ภาวะหัวใจโต ร้ายแรงหรือไม่ ? อันตรายไหม มีวิธีสังเกตอาการอย่างไร ?
ภาวะหัวใจโต ภาวะความผิดปกติที่เกิดกับบริเวณหัวใจซึ่งหลายคนคงรู้สึกไม่คุ้นเคยเท่าไหร่ วันนี้เรามาทำความเข้าใจกันว่า ภาวะหัวใจโต คืออะไร เป็นภาวะที่อันตรายหรือไม่ มีสาเหตุในการเกิดมาจากอะไร มีลักษณะการแสดงอาการแบบไหน สัญญาณแบบไหนที่ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจรักษา และเรื่องน่ารู้อื่น ๆ เกี่ยวกับภาวะหัวใจโต กับ แรบบิท แคร์
ภาวะหัวใจโต คืออะไร ?
โรงพยาบาลเปาโลได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับภาวะหัวใจโตว่า ภาวะหัวใจโต คือภาวะที่มีการตรวจพบว่าขนาดของหัวใจโตขึ้นซึ่งเป็นผลมาจากโรคอื่น ๆ โดยขนาดของหัวใจที่โตกว่าขนาดปกตินั้นจะถูกแบ่งเป็น 2 ชนิดใหญ่ ๆ คือ ภาวะหัวใจโตจากกล้ามเนื้อที่หนาตัวกว่าปกติ เช่น การที่ผู้ป่วยมีความดันโลหิตสูงหรือลิ้นหัวใจตีบ ก็ล้วนทำให้กล้ามเนื้อหัวใจหนาขึ้นได้ และอีกชนิด คือ มีภาวะหัวใจโตขึ้นเนื่องจากการที่กล้ามเนื้อหัวใจบีบตัวไม่ดี มีเลือดที่คั่งค้างอยู่ในห้องหัวใจมากจึงทำให้ขนาดของหัวใจโตขึ้นนั่นเอง
ทั้งนี้ภาวะหัวใจโตนั้นไม่จำเป็นที่จะต้องมีอาการที่ผิดปกติใด ๆ เกิดขึ้น หรือหากมีอาการเกิดขึ้นก๋อาจเป็นอาการเนื่องมาจากโรคที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดภาวะดังกล่าวและอาการจากหัวใจล้มเหลว เช่น เหนื่อยง่าย หอบ แน่นหน้าอก เป็นต้น
ภาวะหัวใจโต อันตรายไหม ?
สำหรับผู้ที่สงสัยว่าภาวะหัวใจโตนั้นอันตรายหรือไม่ ? โดยปกติแล้วภาวะหัวใจโตไม่ถือว่าเป็นภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์แต่อย่างใด เนื่องจากภาวะหัวใจโตไม่ว่าจะเป็นแบบชั่วคราวหรือถาวรก็ล้วนสามารถใช้การรักษาทางการแพทย์ช่วยควบคุมได้ ทั้งนี้หากทำการสังเกตตนเองแล้วมีอาการเหล่านี้ก็ควรที่จะไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยโดยละเอียดทันที
- มีอาการเจ็บหน้าอก
- มีอาการหายใจไม่ทัน
- มีอาการเป็นลมหรือหมดสติไป
- มีความรู้สึกชาหรือปวดบริเวณกราม คอ แขน และหลัง
อันตรายเหล่านี้ล้วนแต่เป็นสัญญาณอันตรายที่ถึงแม้อาจจะไม่ใช่การเตือนเกี่ยวกับภาวะหัวใจโตก็บ่งบอกถึงสุขภาพร่างกายที่มีความผิดปกติและน่าเป็นห่วง ดังนั้นหากมีอาการเหล่านี้เกิดขึ้นกับตัว ต้องรีบไปพบแพทย์ทันทีอย่านิ่งนอนใจ
ภาวะหัวใจโต เกิดจากอะไร ?
ในส่วนของสาเหตุการเกิดภาวะหัวใจโตนั้นความจริงแล้วสามารถเกิดขึ้นได้จากหลากหลายปัจจัยด้วยกัน แต่ทั้งนี้นั้นมักจะเกิดจากการที่ผู้ป่วยมีความดันโลหิตสูงหรือเป็นโรคหลอดเลือกหัวใจ อีกทั้งยังสามารถเกิดขึ้นจากการที่เป็นโรคอื่น ๆ ได้ ดังนี้
- โรคเส้นเลือดหัวใจ
- โรคลิ้นหัวใจ
- โรคกล้ามเนื้อหัวใจผิดปกติ
- โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด
- ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ
- การได้รับยาและแอลกอฮอล์เกินขนาด
ปัจจัยเหล่านี้คือสาเหตุที่อาจทำให้เกิดภาวะหัวใจโตขึ้นได้ ทั้งนี้ก็อย่างที่ได้กล่าวไป ว่าภาวะดังกล่าวนั้นสามารถเกิดได้จากปัจจัยที่หลากหลาย หากอยากรู้แน่ชัดจำเป็นต้องให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทำการตรวจวินิจฉัยให้ ก็จะสามารถรู้สาเหตุ่ที่แท้จริงได้นั่นเอง
สำหรับใครที่รู้ตัวว่ามีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคต่าง ๆ ที่ได้กล่าวไป หรือคิดว่าตนเองเป็นผู้ที่มีสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรงสักเท่าไหร่ ก็อย่าลืมที่จะทำประกันสุขภาพ กับ แรบบิท แคร์ ไว้ ดูแลให้อย่างใกล้ชิดเพื่อความอุ่นใจ จะกี่โรคร้ายก็ไม่กลัว
ภาวะหัวใจโตมีอาการอย่างไร ?
แม้ว่าโดยปกติแล้วภาวะหัวใจโตอาจไม่มีการแสดงอาการใดเลยก็ได้ หรืออาจเป็นการแสดงอาการของโรคซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดภาวะหัวใจโต แต่แน่นอนว่าในผู้ป่วยบางรายก็มีการแสดงอาการที่บ่งบอกถึงการมีภาวะหัวใจโตด้วยเช่นกัน นั่นก็คือ
- มีความรู้สึกเหนื่อยล้าและวิงเวียนศีรษะ
- รู้สึกเหนื่อยง่ายกว่าปกติ
- อ่อนเพลียง่าย
- รู้สึกใจสั่น
- รู้สึกหายใจไม่ทัน
- รู้สึกหายใจลำบาก
- รู้สึกแน่นหน้าอก นอนราบไม่ได้
- มีอาการไอโดยเฉพาะเวลานอน
- มีอาการบวมน้ำในบริเวณช่องท้อง
- มีอาการบวมน้ำในบริเวณขา
- มีอาการบวมน้ำในบริเวณเท้า
หากมีอาการดังนี้ ควรสังเกตอาการอื่น ๆ ที่เป็นในช่วงนี้เพิ่มเติมให้ดี จากนั้นไปพบแพทย์ทั้งบอกเล่าอาการของตนเองโดยละเอียด และรับการตรวจวินิจฉัยจากแพทย์เป็นลำดับถัดไป
ใครบ้างที่มีความเสี่ยงเกิดภาวะหัวใจโต ?
หลังจากทราบที่มาที่ไปของการเกิดภาวะหัวใจโตกันไปคร่าว ๆ แล้ว เราลองมาดูกันดีกว่าว่า ใครบ้างที่มีความเสี่ยงในการเกิดภาวะหัวใจโต
- ภาวะดังกล่าวมีความเสี่ยงในการเกิดขึ้นในผู้ป่วยที่เป้นโรคความดันโลหิตสูง เนื่องจากการมีความดันโลหิตสูงจะทำให้หัวใจทำงานหนักและเป็นสาเหตุในการเกิดภาวะหัวใจโต
- ภาวะดังกล่าวมีความเสี่ยงในการเกิดกับผู้ป่วยโรคเบาหวานและโรคไขมันในเลือดสูง เพราะโรคเหล่านี้นั้นเป็นสาเหตุที่ทำให้การทำงานของหัวใจบกพร่อง
- ภาวะหัวใจโตมีความเสี่ยงในการเกิดขึ้นกับผู้ป่วยโรคหัวใจ เช่น โรคลิ้นหัวใจ โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด โรคหัวใจเต้นผิดปกติ และโรคที่เกี่ยวกับกล้ามเนื้อหัวใจ
- ภาวะดังกล่าวมีความเสี่ยงในการเกิดขึ้นกับผู้ที่มีคนในครอบครัวมีประวัติเป็นโรคหัวใจ
- ภาวะดังกล่าวมีความเสี่ยงในการเกิดขึ้นกับผู้ป่วยโรคโลหิตจาง และโรคที่เกี่ยวกับต่อมไทรอยด์
- ภาวะดังกล่าวมีความเสี่ยงในการเกิดขึ้นกับผู้ที่มีการรับประทานธาตุเหล็กมากจนเกินไป ซึ่งจะทำให้เกิดโรค Hemochromatosis
- ภาวะหัวใจโตมีความเสี่ยงในการเกิดขึ้นกับผู้ที่มีความผิดปกติเกี่ยวกับโปรตีน มีโปรตีนสะสมในกล้ามเนื้อหัวใจ เป้นต้น
และนี่ก็คือผู้ที่มีความเสี่ยงค่อนข้างสูงในการเกิดภาวะหัวใจโต สำหรับใครที่มีความเสี่ยงเหล่านี้ต้องไม่ลืมที่จะหมั่นสังเกตสภาพร่างกายของตนเอง ว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นหรือไม่ เพราะหากมีภาวะหัวใจโตเกิดขึ้นกับร่างกาย จะได้ทำการเข้าตรวจรักษาและหาวิธีดูแลอย่างทันท่วงที
วิธีการป้องกันการเกิดภาวะหัวใจโต
แน่นอนว่าการรอให้เป็นแล้วค่อยทำการรักษานั้นเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ อีกทั้งผู้ที่มีประวัติคนในครอบครัวเคยมีภาวะหัวใจโต หรือมีโรคซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดภาวะหัวใจโตก็ควรที่จะปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการวางแผนป้องกันความเสี่ยงการเกิดภาวะหัวใจโต โดยการป้องกันการเกิดภาวะหัวใจโตนั้นสามารถทำได้ง่าย ๆ ดังนี้
- ป้องกันด้วยการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์
- ป้องกันด้วยการออกกำลังกายเป็นประจำ (ควรออกกำลังกายเป็นเวลาอย่างน้อย 30 นาทีทุกวัน)
- ป้องกันด้วยการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ (อย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมง)
