2012-2020 หากใครใช้รถยนต์รุ่นนี้อยู่ ไม่ควรพลาดแบรนด์นี้ ลักษณะของไส้กรองคือเป็นผ้าใยสังเคราะห์ทำให้สนิมเกาะยาก ทนความร้อนสูง มีความแข็งแรง ทนทาน ลดควันไอเสีย สามารถใช้ได้ยาวนานมากกว่า 100,000 กิโลเมตร ไส้กรองรุ่นนี้สามารถล้างทำความสะอาดด้วยน้ำเปล่าและนำกลับมาใช้ใหม่ได้ คุณสามารถหาซื้อได้ตามช่องทางออนไลน์ เช่น Lazada ราคาอยู่ที่ 2,650 บาท (ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง)

2. FABRIX AIR FILTER

ไส้กรองอากาศสำหรับรถยนต์รุ่น Nissan March, Almera, Sylphy, Juke, Pulsar สามารถล้างทำความสะอาดและนำกลับมาใช้ใหม่ได้ เรียกได้ว่าลงทุนครั้งเดียวใช้งานได้ในระยะยาวทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อไส้กรองชุดใหม่ ช่วยเพิ่มแรงม้า และประหยัดน้ำมัน ราคาอยู่ที่ 1,290 บาท (ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง)

3. Hurricane

เป็นไส้กรองอากาศรถยนต์แบบสแตนเลส เหมาะกับรถยนต์รุ่น Mitsubishi Triton, Pajero สามารถล้างและนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ไร้สนิม แข็งแรง และทนทาน อายุการใช้งานของไส้กรองยี่ห้อนี้ยาวนานมาก ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนไส้กรองใหม่ในทุก ๆ ปี

บริษัทประกันรถจะคุ้มครองในกรณีที่ไส้กรองอากาศรถยนต์ได้รับความเสียหายอันเนื่องมาจากอุบัติเหตุ แต่ถ้าหากไส้กรองอากาศเสียหายจากการใช้ผิดประเภท หรือเสื่อมสภาพจากการใช้งานมาเป็นระยะเวลานาน ในกรณีบริษัทประกันจะไม่ให้ความคุ้มครอง แต่เพื่อเป็นการเพิ่มประวัติดีให้กับรถของคุณ น้องแคร์ขอแนะนำให้คุณเปลี่ยนเองดีกว่า ราคาเฉลี่ยจะอยู่ที่ 3000 บาท

เพราะการเลือกไส้กรองอากาศรถยนต์ให้ดีที่สุดและตอบโจทย์การใช้งานของคุณที่สุดให้กับรถยนต์ที่คุณรักก็เหมือนกับการเลือกสิ่งที่ดีให้กับตัวคุณเอง และแน่นอนว่าประกันรถยนต์ก็เป็นอีกสิ่งที่ควรใส่ใจในการเลือกเช่นกัน ขอแนะนำให้ควรเลือกอย่างน้อย ทําประกันรถยนต์ 2+ คุ้มครองครอบคลุมอย่างคุ้มค่า จากบริษัทชั้นนำกว่า 30 องค์กรในเครือ Rabbit Care โปรแรง! ประหยัดสูงสุด 70% เพราะสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อรถก็คือ สิ่งที่ดีที่สุดเพื่อคุณ