สอนคำนวณผ่อนรถ หรือคำนวณค่างวดรถ แบบละเอียดทุกขั้นตอน
รถยนต์ถือเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าค่อนข้างสูง การจะเป็นเจ้าของรถสักคันหนึ่งคงขาดการวางแผนคำนวณผ่อนรถอย่างละเอียดรอบคอบไม่ได้ เพราะถ้าหากเราไม่ได้มีเงินซื้อสดเต็ม 100% ก็ยังคงต้องพึ่งพาสินเชื่อเช่าซื้อจากสถาบันทางการเงินอยู่ดี ดังนั้นเมื่อเราคำนวณค่างวดรถอย่างรอบคอบ จะมีโอกาสได้เห็นว่าเราสามารถแบกรับภาระต่องวดได้มากน้อยเท่าไหร่ เพื่อให้อนาคตการเงินของเราไม่ติดขัดนั่นเอง
รู้ความหมายศัพท์เฉพาะก่อนคำนวณผ่อนรถ
คำศัพท์ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการคำนวณผ่อนรถ โดยเฉพาะคำว่าจัดไฟแนนซ์, เงินดาวน์, ยอดจัด, ดอกเบี้ยคงที่ และดอกเบี้ยลดต้นลดดอก ซึ่งในแต่ละคำมีความหมายดังนี้
- จัดไฟแนนซ์ คือ การขอสินเชื่อจากธนาคารเพื่อออกรถ โดยให้ธนาคารจ่ายเงินค่ารถออกไป และต่อจากนั้นเราค่อยชำระค่างวดกับธนาคารต่อไป
- ยอดจัด คือ ราคาเต็มของรถหลังจากหักลบเงินดาวน์ออกไป แล้วจากนั้นนำยอดจัดมาคำนวณร่วมกับอัตราดอกเบี้ย และนำไปคิดคำนวณค่างวดรถผ่อนต่อเดือนอีกที
- เงินดาวน์ คือ เงินส่วนแรกที่เราจ่ายเพื่อยื่นขอผ่อนรถ
- ดอกเบี้ยคงที่ คือ ดอกเบี้ยที่คำนวณเอาไว้แล้วจากเงินต้น ไม่ว่าเงินต้นจะเหลือเท่าไหร่ ดอกเบี้ยจะยังคงเดิมในทุกงวด
- ดอกเบี้ยลดต้นลดดอก คือ ดอกเบี้ยที่ถูกคิดจากเงินต้นในแต่ละงวด เมื่อผ่อนชำระเงินต้นไปบางส่วน นั่นจะส่งผลให้ดอกเบี้ยในงวดถัดไปลดลงเช่นกัน
วิธีคำนวณผ่อนรถทั้งหมด 5 ขั้นตอน
วิธีการคำนวณผ่อนรถจะมีทั้งหมด 5 ขั้นตอน คือ คำนวณยอดจัดไฟแนนซ์, คำนวณดอกเบี้ยที่ต้องใช้ผ่อนรถ, คำนวณดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายรายปี, คำนวณยอดทั้งหมดที่ต้องจ่าย และคำนวณค่างวดรถในแต่ละเดือน ส่วนการคำนวณผ่อนรถในแต่ละขั้นตอน มีรายละเอียดตามรายการด้านล่าง
- คำนวณยอดจัดไฟแนนซ์ = ราคารถ-เงินดาวน์
- คำนวณดอกเบี้ยที่ต้องใช้ผ่อนรถ = ยอดจัดไฟแนนซ์ x อัตราดอกเบี้ย
- คำนวณดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายรายปี = ดอกเบี้ยที่ต้องใช้ผ่อนรถ x จำนวนปีที่ต้องผ่อน
- คำนวณยอดทั้งหมดที่ต้องจ่าย = ยอดจัดไฟแนนซ์ + ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายรายปี
- คำนวณค่างวดรถในแต่ละเดือน = ยอดทั้งหมดที่ต้องจ่าย / จำนวนเดือนที่ผ่อน
ตัวอย่างการคำนวณผ่อนรถ
