ต่อ พ.ร.บ. รถยนต์กับแรบบิท แคร์
ซื้อประกันรถกับแรบบิท แคร์ แคร์คุณเรื่องอะไรบ้าง
บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน
พร้อมช่วยเหลือคุณเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินบนท้องถนน
พ.ร.บ. รถยนต์ให้ความคุ้มครองอะไรบ้าง?
ประกันภัยภาคบังคับหรือ พ.ร.บ. รถยนต์ เป็นความคุ้มครองจำเป็นที่ต้องมีติดรถยนต์ไว้อย่างยิ่ง เพราะหากมีเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้นขณะที่คุณใช้รถยนต์ ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจะสามารถเคลมเงินค่ารักษาพยาบาลกับ พ.ร.บ. รถยนต์ ได้ หรือถ้ากรณีรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตก็จะได้เงินชดเชยด้วยเช่นกัน โดย พ.ร.บ. จะมีรายละเอียดความคุ้มครองดังนี้
ค่าเสียหายเบื้องต้น
เป็นการเคลมเงินค่ารักษาพยาบาลหรือเงินชดเชยโดยไม่ต้องพิสูจน์ความผิด หรือกล่าวได้ว่าหากเกิดอุบัติเหตุขณะขับรถเมื่อไหร่ก็จะเคลมได้ทันที
- ค่ารักษาพยาบาล (เบิกได้ตามค่ารักษาจริง) สูงสุด 30,000 บาท ต่อคน
- เงินชดเชยกรณีผู้ประสบเหตุเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพ สูงสุด 35,000 บาท ต่อคน
เงินทั้งหมดที่เบิกได้นี้รวมแล้วจะต้องไม่เกิน 65,000 บาท ต่อคน
ค่าเสียหายส่วนเกิน
หากประสบภัยขณะใช้รถยนต์ และมีการพิสูจน์แล้วว่าผู้ทำ พ.ร.บ. รถยนต์เป็นฝ่ายถูก จะสามารถเคลมเงินค่ารักษา/เงินชดเชย ได้เพิ่มเติม
- ค่ารักษาพยาบาลตามจริง สูงสุด 80,000 บาท ต่อคน
- เงินชดเชยกรณีเสียชีวิต หรือทุพพลภาพถาวรสื้นเชิง สูงสุด 500,000 บาท ต่อคน
- เงินชดเชยกรณีทุพพลภาพถาวร สูงสุด 300,000 บาท ต่อคน
- เงินชดเชยกรณีสูญเสียอวัยวะ นิ้วขาด 1 ข้อขึ้นไป สูงสุด 200,000 บาท ต่อคน
- เงินชดเชยกรณีสูญเสียอวัยวะ 1 ส่วน สูงสุด 250,000 บาท ต่อคน
- เงินชดเชยกรณีสูญเสียอวัยวะ 2 ส่วน สูงสุด 500,000 บาท ต่อคน
ค่าเสียหายส่วนเกินรวมทุกข้อแล้วต้องไม่เกิน 504,000 บาทต่อคน
จะเห็นได้ว่า พ.ร.บ. รถยนต์นั้นให้ความคุ้มครองในวงเงินที่มาก เมื่อเทียบกับค่าเบี้ยที่เสียไปในแต่ละปี นอกจากนี้ยังมีกฎหมายให้รถทุกคันต้องทำ พ.ร.บ. รถยนต์ด้วยเพื่อเป็นหลักประกันความคุ้มครองให้กับตนเอง ดังนั้นเราจึงควรต่อ พ.ร.บ. ตั้งแต่ตอนนี้ก่อนที่จะสายเกินไป
บริษัทประกันภัยชั้นนำที่เราคัดสรรมาให้คุณ
พรบ.รถยนต์ เบิกอะไรได้บ้าง ต้องจ่ายปีละเท่าไหร่
โดยทั่วไปแล้วรถยนต์ทุกคันที่วิ่งอยู่บนท้องถนน ทางกฎหมายบังคับให้ต้องมีการทำ พรบ.รถยนต์อย่างสม่ำเสมอทุกปี เพื่อให้ผู้ใช้งานรถยนต์ได้รับความคุ้มครองพื้นฐานตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งการ ต่อพรบ รถยนต์ก็จะมี ราคา พรบ รถยนต์ ที่แตกต่างกันออกไปตามเกณฑ์ รวมถึงยังมีความคุ้มครองที่สามารถเบิกได้ไม่เหมือนกันในแต่ละกรณีอีกด้วย ฉะนั้นแล้วผู้ใช้งานรถยนต์ทุกคนควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับ พรบ.รถยนต์เอาไว้อย่างถี่ถ้วน เพื่อรักษาสิทธิประโยชน์ความคุ้มครองที่อาจมากกว่าที่คุณคิดไว้ นอกจากนั้นยังมีข้อมูลเกี่ยวกับ พรบ.รถยนต์ อีกหลายข้อที่เราต้องเตรียมพร้อมรับมือ เช่น วิธีการ ต่อ พรบ รถยนต์ เอกสารที่ต้องใช้งาน เบิกอะไรได้บ้าง คุ้มครองกรณีไหนบ้าง หาก พรบ.รถยนต์ ขาด จะโดนค่าปรับเท่าไหร่
พ.ร.บ. ย่อมาจาก
พรบ. ย่อมาจาก พระราชบัญญัติ ซึ่งเป็น พรบ. ที่กำหนดขึ้นมาเพื่อคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ หรือพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ เป็นหลักยืนยันว่าผู้ใช้รถ ใช้ถนนทุกคนจะได้รับความคุ้มครองขั้นพื้นฐานจากกองกลางที่รถทุกคนได้ทำ พรบ.รถยนต์ เอาไว้
เช็ค พรบ รถยนต์ ยังไง
เช็คพรบ.รถยนต์สามารถทำได้ง่าย ๆ เพียงแค่ตรวจสอบด้วยตัวเองผ่านกรมธรรม์ที่เรามีอยู่ ว่ามีระยะเวลาการคุ้มครองเริ่มต้นเมื่อไหร่ และจะหมดลงในวันไหน แต่กรณีที่เราจำไม่ได้ว่าล่าสุดมีการต่อ พรบ รถยนต์ ไว้กับบริษัทอะไร สามารถติดต่อสอบถามไปยัง สายด่วน คปภ. ที่หมายเลข 1186 ได้โดยตรง เพียงเท่านี้เราจะทราบข้อมูลเกี่ยวกับ พรบ.รถยนต์ ปัจจุบันของเรา เพื่อทำการวางแผนต่ออายุได้อย่างตรงเวลา
เช็คพรบ หมดอายุ ออนไลน์
ส่วนวิธีการเช็คพรบ.รถยนต์หมดอายุผ่านช่องทางออนไลน์ เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้งานรถยนต์ทุกคน เพียงเข้าไปที่หน้าเว็บไซต์ www.rvp.co.th เว็บไซต์ของบริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ กรอกข้อมูลของเราเข้าไปในระบบ และสามารถทำการตรวจสอบอายุ พรบ.รถยนต์ ได้เลยทันที
พรบ.รถยนต์ เบิกอะไรได้บ้าง
สิ่งที่สามารถเบิกได้จาก พรบ.รถยนต์ จะมีทั้งหมด 2 กรณี คือ เบิกค่ารักษาพยาบาลเบื้องต้นโดยที่ยังไม่ต้องมีการพิสูจน์ว่าฝ่ายใดเป็นฝ่ายถูกหรือผิด และ ค่าชดเชยเมื่อได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นฝ่ายถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งในแต่ละกรณีมีรายละเอียดการเบิกพรบ.รถยนต์ที่แตกต่างกันออกไปดังนี้
1. เบิกค่ารักษาพยาบาลเบื้องต้นโดยที่ยังไม่ต้องมีการพิสูจน์ว่าฝ่ายใดเป็นฝ่ายถูกหรือผิด
- ค่ารักษาพยาบาล จ่ายตามจริงสูงสุด 30,000 บาท/คน
- หากสูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพ หรือเสียชีวิต จ่ายสูงสุดไม่เกิน 35,000 บาท/คน
- หากได้รับความเสียหายทั้งข้อ 1 และ 2 จ่ายสูงสุดไม่เกิน 65,000 บาท/คน
2. ค่าชดเชยเมื่อได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นฝ่ายถูกต้องตามกฎหมาย
- ค่ารักษาพยาบาล จ่ายตามจริงสูงสุด 80,000 บาท/คน หากเสียชีวิต หรือทุพพลภาพ จ่ายสูงสุดไม่เกิน 300,000 บาท/คน
- กรณีสูญเสียอวัยวะ
- สูญเสียมือตั้งแต่ข้อมือ หรือแขน หรือเท้าตั้งแต่ข้อเท้า หรือขา หรือ ตาบอด อย่างใดอย่างหนึ่งรวมกัน ตั้งแต่ 2 กรณีขึ้นไป ค่าชดเชย 300,000 บาท
- สูญเสียมือตั้งแต่ข้อมือ หรือแขน หรือเท้าตั้งแต่ข้อเท้า หรือขา หรือสายตา(ตาบอด) หรือ หูหนวกเป็นใบ้ หรือเสียความสามารถในการพูดหรือลิ้นขาด สูญเสียอวัยวะสืบพันธุ์ หรือความสามารถในการสืบพันธุ์ จิตพิการอย่างติดตัว หรือเสียอวัยวะอื่นใด ค่าชดเชย 250,000 บาท
- สูญเสียนิ้วตั้งแต่ข้อนิ้วขึ้นไป ไม่ว่านิ้วเดียว หรือ หลายนิ้ว ค่าชดเชย 200,000 บาท
- ค่าชดเชยกรณีรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในโรงพยาบาล วันละ 200 บาท ไม่เกิน 20 วัน หรือสูงสุด 4,000 บาท
คำแนะนำเพิ่มเติม เบิก พรบ รถยนต์ ได้ที่ไหน คำตอบ คือ สามารถส่งเอกสารเพื่อยื่นเรื่องขอเบิกค่าชดเชย ค่าใช้จ่ายได้ที่บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด ได้ทุกสาขาทั่วประเทศ
ข้อมูลการต่อ พรบ รถยนต์
ข้อมูลสำคัญที่ควรรู้เกี่ยวกับการต่อ พรบ รถยนต์ ได้แก่ ค่าต่อพรบ.รถยนต์ราคากี่บาท, วิธีต่อพรบ.รถยนต์, พรบ.รถยนต์ต่อที่ไหน และต่อพรบ.รถยนต์ต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง รายะเอียดเพิ่มเติมในแต่ละข้อควรรู้ แรบบิท แคร์ สรุปมาให้แบบเข้าใจง่ายตามเนื้อหาดังต่อไปนี้
ต่อ พรบ.รถยนต์ กี่บาท
ต่อภาษี พรบ รถยนต์ ราคาจะมีเกณฑ์ที่กำหนดเอาไว้ โดยเฉพาะ พรบ.รถยนต์ แบบรถยนต์โดยสารทั่วไป แบ่งตามจำนวนที่นั่งบนรถดังลิสต์รายการ ราคา พรบ รถยนต์ด้านล่าง
- รถยนต์เก๋ง ไม่เกิน 7 ที่นั่ง : ราคา พรบ รถยนต์ 600 บาท
- รถตู้ จำนวน 7 ที่นั่ง ไม่เกิน 15 ที่นั่ง : ราคา พรบ รถยนต์ 1,100 บาท
- รถโดยสาร เกิน 15 ที่นั่ง แต่ไม่เกิน 20 ที่นั่ง : ราคา พรบ รถยนต์ 2,050 บาท
- รถโดยสาร เกิน 20 ที่นั่ง แต่ไม่เกิน 40 ที่นั่ง : ราคา พรบ รถยนต์ 3,200 บาท
- รถกระบะ น้ำหนักไม่เกิน 3 ตัน : ราคา พรบ รถยนต์ 900 บาท
วิธีต่อ พรบ รถยนต์
ถัดมาเป็นวิธีการต่อ พรบ รถยนต์ ที่เราสามารถเลือกได้เองว่าต้องการต่อแบบยื่นเอกสารเอง หรือต่อ พรบ รถยนต์ ออนไลน์ โดยการซื้อ พรบ ออนไลน์ สามารถทำได้อย่างง่ายดายผ่านเว็บไซต์ของ บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด หรือจะเลือกซื้อ พรบ.รถยนต์ ผ่านเว็บไซต์บริษัทประกันภัยอื่น ๆ ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน
พรบ รถยนต์ ต่อที่ไหน
นอกเหนือจากการต่อพรบ.รถยนต์ ผ่านระบบออนไลน์แล้ว เราสามารถซื้อ พรบ รถยนต์ ที่ไหนได้บ้าง คำตอบ คือ กรมขนส่งทั่วประเทศ ที่ทำการไปรษณีย์ ห้างสรรพสินค้า และเคาน์เตอร์เซอร์วิสที่ให้พร้อมให้บริการ หรือหากใครมีโทรศัพท์มือถือที่เป็นสมาร์ทโฟนอยู่ใกล้ตัว เพียงแค่หยิบขึ้นมาแล้วพิมพ์ค้นหาว่า ต่อพรบรถยนต์ ใกล้ฉัน เพียงเท่านี้ก็จะมีตัวเลือกสำหรับการต่อ พรบ.รถยนต์ ให้คุณได้เลือกมากมาย
ต่อ พร บ รถยนต์ ใช้เอกสารอะไรบ้าง
เอกสาร พรบ รถยนต์ที่ต้องใช้งานมีทั้งหมด 4 รายการ ได้แก่ สำเนาบัตรประชาชน, เล่มทะเบียนรถตัวจริงหรือสำเนา, ใบตรวจสภาพรถจาก ตรอ. (กรณีรถยนต์อายุครบ 7 ปีขึ้นไป) และใบตรวจเช็คสภาพถังแก๊ส (กรณีรถติดแก๊สเท่านั้น) เอกสารไหนที่เป็นสำเนาสำหรับต่ออายุ พรบ.รถยนต์ แนะนำว่าควรเซ็นสำเนาถูกต้องไว้ให้เรียบร้อยด้วย
