แคร์ยานยนต์

ทำไมรถยนต์สีขาวมุก ถึงมีราคาแพงมากกว่าสีขาวธรรมดา

ผู้เขียน : Thirakan T

Thirakan Thongseenual เป็นนักเขียนที่มีประสบการณ์มากกว่า 3 ปี ที่ RabbitCare และ Asia Direct โดยมีความชำนาญในประกันรถยนต์ เน้นเขียนบทความที่เผยแพร่บน Blog และมีความเชี่ยวชาญด้าน SEO กว่า 4 ปี ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอได้ใช้ในการสร้างความรู้และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของ RabbitCare อย่างมีประสิทธิภาพ จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ปริญญาตรี สาขา Information Technology

close
linkedin icon
 
 
Published: April 12,2024
สีขาวมุก

ไหนออกรถทั้งใครเล็งสีอะไรไว้บ้าง? มีใครที่ชอบสีขาวมุกและเคยคิดอยากถามกันไหมว่า ทำไมสีนี้ถึงต้องมีบวกราคาเพิ่มเติมมากกว่าสีขาวธรรมดา ซึ่งจะมีบวกกันประมาณ 40,000-50,000 บาทขึ้นไปเลยทีเดียว วันนี้แหละจะได้รู้คำตอบที่แท้จริงพร้อมข้อมูลน่าสนใจมากมายที่ทางทีม แรบบิท แคร์ ได้จัดเตรียมเอาไว้ให้แล้ว โดยเริ่มกันที่เหตุผลที่ทำให้สีขาวมุกต้องมีราคาแพงกว่าสีปกติ, คำเตือนให้ระวังว่าสีขาวมุกนั้นซ่อมแซมได้ยากกว่าปกติ, วิธีการดูแลสีขาวมุก รถยนต์ ให้สวยงามยาวนาน และข้อดีที่น่าสนใจของรถสีขาวมุก กับ ขาวธรรมดา ส่วนคนที่กำลังจะซื้อรถ แล้วยังไม่ได้ตัดสินใจเลือกสีไหนเป็นพิเศษ ก็สามารถอ่านเพื่อเก็บข้อมูลไปเปรียบเทียบและตัดสินใจได้เหมือนกัน

ประกันรถยนต์
ห้ามพลาด! ประกันรถชั้น 1 เบี้ยเริ่มต้น 1,000.-/เดือน
icon angle up or down

    เลือกยี่ห้อรถของคุณ

    ชื่อนามสกุล

    หมายเลขโทรศัพท์

    ทำไม สีขาวมุก กับ ขาวธรรมดา ถึงมีราคาต่างกัน

    ทำไม สีขาวมุก กับ ขาวธรรมดา ถึงมีราคาต่างกัน คำตอบง่าย ๆ เริ่มต้นจากการเรื่องกระบวนการทำสีที่ไม่เหมือนกัน สีขาวมุกนั้นทำได้ยากกว่าสีปกติทั่วไป ซึ่งประเภทของสีรถยนต์ที่เราเจอได้ในท้องตลาดปัจจุบัน จะมีอยู่ 3 ประเภทด้วยกัน คือ Solid Colour, Metallic Colour และ Pearl Colour ซึ่งแต่ละประเภทจะมีขั้นตอนในการทำที่แตกต่างกันออกไป รวมถึงสารเคมีที่นำมาใช้งาน ทำให้มีราคาต้นทุนไม่เท่ากันนั่นเอง ส่วนรายละเอียดของแต่ละประเภท มีดังต่อไปนี้

    • Solid Colour ตัวแรกเป็นสีแบบธรรมดา เน้นใช้กับสีทั่วไป มีต้นทุนที่ไม่แพงมากเท่าไหร่นัก เนื้อสีมีความมันวาวเพียงเล็กน้อย ออกทึบหน่อย ๆ มีการพ่นเพียงชั้นเดียว มักถูกเลือกใช้งานในรถรุ่นพื้นฐานเป็นส่วนใหญ่
    • Metallic Colour ยกระดับจากสีธรรมดาด้วยการผสมผงโลหะเพิ่มเติมเข้าไป ซึ่งตัวสีปกติยังนับว่าไม่มีความมันวาว หรือเงางามมากเท่าไหร่นัก จึงมีการเพิ่มกระบวนการพ่นแลคเกอร์เคลือบลงไปอีกหนึ่งชั้น ช่วยให้เม็ดสีดูมีประกายสวยงามกว่าเดิม และยังช่วยป้องกันไม่ให้ผงโลหะหลุดร่อนออกมาด้วย
    • Pearl Colour ไม่ว่าจะเป็นสีขาวมุก หรือดำมุก เกิดจากการพ่นสีธรรมดาลงก่อนหนึ่งชั้น หลังจากนั้นจึงทำการพ่น Metallic Colour ทับลงไปหลายครั้ง จนกว่าจะเกิดความมันวาว หรือมีประกายมุกตามต้องการ ซึ่งถ้าเป็นสีอื่นจะสามารถผสมและพ่นพร้อมกันได้เลย แต่ในกรณีนี้หลังจากพ่นชั้น Metallic เสร็จแล้ว ยังต้องมีการพ่นสีเคลือบเงาทับอีกครั้ง เพื่อทำให้เกิดความเงางาม และมีประกายมุกสวยงามเมื่อสะท้อนกับแสง

    คิดว่าทุกคนคงเข้าใจกันดีแล้วว่าระหว่างสีขาวมุก กับ สีขาวธรรมดา มันแตกต่างกันอย่างไร และสาเหตุมาจากเรื่องไหนถึงทำให้ต้องมีการบวกราคาเพิ่ม ถ้าเราสนใจเลือกสีขาวมุก รถยนต์ ฉะนั้นหากสีขาวมุกมันโดนใจก็เลือกได้อย่างสบายใจเลย เนื่องจากรถยนต์ต้องอยู่กับเราไปอีกนาน ใช้งานสิ่งที่ชอบนี่แหละสบายใจที่สุดแล้ว

    ระวังสีขาวมุก รถยนต์ ซ่อมยากกว่าปกติ

    คำเตือน! สำหรับคนที่ยังขับขี่ไม่คล่องแล้วกำลังเลือกซื้อรถยนต์สีขาวมุกมาใช้งาน อนาคตหากไม่ได้ทำประกันรถยนต์แบบซ่อมห้าง (ซ่อมศูนย์บริการ) เอาไว้ แล้วต้องไปซ่อมอู่รถยนต์ในเครือทั่วไป ถ้าเจออุบัติเหตุทำให้ต้องมีการทำสีรถยนต์ใหม่ อาจมีซ่อมแซมที่ยากกว่าเดิม! เพราะแค่สีขาวธรรมดา ก็ถือเป็นอุปสรรคเริ่มต้นที่บางครั้งซ่อมสีมายังได้ไม่ตรงเฉดกันก็มี ยิ่งถ้าเป็นสีขาวมุก รถยนต์แล้วด้วย มีโอกาสค่อนข้างสูงที่หลายอู่จะทำได้ไม่เหมือนสีตัวถังเดิม นับเป็นสีปราบเซียนที่หากไม่ใช่อู่ที่เชี่ยวชาญจะทำได้ยาก จนไม่ค่อยกล้ารับทำกันเลยก็ว่าได้ 

    สีขาวมุก รถยนต์

    วิธีการดูแลรถยนต์สีขาวมุกให้สวยงามยาวนาน

    วิธีการดูแลรถยนต์สีขาวมุกให้สวยงาม คือ เลี่ยงการจอดตากแดดนาน, เคลือบสีรถ, ล้างทำความสะอาดสม่ำเสมอ และจัดการลบริ้วรอยทันทีที่พบเจอ หากทำตามวิธีทั้งหมดที่กล่าวมาอยู่ตลอด จะช่วยรักษาความสวยงาม ความแวววาวของสีขาวมุกบนตัวรถยนต์ ให้สะท้อนออกมาสวยถูกใจคุณไปยาวนาน ส่วนรายละเอียดการดูแลที่ครบเครื่องจะเป็นอย่างไร ลองไปหาคำตอบเพิ่มเติมด้วยตัวเอง จากหัวข้อย่อยทั้งหมดต่อไปนี้

    เลี่ยงการจอดตากแดดนาน

    ควรเลี่ยงการจอดตากแดดเป็นเวลานาน เพราะรังสี UV ที่มากับแดดจัด จะทำให้ชั้นแลกเกอร์ของสีรถยนต์บางลงเรื่อย ๆ จนเสื่อมสภาพ สุดท้ายก็ไปกัดชั้นสีขาวมุกของตัวรถยนต์โดยตรง ปล่อยตากแดดไว้นาน ๆ ก็จะเริ่มเหลือง และไม่สวยงามเหมือนเดิม ควรดูแลด้วยการหาผ้าที่ได้มาตรฐาน มาคลุมตัวรถยนต์เพื่อป้องกันสีขาวมุกของรถไม่ให้ถูกแดดกิน

    เคลือบสีรถ

    การเคลือบสีรถเปรียบเสมือนการช่วยเพิ่มเกราะป้องกันให้กับชั้นแลคเกอร์เพิ่มอีก 1 ชั้น ช่วยปกป้องจากรอยขีดข่วนบาง ๆ ช่วยป้องกันคราบสกปรกที่จะทำให้รถดูหมอง หรือช่วยกันรังสี UV ที่มาจากแดดได้ด้วย เมื่อชั้นสีถูกทำลายช้าลง ก็ทำให้สีขาวมุกของรถยนต์หมองช้าลงไปด้วยนั่นเอง

    ล้างทำความสะอาดรถสม่ำเสมอ

    ล้างทำความสะอาดรถสม่ำเสมอเพื่อขจัดคราบสกปรกต่าง ๆ ออกไป เช่น ขี้นก ยางไม้ ฝุ่น ขี้โคลน หรือคราบน้ำที่เกาะติดอยู่ เพราะหากปล่อยไว้นาน เพียงแค่คราบสกปรกพื้นฐานเหล่านี้ ก็อาจกัดกินชั้นแลคเกอร์จนลงไปถึงชั้นสีขาวมุก และทำให้หมองได้ในเวลาไม่นาน

    จัดการลบริ้วรอยทันทีที่พบเจอ

    จัดการลบริ้วรอยทันทีที่พบเจอ โดยเฉพาะรอยขนแมวบาง ๆ คราบฝุ่น คราบน้ำมัน หรือคราบยางมะตอย การปล่อยคราบเหล่านั้นทิ้งไว้ เป็นส่วนทำให้รถสีขาวมุกหมองลงได้อย่างรวดเร็ว และถ้ายิ่งทำความสะอาดช้า ในตอนที่ริ้วรอยสกปรกเหล่านั้นฝังลึกไปแล้ว ยังเป็นการเพิ่มความเสี่ยงให้สีขาวดูเหลืองเร็วขึ้นหลายเท่าตัว

    ในเมื่อเลือกซื้อรถยนต์สีขาวมุกมาแบบสวย ๆ งาม ๆ แล้ว ยังต้องมีการบวกเงินเพิ่มเข้ามาอีก อย่างน้อยควรดูแลขั้นพื้นฐานให้ได้ครบถ้วนตามคำแนะนำด้านบน สีขาวมุกจะได้อยู่ติดทนกับตัวรถไปอีกนาน ใช้งานเมื่อไหร่ก็สวยไม่เปลี่ยน

    สีขาวมุก กับ ขาวธรรมดา

    ข้อดีที่น่าสนใจของรถสีขาวมุก กับ ขาวธรรมดา

    ข้อดีที่น่าสนใจของรถสีขาวมุก และสีขาวธรรมดาของรถยนต์ ได้แก่ สะสมความร้อนน้อยกว่า, ดูเรียบง่าย ทันสมัย, ช่วยอำพรางรอยขีดข่วนได้ดี และขายต่อได้ในราคาที่ดีเช่นเดียวกัน สำหรับคำอธิบายเพิ่มเติมของแต่ละข้อดี เพื่อช่วยขยายความน่าสนใจของรถสีขาวมุก หรือขางธรรมดา จะมีรายละเอียดดังลิสต์รายการด้านล่างนี้เลย

    • สะสมความร้อนน้อยกว่า เนื่องจากเป็นสีคู่ตรงข้ามของสีดำ ที่มีคุณสมบัติดูดกลืนแสงทั้งหมด ไม่มีการสะท้อนออกมา จึงทำให้ตัวสีขาวมุก หรือสีขาวธรรมดา มีการสะท้อนกลับออกไปมากกว่า ไม่เก็บแสง จึงร้อนน้อยกว่านั่นเอง
    • ดูเรียบง่าย ทันสมัย จากการอ้างอิงทางจิตวิทยาเรื่องสี แถมสีขาวยังให้ความรู้สึกอื่น ๆ ที่ทำให้ดูสวยงามเป็นพิเศษ เช่น สึกสะอาด สดใส เรียบง่าย และกว้างขวาง เป็นต้น ฉะนั้นถ้าดูแลรถสีขาวมุกให้ดี อนาคตก็ยังสวยงามเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน
    • ช่วยอำพรางรอยขีดข่วนได้ดี เพราะเวลาที่เกิดรอยขนแมว หรือริ้วรอยจากการขีดข่วน จะเป็นรอยบาง ๆ สีขาว ทำให้ดูกลมกลืนไปกับตัวรถ เว้นแต่ว่ารอยที่เจอมานั้นหนักมาเป็นพิเศษ ทำให้เห็นได้ง่าย หรือเบียดจนได้สีอื่นติดรถมาก็เป็นอีกเรื่อง
    • ขายต่อได้ในราคาที่ดีเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะสีขาวมุกที่ผ่านการดูแลมาเป็นอย่างดีจนไร้ริ้วรอย อาจช่วยเรียกราคาเพิ่มเติมได้มากกว่าสีอื่น ๆ สักเล็กน้อย ส่วนสีขาวธรรมดาก็ยังเป็นปัจจัยเล็ก ๆ ที่ทำให้ราคาดีหากดูแลดีเหมือนกัน