คำศัพท์ก็รู้หมดแล้ว ขั้นตอนการคำนวณผ่อนรถก็ได้เห็นสูตรเบื้องต้นจนจบ เหลือเพียงแค่การลองคำนวณผ่อนรถตามตัวอย่างที่ แรบบิท แคร์ เตรียมมาให้ทั้งหมด 2 ตัวต่อจากนี้ หากทุกคนสามารถคำนวณผ่อนรถพร้อมกันแล้วถูกต้อง 100% แปลว่าพร้อมแล้วที่จะนำข้อมูลที่รู้ออกไปคำนวณค่างวดรถตามข้อมูลตัวเลขของตัวเองได้ทันที
ตัวอย่างคำนวณค่างวดรถกรณีที่ 1
ตัวอย่างการคำนวณผ่อนรถกรณีที่ 1 สมมุติให้รถราคา 1,000,000 บาท แล้ววางเงินดาวน์ที่ 40% (400,000 บาท) มีอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 5% เลือกผ่อนนาน 48 งวด (4 ปี) คำถามต้องผ่อนรถเดือนละเท่าไหร่? อ้างอิงตามขั้นตอนการคำนวณผ่อนรถทั้ง 5 ขั้นตอนดังนี้
- ยอดจัดไฟแนนซ์: 1,000,000 (ราคารถ) – 400,000 (เงินดาวน์) = 600,000
- ดอกเบี้ยต้องจ่ายรายปี: 600,000 (ยอดจัดไฟแนนซ์) x 5% (อัตราดอกเบี้ย) = 30,000
- ดอกเบี้ยที่ต้องผ่อนรถทั้งหมด: 30,000 (ดอกเบี้ยรายปี) x 4 (จำนวนปีที่ผ่อน) = 120,000
- ยอดทั้งหมดที่ต้องจ่าย: 600,000 (ยอดจัดไฟแนนซ์) + 120,000 (ดอกเบี้ยต้องจ่ายรายปี) = 720,000
- ค่างวดรถในแต่ละเดือน: 720,000 (ยอดทั้งหมดที่ต้องจ่าย) / 48 (จำนวนเดือนที่ผ่อน) = 15,000
ตัวอย่างคำนวณค่างวดรถกรณีที่ 2
ตัวอย่างการคำนวณผ่อนรถกรณีที่ 2 สมมุติให้รถราคา 1,000,000 บาท แต่วางเงินดาวน์เพียง 30% อัตราดอกเบี้ย 5% เท่าเดิม ครั้งนี้เลือกผ่อน 60 งวด (5 ปี) คำถาม คือ จะมีค่างวดรถเท่าไหร่ต่อเดือน มาดูการคำนวณผ่อนรถทีละขั้นกันเลยดีกว่า
- ยอดจัดไฟแนนซ์: 1,000,000 (ราคารถ) – 300,000 (เงินดาวน์) = 700,000
- ดอกเบี้ยต้องจ่ายรายปี: 700,000 (ยอดจัดไฟแนนซ์) x 5% (อัตราดอกเบี้ย) = 35,000
- ดอกเบี้ยที่ต้องผ่อนรถทั้งหมด: 35,000 (ดอกเบี้ยต้องจ่ายรายปี) x 5 (จำนวนปีที่ผ่อน) = 175,000
- ยอดทั้งหมดที่ต้องจ่าย: 700,000 (ยอดจัดไฟแนนซ์) + 175,000 (ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายรายปี) = 875,000
- ค่างวดรถในแต่ละเดือน: 875,000 (ยอดทั้งหมดที่ต้องจ่าย) / 60 (จำนวนเดือนที่ผ่อน) = 14,583
3 ปัจจัยสำคัญที่ต้องคำนึงถึงหลังคำนวณค่างวดรถเป็นแล้ว
ความเข้าใจในเรื่องการคำนวณผ่อนรถถูกตอบโจทย์ครบหมดแล้ว อย่าลืมสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ กับการวางแผนให้เราสามารถจัดการค่างวดรถได้อย่างลงตัว สำหรับใครที่ต้องการซื้อรถยนต์ต้องมีแผนที่ชัดเจน เช่น การจ่ายค่างวดให้ทันเวลา, การโปะหนี้รถนั้นไม่จำเป็น และช่วงที่ผ่อนรถอย่าสร้างหนี้เพิ่ม สำหรับรายละเอียดมีดังนี้
- การจ่ายค่างวดให้ทันเวลา แนะนำว่าควรแบ่งแยกค่างวดรถเอาไว้อย่างชัดเจน หรือวางแผนการชำระค่างวดล่วงหน้า
- การโปะหนี้รถไม่จำเป็น เพราะถ้าเป็นดอกเบี้ยรถเป็นแบบคงที่ โปะเร็วแค่ไหนดอกเบี้ยก็เท่าเดิม เว้นแต่จะเป็นดอกเบี้ยลดต้นลดดอกแบบใหม่ ถึงควรคำนวณผ่อนรถให้ดีก่อนวางแผนการโปะ
- ช่วงที่ผ่อนรถพยายามอย่างสร้างหนี้เพิ่ม ค่อย ๆ ผ่อน จัดการเคลียร์ไปทีละอย่าง เพื่อให้เราสร้างสถานการณ์การเงินที่ราบรื่นแบบไร้ปัญหาจะดีที่สุด
ไขข้อสงสัยหลังคำนวณผ่อนรถ ผ่อนกี่ปีถึงจะรีไฟแนนซ์ได้
ผ่อนรถ 1 ปี รีไฟแนนซ์ได้ไหม, ผ่อนรถ 2 ปี รีไฟแนนซ์ได้ไหม หรือผ่อนรถ 3 ปีรีไฟแนนซ์ได้ไหม คำตอบคือ รีไฟแนนซ์รถได้ก็ต่อเมื่อ ยอดผ่อนมากกว่า 50% ขึ้นไป ซึ่งการรีไฟแนนซ์รถเป็นการที่เรามองหาไฟแนนซ์ใหม่ที่มีเงื่อนไขดีกว่า มาปิดยอดไฟแนนซ์เก่าเพื่อให้มีค่างวด หรือดอกเบี้ยที่ลดลงมากกว่าเดิม แต่เมื่อรีไฟแนนซ์รถเรียบร้อยแล้ว อย่าลืมคำนวณผ่อนรถตามตัวเลขที่เปลี่ยนแปลงไปกันด้วย
คำแนะนำเพิ่มเติม: ยอดผ่อน 50% ขึ้นไปสำหรับการรีไฟแนนซ์รถยนต์ ไม่ได้หมายถึงช่วงระยะเวลาการผ่อน แต่หมายถึงยอดหนี้ที่เหลืออยู่ เช่น รถราคา 1,000,000 ดาวน์ไป 400,000 ผ่อนต่อไปอีก 200,000 กลายเป็นว่าชำระแล้วทั้งสิ้น 600,000 ซึ่งถือว่าเป็นยอดที่เกิน 50% แล้วหลังจากคำนวณผ่อนรถครบถ้วน ด้วยตัวเลขนี้ทำให้เรามีโอกาสรีไฟแนนซ์ได้ ไม่ว่าจะผ่อนรถมา 1 ปี 2 ปี หรือ 3 ปีก็ตาม
จะเห็นได้ว่าการคำนวณผ่อนรถหรือคำนวณค่างวดรถ นั้นสามารถทำได้โดยตรวจสอบขั้นตอนการหาเงินดาวน์และอัตราดอกเบี้ย จากนั้นคำนวณค่างวดรถต่อเดือนโดยใช้สูตรที่เหมาะสมกับความสามารถในการผ่อนชำระเงิน และตรวจสอบเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการกู้ยืมเงินเพื่อซื้อรถยนต์ หากคุณปฏิบัติตามขั้นตอนที่ถูกต้อง คุณจะสามารถเลือกสินเชื่อรถยนต์ที่เหมาะสมและประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น
วางแผนเพื่อคำนวณผ่อนรถอย่างรอบคอบขนาดนี้ อย่าลืมวางแผนสำหรับการซื้อประกันภัยรถยนต์เอาไว้ด้วย เพื่อที่เราจะได้มีผู้ดูแลตลอดเวลาที่ใช้งานรถยนต์ แต่ถ้าหากยังเลือกไม่ถูกว่าจะรับบริการประกันภัยรถยนต์จากบริษัทไหน สามารถเข้ามาเปรียบเทียบประกันรถยนต์จากบริษัทชั้นนำได้ที่เว็บไซต์ แรบบิท แคร์ ได้ทันที พร้อมรับข้อเสนอสุดพิเศษเพิ่มเติม เช่น ผ่อน 0% นาน 10 เดือน, ส่วนลดสูงสุด 70%, บริการช่วยเหลือดูแลตลอด 24 ชั่วโมง และอื่น ๆ อีกเพียบ
นักเขียนบทความด้านประกันยานยนต์ รถยนต์ การเคลมประกันรถยนต์ ที่ Rabbit Care และ Asia Direct ตั้งใจเขียนงานให้ได้เกินครึ่งจากช่วงเวลาที่หาข้อมูล ยึดถือความถูกต้องเป็นหลัก