ค้นหาอู่ซ่อมรถยนต์ใกล้บ้านคุณกับแรบบิท แคร์

สำหรับใครที่ยังเลือกประกันไม่ได้ว่าจะซ่อมที่อู่หรือซ่อมศูนย์บริการ(ซ่อมห้าง) แบบไหนดีกว่ากัน เรามีข้อแนะนำให้ดังนี้

เลือกศูนย์บริการ(ซ่อมห้าง) การเลือกซ่อมที่ศูนย์ฯ คุณจะได้รับการบริการที่ดีจากศูนย์ฯ อย่างมืออาชีพ การันตีอะไหล่รถยนต์แท้ตัวใหม่ไม่ต้องเสียเวลารอสั่งอะไหล่ งานซ่อมจะได้มาตรฐานมีความเรียบร้อย รวมถึงศูนย์บริการยังมีช่างที่ชำนาญเกี่ยวกับรุ่นรถยนต์ของคุณโดยตรง หากมีการเสียหายที่ซับซ้อนช่างของศูนย์ฯ จะเชื่อใจได้มากกว่า แต่การซ่อมศูนย์จะมีข้อเสียคือราคาแพงซึ่งเบี้ยประกันก็จะแพงไปด้วย อีกทั้งพื้นที่บางจังหวัดก็ไม่มีศูนย์บริการโดยเฉพาะ

เลือกอู่ซ่อมรถ แรบบิท แคร์ เรามีอู่ในเครือครอบคลุมทุกพื้นที่ หากคุณเลือกที่จะซ่อมอู่ในเครือเดียวกับเราคุณไม่ต้องออกเงินสำรองจ่ายไปก่อนนั่นเอง โดยข้อดีของการเลือกซ่อมอู่นั้นคือราคาถูกกว่าซ่อมศูนย์ฯ ซึ่งจะส่งผลให้เบี้ยประกันถูกลงค่อนข้างมาก อีกทั้งอู่ซ่อมรถยังมีจำนวนมากหาง่ายกว่าศูนย์บริการ หากมีอู่ในเครืออยู่ใกล้บ้านคุณก็เลือกซ่อมอู่ย่อมสะดวกกว่า ส่วนข้อเสียของการเลือกซ่อมอู่คือคุณภาพอะไหล่อาจไม่ดีเท่าซ่อมศูนย์ฯ และอาจต้องรอนาน ส่วนคุณภาพงานซ่อมจะเป็นรองศูนย์บริการเล็กน้อย แต่ทั้งนี้เบี้ยประกันภัยของการเลือกซ่อมอู่จะถูกกว่าซ่อมศูนย์บริการ

แต่ไม่ว่าคุณจะเลือกซ่อมแบบไหน แรบบิท แคร์ ก็การันตีความสะดวกสบายให้กับคุณ หากทำประกันรถยนต์กับเรา คุณไม่ต้องไปหาสถานที่ซ่อมรถยนต์ไกลบ้านแน่นอน เพราะเรามีอู่และศูนย์ซ่อมในเครือแทบทุกพื้นที่

หากเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนและรถยนต์ของคุณได้รับความเสียหาย ให้คุณดำเนินการ 3 ขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้เพื่อขอใบเคลมออนไลน์กับเรา

1. ถ่ายรูปความเสียหายที่เกิดขึ้น ดังนี้ ป้ายทะเบียนรถยนต์คุณ, ป้ายทะเบียนรถยนต์คู่กรณี, ร่องรอยความเสียหายรถยนต์ของคุณ, ลักษณะภาพรวมของอุบัติเหตุที่เกิดในมุมกว้าง
2. ส่งหลักฐานภาพถ่ายพร้อมแจ้งรายละเอียดต่าง ๆ ได้แก่ชื่อ นามสกุล เลขที่กรมธรรม์ และภาพถ่ายมาให้เราผ่านช่องทาง Line Official
3. รับใบเคลมผ่านออนไลน์ หลังจากที่ส่งหลักฐานให้เราแล้ว แรบบิทแคร์ จะออกใบเคลมออนไลน์ให้กับคุณ
เพียงเท่านี้ก็สามารถนำหลักฐานไปประกอบการส่งซ่อมที่ศูนย์ซ่อมหรืออู่ซ่อมรถยนต์ในเครือได้เลย

