คู่มือประกันสุขภาพกับการลดหย่อนภาษีปี 2568 ฉบับสมบูรณ์

การวางแผนภาษีเป็นเรื่องสำคัญสำหรับผู้มีเงินได้ทุกคน และหนึ่งในเครื่องมือที่ได้รับความนิยมและให้ประโยชน์หลายต่อคือ “ประกันสุขภาพ” ไม่เพียงแต่จะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล แต่เบี้ยประกันที่จ่ายไปในแต่ละปียังสามารถนำมาใช้ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้อีกด้วย สำหรับปีภาษี 2568 นี้ การทำความเข้าใจเงื่อนไขและวงเงินลดหย่อนล่าสุด จะช่วยให้คุณวางแผนได้อย่างคุ้มค่าและใช้สิทธิ์ได้อย่างเต็มที่

สิทธิประโยชน์ของประกันสุขภาพในการลดหย่อนภาษี

รัฐบาลสนับสนุนให้ประชาชนมีการวางแผนด้านสุขภาพและการเงินผ่านการให้สิทธิลดหย่อนภาษีสำหรับเบี้ยประกัน ซึ่งการทำประกันสุขภาพนั้นมอบประโยชน์สองด้านหลักๆ คือการสร้างหลักประกันด้านสุขภาพ ช่วยลดความเสี่ยงจากภาระค่ารักษาพยาบาลที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดฝัน และในขณะเดียวกันก็เป็นเครื่องมือในการวางแผนภาษี ช่วยให้คุณประหยัดเงินในกระเป๋าได้มากขึ้น การเลือกทำประกันสุขภาพจึงเป็นการตัดสินใจที่คุ้มค่าทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

อัปเดตวงเงินลดหย่อนภาษีจากประกันสุขภาพปี 2568

สำหรับปีภาษี 2568 ผู้มีเงินได้สามารถนำเบี้ยประกันสุขภาพของตนเองมาลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง แต่สูงสุดไม่เกิน 25,000 บาทต่อปี อย่างไรก็ตาม มีข้อควรจำที่สำคัญคือ เมื่อนำเบี้ยประกันสุขภาพนี้ไปรวมกับเบี้ยประกันชีวิตทั่วไปแล้ว จะต้องไม่เกิน 100,000 บาท

ตัวอย่างการคำนวณลดหย่อนภาษี

กรณีที่ 1 จ่ายเบี้ยประกันชีวิต 80,000 บาท และเบี้ยประกันสุขภาพ 25,000 บาท จะสามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนรวมกันได้สูงสุดที่ 100,000 บาท

กรณีที่ 2 จ่ายเบี้ยประกันชีวิต 50,000 บาท และเบี้ยประกันสุขภาพ 25,000 บาท จะสามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนรวมกันได้ 75,000 บาท

นอกจากนี้ เบี้ยประกันอุบัติเหตุที่ให้ความคุ้มครองด้านสุขภาพ และเบี้ยประกันโรคร้ายแรง ก็สามารถนำมาคำนวณรวมในวงเงินลดหย่อนค่าเบี้ยประกันสุขภาพ 25,000 บาทนี้ได้เช่นกัน

เงื่อนไขสำคัญของประกันสุขภาพที่สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้

เพื่อให้สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีจากเบี้ยประกันสุขภาพได้อย่างถูกต้อง กรมธรรม์ประกันสุขภาพนั้นจะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด โดยต้องเป็นการทำประกันกับบริษัทประกันในประเทศไทยเท่านั้น ปัจจุบัน บริษัทประกันส่วนใหญ่จะอำนวยความสะดวกโดยการส่งข้อมูลเบี้ยประกันที่ลูกค้าชำระให้กับกรมสรรพากรโดยตรง ผู้เอาประกันเพียงต้องแจ้งความประสงค์ขอใช้สิทธิลดหย่อนภาษีกับบริษัทประกันนั้นๆ

ซื้อประกันสุขภาพให้พ่อแม่ ลดหย่อนภาษีได้เพิ่มเติม

นอกเหนือจากการลดหย่อนภาษีสำหรับประกันสุขภาพของตนเองแล้ว กฎหมายยังเปิดโอกาสให้สามารถลดหย่อนภาษีจากการซื้อประกันสุขภาพให้กับบิดามารดาได้อีกด้วย

• วงเงินลดหย่อน สามารถนำเบี้ยประกันสุขภาพของบิดามารดามาลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 15,000 บาทต่อปี
• เงื่อนไขสำคัญ
  • รายได้ของบิดามารดา ท่านต้องมีรายได้รวมทั้งปีภาษีไม่เกิน 30,000 บาท
  • ความเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย ผู้ที่ต้องการใช้สิทธิ์ลดหย่อนต้องเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายเท่านั้น (บุตรบุญธรรมไม่สามารถใช้สิทธิ์นี้ได้)
  • การใช้สิทธิ์ซ้ำซ้อน พี่น้องไม่สามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนเบี้ยประกันของบิดามารดาคนเดียวกันซ้ำซ้อนได้ ต้องมีการตกลงกันว่าใครจะเป็นผู้ใช้สิทธิ์

เทคนิคซื้อประกันสุขภาพควบประกันชีวิต เพื่อใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีเต็มเพดาน

เพื่อให้การวางแผนภาษีเกิดประโยชน์สูงสุด การซื้อประกันสุขภาพควบคู่ไปกับประกันชีวิตเป็นกลยุทธ์ที่น่าสนใจ เพราะสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้เต็มเพดานสูงสุดถึง 100,000 บาท

• ประกันชีวิตทั่วไป สามารถลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 100,000 บาท โดยมีเงื่อนไขว่ากรมธรรม์ต้องมีระยะเวลาคุ้มครอง 10 ปีขึ้นไป
• ประกันสุขภาพ ลดหย่อนได้ตามจริง ไม่เกิน 25,000 บาท

การวางแผนที่ดีคือการจัดสรรเบี้ยประกันทั้งสองประเภทให้เหมาะสมกับความต้องการและความสามารถในการชำระเบี้ย โดยคำนึงถึงวงเงินลดหย่อนรวมที่ไม่เกิน 100,000 บาท เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองที่ครอบคลุมและใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีได้อย่างคุ้มค่า

สรุปและขั้นตอนการเตรียมเอกสารเพื่อยื่นลดหย่อนภาษี

การใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีจากเบี้ยประกันสุขภาพเป็นวิธีที่ชาญฉลาดในการบริหารเงินและสร้างความมั่นคงด้านสุขภาพไปพร้อมกัน สำหรับปีภาษี 2568 วงเงินลดหย่อนสำหรับเบี้ยประกันสุขภาพของตนเองยังคงอยู่ที่ 25,000 บาท และเมื่อรวมกับประกันชีวิตทั่วไปต้องไม่เกิน 100,000 บาท นอกจากนี้ยังสามารถลดหย่อนเพิ่มได้อีก 15,000 บาทจากการซื้อประกันสุขภาพให้บิดามารดาภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด

ขั้นตอนการเตรียมเอกสาร

* หนังสือรับรองการชำระเบี้ยประกัน เอกสารสำคัญที่สุดคือหนังสือรับรองการชำระเบี้ยประกันที่ออกโดยบริษัทประกัน ซึ่งจะระบุจำนวนเบี้ยประกันที่สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ โดยส่วนใหญ่สามารถขอได้จากแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ของบริษัทประกัน

* การแจ้งความประสงค์ใช้สิทธิ ผู้เอาประกันต้องแจ้งความประสงค์ต่อบริษัทประกันเพื่อให้นำส่งข้อมูลเบี้ยประกันของคุณไปยังกรมสรรพากร

* การยื่นภาษี ในขั้นตอนการยื่นภาษีออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ของกรมสรรพากร ให้กรอกจำนวนเบี้ยประกันที่ชำระตามจริงในหมวดค่าลดหย่อนกลุ่มประกัน โดยอ้างอิงจากเอกสารหนังสือรับรองการชำระเบี้ย