
บัตรเครดิตเติมน้ำมัน (Fleet Card) คืออะไร ? มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร ?
นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 22 มกราคม 2562 กระทรวงพาณิชย์นำเสนอมติผลการประชุมกรรมการกลางว่าด้วยเรื่องราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ครั้งที่ 1 ปี 2562 จะยื่นเรื่องให้ทบทวนบัญชีสินค้าและบริการควบคุมที่จะใช้บังคับในปี 2562
โดยมีสินค้าและบริการควบคุมรวมทั้งสิน 52 รายการ ลดลงจากปี 2561 ที่มีจำนวน 54 รายการ ซึ่งในส่วนของบริการได้เพิ่มบริการทางการแพทย์เข้าไป และในส่วนของสินค้าได้เพิ่มยาและเวชภัณฑ์ และส่วนที่ถอดออกจากบัญชีสินค้าควบคุมจำนวน 4 รายการ ได้แก่ น้ำตาลทราย เยื่อกระดาษ เม็ดพลาสติก และแบตเตอรี่รถยนต์ ทำให้มีสินค้าควบคุมเหลือ 46 จากเดิม 49 รายการ
ทั้งนี้สาเหตุที่ถอดน้ำตาลทรายออก เพราะปัจจุบันมีการปรับโครงสร้างราคาน้ำตาลทรายให้ลอยตัวตามกลไกตลาด และขณะนี้ราคาปรับตัวลดลง ส่วนเยื่อกระดาษ เม็ดพลาสติก และแบตเตอรี่รถยนต์ ปรับเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน เพราะมีผู้ผลิตหลายราย มีการแข่งขัน และไม่มีปัญหาด้านราคา
ส่วนการเพิ่มยาและเวชภัณฑ์ และบริการทางการแพทย์ เข้ามาเป็นสินค้าและบริการควบคุม เนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากประชาชนเข้ามาเป็นจำนวนมากว่า โรงพยาบาลเอกชนมีการคิดค่ายา ค่าเวชภัณฑ์ และค่ารักษาพยาบาลแพงเกินสมควร ทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบ จึงต้องนำเข้ามาเป็นสินค้าและบริการควบคุม เพื่อให้สามารถมีมาตรการเจ้ามากำกับดูแลตามความเหมาะสม
ทางด้านนายประโยชน์ เพ็ญสุด รองอธิการบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า หากที่ประชุมรัฐมนตรี ในวันที่ 22 ม.ค. 62 มีมติเห็นชอบรายการสินค้าและบริการในบัญชีควบคุมตามที่คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) จะมีการเสนอให้ตั้งคณะอนุกรรมการที่พิจารณามาตรการดูแลยาและเวชภัณฑ์ และบริการทางการแพทย์ขึ้นมา 1 ชุด เพื่อหารือรายละเอียดจากข้อมูลทุกๆ ฝ่ายในการพิจารณาแนวทาง และมาตรการในการดูแลที่จะสร้างความเป็นธรรมให้กับทุกฝ่าย
นอกจากเรื่องของการดูแลค่ายาและค่าบริการทางการแพทย์แล้ว ในส่วนของแนวทางการเผยแพร่ราคายาที่จำเป็นและค่ารักษาพยาบาลผ่านทางเว็บไซต์กลาง และเว็บไซต์ของโรงพยาบาลเอกชนแต่ละแห่ง เพื่อให้ประชาชนได้เปรียบเทียบราคาและตัดสินใจ เข้ารับการรักษาก็มีความคืบหน้าเช่นกัน
หลังจากก่อนหน้านี้กรมการค้าภายใน ได้ขอความร่วมมือให้กระทรวงสาธารณสุขหารือกับโรงพยาบาลเอกชน และมั่นใจว่าเรื่องดังกล่าวจะเป็นของขวัญวันปีใหม่ไทยอย่างแน่นอน หรือคาดว่าในวันที่ 13 เมษายน 2562 โรงพยาบาลเอกชนกว่า 100 แห่ง จะต้องเผยแพร่ข้อมูล ค่ารักษาผ่านเว็บไซต์กลาง และเว็บไซต์ของโรงพยาบาลเอกชนทั่วประเทศพร้อมกัน
ทั้งนี้สำหรับรายการสินค้าและบริการควบคุมที่คาดว่าจะมีปัญหา คือ ยาและเวชภัณฑ์และบริการทางการแพทย์ เพราะขณะนี้โรงพยาบาลเอกชนได้แสดงความไม่เห็นด้วย โดยให้เหตุผลว่า โรงพยาบาลเอกชนต่างจากโรงพยาบาลของรัฐที่มีงบประมาณสนับสนุน อีกทั้งยังต้องลงทุนในด้านเทคโนโลยี ทำให้มีต้นทุนเพิ่มสูงขึ้น และแต่ละโรงพยาบาลก็จะมีต้นทุนในด้านนี้แตกต่างกันไป แต่ทางด้านผู้บริโภคก็ต้องการให้กระทรวงพาณิชย์เข้ามาดูแล เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการคิดราคาที่สูงเกินจริง
อย่างไรก็ตามคงต้องรอผลสรุปการประชุมครม. ว่าจะเป็นอย่างไร อาจจะมีการเห็นชอบให้เป็นสินค้าและบริการควบคุม หรืออีกทางคือ ไม่เห็นชอบเฉพาะยา เวชภัณฑ์ และค่าบริการ ออกจากสินค้าและบริการควบคุมตามมติกกร. เพื่อให้รายการสินค้าและบริการที่ยังเหลืออยู่ในบัญชีมีมาตรการดูแลต่อไป
ขอบคุณข้อมูล : https://www.posttoday.com/economy/577767
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_1327044
ทีมกองบรรณาธิการ กลุ่มนักเขียนผู้มีประสบการณ์ด้านรถยนต์ การเงิน และประกันภัย ของ แรบบิท แคร์ ที่เปิดดำเนินการมาแล้วมากกว่า 10 ปี
บทความแคร์การเงิน
บัตรเครดิตเติมน้ำมัน (Fleet Card) คืออะไร ? มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร ?
ผ่อนบอลลูน คือ อะไร มีข้อดีข้อเสียอย่างไร เหมาะสมกับใครมากที่สุด
ไม่มีรถคืนไฟแนนซ์ ต้องเจอปัญหาใหญ่แค่ไหน