Rabbit Care Logo
ใช้ใจแคร์ ดูแลครบ
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ในการเก็บข้อมูลเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการใช้งาน และเพื่อเก็บข้อมูลสถิติ ท่านสามารถศึกษารายละเอียด เพิ่มเติมได้ที่นโยบายคุกกี้
info

💙 แจก Starbuck Voucher มูลค่า 800 บาทฟรี! เพียงเปิดบัญชี Webull ผ่านช่องทางของ Rabbit Care สนใจ คลิก! 💙

user profile image
เขียนโดยTawan A.วันที่เผยแพร่: Apr 17, 2024

หัวเทียนรถยนต์ คืออะไร? ต้องเปลี่ยนเมื่อไหร่? พร้อมบอกราคา

อุปกรณ์และชิ้นส่วนในรถยนต์ล้วนแล้วแต่มีความสำคัญทั้งสิ้น หากอุปกรณ์ใดทำงานผิดปกติก็จะทำให้รถยนต์เกิดความเสียหายตามมาได้ ทำให้การขับขี่ไม่มีประสิทธิภาพตามมาด้วยอุบัติเหตุบนท้องถนนอันก่อให้เกิดความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สิน วันนี้น้องแคร์จะพาทุกคนไปรู้จักกับ “หัวเทียนรถยนต์” ว่าคืออะไร มีหน้าที่และความสำคัญต่อรถยนต์อย่างไร แล้วหากเสียหายมีวิธีเปลี่ยนหัวเทียนยังไงได้บ้าง ไปดูกันเลย!!

หัวเทียนรถยนต์ คืออะไร?

หัวเทียน (Spark Plug) เป็นอีกหนึ่งชิ้นส่วนของเครื่องยนต์ที่มีความสำคัญ เพราะเป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่สร้างประกายไฟ และเมื่อคุณเริ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ของรถ ตัวคอยล์จะทำหน้าที่จุดระเบิดและส่งกระแสไฟไปยังหัวเทียน ซึ่งประกายไฟเหล่านี้จะเป็นตัวจุดระเบิดในห้องเผาไหม้ โดยกลไกจะทำงานร่วมกับน้ำมันและอากาศเพื่อทำให้เกิดการเผาไหม้ เพื่อดันลูกสูบเคลื่อนที่ขึ้น-ลง มากไปกว่านั้นยังช่วยสร้างกำลังการขับเคลื่อนของรถยนต์ โดยเฉพาะรถที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน

หัวเทียนรถยนต์ อยู่ตรงไหน?

หัวเทียนรถยนต์อยู่ภายในห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์ มักจะตั้งอยู่บนฝาสูบเข้าของเครื่องยนต์หรือบนฝาสูบอัดแก็ส จำนวนหัวเทียนที่มีในเครื่องยนต์ขึ้นอยู่กับจำนวนสูงสุดของสูบในเครื่องยนต์ ซึ่งสามารถพบได้ที่ตำแหน่งที่แน่นอนตามรุ่นและโครงสร้างของรถยนต์ ซึ่งอาจอยู่ด้านบนของภายในเครื่องยนต์หรืออาจอยู่ด้านด้านข้างของสูบในเครื่องยนต์ หัวเทียนมีหุ้มด้านนอกที่ช่วยป้องกันความร้อนและช่วยให้ประกายไฟเกิดขึ้นในพื้นที่ที่เหมาะสมในห้องเผาไหม้

หัวเทียนรถยนต์ ทำหน้าที่อะไร?

หัวเทียนรถยนต์มีหน้าที่สำคัญในการเป็นตัวจุดระเบิดในระบบเครื่องยนต์ภายในรถยนต์ หน้าที่หลักของหัวเทียนคือสร้างประกายไฟภายในห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์ เมื่อได้รับสัญญาณจากคอยล์จุดระเบิด หัวเทียนจะสร้างกลึงประกายไฟระหว่างขั้วในตัวหัวเทียน ซึ่งจะทำให้เกิดการเผาไหม้ของผสมอากาศและเชื้อเพลิงภายในห้องเผาไหม้ ทำให้เกิดแรงดันของก๊าซภายในกระบอกสูบ ซึ่งเป็นกระบวนการสำคัญในการขับเคลื่อนรถยนต์ หัวเทียนรถยนต์จะต้องทำงานอย่างแม่นยำและมีความแข็งแรงเพื่อให้เกิดการจุดระเบิดที่ถูกต้องและมีประสิทธิภาพในการทำงานของเครื่องยนต์รถยนต์

หัวเทียนรถยนต์ มีกี่ประเภท

หัวเทียนรถยนต์มีประเภทหลักๆ สามประเภทคือ:

1. Conventional Spark Plug (หัวเทียนรถยนต์แบบปกติ)

เป็นหัวเทียนที่มีโครงสร้างแบบพื้นฐาน ประกอบด้วยส่วนของเล็กประกอบด้วยชิ้นส่วนเหล่านี้: ฮีทเซล (Heating Element) หรือที่เรียกว่าแร้งเพิ่มความร้อน เลกซ์ที่เชื่อมต่อกับแร้งเพิ่มความร้อน ชิ้นส่วนกากเพลา ที่มีหน้าที่ในการกาเพลาและลดการสูญเสียความร้อน เทอร์มิแนล (Terminal) หรือขั้วใช้ในการเชื่อมต่อกับสายพาวเวอร์ เป็นหัวเทียนที่ราคาไม่สูง เหมาะกับรถยนต์แทบทุกประเภท

2. Platinum Spark Plug (หัวเทียนรถยนต์แบบแพลตินัม)

เป็นหัวเทียนที่มีกาบเพลาทำจากวัสดุแพลตินัม ซึ่งมีคุณสมบัติที่ดีกว่าสำหรับการสร้างประกายไฟ ช่องระยะห่างของกาบเพลาสามารถออกแบบให้แคบลง ทำให้เกิดการเผาไหม้ที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เป็นหัวเทียนที่มีอายุการใช้งานสูง แต่มีราคาสูง

3. Iridium Spark Plug (หัวเทียนรถยนต์แบบไอริเดียม)

หัวเทียน iridium เป็นหัวเทียนที่ทำจากวัสดุไอริเดียมซึ่งมีคุณสมบัติทนทานและมีการส่งสัญญาณไฟที่ดีกว่าหัวเทียนอื่นๆ ช่องระยะห่างของกาบเพลาสามารถทำได้แคบมาก ทำให้การจุดระเบิดเกิดอย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพสูง เหมาะกับรถยนต์ที่มีแรงม้าสูง แม้อายุการใช้งานของหัวเทียนรถยนต์ชนิดนี้จะมีสูง แต่ราคาก็สูงเช่นเดียวกัน

นอกจากนี้ยังมีหัวเทียนรถยนต์ประเภทอื่นๆ เช่น Copper Spark Plug (หัวเทียนทองแดง) และ Multi-Electrode Spark Plug (หัวเทียนหลายสายตามจำนวนเทียน) ที่มีลักษณะและคุณสมบัติเฉพาะตัว

หัวเทียนรถยนต์ ราคา?

ราคาของหัวเทียนรถยนต์มีความหลากหลาย ขึ้นอยู่กับแต่ละยี่ห้อ เช่น

  • หัวเทียนยี่ห้อ NGK ราคามีตั้งแต่ 65-450. บาทต่อหัว
  • หัวเทียนยี่ห้อ DENSO ราคามีตั้งแต่ 390-490 บาทต่อหัว

อย่างไรก็ตามเมื่อต้องการเปลี่ยนหัวเทียนรถยนต์แนะนำให้นำรถไปเข้าศูนย์หรืออู่เพื่อเทียบรถกับหัวเทียน ว่ายี่ห้อไหน และแบบไหนที่เหมาะสมกับรถยนต์ของคุณ

หัวเทียนรถยนต์ อายุการใช้งาน

อายุการการใช้งานของหัวเทียนรถยนต์จะขึ้นอยู่กับประเภทของหัวเทียนและเงื่อนไขการใช้งาน โดยทั่วไปแล้วหัวเทียนมีอายุการใช้งานประมาณ 30,000 ถึง 50,000 กิโลเมตร อย่างไรก็ตาม อายุการใช้งานอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น เงื่อนไขการขับขี่ (เช่นการขับรถในที่มีการจราจรเสี่ยงมากขึ้นอาจทำให้หัวเทียนมีอายุการใช้งานสั้นลง) คุณภาพของหัวเทียน และประเภทของเชื้อเพลิงที่ใช้ในรถยนต์ ซึ่งระยะเวลาของการเปลี่ยนหัวเทียน น้องแคร์แนะนำอยู่ที่ประมาณ 1 ถึง 2 ปีหรือ 40,000 ถึง 60,000 กิโลเมตร แต่เพื่อให้แน่ใจว่าหัวเทียนทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ คุณควรตรวจสอบและเปลี่ยนหัวเทียนตามคำแนะนำที่ระบุในคู่มือการใช้งานของผู้ผลิตรถยนต์หรือศูนย์บริการรถยนต์ที่เชื่อถือได้

อย่างไรก็ตามหากเป็นหัวเทียนแบบแพลทินัม หรืออิริเดียม ควรเปลี่ยนทุก 100,000 กม. แต่หากเป็นรถยนต์ที่ใช้แก๊สทั้งแบบ LPG/CNG ควรเปลี่ยนทุก ๆ 10,000 กม.

วิธีเปลี่ยนหัวเทียน ทำได้อย่างไร?

การเปลี่ยนหัวเทียนรถยนต์มีขั้นตอนดังนี้:

  • 1. ก่อนที่จะเริ่มกระบวนการเปลี่ยนหัวเทียน ให้ดับเครื่องยนต์และถอดกุญแจจากตัวรถยนต์เพื่อความปลอดภัย
  • 2. หาตำแหน่งที่หัวเทียนอยู่ ซึ่งอาจอยู่บนฝาสูบหรือด้านข้างของสูบ
  • 3. ใช้เครื่องมือที่เหมาะสม เช่น แรงบีดหรือคีมเพื่อถอดสายพาวเวอร์จากหัวเทียน
  • 4. ถอดหัวเทียน โดยใช้ร้อยสายพาวเวอร์หรือคีมแบบพลิกเพื่อปลดหัวเทียนจากสวมตัวสูบ
  • 5. นำหัวเทียนใหม่ที่เหมาะสมสำหรับรถยนต์ของคุณมาวางลงไปในตำแหน่งที่เดิม
  • 6. เปิดเครื่องยนต์ ตรวจสอบว่าหัวเทียนทำงานได้ถูกต้องและประกายไฟอย่างเหมาะสม.

หากคุณไม่มั่นใจหรือไม่มีความเชี่ยวชาญ แนะนำให้นำรถยนต์ไปยังศูนย์บริการรถยนต์ที่น่าเชื่อถือเพื่อให้มืออาชีพดูแลและดำเนินการเปลี่ยนหัวเทียนให้ถูกต้องและปลอดภัย

หัวเทียนรถยนต์มีปัญหา เคลมประกันได้หรือไม่?

บริษัทประกันจะคุ้มครองในกรณีที่หัวเทียนรถยนต์ได้รับความเสียหายอันเนื่องมาจากอุบัติเหตุ อย่างไรก็ตามหากรถของคุณมีการใส่หัวเทียนที่ผิดประเภท หรือหัวเทียนเกิดการบอดอันเนื่องมาจากใช้งานเป็นระยะเวลานาน ในกรณีนี้ประกันจะไม่ให้ความคุ้มครอง เพื่อเป็นการเพิ่มประวัติดีให้กับรถยนต์ของคุณ น้่องแคร์แนะนำว่าให้คุณซื้อเปลี่ยนเองจะดีกว่า โดยราคาจะอยู่ที่ประมาณ 450 บาท/หัว

การทำประกันรถยนต์เป็นเป็นสิ่งที่ดีและควรทำ เพราะประกันจะสามารถคุ้มครองทั้งรถยนต์และตัวผู้ขับขี่ ให้คุณได้หมดปัญหากังวลใจระหว่างการเดินทาง โดยเฉพาะย่างยิ่ง หากคุณเป็นมือใหม่หัดขับ อย่าพลาดที่จะทำประกันรถยนต์ชั้น 1 กับ แรบบิท แคร์ หากเกิดปัญหาเกี่ยวกับรถยนต์สามารถเรียกใช้บริการฉุกเฉินได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะรถยก รถลาก มากไปกว่านั้นยังมีศูนย์ซ่อมรถครอบคลุมทั่วประเทศ หากสนใจโทรเลย 1438

ความคุ้มครองประกันรถยนต์

ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของเรา