คำถามและข้อสงสัยที่พบบ่อย
การคุ้มครองของประกันรถกระบะ มีอะไรน่าสนใจบ้าง?
ความคุ้มครองและสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่ได้จากการประกันภัยจะขึ้นอยู่กับการเลือกทำกรมธรรม์ของท่านว่า ต้องการความคุ้มครองและสิทธิประโยชน์มากน้อยเพียงใด เช่น ท่านต้องการความคุ้มครองในเรื่องค่าใช้จ่ายในการซ่อมรถ ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล หรือ ค่าสินไหมทดแทน มากน้อยเพียงใด หากท่านประสบอุบัติเหตุจนได้รับบาดเจ็บ ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล รูปแบบการประกันภัยของรถกระบะนั้น มีความคล้ายกับการประกันภัยรถเก๋ง โดยมีมากมายหลายหลายรูปแบบ
ความแตกต่างสำหรับความคุ้มครองประกันรถกระบะ 5 ประเภท ดังนี้
- ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ให้ความคุ้มครองในกรณี ซ่อมคู่กรณี + ซ่อมรถเรา (เคลมได้ทุกกรณี) + สูญหาย + ไฟไหม้
- ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2 ให้ความคุ้มครองในกรณี ซ่อมคู่กรณี + สูญหาย + ไฟไหม้ (กรณีเป็นฝ่ายผิดรถเราซ่อมเอง)
- ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+ ให้ความคุ้มครองในกรณี ซ่อมคู่กรณี + ซ่อมรถเรา *(เคลมได้เฉพาะกรณีรถชนรถเท่านั้น) + สูญหาย + ไฟไหม้
- ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3 ให้ความคุ้มครองในกรณี ซ่อมคู่กรณีเท่านั้น
- ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3+ ซ่อมเขา + ซ่อมรถเรา *(เคลมได้เฉพาะกรณี รถชนรถเท่านั้น)
ประกันภัยรถกระบะต่างจากประกันรถเก๋งอย่างไร?
การคุ้มครองของการประกันภัยรถกระบะนั้นมีหลากหลายประเภท เพื่อต้องการตอบสนองตามความต้องการของผู้ซื้อประกันภัย โดยประกันภัยรถกระบะนั้น ไม่ค่อยแตกต่างกับประกันภัยรถเก๋งมากนัก แต่จะแตกต่างเฉพาะเบี้ยประกันที่ขึ้นอยู่กับการใช้งานของรถยนต์เท่านั้น เช่น
- หากท่านจดทะเบียนรถกระบะไว้เป็นรถเพื่อการพาณิชย์ บริษัทประกัยภัยรถจะเก็บค่าเบี้ยประกันที่มากกว่าปกติ
- หากท่านจดทะเบียนรถไว้เป็นรถยนต์ส่วนตัว ก็จะทำให้ราคาเบี้ยประกันเท่า ๆ กับรถเก๋งตามท้องตลาดทั่วไป โดยคำนวณจากราคารถยนต์เท่านั้น
เช็คเบี้ยประกันรถกระบะกับแรบบิท แคร์ อย่างไร?
ราคาเบี้ยประกันรถกระบะแต่ละคันไม่เท่ากันค่ะ เบี้ยประกันภัยเริ่มต้นขึ้นอยู่กับ
- ยี่ห้อของรถกระบะ
- รุ่นของรถกระบะ
- อายุรถกระบะ
- ทุนประกัน
- ประวัติการเคลมของรถในปีที่ผ่านมา
โดยลูกค้าสามารถเช็คราคาเบี้ยประกันรถยนต์เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ หรือติดต่อ Call Center ที่เบอร์ 1438 ได้ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง