Rabbit Care Logo
ใช้ใจแคร์ ดูแลครบ
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ในการเก็บข้อมูลเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการใช้งาน และเพื่อเก็บข้อมูลสถิติ ท่านสามารถศึกษารายละเอียด เพิ่มเติมได้ที่นโยบายคุกกี้
user profile image
เขียนโดยTawan A.วันที่เผยแพร่: Feb 08, 2023

รถยนต์ Audi A1

ประวัติและวิวัฒนาการของรถยนต์ Audi A1

Audi เปิดตัวน้องเล็กสุด A1 เจนเนอเรชั่นเมื่อปี 2010 โดยทำแค่ตัวถังแบบแฮชแบคเท่านั้นโดยมีทั้งแบบ 3 ประตูและ 5 ประตู หลังจากเปิดตัวไปก็ได้รับการตอบรับที่ดีแต่ตอนนั้นในไทยยังไม่มีศูนย์อย่างเป็นทางการแต่ก็มีคนนำเข้ามาขับในไทยอยู่บ้าง หลังจากนั้นผ่านมา 8ปี อาวดี้ได้เปิดตัว A1 เจนเนอเรชั่นที่ 2 ซึ่งค่อนข้างฉีกจากหน้าตาที่เน้นน่ารักไปเป็นความสปอร์ตดุดันแทนแต่รุ่นปัจจุบันยังไม่มีตัวถังแบบ 3 ประตู สำหรับประเทศไทยหลังจากที่อาวดี้มีตัวแทนอย่างเป็นทางการในไทยแล้ว อาวดี้ประเทศไทยจึงไม่รอช้าในการนำเข้าเจ้า A1 มาเปิดตัวในไทยในช่วงเดือนตุลาคมปีเดียวกัน โดยเป็นการนำเข้าทั้งคัน

ราคาของรถยนต์รุ่น Audi A1

อย่างที่ท่านได้ทราบว่า Audi A1 ได้มีการเปิดตัวเมื่อปี 2010 และได้มีรุ่นย่อย คือ Audi A1 Sportback 35 TFSI S-Line เรามาดูพร้อมเปรียบเทียบว่ารุ่นเดิมกับตัวใหม่ที่พึ่งเปิดตัว 2020 จะมีข้อแตกต่างอะไรที่น่าสนใจกันบ้างด้วยราคาต่อไปนี้

 

รุ่น

ราคา

Audi A1 2010

ราคา 1,800,000 บาท

Audi A1 Sportback 35 TFSI S-Line

ราคา 2,149,000 บาท

รถยนต์ที่คุณอาจสนใจ

honda civic fk

Honda Civic FK

เริ่มต้น: 1,229,000 บาท

รถยนต์ nissan leaf.png

Nissan Leaf

เริ่มต้น: 1,990,000 บาท

Audi A3

Audi A3

เริ่มต้น: 2,449,000 บาท

รถยนต์ MINI Cooper SE

MINI Cooper SE

เริ่มต้น: 2,459,000 บาท

สเปกและสมรรถนะเครื่องยนต์ Audi A1

Audi A1 มาพร้อมขุมพลังขนาดกำลังพอเหมาะด้วยเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 4 สูบแถวเรียง ความจุ 1.5 ลิตร ที่สามารถให้แรงม้าได้สูงสุด 150 แรงม้า ที่ 5000 - 6000 รอบ/นาที ให้แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ที่ 1500 - 3500 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ 7 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหน้า สามารถทำอัตราเร่งจาก 0 - 100 กม./ชม. ได้ภายใน 7.7 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 222 กม./ชม. สำหรับอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยทำได้ที่ 16.9 กม./ลิตร และอัตราการปล่อยไอเสียเฉลี่ยอยู่ที่ 134 กรัม/กม.

 

มิติตัวรถ

 

Audi A1 Sportback 35 TFSI S-Line

ขนาด

ความยาว (มม.)

4,029

ความกว้าง (มม.)

1,740

ความสูง (มม.)

1,433

ฐานล้อ (มม.) 