- ป้องกันโดยการให้ความสำคัญกับการควบคุมระดับคอเลสเตอรอง
- ป้องกันโดยการให้ความสำคัญกับการควบคุมความดันโลหิต
- สำหรับผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์ป้องกันโดยการไม่ดื่มแอลกอฮอล์มากจนเกินไป ควรดื่มแต่พอดี
- ป้องกันโดยการไม่สูบบุหรี่หรือใช้สารเสพติด
วิธีเหล่านี้ถือเป็นวิธีง่าย ๆ ในการป้องกันการเกิดโรคหัวใจโตที่ไม่ว่าใครก็ทำได้ เพียงแต่ต้องมีวินัย และให้ความใส่ใจในการรักษาสุขภาพตนเองอย่างสม่ำเสมอนั่นเอง
ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้เมื่อมีภาวะหัวใจโต
แน่นอนว่าเมื่อมีภาวะความผิดปกติเกิดขึ้นกับร่างกายแล้ว ก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ตามมาได้ มาลองดูกันว่าจะมีภาวะอะไร ที่สามารถเกิดแทรกซ้อนขึ้นมาได้ ในขณะที่มีภาวะหัวใจโต
- อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนอย่างภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันเนื่องจากหัวใจอาจมีการเต้นเร็วหรือเต้นช้าเกินไปเนื่องจากโรคหัวใจโต
- อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนอย่างการมีเสียงฟู้ของหัวใจเนื่องจากการทำงานของลิ้นหัวใจบกพร่อง
- หากมีภาวะหัวใจห้องล่างซ้ายโต อาจทำให้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลวแทรกซ้อนขึ้นได้
- อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนอย่างการเกิดหัวใจวาย โรคหลอดเลือดสมองเนื่องจากภาวะลิ่มเลือดอุดตัน
และภาวะแทรกซ้อนเหล่านี้ก็คือภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ ดังนั้นทางที่ดีควรป้องกันไม่ให้เกิดภาวะหัวใจโตเอาไว้ เพราะแม้จะไม่ได้ส่งผลอันตรายโดยทันทีแต่ก็อาจลุกลามและเกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ได้ ต้องระวัง
สรุป
การเกิดภาวะผิดปกติเกิดขึ้นกับร่างกายนั้นไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็ก ๆ หรือเรื่องใหญ่ อย่างไรก็นับว่าเป็นข้อเสียต่อร่างกาย ดังนั้นไม่ว่าภาวะผิดปกติเหล่านั้นจะเล็กน้อยเพียงไหน หากป้องกันไว้ก่อนได้ก็ควรป้องกันไว้ ดีกว่ามาตามรักษาทีหลังอย่างแน่นอน
สรุป
ภาวะหัวใจโต คือภาวะที่มีการตรวจพบว่าขนาดของหัวใจโตขึ้น แบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ ภาวะหัวใจโตจากกล้ามเนื้อที่หนาตัวกว่าปกติ และ ภาวะหัวใจโตขึ้นเนื่องจากการที่กล้ามเนื้อหัวใจบีบตัวไม่ดี ซึ่งโดยปกติแล้วภาวะหัวใจโตไม่ถือว่าเป็นภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์แต่อย่างใด สามารถรักษาได้ แต่ทั้งนี้ หากมีอาการเพิ่มเติม ควรที่จะไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยโดยละเอียดทันที ดังนี้
- มีอาการเจ็บหน้าอก
- หายใจไม่ทัน
- เป็นลมหรือหมดสติไป
- มีความรู้สึกชาหรือปวดบริเวณกราม คอ แขน และหลัง
ที่มา
มีประสบการณ์มากกว่า 3 ปี เป็นนักเขียนด้านประกันสุขภาพ ประกันชีวิต เพื่อสุขภาพที่ Rabbit Care และ Asia Direct
และ 12 ปี ในอุตสาหกรรม OTA อย่าง Laterooms.com , Expedia.com จึงมีความเชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยว
จบการศึกษาปริญญาตรี สาขาการจัดการการเงิน มหาวิทยาลัยขอนแก่น