พรบ รถยนต์ คุ้มครองอะไรบ้าง
พรบ รถยนต์ คุ้มครองคู่กรณีไหม
พรบ.รถยนต์ จะให้ความคุ้มครองคู่กรณีอย่างแน่นอน เนื่องจากวัตถุประสงค์หลักเป็นประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองแก่ผู้ประสบภัยจากรถ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร และคู่กรณีที่เป็นบุคคลภายนอก หรือคนเดินถนนที่ได้รับผลกระทบ ต่างก็จะได้รับความคุ้มครองจาก พรบ.รถยนต์
พรบ.รถยนต์ กรณีเสียชีวิต มีคู่กรณี
พรบ.รถยนต์ กรณีที่เสียชีวิต แบบมีคู่กรณี หากรถยนต์ของเรามีการต่อพรบ. ไว้อยู่แล้ว ยังไงก็ได้รับความคุ้มครองสูงสุด 35,000 บาท/คน แน่นอน และหากมีการพิสูจน์สถานที่เกิดอุบัติเหตุแล้วว่าเราเป็นฝ่ายถูกต้องตามกฎหมาย จะมีค่าชดเชยให้อีกตั้งแต่ 200,000 - 300,000 บาทตามกรณีความคุ้มครองอีกทีหนึ่ง
พรบ.รถยนต์ กรณีเสียชีวิต ไม่มีคู่กรณี
กรณีที่เสียชีวิตแบบไม่มีคู่กรณี ทาง พรบ.รถยนต์ ก็ยังออกค่าชดเชยให้เช่นเดียวกัน ซึ่งถ้าเสียชีวิตจะได้รับความคุ้มครองสูงสุด 35,000 บาท/คน เช่นเดียวกันกับหัวข้อด้านบน
พรบ รถยนต์ ขาด 1 เดือน
หาก พรบ รถยนต์ ขาด ปรับเท่าไหร่ กรณี 1 เดือน ยังไม่มีค่าปรับสำหรับการต่อ พรบ.รถยนต์ แต่จะมีค่าปรับเมื่อเราไปดำเนินการต่อภาษี ซึ่งจะเสียค่าปรับประมาณ 1% ของค่าต่อภาษีรถยนต์ตามขนาดซีซีรถยนต์ต่อเดือน
พรบ รถยนต์ ขาด 3 เดือน
ถ้า พรบ.รถยนต์ ขาด 3 จะเป็นเหมือนกับการขาด 1 เดือน คือ ยังไม่มีค่าปรับเรื่องพรบ. แต่จะเป็นค่าปรับสำหรับการต่อภาษีรถยนต์ที่ 1% ต่อขนาดซีซีรถยนต์ต่อเดือนแทน
คำแนะนำเพิ่มเติม ถ้าพ.ร.บ. รถยนต์ขาดยังไม่เกิน 1 ปี เราจะไม่โดนค่าปรับเรื่องพรบ. แต่จะต้องจ่ายค่าปรับภาษีในอัตราส่วนที่ได้แจ้งไว้ในเนื้อหาด้านบน รวมถึงเรายังสามารถดำเนินการต่อได้ทันที โดยที่ยังไม่ต้องจัดเตรียมเอกสารใหม่ เว้นแต่ว่าจะขาดเกิน 2 ปี เราจะโดนค่าปรับสูงสุดถึง 10,000 บาท อีกทั้งยังเสี่ยงต่อการถูกเจ้าหน้าที่เรียกตรวจสอบและโดนค่าปรับอีก 400 - 1,000 บาท
ความสำคัญของ พ.ร.บ. รถยนต์ นั้นจะเน้นไปที่การช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลในหลาย ๆ กรณีเป็นหลัก ด้วยวงเงินตามที่กำหนด และถ้าต้องการเพิ่มเติมความอุ่นใจ ประกันภัยภาคบังคับ คือ อีกสิ่งที่ควรพิจารณาเพิ่มเติมเอาไว้สำหรับผู้ใช้งานรถยนต์ เพราะจะได้รับความคุ้มครองที่มากขึ้นกว่าเดิม ช่วยให้คุณได้รับการแบ่งเบาภาระได้เป็นอย่างดี ใครที่สนใจต่อ พรบ รถยนต์ ออนไลน์ รวมถึงเลือกซื้อประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ สามารถติดต่อหา แรบบิท แคร์ ได้ 24 ชั่วโมงที่เบอร์ 1438
รีวิวจากลูกค้า
คำถามและข้อสงสัยที่พบบ่อย
หากต้องการเคลม พ.ร.บ. รถยนต์ ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง?
กรณีเคลม พ.ร.บ. ให้เตรียมเอกสารดังนี้
1. สำเนาบัตรประชาชน
2. สำเนาทะเบียนบ้าน
3. สำเนาทะเบียนรถยนต์
4. สำเนาใบขับขี่
5. ใบแจ้งความ หรือใบบันทึกประจำวัน
6. สำเนากรมธรรม์ พ.ร.บ. รถยนต์
7. ใบเสร็จค่ารักษาพยาบาล (กรณีบาดเจ็บ)
8. ใบมรณบัตร (กรณีเสียชีวิต)
9. ใบรับรองแพทย์และหนังสือรับรองการเป็นผู้พิการ (กรณีทุพพลภาพ)
ซื้อ พ.ร.บ. รถยนต์ออนไลน์ที่ไหนได้บ้าง? ซื้อกับแรบบิท แคร์ ดีอย่างไร?
ปัจจุบัน บริษัทประกันภัยและตัวแทนต่างๆ ได้เพิ่มจุดอำนวยความสะดวกในการต่อพรบรถยนต์หลายหลายจุด ซึ่งแรบบิท แคร์ เองเราไม่ได้แค่มีประกันรถยนต์ภาคสมัครใจให้คุณเลือกเท่านั้น แต่เรายังมีบริการต่อ พ.ร.บ. รถยนต์ไว้อำนวยความสะดวกสบายให้กับคุณด้วย ซึ่งการซื้อหรือต่อ พ.ร.บ. กับเราจะมีข้อดีดังนี้
- ซื้อ พรบ รถยนต์ออนไลน์ง่ายๆ เพราะปัจจุบันนี้ พ.ร.บ. รถยนต์สามารถต่อแบบออนไลน์ได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องไปต่อที่ขนส่งเหมือนสมัยก่อน ซึ่งคุณสามารถซื้อหรือต่อ พ.ร.บ. ออนไลน์ผ่านเราแรบบิท แคร์ ได้เลย เพียงกรอกข้อมูลสั้น ๆ เพียงไม่นานก็ได้รับความคุ้มครองไปแบบง่าย ๆ
- สามารถซื้อ พ.ร.บ. รถยนต์ ควบคู่ไปกับประกันรถยนต์ภาคสมัครใจได้เลยพร้อมกัน เพราะเรามีระบบเปรียบเทียบราคาประกันรถยนต์อันยอดเยี่ยม ที่จะทำให้คุณเลือกประกันรถยนต์ภาคสมัครใจและซื้อ พ.ร.บ. รถยนต์ ไปได้เลยอย่างพร้อมเพียงกัน เรียกได้ว่าทำธุรกกรมครั้งเดียวแต่ได้ความคุ้มครองถึงสองต่อ
ที่สำคัญ ลูกค้าที่สนใจยังสามารถร่วมกิจกรรมแจกฟรี พ.ร.บ. เพื่อรับ พ.ร.บ. รถยนต์ฟรีจากแรบบิท แคร์ ได้อีกด้วย
หากไม่ต่อ พ.ร.บ. รถยนต์จะมีโทษอะไรบ้าง?
พรบ.รถยนต์ หรือประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ เป็นสิ่งจำเป็นที่รถยนต์ทุกคันต้องมี เพราะข้อบังคับทางกฎหมายระบุไว้ว่ารถทุกคันต้องทำ พรบ รถยนต์ ซึ่งถ้ารถยนต์ของคุณขาดต่อ พ.ร.บ. จะมีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท และจะไม่สามารถยื่นเรื่องต่อภาษีรถยนต์หรือต่อทะเบียนรถยนต์ได้ตามมา จะส่งผลให้ทะเบียนรถยนต์ของคุณถูกระงับการใช้งาน
นอกจากนี้สิ่งที่ร้ายแรงที่สุดของการขาดต่อพรบรถยนต์ คือคุณจะไม่ได้รับความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลหากเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ซึ่งต้องบอกเลยว่า พรบ.รถยนต์ นั้นให้ค่ารักษาพยาบาลกับคุณมากกว่าที่คิด ดังนั้นการเสียเงินต่อ พ.ร.บ. เพียงหลักร้อยต่อปี ยังไงก็คุ้มค่ากว่าแน่นอน
ต่อ พ.ร.บ. รถยนต์ กับต่อภาษีรถยนต์(ป้ายวงกลม) เหมือนกันหรือไม่?