1,563

ปริมาณการบรรจุของ (ลิตร)

335-1090

 

ระบบความปลอดภัยเชิงปกป้อง (Passive safety)

 

  1. ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค (ABS)
  2. ระบบกระจายแรงเบรก (EBD)
  3. ระบบเสริมแรงเบรก (EBA)
  4. ระบบควบคุมการทรงตัว (ESC)
  5. ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (TCS)
  6. ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (Hill Start Assist)
  7. ถุงลมคู่หน้า / ด้านข้าง / ม่านถุงลมนิรภัย อย่างละ 2 ตำแหน่ง

 

ระบบความปลอดภัยเชิงป้องกัน (Active safety)

 

  1. เซนเซอร์กะระยะช่วยจอดด้านหน้า และ ด้านหลัง
  2. กล้องมองภาพด้านหลังขณะถอยจอด

ดีไซน์ ฟังก์ชันรถยนต์ Audi A1

ความสะดวกสบายในการโดยสาร ห้องโดยสารก็ให้ความสบายในระดับรถซิตี้คาร์ทั่วไปคือสบายในระดับหนึ่ง ช่วงล่างไม่กระด้างก็เลยพอมีความนุ่มนวลมาบ้าง แต่ในบางจุดก็ไม่ได้บุนุ่มมาทำให้แขนอาจจะกระแทกส่วนที่เป็นพลาสติกบ้าง ระบบปรับอากาศทำงานได้ดี

การออกแบบภายนอก Audi A1

Audi A1 มาพร้อมดีไซน์สปอร์ตโฉบเฉี่ยวตลอดทั้งคัน ด้านหน้ามาพร้อมไฟหน้าแบบ LED ไฟเดย์ไลท์เป็น LED ที่ออกแบบให้เป็นเส้นประแบบแดชไลน์ให้ความรู้สึกซิ่งซึ่งเป็นเอกลักษณ์การออกแบบไฟของอาวดี้ยุคปัจจุบัน กระจังหน้าทรงหกเหลี่ยมขนาดใหญ่ตรงกลางรมดำพร้อมโลโก้อาวดี้ตรงกลาง ด้านใต้เป็นชายสเกิร์ตสีดำพร้อมครีบด้านข้างซ้ายขวาสีดำเสริมลุคความดุ บนกระจังมีการออกแบบให้เหมือนฝากระโปรงลอยนิดๆแต่มีเขี้ยวรับฝากระโปรงไว้ดูสปอร์ต ด้านหน้าโดยรวมหล่อ ด้านข้างจะเห็นหลังคาสีดำตัดกับตัวถังชัดเจน กระจกข้างสีดำ มือจับประตูเป็นแบบคลาสสิคขนาดใหญ่เน้นใช้งานง่าย ล้ออัลลอยลายดาวกระจายสวยงามมากับขนาด 18 นิ้ว ซึ่งดูพอดีกับซุ้มล้อ ด้านท้ายมากับไฟท้ายขนาดใหญ่ที่ด้านริมแต่ละฝั่งเหมือนออกแบบให้เป็นลูกศรชี้ออกไป ซึ่งเวลาเปิดไฟเลี้ยวอาจจะดูเหมือนรถทำถนนบ้างนิดหน่อยแต่บอกเลยว่าเด่นแน่นอน มีช่องรังผึ้งดำซ้ายขวาพร้อมไฟทับทิมสะท้อนแสง สเกิร์ตล่างเป็นดิฟฟิวเซอร์เล็กๆสีดำเสริมลุคความสปอร์ต โดยรวมคือเน้นเส้นสายความสปอร์ตตลอดทั้งคัน สำหรับสีมีให้เลือก 6 สี ตั้งแต่สีเหลืองโดดเด่นยันสีขาวดำธรรมดา

