เลือกประกันรถกระบะอย่างไรให้เหมาะกับเรา





รถกระบะเป็นยานพาหนะที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย ไม่ว่าจะใช้เพื่อการขนส่งส่วนตัว ขนของ หรือเพื่อการพาณิชย์ ดังนั้น หากเรามีประกันรถกระบะที่เหมาะสมโดยเฉพาะ ก็จะยิ่งช่วยคุ้มครองความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากอุบัติเหตุหรือเหตุการณ์ไม่คาดฝันได้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
และวันนี้ แรบบิท แคร์ จะพาคุณมาเจาะลึกประเภทของประกันรถกระบะ เพื่อให้คุณตัดสินใจเลือกประกันที่ตอบโจทย์ความต้องการและงบประมาณของคุณได้ดีมากยิ่งขึ้น จะต้องเลือกประกันรถกระบะ 4 ประตู อย่างไร ให้ได้ราคาที่เหมาะกับตน, ประกันรถกระบะ มีหลังคา คุ้มครองไหม? หรือประกันรถกระบะ เชิงพาณิชย์แตกต่างจากประกันปกติอย่างไร ที่นี้มีคำตอบ!
ประเภทของประกันรถกระบะมีอะไรบ้าง?
ประกันรถกระบะมีให้เลือกหลากหลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทก็มีความคุ้มครองและเบี้ยประกันที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้
- ประกันรถกระบะ ชั้น1
นี่คือประกันที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุมมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นความเสียหายต่อรถยนต์ของคุณเอง คู่กรณี การบาดเจ็บของบุคคลภายนอก หรือแม้แต่ความเสียหายจากภัยธรรมชาติ เช่น ไฟไหม้ น้ำท่วม หรือรถหาย เหมาะสำหรับรถกระบะป้ายแดง หรือรถกระบะที่ใช้งานหนักและต้องการความคุ้มครองสูงสุด
- ประกันรถกระบะ 2+
ให้ความคุ้มครองใกล้เคียงกับประกันชั้น 1 แต่เบี้ยประกันจะถูกกว่า โดยจะคุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์ของคุณในกรณีที่ที่มีคู่กรณีเท่านั้น รวมถึงความเสียหายต่อคู่กรณี การบาดเจ็บของบุคคลภายนอก และความเสียหายจากไฟไหม้ รถหาย เหมาะสำหรับรถกระบะที่ใช้งานเป็นประจำ และต้องการความคุ้มครองที่ครอบคลุมในราคาที่ย่อมเยา หรือเหมาะกับรถกระบะที่มีอายุการใช้งาน 10 ปีขึ้นไป
- ประกันรถกระบะ 3+
ให้ความคุ้มครองคล้ายกับประกัน 2+ แต่จะคุ้มครองเฉพาะความเสียหายต่อรถยนต์ของคุณในกรณีที่เป็นฝ่ายถูกและชนกับยานพาหนะทางบกเท่านั้น ไม่คุ้มครองกรณีรถหายหรือไฟไหม้ เหมาะสำหรับรถกระบะที่ใช้งานไม่มากนัก และต้องการประหยัดค่าเบี้ยประกัน
- ประกันรถกระบะ ชั้น 3
โดยราคาประกันชั้น 3 รถกระบะ 4 ประตู จะสบายกระเป๋ามากกว่าประกันชั้นอื่น ๆ เนื่องจากเป็นประกันภาคสมัครใจที่ให้ความคุ้มครองพื้นฐานที่สุดใกล้เคียงกับ พ.ร.บ. แต่จะให้วงเงินคุ้มครองที่มากกว่า โดยจะคุ้มครองเฉพาะความเสียหายต่อคู่กรณีและบุคคลภายนอกเท่านั้น ไม่คุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์ของคุณเอง เหมาะสำหรับรถกระบะที่ใช้งานน้อย มีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุต่ำนั่นเอง
การเลือกประกันรถกระบะที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม โดยเราควรพิจารณาจากลักษณะการใช้งาน ความเสี่ยงที่ยอมรับได้ และงบประมาณที่คุณมี เพื่อให้ได้ประกันที่คุ้มครองอย่างครอบคลุมและคุ้มค่าที่สุด อย่าลังเลที่จะเปรียบเทียบข้อเสนอจากหลาย ๆ บริษัทประกันภัยเพื่อให้ได้เบี้ยประกันที่ดีที่สุดและเงื่อนไขที่ตรงใจคุณ อย่าง แรบบิท แคร์ ที่พร้อมช่วยเปรียบเทียบ ค้นหาประกันรถกระบะที่โดนใจให้คุณได้!
มีปัจจัยอะไรบ้าง ที่ส่งผลต่อราคาประกันรถกระบะ
ราคาเบี้ยประกันรถกระบะ จะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ดังนี้
- ประเภทของประกันภัย เช่น หากคุณเลือกทำประกันชั้น 1 ที่มีทุนประกันสูง ก็จะส่งผลต่อเบี้ยประกันรถกระบะไปด้วย เช่น ราคาประกันชั้น3 รถกระบะ วิริยะ จะเริ่มต้นที่ประมาณ 3,500 บาท/ปี แต่หากเป็นประกันชั้น 1 จะเริ่มต้นที่ประมาณ 16,500 บาท/ปี
- รุ่นรถและปีที่ผลิตเองก็ส่งผลต่อราคาประกันรถกระบะ เพราะถ้าหากรถกระบะรุ่นใหม่และมีราคาสูงจะมีเบี้ยประกันที่แพงกว่า
- หากเป็นประกันรถกระบะเชิงพาณิชย์ หรือรถที่ใช้ขนส่งสินค้า อาจมีเบี้ยประกันที่สูงกว่ารถที่ใช้ส่วนตัว
- หากคุณมีประวัติการขับขี่ที่ดี ไม่เคยเคลมประกัน จะได้รับส่วนลดเบี้ยประกัน
- หากมีการติดตั้งอุปกรณ์เสริม เช่น ประกันรถกระบะ มีหลังคา อาจส่งผลต่อเบี้ยประกัน และแน่นอนว่าผู้ทำประกันจำเป็นจะต้องแจ้งบริษัทประกันเสมอ
- แต่ละบริษัทมีนโยบายและโปรโมชั่นที่แตกต่างกัน ด้วยสาเหตุนี้เองที่ทำให้ส่งผลต่อราคาประกันรถกระบะไปด้วย

แล้วแบบนี้ ประกันรถกระบะ 4 ประตู และ ประกันรถกระบะเชิงพาณิชย์ เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร?
โดยพื้นฐานแล้ว ประกันรถส่วนบุคคล กับ ประกันรถเชิงพาณิชย์ มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยหลัก ๆ แล้วความแตกต่างจะอยู่ที่ลักษณะการใช้งานรถยนต์ ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง และราคาเบี้ยประกัน รวมถึงเงื่อนไขความคุ้มครองบางอย่างด้วย
และสำหรับประกันรถกระบะ 4 ประตู หรือ ประกันรถกระบะ 4 ประตู ราคามักจะถูกจัดอยู่ในกลุ่มรถยนต์ส่วนบุคคลที่มีความเสี่ยงน้อยกว่ารถกระบะเชิงพาณิชย์ ทำให้เบี้ยประกันอาจถูกกว่า
ในขณะที่ประกันรถกระบะ เชิงพาณิชย์ ตัวกรมธรรม์ถูกออกแบบมาให้คุ้มครองความเสี่ยงที่สูงขึ้นของการใช้งานในเชิงพาณิชย์ โดยจะมีการพิจารณาจากน้ำหนักบรรทุก เส้นทางการวิ่ง และประเภทของสินค้าที่ขนส่ง เพื่อกำหนดเบี้ยประกันที่เหมาะสม และบางประเภทอาจมีเงื่อนไขเพิ่มเติม เช่น การคุ้มครองความเสียหายจากการหยุดชะงักของธุรกิจ, การคุ้มครองอุปกรณ์ตกแต่งเพื่อการพาณิชย์ เช่น ตู้ทึบ, คอก รวมไปถึงการติดตั้งหลังคาหรืออุปกรณ์เสริมอื่น ๆ
อย่างไรก็ตาม รถกระบะ 4 ประตู ไม่ว่าจะใช้งานในเชิงพาณิชย์หรือไม่ หากมีการติดตั้งอุปกรณ์เสริมใด ๆ ควรแจ้งให้บริษัทประกันทราบ เพื่อให้ความคุ้มครองเป็นไปอย่างสมบูรณ์และถูกต้อง
การเลือกทำประกันภัยรถยนต์จะต้องพิจารณาจากวัตถุประสงค์การใช้งานที่แท้จริงของรถยนต์ หากรถถูกนำไปใช้เพื่อการหารายได้หรือประกอบธุรกิจ จำเป็นต้องทำประกันภัยรถยนต์เชิงพาณิชย์ แม้ว่าเบี้ยประกันจะสูงกว่า แต่ก็ให้ความคุ้มครองที่เหมาะสมกับความเสี่ยงและถูกต้องตามเงื่อนไขกรมธรรม์ เพื่อป้องกันปัญหาการปฏิเสธการเคลมในอนาคต หากคุณไม่แน่ใจว่ารถของคุณจัดอยู่ในประเภทใด แรบบิท แคร์ แนะนำให้ปรึกษาบริษัทฯ หรือโบรกเกอร์ประกันฯต่าง ๆ เพื่อขอคำแนะนำที่ถูกต้องและเหมาะสมกับการใช้งานของรถกระบะ
สรุป
สำหรับประกันรถกระบะนั้นจะแตกตางออกไปขึ้นกับการใช้งาน หากใช้งานในเชิงพาณิชย์ก็จะมีทุนประกันที่สูงแตกต่างจากประกันรถกระบะใช้ส่วนบุคคล ที่สำคัญไม่ว่าจะใช้งานแบบใด หากมีการแต่งรถเพิ่มเติม ควรแจ้งให้บริษัทประกันฯทราบก่อนทุกครั้ง

Thirakan Thongseenual เป็นนักเขียนที่มีประสบการณ์มากกว่า 3 ปี ที่ RabbitCare และ Asia Direct โดยมีความชำนาญในประกันรถยนต์ เน้นเขียนบทความที่เผยแพร่บน Blog และมีความเชี่ยวชาญด้าน SEO กว่า 4 ปี ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอได้ใช้ในการสร้างความรู้และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของ RabbitCare อย่างมีประสิทธิภาพ จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ปริญญาตรี สาขา Information Technology