เลือกซื้อประกันรถ
รถกระบะ (pick-up)
รถตู้ (van)
รถเก๋ง (sedan)
ซื้อประกันรถกับแรบบิท แคร์
การันตี
เจอราคาเจ้าไหนถูกกว่า
ผ่อน 0% 10 เดือน
ผ่อนสบาย ช่องทางไหนก็ได้ ไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
ประหยัดได้
ไม่มีเคลม ปีต่อไป ลด 50% ระบุชื่อผู้ขับขี่ลดเพิ่ม 20%
รับส่วนลดสูงสุด 2,000 บาท
มอบส่วนลดพิเศษให้คุณทันที
เปรียบเทียบได้เอง
รวมผลิตภัณฑ์ไว้ในที่เดียว จากกว่า 30 บริษัทชั้นนำ
ฟรี! บริการ
โดย Inter Partner Assistance
ศูนย์ซ่อมครอบคลุมทั่วไทย
อยากซ่อมรถแบบไหน ที่ไหน
มีเจ้าหน้าที่ แนะนำตลอดการซื้อ
คอยช่วยเหลือตลอดการซื้อกรมธรรม์
พันธมิตรประกันภัยชั้นนำ
คำถามและข้อสงสัยที่พบบ่อย
ประกันรถยนต์ตาม Segment คืออะไร?
ประกันรถยนต์ตาม Segment คือประกันรถยนต์แบบพิเศษ เช่น รถยนต์โดยสาร, รถตู้, รถยนต์นำเข้าต่าง ๆ และเน้นให้ความคุ้มครองรถยนต์ประเภท Segment เป็นหลัก ถึงแม้ความคุ้มครองหลัก ๆ จะใกล้เคียงกับประกันรถยนต์ และเป็นไปตามข้อกำหนดที่ คปภ. แบ่งความคุ้มครองเอาไว้ แต่จะเพิ่มเติมความคุ้มครองเฉพาะทางมากขึ้น
เช่น ศูนย์ซ่อมรถเฉพาะทาง สำหรับรถ b segment หรือรถ c segment มั่นใจได้ถึงการดูแลจากผู้เชี่ยวชาญ อะไหล่ที่ได้คุณภาพ และมาตราฐาน เป็นต้น
ประเภท หรือ Segment ของรถยนต์มีกี่แบบ?
รู้จักกับประกันรถยนต์ตาม Segment กันไปแล้ว มารู้จักรถยนต์ประเภทนี้กันให้มากขึ้นดีกว่า โดย Segment คือการแบ่งประเภทรถยนต์ของประเทศในยุโรป ซึ่งเแยกได้ต่อไปนี้
- รถ A Segment ขนาดเครื่องยนต์ 660 ซีซี - 1,000 ซีซี เป็นรถยนต์เน้นใช้งานในเมือง จึงมีขนาดที่เล็ก หาที่จอดได้ง่าย และมีความคล่องตัวสูง เป็นที่นิยมมากในญี่ปุ่น เช่น Toyota Aygo, Suzuki Hustler และ Honda N-Box
- รถ B Segment รถยนต์ขนาดเล็กเครื่องยนต์ 1,000 ซีซี - 1,500 ซีซี เป็นที่นิยมอย่างมากในกลุ่มคนวัยทำงาน มีพื้นที่ใช้เก็บสัมภาระขนาดพอเหมาะ ทั้งนี้ Eco Car ก็รวมอยู่ในหมวด รถ B Segment ด้วย เช่น Nissan March, Suzuki Swift และ Mazda 2
- รถ C Segment เป็นรถยนต์ที่ขยับไซส์ใหญ่ขึ้นจาก รถ B Segment เครื่องยนต์ 1,500 ซีซี - 2,200 ซีซี รถคันนี้เหมาะกับครอบครัว 3 - 4 คน เป็นที่นิยมในไทย เนื่องจากมีขนาดไม่ใหญ่ไปไม่เล็กไป ขับไปได้ทุกที่ เช่น Toyota Corolla Altis, Honda Civic และ Mazda 3
- รถ D Segment ถัดมาจาก รถ C Segment ก็คือ D Segment รถเอนกประสงค์ขนาดกลาง มีจุดเด่นที่ภายในตกแต่งหรูหรา ประสิทธิภาพเครื่องยนต์ที่เหนือชั้น เช่น Toyota Camry, Honda Accord และ Nissan Teana
- รถ E Segment เป็นรถยนต์ที่มีขนาดใหญ่ ภายในถูกออกแบบให้มีขนาดกว้าง หรูหรา ราคาแพง บางคันมาพร้อมระบบอำนวยความสะดวกสบายมากมาย เช่น BMW 5-Series, Audi A6 และ Mercedes-Benz E-Class
จะเห็นได้ว่ารถยนต์ในแต่ละประเภทล้วนเป็นรถยนต์นำเข้า ทำให้การซื้อประกันรถยนต์ตาม Segment โดยเฉพาะจะให้ความคุ้มครองที่คุ้มครอง และครอบคลุมมากกว่านั่นเอง
SUV, CUV, MPV Segment เหล่านี้ต่างกันอย่างไร?
ประกันรถยนต์ Segment เป็นประกันรถยนต์รูปแบบพิเศษ ที่นอกเหนือจากรถยนต์แบบทั่วไป (รถยนต์, รถกระบะ) เช่น รถตู้, รถยนต์แบรนด์นำเข้า หรือรถยนต์รูปแบบอื่น ๆ ที่มีลักษณะการใช้งานแบบเฉพาะทาง โดยจะแบ่งเป็น Segment ต่าง ๆ ตามคุณสมบัติและวิธีการใช้งานของรถยนต์เอง นอกจาก Segment A - E ที่เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปแล้ว ก็ยังมีชื่อเรียกเพิ่มเติมเพื่อให้เข้าใจลักษณะของรถยนต์มากขึ้นด้วย โดยจะมีดังต่อไปนี้
- Sport Utility Vehicle (SUV) - รถยนต์ทรงสปอร์ตยกตัวสูง เหมาะกับการใช้งานหลากหลายรูปแบบ ห้องโดยสารกว้างขวาง บรรจุสัมภาระได้เยอะ
- Crossover Utility Vehicle (CUV) - พัฒนามาจาก SUV โดยจะมีการขับขี่ที่นุ่มนวลกว่า ดีไซน์ปราดเปรียวคล้ายรถเก๋ง ใช้พื้นที่น้อยกว่า
- Multi Purpose Vehicle (MPV) - เป็นที่รู้จักกันในชื่อของรถยนต์เอนกประสงค์ คือมีพื้นที่ห้องโดยสารกว้าง สามารถบรรจุผู้โดยสารได้ 7-10 คน พร้อมพื้นที่สำหรับใส่สัมภาระ
- Pick-up Passenger Vehicle (PPV) - มีลักษณะคล้ายกับ SUV แต่จะมีพื้นฐานโครงสร้างมาจากรถกระบะ เป็นรูปแบบของรถยนต์กึ่งนั่งกึ่งบรรทุกสัมภาระ
ทำไมประกันรถยนต์ตามประเภท Segment ถึงน่าซื้อ?
เนื่องจากประกันรถยนต์ตามประเภท Segment ให้ความใกล้เคียงกับประกันรถยนต์อย่างมาก หลายคนอาจยังลังเล หรือไม่มั่นใจที่จะซื้อ ซึ่งจุดเด่นที่น่าสนใจและน่าซื้อ มีดังนี้
- ประกันรถยนต์ตามประเภท Segment ออกแบบมาเพื่อรถยนต์นำเข้าต่าง ๆ คุณจึงมั่นใจได้ถึงบริการซ่อมแซมจากผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง
- เบี้ยประกัน และโปรโมชั่นที่เหมาะสมกับรถยนต์ Segment
- ได้รับความคุ้มครองเพิ่มเติม นอกเหนือจากความคุ้มครองหลัก เช่น บางบริษัทประกันภัย ให้ความคุ้มครองรถสูญหาย หรือถูกโจรกรรม ในวงเงินที่สูง และครอบคลุมมากกว่า
- ได้ประกันรถยนต์ที่เหมาะกับขนาดเครื่องยนต์
ประกันสำหรับรถตู้ต่างจากประกันรถยนต์อย่างไร?
สำหรับผู้ที่ใช้รถตู้อาจกำลังสงสัยว่า ประกันสำหรับรถตู้นั้นแตกต่างกับประกันภัยรถยนต์ทั่วไปอย่างไร แล้วทำไมจึงควรซื้อประกันรถตู้ อันดับแรกต้องทำความเข้าใจว่าการทำประกันรถยนต์ทั้ง 2 ชนิดนั้นให้ความคุ้มครองค่อนข้างใกล้เคียงกัน เนื่องจากการทำประกันรถยนต์คือการที่คุณโอนถ่ายความเสี่ยงที่เกิดจากราคาค่าใช้จ่าย อันเกิดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ เพื่อที่บริษัทฯ จะเป็นผู้รับผิดชอบความเสี่ยงนั้นแทน แต่ทางบริษัทฯ จะไม่มีการเสนอประกันภัยชั้น 1 ให้แก่รถตู้ เนื่องจากรถตู้เป็นรถยนต์ประเภทที่มีราคาแพง ค่าใช้จ่ายเมื่อเกิดความเสียหายจึงค่อนข้างสูง
ค่าเสียหายส่วนแรก คืออะไร?
ค่าเสียหายส่วนแรก คือ เงินที่ผู้เอาประกันต้องยอมจ่ายหรือสมัครใจจ่ายเองส่วนหนึ่ง ในกรณีเกิดอุบัติเหตุแล้วเป็นฝ่ายผิด หรือไม่สามารถระบุสาเหตุในการเกิดอุบัติเหตุที่ชัดเจน แบ่งเป็น 2 รูปแบบได้แก่
- ค่าเอ็กเซส (Excess) คือ ค่าเสียหายส่วนแรกที่ผู้เอาประกันต้องจ่าย หากเกิดเหตุที่ไม่สามารถหาสาเหตุ หรือ ระบุคู่กรณีชัดเจนได้
- ค่าดีดักทิเบิ้ล (Deductible) คือ ค่าเสียหายส่วนแรก ที่ผู้เอาประกันยอมจ่ายเองโดยสมัครใจ ตามเงื่อนไขที่ได้ตกลงไว้กับประกันรถยนต์ เมื่อเกิดอุบัติเหตุที่ตนเป็นฝ่ายผิดหรือระบุคู่กรณีไม่ได้