การออกแบบภายใน Audi A1

เมื่อก้าวเข้าไปในห้องโดยสารจะพบว่าการออกแบบคอนโซลหน้าจะเน้นการเอียงเข้าหาคนขับเป็นหลัก มีการบุนุ่มมาให้ในบางจุด แต่ส่วนใหญ่ก็จะเห็นพลาสติกในหลายๆจุด พวงมาลัยแบบ 3ก้าน ท้ายตัดให้อารมณ์สปอร์ต มาตรวัดความเร็วแบบ Virtual Cockpit ขนาด 10.25 นิ้ว สวยงามโดยมีช่องแอร์ขนาบซ้ายขวาไปกับมาตรวัด โดยด้านซ้ายถือว่าเป็นช่องแอร์สำหรับเป่าตรงกลางไปเลยเพราะไม่มีช่องแอร์ตรงกลางคอนโซลจริงๆ หน้าจอตรงกลางเป็นแบบสัมผัสขนาด 8.8 นิ้ว ใต้จอกลางเป็นที่อยู่ของตัวปรับแอร์แบบ 2 โซน สำหรับผู้โดยสารด้านหน้าจะมีช่องแอร์ยาวพาดไปถึงด้านซ้าย เรียกได้ว่าเย็นจับใจ บริเวณคอนโซลเกียร์โล่งๆ คันเกียร์ขนาดใหญ่ เบรกมือแบบดึงขนาดใหญ่เหมือนทำเอามาให้ดริฟต์ ด้านหน้าโดยรวมคือการออกแบบเน้นผู้ขับขี่เป็นหลัก ด้านหลังเป็นที่นั่งแบบ 3 ที่นั่ง ไม่มีช่องแอร์หลัง เรียกได้ว่ามีไว้นั่งโดยสารไปเป็นเพื่อนคนขับอย่างเดียว ไม่มีที่พักแขนตรงกลาง

เทคโนโลยีและสิ่งอำนวยความสะดวก

Audi A1 มาพร้อมระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ กระจกมองข้างไฟฟ้าพร้อมระบบไล่ฝ้า กระจกมองหลังแบบปรับแสงอัตโนมัติ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 2 โซน ระบบกุญแจอัจฉริยะเข้าออกรถแบบไม่ต้องหยิบกุญแจ (Comfort Access) มีไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสารแต่เป็นแสงสีขาวสีเดียว ระบบความบันเทิงรองรับ Apple CarPlay และ Android Auto สำหรับเครื่องยนต์มีระบบการตัดการทำงานของเครื่องยนต์เมื่อรถติดอยู่นิ่งด้วย

ข้อดี/ข้อเสีย ของรถยนต์ Audi A1

ข้อดี

ข้อเสีย

การดีไซน์เท่ สปอร์ต ลงตัว เป็นรถแฮทช์แบคไซส์เล็กที่สวยที่สุดคันหนึ่งในตลาด ไฟหน้าไฟท้ายโดดเด่นทั้งในเวลากลางวันและเวลากลางคืนไม่มีอุปกรณ์เชิงแอคทีฟเซฟตี้เลย ยกเว้นแค่กล้องมองหลังและเซนเซอร์กะระยะเท่านั้น ทำให้เวลาขับในเมืองต้องใช้ความระมัดระวังพอสมควร เช่น ไม่มีเตือนมุมอับสายตา
ช่วงล่างให้ความนิ่งแม้จะขับที่ความเร็วสูงและยังคงความนุ่มนวลอยู่ การขับขี่ให้ความมั่นใจ การเร่งแซงไม่ต้องลุ้น เป็นรถที่เร็วมากคันหนึ่งในกลุ่มนี้เกียร์คลัตช์คู่โดยทางทฤษฎีแล้วควรจะทำงานได้ไว แต่ใน A1 มันจะค่อนข้างหน่วงนิดหน่อย ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายเพราะเครื่องยนต์ทำงานได้ดีมากแล้ว
เบาะสามารถพับได้เพิ่มพื้นที่ขนสัมภาระเวลามีของที่ต้องการขนเยอะ มียางอะไหล่มาให้ด้วยเพิ่มความอุ่นใจในการเดินทางไกลราคาเปิดตัวค่อนข้างสูงถ้าเทียบกับเพื่อนร่วมชาติ แม้ออดี้จะมีการปรับราคาลงเป็นบางช่วงมาอยู่ที่ 1.89 ล้าน แต่อุปกรณ์น้อยเกินไปอยู่ดี เช่น เบาะปรับมือเป็นต้น

ความคุ้มครองประกันภัยรถยนต์แต่ละประเภท

พันธมิตรประกันภัยรถยนต์

logo วิริยะประกันภัย
logo กรุงเทพประกันภัย
logo ธนชาติ
logo roojai
logo โตเกียวมารีนประกันภัย
logo LMG

คำถามและข้อสงสัยที่พบบ่อย

รถยนต์รุ่น Audi A1 หากต้องการทำประกันต้องเป็นแบบไหน?

สำหรับการเลือกต่อประกันภัยรถยนต์ หลายท่านกังวลอยู่ไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเบี้ย และผลประโยชน์ที่จะได้รับนั้นจะอุ่นใจคุ้มครองครอบคลุมรถยนต์ของเราหรือไม่ สำหรับเจ้าของรถ Audi A1 อาจมีคำถามว่าควรทำประกันชั้นไหนดี  วันนี้ แรบบิท แคร์ มีคำแนะนำมากมายให้เลือกตัดสินใจ ซึ่งมีให้เลือกถึง 5 ประเภทด้วยกัน คือ ประเภท 1, 2, 2+, 3 และ 3+ โดยแต่ละประเภท มีความคุ้มครองที่แตกต่างกันไปด้วย เป็นอย่างไรไปดูกัน ความแตกต่างสำหรับความคุ้มครองประกันรถยนต์รุ่น Audi A1 แต่ละชั้น ดังนี้

 

  1. ประกันรถยนต์ชั้น 1 : ให้ความคุ้มครองทุกกรณี
  2. ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+ : ให้ความคุ้มครองคล้ายกับประเภท 1 แต่จะไม่คุ้มครองยานพาหนะของผู้เอาประกันหากไม่มีคู่กรณี เช่น ขับรถชนกำแพงลานจอดรถ
  3. ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2 : ให้ความคุ้มครองชีวิตร่างกายและทรัพย์สินของคู่กรณี รวมถึงคุ้มครองความสูญหายและเหตุไฟไหม้รถเบนซ์ของผู้เอาประกันภัย
  4. ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3+ : ให้ความคุ้มครองชีวิตร่างกายและทรัพย์สินคู่กรณี รวมถึงการชนยานพาหนะทางบกของรถผู้เอาประกันภัย แต่ไม่คุ้มครองความเสียหายจากไฟไหม้และโจรกรรม
  5. ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3 : ให้ความคุ้มครองเฉพาะชีวิตร่างกายและทรัพย์สินของคู่กรณี

 

ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 เป็นประกันภัยภาคสมัครใจที่ได้รับความนิยมที่สุด เพราะเป็นประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองความเสียหายต่อยานพาหนะทั้งฝั่งผู้เอาประกันและฝั่งคู่กรณี ความบาดเจ็บทางร่างกาย ความเสียหายจากไฟไหม้ โจรกรรมหรือภัยธรรมชาติ นอกจากนี้ยังคุ้มครองไปถึงความเสียหายต่อกระจกรถและค่าใช้จ่ายในการลากจูงอีกด้วยหากท่านใช้รถยนต์รุ่นAudi A1 เราแนะนำให้ใช้ประกันชั้น 1 เพื่อความคุ้มครองที่ครอบคลุมกับรถของท่าน

ซื้อประกันรถยนต์เพื่อคุ้มครองรถยนต์รุ่น Audi A1 ผ่านแรบบิทแคร์ ดีอย่างไร?

  1. ได้ราคาเริ่มต้นของแผนประกันรถยนต์จากพันธมิตรประกันภัยชั้นนำกว่า 30 บริษัท เช่น วิริยะประกันภัย โตเกียวมารีนประกันภัย กรุงเทพประกันภัย และอื่น ๆ
  2. สามารถผ่อน 0% ได้นานสูงสุด 10 เดือน ผ่อนสบายๆ ได้ทั้งบัตรเครดิต และเงินสด
  3. ประหยัดได้สูงสุดถึง 70% หากขับดีไม่มีเคลม ปีต่อไปลด 50% หรือระบุชื่อผู้ขับลดเพิ่ม 20%
  4. การันตี ราคาคุ้มค่า เจอราคาถูกกว่า เราคืนส่วนต่างให้ ภายใต้เงื่อนไขของบริษัทเดียวกัน
  5. มีรถใช้ทดแทนระหว่างซ่อมบริการเช่ารถสำรอง 3 วัน เมื่อรถเข้าศูนย์จากอุบัติเหตุ
  6. มีชดเชยค่าเดินทางกลับบ้าน ชดเชยค่าเดินทางสูงสุด 500 บาท (2 ครั้ง/ปี) ระหว่างรถยนต์เข้าอู่ซ่อม
  7. Roadside Assistance บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนตลอด 24 ชม.
  8. บริการช่วยเหลือแจ้งเคลมง่าย มีเจ้าหน้าที่คอยช่วยเหลือผ่านระบบ LINE OA
  9. ศูนย์ซ่อมครอบคลุมทั่วไทย อยากซ่อมรถแบบไหน ที่ไหน คุณเลือกได้ มีศูนย์ให้เลือกทั่วไทย

ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของเรา