ปลายประสาทอักเสบ มีอาการอย่างไร สามารถหายเองได้หรือไม่ ?
รู้จักโรคปลายประสาทอักเสบ โรคซึ่งปัจจุบันพบมากขึ้นในผู้คนทั่วไปและอยู่ใกล้ตัวเรามากกว่าที่คิด มาดูกันว่าโรคปลายประสาทอักเสบนี้ คืออะไร มีอาการอย่างไร ? อันตรายมากหรือไม่ มีวิธีในการดูแลรักษาตัวเองอย่างไร สาเหตุของการเกิดโรคปลายประสาทอักเสบคืออะไร ? มีวิธีในการสังเกตอาการตนเองเบื้องต้นอย่างไร สรุปให้เข้าใจง่าย ๆ จาก แรบบิท แคร์
ปลายประสาทอักเสบ คืออะไร ?
ปลายประสาทอักเสบ (Peripheral Neuropathy) คือ ภาวะหนึ่งที่เส้นประสาทที่มีหน้าที่ในการรับคำสั่งจากสมองและไขสันหลังส่งต่อไปยังอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายของเราเกิดความเสียหาย หรือมีโรคบางชนิดเกิดขึ้น ซึ่งภาวะดังกล่าวนั้นจะส่งผลให้ร่างกายของเราเกิดอาการอ่อนแรง รู้สึกปวดและมีอาการชาบริเวณ มือ เท้า รวมถึงอวัยวะส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย โดยสาเหตุของการเกิดโรคปลายประสาทอักเสบนั้นก็มีมากมาย ตั้งแต่พฤติกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ ภายในชีวิตประจำวันของเราในยุคสมัยนี้ไปจนถึงเกิดจากโรคต่าง ๆ ที่เป็นอยู่ ซึ่งสำหรับรายละเอียดในส่วนนี้นั้นจะมีการกล่าวถึงให้อ่านกันโดยละเอียดในหัวข้อถัดไป
สาเหตุของโรคปลายประสาทอักเสบ
สำหรับสาเหตุของการเกิดภาวะหรือโรคปลายประสาทอักเสบนั้นสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุด้วยกัน โดยสาเหตุที่ทำให้เกิดความเสี่ยงในการเกิดโรคปลายประสาทอักเสบมีดังนี้
- ผู้ป่วยโรคเบาหวาน การเป็นโรคเบาหวานถือเป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดในการเกิดโรคปลายประสาทอักเสบ โดยผู้ป่วยโรคเบาหวานมีโอกาสป่วยเป็นโรคดังกล่าวได้มากถึง 50% เลยทีเดียว
- ผู้ที่มีการติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียบางชนิด เช่น โรคไลม์ โรคงูสวัด การติดเชื้อไวรัสเอ็บสไตบาร์ ไวรัสตับอักเสบบีและซี โรคเรื้อน โรคคอตีบ และผู้ติดเชื้อเอชไอวี เป็นต้น
- ผู้ป่วยโรคภูมิต้านตนเอง รวมถึงกลุ่มอาการโรคโจเกรน ลูปัส โรคข้อรูมาตอยด์ กลุ่มโรคกิลแลง-บาร์เร โรคเส้นประสาทอักเสบเรื้อรัง และการอักเสบของผนังหลอดเลือด
- ปลายประสาทอักเสบเกิดจากพันธุกรรมอย่างโรค Charcot-Marie-Tooth ซึ่งเป็นโรคทางระบบประสาทที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม
- ปลายประสาทอักเสบเกิดจากการเป็นเนื้องอกหรือมะเร็งซึ่งมีการกระจายไปยังเส้นประสาทหรือกดทับเส้นประสาท
ความผิดปกติของไขกระดูก และโรคที่เกิดจากการสะสมโปรตีนในเลือดที่ผิดปกติ
- ปลายประสาทอักเสบเกิดขึ้นจากโรคอื่น ๆ เช่น โรคตับ โรคไต
- ปลายประสาทอักเสบเกิดจากโรคต่อมไทรอยด์ทำงานน้อยเกินไป
- ปลายประสาทอักเสบเกิดจากพิษสุราเรื้อรัง ซึ่งภาวะดังกล่าวจะนำไปสู่การขาดวิตามิน
- ปลายประสาทอักเสบเกิดจากการสัมผัสกับสารพิษ เช่น ตะกั่ว สารปรอท
- ปลายประสาทอักเสบเกิดจากยาบางชนิด โดยเฉพาะยาที่ใช้รักษามะเร็ง หรือการทำเคมีบำบัด
- ปลายประสาทอักเสบเกิดจากภาวะบาดเจ็บที่กดทับเส้นประสาท ซึ่งอาจเกิดจากอุบัติเหตุ การหกล้ม หรือการเล่นกีฬา
- ปลายประสาทอักเสบเกิดจากภาวะขาดวิตามินบี 1 วิตามินบี 6 วิตามินบี 12 วิตามินอี และไนอาซิน
- บางกรณีอาจเกิดจากแรงกดจากการเข้าเฝือกหรือใช้ไม้ค้ำยัน
และปัจจัยเหล่านี้ก็ถือเป็นต้นเหตุหรือสาเหตุสำคัญหลัก ๆ ที่อาจส่งผลให้เกิดภาวะปลายประสาทอักเสบได้นั่นเอง
ปลายประสาทอักเสบ อาการเป็นอย่างไร ?
โรงพยาบาลสมิติเวชได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับอาการปลายประสาทอักเสบไว้ดังนี้ สำหรับอาการของโรคปลายประสาทอักเสบนั้นจะขึ้นอยู่กับเส้นประสาทแต่ละส่วนที่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากเส้นประสาทส่วนปลายแต่ละส่วนนั้นต่างก็มีหน้าที่เฉพาะที่แตกต่างกันไป คือ
- เส้นประสาทรับความรู้สึก (Sensory nerves) ซึ่งจะเป็นเส้นประสาทที่เชื่อมต่อกับผิวหนัง และทำให้เกิดความรู้สึกต่าง ๆ ต่อร่างกายของเรา เช่น อุณหภูมิ ความเจ็บปวด การสั่นสะเทือน และการสัมผัส เป็นต้น
- เส้นประสาทสั่งการ (Motor nerves) ซึ่งเป็นเส้นประสาทที่เชื่อมต่อกับกล้ามเนื้อ และคอยควบคุมการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อในร่างกายของเรา
- เส้นประสาทอัตโนมัติ (Autonomic nerves) ซึ่งเป็นเส้นประสาทที่เชื่อมต่อกับอวัยวะภายใน มีหน้าที่คอยควบคุมการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ เช่น ความดันโลหิต อัตราการเต้นของหัวใจ การขับเหงื่อ การย่อยอาหาร การทำงานของกระเพาะปัสสาวะ เป็นต้น
ซึ่งเมื่อจำแนกความเสียหายตามเส้นประสาทแต่ละส่วนที่มักเกิดปลายประสาทอักเสบ อาการที่พบบ่อยก็มักจะมีดังนี้
- มีอาการเหน็บชา รู้สึกเสียดหรือเสียวบริเวณมือ เท้า อีกทั้งยังสามารถลุกลามไปจนถึงขาและแขนได้
- รู้สึกไวต่อการสัมผัสมากกว่าปกติ
- มีความรู้สึกคล้ายถูกของมีคมทิ่มแทง และรู้สึกปวดแสบปวดร้อน
- มักรู้สึกปวดระหว่างทำกิจกรรมที่โดยปกติจะไม่ทำให้ปวด เช่น เมื่อเดินลงน้ำหนักเท้า หรือนอนอยู่ใต้ผ้าห่ม
- มักเสียการทรงตัวและหกล้มง่าย
- มีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง
- มีความรู้สึกเหมือนกำลังสวมถุงมือหรือถุงเท้าทั้งที่ไม่ได้สวมอยู่
- รู้สึกแพ้ความร้อน ไม่ทนความร้อน
- มีอาการเหงื่อออกมาก หรืออาจไม่สามารถขับเหงื่อออกจากร่างกายได้
- ความดันโลหิตต่ำลง มักเกิดอาการวิงเวียนศีรษะ หน้ามืด
- มีปัญหาทางระบบย่อยอาหารและลำไส้
- มีปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะปัสสาวะ
- อาจเป็นอัมพาตได้หากเส้นประสาทสั่งการได้รับบาดเจ็บรุนแรง
และอาการเหล่านี้ก็คืออาการที่พบบ่อยเมื่อผู้ป่วยเป็นโรคเส้นประสาทอักเสบ ดังนั้นใครที่มีอาการเหล่านี้ก็ไม่ควรนิ่งนอนใจ ควรเข้าพบและขอคำแนะนำจากแพทย์จะได้รับการรักษาได้อย่างทันท่วงที
ปลายประสาทอักเสบ อันตรายไหม ?
ขึ้นชื่อว่าเป็นโรคหรือภาวะความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับร่างกาย แน่นอนว่าต้องมีความอันตรายต่อร่างกายของคนเราไม่มากก็น้อย สำหรับโรคปลายประสาทอักเสบก็เช่นกัน ซึ่งความเสี่ยงอันตรายในการเกิดโรคนี้นั้น คือการที่ร่างกายจะมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนหรือโรคแทรกซ้อนที่ค่อนข้างรุนแรงนั่นเอง
ภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากโรคปลายประสาทอักเสบ
สำหรับภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้เมื่อเป็นโรคปลายประสาทอักเสบนั้น สามารถเกิดขึ้นหลายอย่างด้วยกัน ได้แก่
- เสี่ยงต่อการเกิดบาดแผลรุนแรง เนื่องจากผู้ที่ป่วยเป็นโรคปลายประสาทอักเสบนั้นมักจะรู้สึกชาและอาจมีความรู้สึกช้ากว่าปกติ เมื่อเกิดบาดแผลขึ้นบริเวณผิวหนังอาจทำให้ไม่รู้ตัวและส่งผลให้เกิดบาดแผลรุนแรงในเวลาต่อมาโดยไม่รู้ตัว
- เสี่ยงต่อการติดเชื้อ เมื่อมีบาดแผลเกิดขึ้นอาจนำไปสู่การติดเชื้อโดยไม่รู้ตัว ดังนั้นควรหมั่นสำรวจบริเวณที่รู้สึกชาเป็นประจำว่ามีบาดแผลหรือความผิดปกติใด ๆ หรือไม่ เพื่อป้องกันการติดเชื้อได้อย่างทันท่วงที โดยเฉพาะผู้ป่วยเบาหวาน
- มีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุรุนแรงจากการหกล้ม สำหรับผู้ที่มีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงหรือสูญเสียความรู้สึกอาจส่งงผลให้ร่างกายเสียสมดุลและเกิดอุบัติเหตุได้โดยง่าย
สัญญาณเตือน ปลายประสาทอักเสบ
มาดูสัญญาณเตือนปลายประสาทอักเสบ สำรวจตัวเองกันดูให้ดี หากมีอาการเหล่านี้อาจต้องลองเข้าปรึกษาแพทย์เพื่อทำการตรวจร่างกาย
- มีอาการเหน็บและชาบริเวณส่วนปลายของมือและเท้า
- ความรู้สึกบริเวณปลายมือและเท้าลดลง
- มีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงโดยเฉพาะบริเวณเท้า
- มีอาการเสียการทรงตัวหรือเดินเซ
- มีอาการความดันโลหิตต่ำ
- มีอาการท้องผูกหรือท้องเสีย
- มีอาการอาหารย่อยยาก
- มีอาการเหงื่อออกมากกว่าปกติ
ปลายประสาทอักเสบหายเองได้ไหม ?
สำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคปลายประสาทอักเสบและสงสัยว่าหากไม่เข้ารับการรักษาจากแพทย์จะสามารถหายเองได้ไหมนั้น ความจริงแล้วเมื่อเกิดโรคหรือภาวะที่เกิดความผิดปกติต่อร่างกาย แรบบิท แคร์ ขอแนะนำให้เข้ารับคำปรึกษาและตรวจร่างกายโดยละเอียดรวมถึงปฏิบัติตนตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดจะเป็นการดีที่สุด เนื่องจากหากไม่เข้าพบแพทย์และทำการรักษาอย่างทันท่วงที อาจทำให้อาการลุกลามใหญ่โตจนสายเกินแก้ได้นั่นเอง
ปลายประสาทอักเสบ วิธีรักษา
ในการรักษาโรคปลายประสาทอักเสบนั้น โดยทั่วไปแล้วจะเป็นการรักษาที่เน้นไปในการบรรเทาอาการที่เกิดขึ้นต่าง ๆ และทำการรักษาโรคหรือภาวะความผิดปกติของร่างกายที่เป็นสาเหตุ โดยอาจใช้การจ่ายยาตามอาการ เช่น ยาบรรเทาอาการปวด ยาลดอาการอักเสบ ไปจนถึงการใช้ไฟฟ้ากระตุ้นประสาทผ่านผิวหนัง การเปลี่ยนถ่ายน้ำเหลือง การผ่าตัด การทำกายภาพบำบัดต่าง ๆ เป็นต้น
ทั้งหมดนี้คือข้อมูลพื้นฐานที่ทุกคนควรรู้กันไว้เกี่ยวกับโรคปลายประสาทอักเสบ จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าแม้ในบางครั้งอาการที่ปรากฏออกมาจะดูไม่หนักหนาหรืออันตรายร้ายแรงมากนัก แต่ก็มีโอกาสในการเกิดภาวะแทรกซ้อนจนลุกลามกลายเป็นปัญหาใหญ่ได้เช่นกัน
ดังนั้นจึงไม่ควรนิ่งนอนใจ หากร่างกายส่งสัญญาณเตือนว่าอาจเป็นโรคปลายประสาทอักเสบก็ควรรีบเข้ารับคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และสำหรับใครที่คิดว่าตนเองมีความเสี่ยงในการเกิดโรคปลายประสาทอักเสบหรือปัญหาสุขภาพอื่น ๆ นั้น แรบบิท แคร์ ขอแนะนำให้ทำประกันสุขภาพไว้ เผื่อความอุ่นใจ ไม่ต้องกังวลเรื่องค่ารักษาพยาบาลในอนาคตนั่นเอง
สรุป
ปลายประสาทอักเสบ คือ ภาวะหนึ่งที่เส้นประสาทที่มีหน้าที่ในการรับคำสั่งจากสมองและไขสันหลังส่งต่อไปยังอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายของเราเกิดความเสียหาย ส่งผลให้ร่างกายของเราเกิดอาการอ่อนแรง รู้สึกปวดและมีอาการชาบริเวณ มือ เท้า รวมถึงอวัยวะส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย โดยสัญญาณเตือนการเกิดโรคจะมีอาการเหน็บและชา บริเวณส่วนปลายของมือและเท้า รวมไปถึงมีความรู้สึกบริเวณปลายมือและเท้าลดลง อาจมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงทำให้เสียการทรงตัวได้ง่าย มีอาการความดันโลหิตต่ำ เหงื่ออกมากกว่าปกติ บางรายมีอาการอาหารย่อยยาก รวมไปถึงมีอาการท้องเสีย ท้องผูกร่วมด้วย
มีประสบการณ์มากกว่า 3 ปี เป็นนักเขียนด้านประกันสุขภาพ ประกันชีวิต เพื่อสุขภาพที่ Rabbit Care และ Asia Direct
และ 12 ปี ในอุตสาหกรรม OTA อย่าง Laterooms.com , Expedia.com จึงมีความเชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยว
จบการศึกษาปริญญาตรี สาขาการจัดการการเงิน มหาวิทยาลัยขอนแก่น