เป็นสิ่งที่หลายคนมักเข้าใจผิดว่าการต่อภาษีรถยนต์หรือป้ายวงกลมนั้นคือการ ต่อ พรบ รถยนต์ ซึ่งแรบบิท แคร์ ขอชี้แจงว่าทั้งสองอย่างนี้ไม่มีเหมือนกัน เพราะการต่อ พ.ร.บ. รถยนต์นั้นคือ ประกันรถยนต์ภาคบังคับที่ทางกรมขนส่งได้กำหนดไว้ให้รถยนต์ทุกคันต้องต่อ เพราะจะได้มีค่ารักษาพยาบาลเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ส่วนการต่อภาษีรถยนต์จะเป็นการจ่ายเงินให้กับภาครัฐประจำปีเพื่อแสดงว่ามีการใช้งานรถยนต์ เมื่อจ่ายภาษีแล้วก็จะได้ป้ายวงกลมมาติดหน้ารถยนต์เพื่อบ่งบอกว่ารถยนต์คันนี้ได้มีการเสียภาษีประจำปีแล้ว(แม้ปัจจุบันจะมีการเปลี่ยนดีไซน์เป็นทรงสี่เหลี่ยมแล้วแต่หลายคนก็ยังเรียกติดปากว่าป้ายวงกลมอยู่)
ดังนั้นจึงขอสรุปว่าการต่อ พ.ร.บ. รถยนต์ กับการต่อภาษีนั้นไม่เหมือนกัน แต่รถยนต์ทุกคันต้องต่อเหมือนกันทั้งสองอย่าง หากไม่ต่อจะมีค่าปรับทั้งคู่ และหากไม่ต่อ พ.ร.บ. รถยนต์ ก็จะไม่สามารถยื่นต่อภาษีรถยนต์ได้เช่นกัน
ต่อ พ.ร.บ. รถยนต์ ล่วงหน้าต้องทำอย่างไร?
สำหรับการทำพ.ร.บ.รถยนต์นั้นจะมีอายุความคุ้มครองเป็นเวลา 1 ปี เมื่อใกล้ถึงวันหมดอายุพ.ร.บ. ผู้ขับขี่จะต้องเตรียมต่ออายุพ.ร.บ. โดยสามารถต่อล่วงหน้าได้ เพื่อไม่ให้เป็นการกระชั้นชิดจนเกิดความเสี่ยงมากเกินไป แต่ละช่วงเวลาก็จะมีข้อดี-ข้อเสียที่แตกต่างกัน ดังต่อไปนี้
- ต่อพ.ร.บ. ล่วงหน้า 1 วัน
ข้อดี - ได้รับความคุ้มครองต่อทันทีหลังจากชำระเงิน
ข้อเสีย - ไม่มีเวลาเลือก อาจทำให้ไม่ได้ความคุ้มครองตามที่ต้องการ หรือไม่ได้เลือกตามความเหมาะสม
- ต่อพ.ร.บ. ล่วงหน้า 1 เดือน
ข้อดี - มีเวลาในการเลือกบริษัทฯ และดูความคุ้มครองอื่น ๆ เพิ่มเติม
ข้อเสีย - เรื่องของเงื่อนไขการชำระเงิน บางบริษัทฯ เรียกเก็บเต็มจำนวนในรอบเดียว ไม่สามารถผ่อนจ่ายได้
- ต่อพ.ร.บ. ล่วงหน้า 6 เดือน
ข้อดี - อาจมีตัวแทนทั้งจากบริษัทฯ ทั้งเจ้าเก่าและใหม่ ติดต่อเข้ามาเสนอสิทธิพิเศษให้กับคุณ เพิ่มทางเลือกและช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้
ข้อเสีย - ต้องจ่ายเงินไปก่อนแต่ยังไม่ได้รับความคุ้มครอง เพราะระยะเวลาที่นานหลายเดือนนั่นเอ
แนะนำว่าควรต่อ พ.ร.บ. รถยนต์ภาคบังคับก่อนที่จะไปต่อประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ เพราะถ้าต่อประกันทั้ง 2 แบบพร้อมกันอาจต้องจ่ายค่าดำเนินการมากขึ้นกว่าเดิม
วิธีจองทะเบียนรถยนต์ออนไลน์ สำหรับรถยนต์ใหม่?
สำหรับผู้ที่เพิ่งซื้อรถยนต์ใหม่ เมื่อทำพ.ร.บ.รถยนต์เรียบร้อยแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไปไม่ได้เลยก็คือป้ายทะเบียนรถยนต์นั่นเอง เชื่อว่าหลายคนที่อยากจะมีตัวเลขบนป้ายทะเบียนเรียงกันแบบสวย ๆ แต่จะทำอย่างไรได้บ้าง แรบบิท แคร์ ขอแนะนำวิธีการจองทะเบียนรถยนต์ออนไลน์ ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
- เข้าไปที่เว็บไซต์ tabienrod.com
- หลังจากที่เข้ามาหน้าเว็บไซต์แล้ว ให้กดที่ “จองทะเบียนรถ”
- เมื่อดูตารางเลขทะเบียนรถแล้วให้เลื่อนลงมาเช็กข้างล่างว่ามี เลขใดที่เปิดให้จองอยู่บ้าง และเปิดวันไหน
- ต่อมาให้เข้าเมนูที่ชื่อว่า “จองเลขทะเบียน”
- เมื่อเข้ามาในหน้า จองเลขทะเบียน จะมีข้อกำหนดให้อ่านอีกครั้งว่าจะต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง แนะนำให้อ่านอย่างละเอียด
- กรอกเลขบัตรประจำตัวประชาชน หรือเลขหนังสือเดินทาง, วันที่จอง เลขที่จอง, ชื่อ-นามสกุล, ยี่ห้อรถยนต์, เลขตัวรถ และวัน-เวลาที่ให้ยื่นจดทะเบียน
เตรียมตัวก่อนการจองทะเบียนรถยนต์ออนไลน์ต้องทำอย่างไร?
นอกจาก พ.ร.บ. ออนไลน์แล้ว การจองทะเบียนรถยนต์ออนไลน์นั้น มีเงื่อนไขที่คุณควรทราบเช่นกัน เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาดำเนินการ ควรทำความเข้าใจเรื่องต่อไปนี้ด้วย
- กรณีรถใหม่ คุณต้องได้รับรถยนต์มาแล้ว จึงสามารถจองเลขทะเบียนได้ ส่วนรถยนต์ที่มีป้ายทะเบียนอยู่แล้ว สามารถจองได้เลย
- เปิดบริการจองเลข ตั้งแต่ 10.00-16.00 น. หากเข้าใช้งานก่อนเวลาจะไม่สามารถจองเลขได้
- คอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง/การจอง 1 ครั้ง
- ชื่อผู้จองต้องเป็นชื่อเจ้าของรถเท่านั้น
- ทำความเข้าใจหลักเกณฑ์การจองให้เข้าใจ
- ตรวจสอบ ข้อมูลส่วนตัวที่กรอกลงไปให้ดี ก่อนเลือกทำการจอง หากตรวจพบข้อมูลผิดในภายหลังจะไม่สามารถนำเลขไปจดทะเบียนได้
- หากกรอกข้อมูลไม่ครบตามหลักเกณฑ์ จะถือว่าเป็นโมฆะ
- เมื่อจองได้แล้ว จะสามารถจองเลขทะเบียนรถยนต์ได้ใหม่อีกครั้งหลังจาก 3 เดือน
ประกันรถยนต์ กับ พรบ. มีความต่างกันอย่างไร อันไหนสำคัญกว่ากัน ?
สำหรับรถยนต์หนึ่งคันที่เป็นสิ่งสำคัญของครอบครัว การทำหลักประกันทั้งในเรื่องของตัวบุคคลและตัวรถยนต์ หรือทรัพย์สินก็เป็นเรื่องที่ควรใส่ใจ แต่ก็ยังมีความสับสนในเรื่องของ ประกันรถยนต์ และ พรบ. ต่างกันอย่างไร เราอธิบายง่ายๆ ได้ดังนี้
- พรบ. เป็นกฎหมายบังคับที่รถยนต์ทุกคันต้องมี คุ้มครองเฉพาะความเสียหายต่อตัวบุคคล เช่น ค่ารักษาพยาบาลและค่าชดเชยรายได้
- ประกันรถยนต์เป็นการประกันภัยภาคสมัครใจ (มีหรือไม่มีก็ได้) แต่ประกันนี้จะเป็นส่วนเสริมที่ครอบคลุมความเสียหายทั้งต่อบุคคลและทรัพย์สิน รวมถึงการซ่อมรถยนต์ของผู้เอาประกันและคู่กรณี
ทำไมถึงต้องซื้อ พ.ร.บ. รถยนต์?
เจ้าของรถควรซื้อ พรบ รถยนต์ หรือ ต่อ พรบ รถยนต์เมื่อ พรบ รถยนต์ขาด เพื่อคุ้มครองตัวเอง คู่กรณี ผู้โดยสาร และบุคคลภายนอกที่ประสบอุบัติเหตุจากการใช้รถ ซึ่งให้ความคุ้มครองในรูปแบบเงินชดเชยและค่ารักษาพยาบาลตามที่กำหนด
เคลม พ.ร.บ. รถยนต์ ทำได้ที่ไหน?
ในการเคลม พรบ รถยนต์จะต้องเริ่มต้นจากการที่ผู้ประสบภัยหรือทายาทโดยชอบธรรมไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจก่อน จากนั้น ให้นำเอกสารหลักฐานต่างๆ ยื่นไปทางบริษัทประกันที่ซื้อพรบออนไลน์ หรือกับบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถเพื่อเบิกเคลมต่อไป
รถชนิดใดบ้างที่ต้องทำประกันรถยนต์ภาคบังคับหรือ พ.ร.บ. รถยนต์
รถทุกชนิดที่จดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก ไม่ว่าจะเป็นรถส่วนบุคคล รถโดยสาร รถบรรทุก รถราชการ รถบดถนน รถอีแต๋น รถพ่วง และรถที่ใช้พลังงานทางเลือกหรือพลังงานทดแทน ต้องทำประกันรถยนต์ภาคบังคับหรือ พรบ.รถยนต์ ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม มีรถบางชนิดที่ไม่จำเป็นต้องทำ พรบ.รถยนต์ ได้แก่ รถเฉพาะองค์พระมหากษัตริย์ พระราชทายาทหรือผู้สำเร็จราชการแทน รถของสำนักพระราชวังที่จดทะเบียนและมีเครื่องหมายตามพระราชวังกำหนด รถของกระทรวง ทบวง กรม ส่วนราชการ และรถทหาร และรถของหน่วยงานธุรการขององค์กรที่จัดขึ้นตามรัฐธรรมนูญ
พ.ร.บ. รถยนต์ ขาดได้ไม่เกินกี่วัน
พรบ.รถยนต์ ไม่สามารถขาดต่อได้แม้แต่ 1 วัน หากไม่ทำการต่อ พรบ รถยนต์ก่อนวันที่ขาดอายุ จะถือว่ามีโทษ และถือว่าผิดกฎหมาย อย่างไรก็ตาม เจ้าของรถสามารถต่อ พรบ ล่วงหน้าได้สูงสุด 3 เดือน หรือ 90 วัน
อยากซื้อ พ.ร.บ. ออนไลน์ ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง
- สำเนาบัตรประชาชน
- เล่มทะเบียนรถหรือสำเนา
- ใบตรวจสภาพรถจาก ตรอ. กรณีที่รถอายุครบ 7 ปีขึ้นไป
- ใบตรวจเช็คสภาพถังแก๊สกรณีที่เป็นรถติดแก๊ส
มี พ.ร.บ. รถยนต์แล้วควรทำประกันรถยนต์ด้วยมั้ย
การมี พ.ร.บ. (พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ) เป็นสิ่งที่บังคับตามกฎหมายในประเทศไทย ทุกคันต้องมี พ.ร.บ. เพื่อคุ้มครองผู้ประสบภัยที่เกิดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ซึ่งจะช่วยค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลและค่าสินไหมทดแทนตามที่กฎหมายกำหนด แต่ พ.ร.บ. มีข้อจำกัดในเรื่องของวงเงินคุ้มครองที่อาจไม่ครอบคลุมทั้งหมด ดังนั้น จึงควรทำประกันรถยนต์เพิ่มเติมเนื่องจากเหตุผล ดังนี้:
1. ความคุ้มครองที่ครอบคลุมมากขึ้น : ประกันรถยนต์แบบภาคสมัครใจจะมีความคุ้มครองที่มากกว่าพ.ร.บ. เช่น ค่าซ่อมรถของตนเองและคู่กรณี ค่าเสียหายจากการสูญหายหรือไฟไหม้ และความคุ้มครองเพิ่มเติมต่างๆ
2. ความสบายใจ : การมีประกันรถยนต์ช่วยให้คุณรู้สึกปลอดภัยมากขึ้นเมื่อเกิดอุบัติเหตุ เนื่องจากจะมีความช่วยเหลือจากบริษัทประกันภัยในการจัดการกับสถานการณ์
3. ความคุ้มครองทางการเงิน : ประกันรถยนต์สามารถช่วยลดภาระทางการเงินเมื่อเกิดอุบัติเหตุ โดยไม่ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายทั้งหมดเอง
ดังนั้น การทำประกันรถยนต์เพิ่มเติมควบคู่ไปกับ พ.ร.บ. เป็นสิ่งที่มีประโยชน์และคุ้มค่าในการปกป้องตัวเองและทรัพย์สินจากความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการขับขี่รถยนต์