1. หลังจากเกิดอุบัติเหตุ ให้เตรียมเอกสารและหลักฐานให้พร้อม เพื่อนำไปยื่นซ่อมอู่
2. นำรถยนต์ของคุณเข้าอู่ โดยคุณสามารถตรวจสอบอู่ซ่อมรถยนต์ในเครือของแรบบิท แคร์ ได้ที่ Care Center เบอร์โทรศัพท์ 1438 หรือ Line Official Rabbit Care
3. ก่อนนำเข้าซ่อมที่อู่ให้เก็บของมีค่าและของใช้ส่วนตัวในรถออกให้หมด
4. หลังจากช่างประเมินสถานะของรถยนต์แล้วคุณจะได้ "ใบรับรถ" ให้เก็บเอกสารดังกล่าวไว้ให้ดีอย่าทำหายเด็ดขาด
5. นำ "ใบรับรถ" มารับรถยนต์คืนในวันที่ซ่อมเสร็จ หากคุณส่งซ่อมกับอู่รถในเครือของแรบบิท แคร์ หรือในเครือของบริษัทประกันคุณจะไม่ต้องสำรองจ่าย
6. หากคุณนำรถส่งซ่อมในอู่นอกสัญญา คุณจะต้องสำรองจ่ายไปก่อน หลังจากซ่อมเสร็จให้นำใบเสร็จมาติดต่อเบิกค่าซ่อมกับแรบบิท แคร์
7. ทั้งนี้ก่อนนำรถออกจากอู่ซ่อม ให้ตรวจเช็กสภาพรถยนต์ของคุณทุกจุดให้ดีเสียก่อนเซ็นเอกสารรับรถ

ก่อนรถรถยนต์เข้าอู่ซ่อมให้คุณเตรียมเอกสารให้พร้อมเพื่อความรวดเร็ว โดยเอกสารสำคัญที่คุณต้องเตรียมเพื่อยื่นกับอู่ซ่อมรถมีดังนี้

1. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
2. สำเนาใบขับขี่
3. สำเนาเล่มทะเบียนรถยนต์
4. สำเนากรมธรรม์ประกันภัย
5. ใบเคลม ซึ่งคุณสามารถขอใบเคลมออนไลน์ง่าย ๆ กับแรบบิท แคร์
 

โดยเจ้าหน้าที่ของเราจะตรวจสอบอู่ซ่อมรถยนต์ใกล้ฉันและร้านซ่อมมอเตอร์ไซค์ใกล้ฉันให้ทันที หรือถ้าคุณไม่แน่ใจว่าอู่ซ่อมที่คุณรู้จักใกล้บ้านคุณนั้นอยู่ในเครือของแรบบิท แคร์หรือไม่ ก็ให้เราช่วยตรวจสอบได้เช่นกัน

เราสามารถตรวจสอบอู่ซ่อมรถใกล้ฉันว่าได้มาตรฐานหรืองานซ่อมมีคุณภาพไม่ย้อมแมวได้ง่าย ๆ ด้วยวิธีการดังนี้

1. ควรเลือกอู่ซ่อมรถที่ได้รับการรับรองจาก คปภ. เพราะอย่างน้อยคุณยังมั่นใจได้ว่าจะได้งานซ่อมคุณภาพตรงตามมาตรฐาน
2. ควรเลือกอู่ซ่อมที่อยู่ในเครือบริษัทประกันภัยชั้นนำ เพราะบริษัทประกันภัยมักคัดสรรอู่คุณภาพดีมาอยู่ในเครือเพื่อดึงดูดลูกค้า และการันตีงานซ่อมว่าจะไม่เสียชื่อเสียงบริษัทแน่นอน ซึ่งแรบบิท แคร์ เองก็มีอู่ในเครือคุณภาพดีใกล้บ้านคุณทั่วทั้งประเทศ หากคุณอยากหาอู่คุณภาพดีติดต่อมาสอบถามกับแรบบิท แคร์ ได้เลย 
3. เลือกซ่อมกับอู่ที่มีบริการรับประกันหลังจากซ่อมเสร็จ ซึ่งบริการดังกล่าวจะช่วยการันตีว่ามีการซ่อมที่เป็นมาตรฐาน มีความน่าเชื่อถือ และมีระบบบริการดูแลลูกค้าหลังการขาย
4. อ่านรีวิวจากสื่อต่าง ๆ ก่อนส่งซ่อม บางอู่อาจมีเพจ Facebook หรือ Google business ให้คุณเข้าไปลองอ่านรีวิวจากลูกค้าผู้ใช้งานก่อนส่งซ่อม หากรีวิวอยู่ในเชิงบวกก็น่าไว้ใจในระดับหนึ่ง
5. ตรวจสอบราคาก่อนส่งซ่อม อู่ที่ดีราคาซ่อมต้องเป็นมาตรฐาน ให้ลองเช็กราคาจากหลาย ๆ แหล่งว่าเรทค่าซ่อมแต่ละประเภทมีราคาเท่าไหร่ อู่ซ่อมรถยนต์ใกล้ฉันนั้นมีค่าซ่อมแพงกว่าที่อื่นหรือไม่

6. แต่หากอยากเปลี่ยนอู่เคลมประกัน ท่านสามารถทำได้ แต่อาจจะต้องศึกษาประเภทของอู่และทำความเข้าใจเกี่ยวกับอู่ประเภทต่างๆ ให้ถี่ถ้วนก่อนจะตัดสินใจ

อู่ซ่อมรถสามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภทตามลักษณะการให้บริการและความเชี่ยวชาญ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะแบ่งได้ดังนี้:

1. อู่ซ่อมรถยนต์ทั่วไป : ให้บริการซ่อมแซมและบำรุงรักษารถยนต์ในหลายๆ ด้าน เช่น เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ซ่อมระบบเบรก ระบบไฟฟ้า และอื่นๆ โดยไม่ได้จำกัดยี่ห้อหรือรุ่นของรถยนต์

2. อู่ซ่อมรถเฉพาะทาง : เป็นอู่ที่มีความเชี่ยวชาญในการซ่อมแซมระบบหรือชิ้นส่วนเฉพาะ เช่น อู่ซ่อมเกียร์, อู่ซ่อมช่วงล่าง, หรืออู่ซ่อมระบบไฟฟ้า เป็นต้น
3. อู่ซ่อมรถตามยี่ห้อ : เป็นอู่ที่ให้บริการซ่อมแซมรถยนต์เฉพาะยี่ห้อ เช่น อู่ซ่อมรถยนต์ Toyota, Honda, หรือ Mercedes-Benz โดยมีความเชี่ยวชาญในรถยนต์ยี่ห้อนั้นๆ
4. อู่ซ่อมตัวถังและสี : เน้นบริการเกี่ยวกับการซ่อมแซมตัวถังรถยนต์ การทำสี หรือการเคลือบสีใหม่ รวมถึงการซ่อมแซมจากอุบัติเหตุ
5. อู่ซ่อมเครื่องยนต์ : เป็นอู่ที่เชี่ยวชาญในเรื่องของการซ่อมและปรับแต่งเครื่องยนต์ รวมถึงการปรับจูนเครื่องยนต์ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
6. อู่ซ่อมรถสำหรับรถยนต์เฉพาะกิจ : อาจเป็นอู่ที่ให้บริการสำหรับรถแข่ง รถคลาสสิก หรือรถยนต์ที่มีการปรับแต่งพิเศษ ซึ่งต้องการความรู้และทักษะเฉพาะทาง

การซ่อมรถที่อู่ (ซ่อมอู่) และการซ่อมรถที่ศูนย์บริการของผู้ผลิต (ซ่อมห้าง) มีความแตกต่างกันในหลายด้าน ดังนี้:

1. ราคาค่าซ่อมรถ

ซ่อมอู่ : มักมีราคาที่ถูกกว่าการซ่อมห้าง เนื่องจากมีค่าแรงและค่าวัสดุที่ต่ำกว่า และอาจมีการใช้ชิ้นส่วนทดแทนที่ไม่ใช่ของแท้แต่มีคุณภาพใกล้เคียงกัน

ซ่อมห้าง : ราคาสูงกว่าเนื่องจากใช้ชิ้นส่วนแท้จากผู้ผลิตและมีค่าแรงที่สูงขึ้น เนื่องจากศูนย์บริการมีมาตรฐานและการรับประกันของผู้ผลิต

2. คุณภาพของอะไหล่รถยนต์

ซ่อมอู่ : อาจใช้อะไหล่รถยนต์ทดแทนที่ไม่ใช่ของแท้หรืออะไหล่มือสอง ซึ่งสามารถลดต้นทุนได้แต่คุณภาพอาจแตกต่างจากชิ้นส่วนแท้

ซ่อมห้าง : ใช้อะไหล่แท้จากผู้ผลิตโดยตรง ซึ่งมั่นใจได้ในเรื่องของคุณภาพและความเข้ากันได้กับรถยนต์

3. การรับประกัน

ซ่อมอู่ : บางอู่อาจให้การรับประกันในระยะสั้นหรือไม่มีการรับประกันเลย ขึ้นอยู่กับอู่แต่ละแห่ง

ซ่อมห้าง : มักมีการรับประกันงานซ่อมและชิ้นส่วนที่ใช้ โดยทั่วไปจะอยู่ภายใต้การรับประกันของผู้ผลิต

4. ความเชี่ยวชาญ

ซ่อมอู่ : ช่างในอู่มักมีความเชี่ยวชาญที่หลากหลายและสามารถซ่อมได้หลายยี่ห้อ แต่บางครั้งอาจไม่เชี่ยวชาญในรถยนต์ยี่ห้อเฉพาะ

ซ่อมห้าง : ช่างมีความเชี่ยวชาญเฉพาะในยี่ห้อและรุ่นของรถยนต์ที่ศูนย์บริการนั้นให้บริการ และมักได้รับการฝึกอบรมจากผู้ผลิตโดยตรง

5. ระยะเวลาการซ่อม

ซ่อมอู่ : ระยะเวลาการซ่อมอาจเร็วกว่า เนื่องจากไม่มีขั้นตอนที่ซับซ้อนเหมือนศูนย์บริการ แต่ก็ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของงานซ่อมและความพร้อมของชิ้นส่วน

ซ่อมห้าง : อาจใช้เวลานานกว่า เนื่องจากมีขั้นตอนที่ต้องตรวจสอบอย่างละเอียดและต้องปฏิบัติตามมาตรฐานของผู้ผลิต

6. การเข้าถึงและความสะดวก

ซ่อมอู่ : มีอู่ซ่อมรถอยู่ทั่วไป ทำให้เข้าถึงได้ง่ายและสะดวกสำหรับผู้ใช้บริการ

ซ่อมห้าง : มีจำนวนจำกัดและมักตั้งอยู่ในเขตเมืองหรือพื้นที่ที่รถยนต์ยี่ห้อนั้นๆ มีความนิยมสูง

ซ่อมอู่ คือการนำรถยนต์ไปซ่อมแซมและบำรุงรักษาที่อู่ซ่อมรถยนต์ ซึ่งเป็นสถานบริการที่ไม่ใช่ศูนย์บริการของผู้ผลิตรถยนต์นั้นๆ อู่ซ่อมรถมีอยู่ทั่วไปและมีความหลากหลายในด้านความเชี่ยวชาญ โดยช่างที่ทำงานในอู่ซ่อมรถมักจะมีประสบการณ์ในการซ่อมรถยนต์หลากหลายยี่ห้อและรุ่น

การซ่อมอู่มีลักษณะดังนี้:

1. การบริการที่หลากหลาย : อู่ซ่อมรถยนต์มักจะให้บริการซ่อมแซมในด้านต่างๆ เช่น การซ่อมเครื่องยนต์, ระบบเบรก, ระบบไฟฟ้า, ช่วงล่าง, ตัวถัง และการทำสีรถยนต์ เป็นต้น
2. ราคาที่เข้าถึงได้ง่าย : ราคาการซ่อมอู่มักจะถูกกว่าการซ่อมที่ศูนย์บริการ เนื่องจากมีค่าแรงและค่าวัสดุที่ต่ำกว่า บางอู่อาจใช้ชิ้นส่วนทดแทนที่ไม่ใช่ของแท้ หรือชิ้นส่วนมือสอง ซึ่งช่วยลดต้นทุนการซ่อม
3. ความยืดหยุ่น : อู่ซ่อมรถมักมีความยืดหยุ่นในเรื่องของเวลาและการให้บริการ สามารถเข้าถึงง่ายและไม่จำเป็นต้องนัดหมายล่วงหน้านาน
4. ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง : บางอู่ซ่อมรถอาจมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เช่น อู่ที่เน้นซ่อมเครื่องยนต์, อู่ซ่อมช่วงล่าง หรืออู่ที่ให้บริการซ่อมแซมตัวถังและทำสี เป็นต้น
5. ไม่มีการรับประกันจากผู้ผลิต : เนื่องจากอู่ซ่อมรถไม่ใช่ศูนย์บริการของผู้ผลิต ชิ้นส่วนและงานซ่อมอาจไม่มีการรับประกันจากผู้ผลิต แต่บางอู่อาจมีการรับประกันงานซ่อมของตนเองในระยะสั้นๆ

โดยสรุป การซ่อมอู่คือการซ่อมแซมรถยนต์ที่ทำโดยช่างที่มีความเชี่ยวชาญและให้บริการที่หลากหลาย โดยมักจะมีราคาที่ถูกกว่าและสามารถเข้าถึงได้ง่ายกว่าศูนย์บริการของผู้ผลิต

ซ่อมห้าง คือการนำรถยนต์เข้ารับการซ่อมแซมและบำรุงรักษาที่ศูนย์บริการของผู้ผลิตรถยนต์ หรือที่เรียกว่าศูนย์บริการมาตรฐาน (Authorized Service Center) ศูนย์บริการเหล่านี้ได้รับการรับรองจากผู้ผลิตโดยตรง และมีมาตรฐานการให้บริการที่สอดคล้องกับข้อกำหนดของผู้ผลิต

ลักษณะสำคัญของการซ่อมห้างมีดังนี้:

1. ช่างผู้เชี่ยวชาญ : ช่างที่ทำงานในศูนย์บริการของผู้ผลิตมักได้รับการฝึกอบรมเฉพาะจากผู้ผลิตรถยนต์นั้นๆ ทำให้มีความเชี่ยวชาญในการซ่อมและบำรุงรักษารถยนต์ยี่ห้อและรุ่นเฉพาะเจาะจง
2. การใช้ชิ้นส่วนแท้ : ศูนย์บริการของผู้ผลิตจะใช้ชิ้นส่วนแท้ (Genuine Parts) ที่มาจากผู้ผลิตโดยตรง ซึ่งมั่นใจได้ในเรื่องของคุณภาพและความเข้ากันได้กับรถยนต์
3. การรับประกันงานซ่อม : ศูนย์บริการมักมีการรับประกันงานซ่อมและชิ้นส่วนที่ใช้ในการซ่อมแซม โดยระยะเวลาการรับประกันจะขึ้นอยู่กับผู้ผลิตแต่ละราย ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบในการซ่อมที่ศูนย์บริการ
4. มาตรฐานการให้บริการ : ศูนย์บริการของผู้ผลิตมีมาตรฐานการให้บริการที่ชัดเจนและต้องปฏิบัติตามขั้นตอนที่กำหนดโดยผู้ผลิต เช่น การตรวจสอบระบบต่างๆ การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง และการบำรุงรักษาตามระยะทางที่กำหนด
5. ราคา : การซ่อมที่ศูนย์บริการมักมีราคาสูงกว่าการซ่อมอู่ เนื่องจากค่าแรงและชิ้นส่วนที่ใช้มักเป็นของแท้จากผู้ผลิต รวมถึงค่าบริการที่ครอบคลุมมาตรฐานการซ่อมบำรุงที่เข้มงวด
6. การรักษาประกัน : หากรถยนต์ยังอยู่ในระยะประกัน การซ่อมที่ศูนย์บริการของผู้ผลิตจะช่วยรักษาสิทธิ์การรับประกัน และหลีกเลี่ยงการหมดประกันก่อนกำหนด เนื่องจากการใช้ชิ้นส่วนหรือบริการที่ไม่ได้มาตรฐานอาจทำให้ประกันหมดอายุทันที

โดยสรุป การซ่อมห้างหมายถึงการซ่อมและบำรุงรักษารถยนต์ที่ศูนย์บริการของผู้ผลิต ซึ่งมีมาตรฐานสูง มีความเชี่ยวชาญ และใช้ชิ้นส่วนแท้จากผู้ผลิตโดยตรง เพื่อให้รถยนต์ยังคงอยู่ในสภาพที่ดีที่สุดและรักษาสิทธิ์ประกันของผู้ผลิต