    มีรถสีขาวมุกที่แสนจะถูกใจกันแล้ว อย่าลืมพิจารณาเลือกประกันรถยนต์ที่เข้ามาช่วยดูแลคุ้มครองทุกการขับขี่ ให้ปลอดภัย อุ่นใจ ไร้กังวลหากเกิดอเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เพราะประกันรถยนต์จะช่วยคุ้มครองทั้งเรื่องค่าซ่อมแซม ค่าทรัพย์สิน ค่ารักษาพยาบาล และอื่น ๆ ตามเงื่อนไขกรมธรรม์ หากต้องการคำปรึกษาเพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่ แรบบิท แคร์ โทร 1438 (โทรได้ 24 ชั่วโมง) พิเศษสมัครประกันรถยนต์กับเราวันนี้ มีส่วนลดให้สูงสุดถึง 70%


    สรุป

    สรุปบทความ

    การที่สีทั่วไปกับสีมุกมีราคาที่แตกต่างกันนั้น เกิดมาจากกระบวนการทำสีที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งประเภทของสีรถยนต์ที่เราเจอได้ในท้องตลาดปัจจุบัน จะมีอยู่ 3 ประเภท ซึ่งแต่ละประเภทจะมีขั้นตอนในการทำที่แตกต่างกันออกไป รวมถึงสารเคมีที่นำมาใช้งาน ทำให้มีราคาต้นทุนไม่เท่ากันนั่นเอง ดังนี้

    • Solid Colour มักถูกเลือกใช้งานในรถรุ่นพื้นฐานเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากมีต้นทุนที่ไม่แพงมาก เนื้อสีมีความมันวาวเพียงเล็กน้อย สีออกทึบ
    • Metallic Colour มีการเพิ่มกระบวนการพ่นแลคเกอร์เคลือบลงไปอีกหนึ่งชั้น ช่วยให้เม็ดสีดูมีประกายสวยงามกว่าเดิม
    • Pearl Colour เกิดจากการพ่นสีธรรมดาลงก่อนหนึ่งชั้น หลังจากนั้นจึงทำการพ่น Metallic Colour ทับลงไปหลายครั้ง จนมีประกายมุกตามต้องการ

    โดยการดูแลรถยนต์สีขาวมุกให้สวยงาม คือ เลี่ยงการจอดตากแดดนาน, เคลือบสีรถ, ล้างทำความสะอาดสม่ำเสมอ และจัดการลบริ้วรอยทันทีที่พบเจอ หากทำตามวิธีทั้งหมดที่กล่าวมาอยู่ตลอด จะช่วยรักษาความสวยงาม ความแวววาวของสีขาวมุกบนตัวรถยนต์ ให้สะท้อนออกมาสวยถูกใจคุณไปยาวนาน

    จบสรุปบทความ

    ที่มา


     

    บทความแคร์ยานยนต์

    Rabbit Care Blog Image 90947

    แคร์ยานยนต์

    น้ำมันขึ้นเตือน ขับได้อีกกี่กิโล? คำถามที่หลายคนสงสัย และรู้สึกเสี่ยงทุกครั้งเมื่อเจอ

    คนที่ขับรถยนต์มาในระยะเวลาหนึ่งคงต้องเคยเกิดคำถามกับตัวเอง ว่าถ้าน้ำมันขึ้นเตือน ขับได้อีกกี่กิโล? เพราะบางรุ่นรถยนต์ไม่ได้มีระบบการคำนวณระยะทาง
    Thirakan T
    25/07/2024
    Rabbit Care Blog Image 90915

    แคร์ยานยนต์

    วิธีไล่ยุงออกจากรถแบบง่าย ๆ ไม่ต้องปวดหัว ไม่ต้องทนโดนกัดอีกต่อไป

    หนึ่งในปัญหาเล็กน้อยที่มีความเสี่ยงสูง กลายเป็นปัญหาใหญ่อย่างการที่มียุงอยู่บนรถ ซึ่งวิธีไล่ยุงทั่วไปที่หลายคนใช้งาน
    Thirakan T
    11/07/2024
    Rabbit Care Blog Image 90887

    แคร์ยานยนต์

    GTR คือ อะไร เป็นรถที่ดีขนาดไหน ทำไมคนพูดถึงเยอะ แล้วปัจจุบันราคาเท่าไหร่

    ถ้าให้คนที่ชอบสะสมรถยนต์หรืออยู่ในวงการ พูดชื่อรถระดับตำนานมากสัก 1 รุ่น ต้องมี GTR โผล่ขึ้นมาอย่างแน่นอน 100%
    Thirakan T
    09/07/2024