Rabbit Care Logo
ใช้ใจแคร์ ดูแลครบ

ประกันรถยนต์สำหรับผู้ขับขี่อาวุโส ควรเลือกแผนความคุ้มครองแบบไหน ถึงจะคุ้มค่ามากที่สุด?

นอกจากประกันภัยรถยนต์จะมีให้เลือกหลากหลายประเภทแล้วแต่การใช้งานของผู้ขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นประกันภัยรถยนต์ชั้น 1, 2+, 2, 3+ และ 3 รู้หรือไม่ว่าประกันรถยนต์สำหรับผู้ขับขี่อาวุโสก็สำคัญมากเช่นกัน ซึ่งแน่นอนว่าในเรื่องของเบี้ยประกันนั้นจะมีราคาที่ถูกกว่าประกันภัยรถยนต์ประเภทอื่น เพราะด้วยวุฒิภาวะและความชำนาญในการขับขี่ของผู้ขับอาวุโส ที่ทางบริษัทประกันภัยรถยนต์มองเห็นว่าเป็นสิ่งที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนน้อยกว่า จึงทำให้เกิดความเสี่ยงที่น้อยกว่าตามมาด้วย และถึงแม้ว่าผู้อาวุโสหลาย ๆ ท่านจะมีความเชี่ยวชาญในการขับขี่มากเพียงใด ก็ไม่ควรที่จะประมาทและมองข้ามการทำประกันรถยนต์สำหรับผู้ขับขี่อาวุโสไป อีกทั้งยังควรที่จะศึกษาและเลือกดูว่าจะทำประกันรถยนต์ที่ไหนดี เพื่อความอุ่นใจในความคุ้มครองของแผนประกัน เพราะว่าอุบัติเหตุนั้นเป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ดังนั้นจึงควรป้องกันไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ จะดีที่สุด

ส่วนลดเบี้ยประกันรถยนต์สำหรับผู้ขับขี่อาวุโสคืออะไร?

ยิ่งอายุเยอะ ราคาเบี้ยประกันจะยิ่งถูกลง เพราะฉะนั้นการที่ผู้อาวุโสใช้สิทธิประโยชน์ในส่วนของการลดเบี้ยประกันแบบนี้จะคุ้มค่ามากกว่าเดิม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ควรจะต้องศึกษาว่าจะทำประกันรถยนต์ที่ไหนดี รวมไปถึงศึกษารายละเอียดจากในแผนกรมธรรม์ให้ชัดเจนอีกครั้ง โดยส่วนลดเบี้ยประกันรถยนต์สำหรับผู้ขับขี่อาวุโสจะลดหลั่นกันไปตามอายุที่เพิ่มมากขึ้นของผู้ขับขี่ ดังนี้

  • อายุ 50 ปีขึ้นไป มีส่วนลด 20%
  • อายุ 36-50 ปี มีส่วนลด 15%
  • อายุ 23-35 ปี มีส่วนลด 10%
  • อายุ 18-24 ปี มีส่วนลด 5%

วิธีการเลือกซื้อรถยนต์ให้เหมาะกับผู้อาวุโส ควรเลือกอย่างไร?

นอกจากจะมีวิธีการเลือกประกันรถยนต์สำหรับผู้ขับขี่อาวุโส หรือการเลือกทำแล้ว การเลือกซื้อรถยนต์สำหรับผู้อาวุโสก็สำคัญมากไม่แพ้กัน เพราะเนื่องจากผู้อาวุโสหรือผู้สูงอายุส่วนใหญ่จะไม่ได้มีรายได้ที่คงที่เหมือนกับในวัยทำงาน จึงเหมาะที่จะใช้รถยนต์ที่ประหยัดน้ำมัน ราคาไม่สูงจนเกินไป ขนาดคล่องตัวกะทัดรัด การมองเห็นของทัศนวิสัยกว้างขวาง และใช้งานง่าย ดังนั้นรถยนต์ Eco car จึงตอบโจทย์ลักษณะการใช้งานได้มากที่สุด เพราะผู้อาวุโสส่วนใหญ่จะไม่ได้ขับรถแบบเดินทางไกลมากอยู่แล้ว แต่ถ้าผู้อาวุโสบางท่านที่ยังมีสุขภาพแข็งแรงและยังมีงบประมาณอยู่ ก็อาจจะเลือกเป็นรถยนต์เกียร์อัตโนมัติ คุณสมบัติความปลอดภัยจัดเต็ม ประเภทที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาอีกนิด เพราะพื้นที่จัดเก็บสัมภาระจะจุได้เยอะขึ้น และจะได้ขับสบาย ไม่เมื่อยเท้า เช่น รถยนต์ SUV หรือรถยนต์ Crossover ก็จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีสำหรับผู้อาวุโสได้เช่นกัน สรุปแล้วจึงควรเลือกซื้อรถยนต์ที่ปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้

  • คุณสมบัติของรถยนต์ เป็นสิ่งที่มีความสำคัญพอ ๆ กับการเลือกทำประกันรถยนต์สำหรับผู้ขับขี่อาวุโส เพราะควรเลือกรถยนต์ที่การประหยัดน้ำมัน เทคโนโลยีความปลอดภัย ความสูงของตัวรถเพื่อการขึ้นลงที่สะดวกสบาย ราคาไม่แพงจนเกินไป และสามารถใช้งานได้ง่าย
  • ทัศนวิสัยของรถยนต์ ผู้อาวุโสหรือผู้สูงอายุจะมีจุดสำคัญเรื่องสุขภาพ ที่เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น การตอบสนองทางร่างกายก็จะช้าลงกว่าคนที่อายุยังน้อย การมองเห็นก็จะไม่ดีเหมือนเมื่อก่อน ดังนั้นจึงควรเลือกรถยนต์ที่มีทัศนวิสัยดี มองเห็นได้อย่างชัดเจน กว้างขวาง ไม่ว่าจะมุมไหนก็สามารถมองเห็นสิ่งต่าง ๆ ได้ง่าย
  • การควบคุมรถยนต์ แผงหน้าปัดควรมีการใช้งานที่ง่าย คมชัด และมองเห็นได้อย่างชัดเจน
  • ระบบความปลอดภัยของรถยนต์ เช่น ถุงลมนิรภัย ระบบ ABS ระบบควบคุมความเร็วรถ เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ กล้องหน้า/กล้องหลัง สัญญาณเตือนจุดบอด สัญญาณเตือนขณะรถออกนอกเส้นทาง เป็นต้น
  • พื้นที่จัดเก็บสัมภาระของรถยนต์ ควรจะมีความจุที่เพียงพอสำหรับใส่ของต่าง ๆ
  • สิ่งอำนวยความสะดวกภายในรถยนต์ เช่น คุณสมบัติการปรับเบาะที่นั่ง เพื่อให้เข้ากับสรีระ และนั่งสบายมากยิ่งขึ้น ในกรณีที่จะต้องมีการเดินทางไกล
  • ประเภทของรถยนต์ที่แนะนำ จากคุณสมบัติของรถยนต์ที่กล่าวมาข้างต้น แน่นอนว่าน่าจะเหมาะกับรถยนต์ประเภท SUV มากที่สุดที่จะเหมาะสำหรับผู้อาวุโสหรือผู้สูงอายุ ทั้งในเรื่องของทัศนวิสัยที่ดี ความสูงของรถ ระบบความปลอดภัย พื้นที่จัดเก็บสัมภาระเยอะ และการใช้งานต่าง ๆ ที่ใช้งานได้ง่าย แต่ก็ยังมีรถยนต์อีกหนึ่งประเภทที่น่าสนใจ นั่นก็คือรถยนต์ประเภทซีดาน ที่ยังเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีได้เหมือนกันสำหรับการขับขี่ในเมือง และควรที่จะต้องทำประกันรถยนต์สำหรับผู้ขับขี่อาวุโสไว้ด้วย เพื่อความอุ่นใจมากยิ่งขึ้นของลูกหลาน

ผู้อาวุโสหรือผู้สูงอายุควรระมัดระวังเรื่องใดบ้างในการขับรถ?

ข้อมูลจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย(ปภ.) ในสังกัดของกระทรวงมหาดไทย ได้ออกมาแนะนำวิธีการขับขี่ที่ปลอดภัยเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุสำหรับผู้อาวุโส ดังนี้

  • ควรหลีกเลี่ยงการขับรถโดยลำพังบ่อย ๆ หรือควรจะมีเพื่อนร่วมทางนั่งรถไปด้วย จะได้ช่วยกันดูเส้นทาง
  • หลีกเลี่ยงการขับรถในช่วงที่ทัศนวิสัยไม่ดี เช่น ช่วงที่ฝนตกหนัก ช่วงที่มีหมอกลงหนา หรือช่วงเวลากลางคืน เป็นต้น
  • หากมีโรคประจำตัว ควรจะเตรียมยาประจำตัวไปด้วย พร้อมกับรายละเอียดการแพ้ยาหรือบัตรประจำตัวผู้ป่วย เวลาเกิดอุบัติเหตุจะได้มีข้อมูลของผู้ขับขี่ไว้
  • สำหรับผู้อาวุโสที่ต้องขับรถบ่อย ๆ ควรจะปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินสมรรถนะในการขับรถว่ามีความพร้อมทางร่างกายในเกณฑ์ที่ปกติ

เทคนิคในการเลือกทำประกันรถยนต์สำหรับผู้ขับขี่อาวุโสหรือผู้สูงอายุนั้นควรจะเป็นแบบไหน?

แน่นอนว่าจุดเด่นของการทำประกันรถยนต์สำหรับผู้ขับขี่อาวุโส นั่นก็คือในเรื่องของราคาเบี้ยประกันภัยที่จะถูกลงกว่าคนกลุ่มอื่นที่อายุยังน้อยกว่า เพราะว่าในกลุ่มผู้อาวุโสนั้นจะมีความเชี่ยวชาญในการขับรถ ขับไม่ค่อยเร็ว ใจเย็น และทำให้มีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุที่น้อยกว่าคนในวัยทำงานหรือวัยรุ่น จึงแนะนำว่าแผนประกันรถยนต์ชั้น 1 นั้นจะเหมาะสมสำหรับผู้อาวุโสมากที่สุด เพราะว่าคุ้มค่า คุ้มราคา และครอบคลุมมากที่สุดหรือคุ้มครองทุกกรณี แต่ถ้าหากต้องการเบี้ยประกันที่ราคาถูกลงไปอีก การเลือกทำประกันรถยนต์ชั้น 2+ ก็จะให้ความคุ้มครองใกล้เคียงกับประกันภัยชั้น 1 แต่จะเคลมได้เฉพาะในแบบที่มีคู่กรณีเท่านั้น

ความคุ้มครองและผลประโยชน์

ตารางความคุ้มครองผลประโยชน์ 
ประกันรถยนต์ ชั้น 1ประกันรถยนต์ ชั้น 2+ประกันรถยนต์ ชั้น 2ประกันรถยนต์ ชั้น 3+ประกันรถยนต์ ชั้น 3
คู่กรณี
บุคคล ✔️✔️✔️✔️✔️
ทรัพย์สินของคู่กรณี✔️✔️✔️✔️✔️
รถของผู้เอาประกันภัย
การชนแบบมีคู่กรณี✔️✔️✔️
การชนแบบไม่มีคู่กรณี✔️
ไฟไหม้✔️✔️✔️
รถหาย✔️✔️✔️
ภัยธรรมชาติ✔️✔️✔️
ช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน 24 ชั่วโมง✔️✔️
ความคุ้มครองชีวิตจากอุบัติเหตุส่วนบุคคล
อุบัติเหตุส่วนบุคคล✔️✔️✔️✔️✔️
การรักษาพยาบาล✔️✔️✔️✔️✔️
การประกันตัวผู้ขับขี่✔️✔️✔️✔️✔️

หมายเหตุ

  • ความคุ้มครองจากภัยธรรมชาติ สำหรับประกันรถยนต์ชั้น 2+ และ 3+ ขึ้นอยู่กับแพคเกจประกันรถยนต์ของบริษัทนั้นๆ
  • ให้บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน 24 ชั่วโมง จำกัดเฉพาะรถยนต์ส่วนบุคคล อายุรถไม่เกิน 15 ปี เท่านั้น

คำถามและข้อสงสัยที่พบบ่อย

สรุปแล้วประกันรถยนต์สำหรับผู้ขับขี่อาวุโสควรเลือกแบบไหนดี?

