
บัตรเครดิตเติมน้ำมัน (Fleet Card) คืออะไร ? มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร ?
มรดก คือทรัพย์สินของผู้เสียชีวิตที่ถูกตกทอดมาสู่คนรุ่นหลัง ทำให้มรดก เป็นเรื่องที่เรา ๆ ควรจะรู้ไว้ เพื่อจัดการทรัพย์สินที่อาจตกทอดมาสู่มือคุณ โดยเฉพาะเมื่อมรดก มีค่าภาษีมรดกแอบซ่อนอยู่ในนั้น ซึ่งยิ่งเป็นเรื่องที่น้อยคนนักที่จะเข้าใจเข้าไปใหญ่ ฉะนั้นวันนี้ แรบบิท แคร์ จึงอยากพาทุกท่านมารู้จักเรื่องราวของ ภาษีมรดก และทำไมพวกเราทุกคนจึงควรรู้เท่าทันเรื่องพวกนี้!
ภาษีมรดก (Inheritance Tax) คือ ภาษีที่เรียกเก็บจากผู้ที่ได้รับมรดกแต่ละราย โดยมูลค่าของมรดกจะต้องเกิน 100 ล้านบาทขึ้นไป โดยผู้รับมรดกจะต้องเป็นคนเสียภาษี ซึ่งจะมีการจัดเก็บในอัตรา 5% – 10% ซึ่งจะถูกเรียกเก็บโดยกรมสรรพากร
มักเป็นสินทรัพย์มรดกที่มีมูลค่ามากที่สุด เพราะที่ดินหากประเมินราคาปัจจุบัน มักจะราคาขึ้น โดยมรดกอสังหาริมทรัพย์จะรวมถึงที่ดินที่บุคคลเสียชีวิตครอบครองทั้งใน และนอกประเทศ รวมถึง อาคาร หรือสิ่งปลูกสร้างที่อยู่ในพื้นที่นั้น ๆ ด้วย จึงเป็นมรดกที่มีมูลค่าสูง ต้องคำนึงถึงภาษีมรดกที่ดินด้วย
การตีมูลค่าทรัพย์มรดกอสังหาริมทรัพย์ : ราคาประเมินกรมที่ดินหักด้วยภาระที่ถูกรอนสิทธิ ตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
มรดกหลักทรัพย์นี้รวมถึง ตั๋วเงินคลัง พันธบัตร ตั๋วเงิน หุ้น หุ้นกู้ หน่วยลงทุน ตราสารอนุพันธ์ มักจะเป็นกรณีผู้บริหาร หรือเจ้าของธุรกิจที่ถือหุ้นของธุรกิจ เมื่อเสียชีวิตหุ้นเหล่านั้นสามารถถูกส่งต่อมาสู่ทายาท
การตีมูลค่าทรัพย์มรดกหลักทรัพย์ : หากเป็นพันธบัตร หรือหุ้นของบริษัทส่วนตัว หรือบริษัทที่เป็นผู้บริหาร จะประเมินราคาที่จำหน่ายครั้งแรก หรือราคาไถ่ถอนแล้วแต่กรณี และหากเป็นหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลัก
ต้องเป็นรถที่มีหลักฐานการจดทะเบียนโดยผู้เสียชีวิต และยังคงมีสมุดทะเบียน โดยนับรวมยานพาหนะที่นำเข้าจากต่างประเทศด้วย
การตีมูลค่าทรัพย์มรดกยานพาหนะ : ราคาประเมินสำหรับปิดอากรแสตมป์ตามประมวลรษัฎากรในการโอนกรรมสิทธิ์ซื้อขายรถ
เป็นเงินสดที่ฝากไว้อยู่ในบัญชี หรือเงินอื่นใดที่มีลักษณะแบบเดียวกัน สำหรับหลาย ๆ คนอาจมีทรัพย์สินในบัญชีต่างประเทศ เป็นสกุลเงินอื่น ก็จะต้องตรวจสอบให้ละเอียดในการคิดคำนวณมรดกอื่น ๆ ด้วย
การตีมูลค่าทรัพย์มรดกทรัพย์สินทางการเงิน : มูลค่าของเงินฝาก และดอกเบี้ยหรือผลประโยชน์อื่นใดที่จะได้รับในวันรับมรดก
ผู้ที่ได้รับมรดก ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเสียภาษีมรดกเท่ากันทั้งหมด โดยกฎหมายให้สิทธิ์เอื้อไปให้ทายาทที่เป็นผู้รับมรดก จะเสียภาษีมรดกต่ำกว่าบุคคลทั่วไป นอกจากนั้นก็จะมีเรื่องของการแบ่งมรดกตามลำดับขั้นตอนความสนิทชิดเชื้อกับเจ้าของมรดก ดังนี้
ผู้ได้รับการแบ่งมรดก | ลำดับการแบ่งมรดก | อัตราดอกเบี้ยมรดกที่ต้องจ่าย |
คู่ชีวิต | ผู้รับมรดกโดยชอบธรรม | ไม่ต้องจ่ายภาษีมรดก |
ผู้สืบสันดาน (ลูก หลาน เหลน) | ผู้รับมรดกอันดับ 1 | 5% |
บิดา มารดา | ผู้รับมรดกอันดับ 2 | 5% |
พี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน | ผู้รับมรดกอันดับ 3 | 5% |
ย่า ตา ยาย | ผู้รับมรดกอันดับ 4 | 5% |
ลุง ป้า น้า อา | ผู้รับมรดกอันดับ 5 | 5% |
บุคคลอื่นที่ไม่มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือด (เพื่อน คนดูแล) | ผู้รับมรดกอันดับ 6 | 10% |
*กรณีที่เจ้าของมรดกเสียชีวิตโดยไม่ได้ทิ้งพินัยกรรม ระบุรายชื่อผู้ได้รับแบ่งมรดกไว้อย่างชัดเจน พร้อมมีพยานบุคคลยืนยัน
โดยในกรณีของคู่ชีวิต สามี ภรรยา ที่ยังมีชีวิตอยู่ และยังไม่ได้หย่าร้างจะถือว่าเป็นผู้ได้รับมรดกโดยธรรม จะได้รับแบ่งมรดก 50% ของมูลค่ามรดกของคู่ชีวิต นอกเหนือจากคู่สมรสจะมีการเซ็นสัญญาก่อนสมรส (Prenuptial) ใด ๆ แต่คู่สมรสจะไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจมอบมรดกให้กับผู้อื่น จะมีสิทธิ์เพียงแค่การจัดการมรดกที่ตนได้รับมาเท่านั้น
หลังจากบุคคลหนึ่งเสียชีวิต กระบวนการนี้จะต้องเกิดขึ้น โดยทรัพย์สินที่บุคคลผู้เสียชีวิตทิ้งไว้จะต้องถูกประเมินราคาทั้งหมด เริ่มจากทรัพย์สินที่ตรวจสอบง่าย ๆ เช่นเงินในบัญชี หลักทรัพย์ที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ไปจนถึงทรัพย์สินที่ต้องประเมินราคา เช่นที่ดินทั้งในและนอกประเทศ สินทรัพย์ที่ไม่ได้อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ หากมีมูลค่ารวมเกิน 100 ล้านบาท ก็จะต้องเสียภาษีมรดก
สมมุติว่าค่ามรดกสุทธิคิดออกมาได้ 200,000,000 ล้านบาทถ้วน
ต้องนำ 200,000,000 – 100,000,000 = มูลค่ามรดกที่ต้องเสียภาษี
ฉะนั้นมูลค่ามรดกที่ต้องเสียภาษี = 100,000,000 ล้านบาท
นำภาษีในส่วนที่ต้องเสียภาษีมรดก มาคิดคำนวณภาษี ไม่ใช่คำนวณจากภาษีมรดกสุทธิ
สูตร : มูลค่ามรดกที่ต้องเสียภาษี x อัตราภาษีคงที่ 5% = ภาษีมรดก
100,000,000 X 5% =5,000,000 ล้านบาท
เมื่อคำนวณออกมาแล้วจะเห็นได้ว่าภาษีมรดก เป็นจำนวนเงินที่ไม่น้อยเลย โดยเฉพาะในกรณีที่เป็นมรดกที่แปรเป็นเงินยาก เช่นอสังหาริมทรัพย์ ฉะนั้นจึงได้มีการอนุญาตให้ผ่อนจ่ายภาษีมรดกได้ โดยมีเงื่อนไขดังนี้
สามารถเกิดขึ้นได้ในกรณีที่จ่ายเกินจำนวน ผ่อนจ่ายเกินงวด ซึ่งกฎหมายได้มีมาตรการดูแลความผิดพลาดตรงจุดนี้ ในรูปแบบของการขอคืนภาษีมรดก (ค.10) โดยกรมสรรพากร โดยจะต้องยื่นหลักฐานให้กับพนักงานดังนี้
การเลี่ยงภาษีมรดก มีความผิดทางกฎหมาย อ้างอิงจากพระราชบัญญัติภาษีมรดก พ.ศ. 2475 ที่ระบุว่า หากผู้ได้รับมรดกไม่ยื่นภาษีโดยเหตุสมควร มีโทษปรับไม่เกิน 500,000 บาท และเสียเบี้ยปรับอีก 1 เท่าจากภาษีที่ต้องจ่าย และผู้ได้รับมรดกยื่นภาษีแต่ไม่ครบถ้วนหรือไม่ตรงตามความเป็นจริง ต้องเสียเบี้ยปรับอีก 5 เท่าของภาษีที่ต้องจ่าย
สุดท้ายหากมรดกมีจำนวนที่เยอะ แบ่งมรดก และไกล่เกลี่ยยาก จนอาจจะทำให้เกิดปัญหาบาดหมางได้ในการต่อไป เราก็อาจจะมีวิธีการจัดการมรดกที่เป็นกลาง และไม่สร้างความร้าวฉานในครอบครัวอื่น ๆ มาให้ทุกคนได้เลือกใช้ได้
เรียกได้ว่าเรื่องของมรดก การแบ่งมรดก มีความซับซ้อน และละเอียดอ่อนอย่างมาก เพราะ แรบบิท แคร์ เชื่อว่าทุกคนย่อมต้องอยากจากโลกนี้ไปด้วยความสบายใจว่าคนที่เรารักจะมีชีวิตที่สุขสบาย ผาสุก ฉะนั้นแรบบิท แคร์ จึงอยากแนะนำประกันชีวิตจากบริษัทประกันชั้นนำในประเทศไทย พร้อมสิทธิพิเศษส่งตรงไปถึงคนรุ่นหลัง เพิ่มความมั่นคงในชีวิตของพวกเราทุกคนได้เลย !
Health Insurance Widget
นักเขียนรุ่นไฮบริด เขียนบทความด้านการบริหารเงินส่วนบุคคลและการลงทุนต่าง ๆ กว่า 7 ปี เริ่มต้นที่งานเขียนที่ Rabbit Finance จนย้ายมาที่ Rabbit Care และ Asia Direct
บทความแคร์การเงิน
บัตรเครดิตเติมน้ำมัน (Fleet Card) คืออะไร ? มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร ?
ผ่อนบอลลูน คือ อะไร มีข้อดีข้อเสียอย่างไร เหมาะสมกับใครมากที่สุด
ไม่มีรถคืนไฟแนนซ์ ต้องเจอปัญหาใหญ่แค่ไหน