จากข้อมูลข้างต้นจะสรุปได้ว่า “ประกันรถยนต์ชั้น 1” นั้นเหมาะกับผู้อาวุโสหรือผู้สูงอายุมากที่สุด เพราะด้วยจุดเด่นที่จะได้รับความคุ้มครองในทุกกรณี ไม่ว่าจะน้ำท่วม ไฟไหม้ รถหาย หรือจากอุบัติเหตุทั้งที่มีและไม่มีคู่กรณีก็จะได้รับความคุ้มครองทั้งหมด อีกทั้งเบี้ยประกันที่มีราคาถูกมากขึ้น จึงทำให้ตัดสินใจไม่ยากที่จะเลือกทำแผนประกันภัยรถยนต์ชั้น 1

ผู้อาวุโสหรือผู้สูงวัย จำเป็นต้องมีประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับด้วยหรือไม่?

นอกจากจะมีประกันรถยนต์สำหรับผู้ขับขี่อาวุโสที่ควรทำไว้แล้ว ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับหรือ พ.ร.บ. นั้นก็เป็นสิ่งที่รถยนต์และรถมอเตอร์ไซค์ทุกคันที่จดทะเบียนกับทางกรมการขนส่งทางบกจะต้องมีไว้อยู่ เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากอุบัติเหตุจากรถ อีกทั้งยังเป็นหลักประกันให้กับทางสถานพยาบาลว่าจะได้รับค่ารักษาพยาบาลในการรับรักษาจากเหตุประสบภัยจากรถ และเป็นเอกสารสำคัญที่จะต้องใช้ต่อภาษีประจำปีอีกด้วย โดยที่ความคุ้มครองของประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับหรือ พ.ร.บ. นั้นจะมีทั้งหมด 2 แบบ ได้แก่

 

2.1 ผู้ขับขี่เป็นฝ่ายผิด
      2.1.1 กรณีได้รับบาดเจ็บ จะต้องจ่ายตามจริงไม่เกิน 30,000 บาท
      2.1.2 กรณีเสียชีวิตหรือสูญเสียอวัยวะ จะต้องจ่ายตามจริงไม่เกิน 35,000 บาท


2.2 ผู้ขับขี่เป็นฝ่ายถูก
      2.2.1 กรณีได้รับบาดเจ็บ จะต้องจ่ายตามจริงไม่เกิน 80,000 บาท
      2.2.2 กรณีเสียชีวิตหรือสูญเสียอวัยวะ จะต้องจ่ายสูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท
      2.2.3 กรณีนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล วันละ 200 บาท ไม่เกิน 20 วัน

ซื้อประกันภัยรถยนต์ผ่านแรบบิท แคร์ จะได้สิทธิประโยชน์อะไรบ้าง?

เป็นอีกหนึ่งคำถามที่หลายคนสงสัยว่าเราควรที่จะทำประกันรถยนต์ที่ไหนดี ซึ่งแน่นอนว่าถ้าซื้อกับแรบบิท แคร์ ก็จะได้สิทธิประโยชน์มากมาย เพราะประกันรถยนต์สำหรับผู้ขับขี่อาวุโสนอกจากจะมีราคาของเบี้ยประกันที่ถูกลงแล้ว ทางแรบบิท แคร์ ก็ยังมีส่วนลดพิเศษสำหรับผู้ที่มีประวัติในการขับขี่ที่ดีอีกด้วย หากในการทำประกันภัยรถยนต์นั้นไม่มีการเคลมประกันตลอดทั้งสัญญา หรือไม่มีประวัติในการเคลมว่าเป็นฝ่ายผิดเลย ตรงนี้ก็จะบ่งชี้ให้เห็นว่าผู้ขับขี่นั้นเป็นบุคคลที่มีประวัติในการขับขี่ดี ซึ่งส่วนลดในตรงนี้ก็จะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของในแต่ละบริษัทประกัน สามารถคลิกดูสิทธิประโยชน์อื่น ๆ ได้ที่เว็บไซต์ของแรบบิท แคร์

ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของเรา