ประกันบำนาญ ตัวช่วยลดหย่อนภาษีและวางแผนเกษียณที่คุณต้องรู้
ในยุคที่ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มตัว การวางแผนการเงินเพื่ออนาคตหลังเกษียณจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกคนไม่ควรมองข้าม หนึ่งในเครื่องมือทางการเงินที่ได้รับความนิยมและตอบโจทย์การวางแผนเกษียณพร้อมรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีคือ “ประกันบำนาญ” บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจทุกแง่มุมของประกันบำนาญ เพื่อให้คุณสามารถวางแผนอนาคตได้อย่างมั่นคง
ประกันบำนาญคืออะไร ทำไมจึงสำคัญต่อการวางแผนเกษียณ
ประกันบำนาญ หรือ ประกันชีวิตแบบบำนาญ (Annuity) คือ ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่เน้นการออมเงินระยะยาวเพื่อสร้างรายได้ที่แน่นอนให้กับตนเองหลังเกษียณอายุ โดยผู้เอาประกันจะชำระเบี้ยประกันตามระยะเวลาที่กำหนดในกรมธรรม์ และเมื่อถึงอายุที่กำหนดไว้ เช่น 55 หรือ 60 ปี บริษัทประกันจะเริ่มจ่ายเงินคืนในรูปแบบของเงินบำนาญเป็นรายงวดอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งเปรียบเสมือนการสร้างเงินเดือนให้ตัวเองใช้ในยามที่ไม่มีรายได้ประจำจากการทำงาน
ความสำคัญของประกันบำนาญต่อการวางแผนเกษียณมีหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างวินัยในการออม การันตีว่าจะมีรายได้อย่างต่อเนื่องในวัยเกษียณโดยไม่ต้องพึ่งพาลูกหลาน และยังช่วยลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาดการลงทุน นอกจากนี้ยังมอบความคุ้มครองชีวิตหากเกิดเหตุไม่คาดฝันอีกด้วย
สิทธิประโยชน์ทางภาษีของประกันบำนาญ ลดหย่อนได้เท่าไหร่
หนึ่งในจุดเด่นสำคัญของประกันบำนาญคือสิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
- ลดหย่อนได้สูงสุด 200,000 บาท เบี้ยประกันบำนาญสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 15% ของเงินได้พึงประเมิน และไม่เกิน 200,000 บาท
- รวมกับกองทุนเพื่อการเกษียณอื่น ๆ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท วงเงิน 200,000 บาทนี้ เมื่อนำไปรวมกับเงินลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF), กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ, กบข., กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน และกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) แล้วจะต้องไม่เกิน 500,000 บาท
- ใช้สิทธิลดหย่อนเพิ่มได้สูงสุดถึง 300,000 บาท ในกรณีที่ผู้เสียภาษียังไม่ได้ใช้สิทธิลดหย่อนเบี้ยประกันชีวิตทั่วไป (วงเงิน 100,000 บาท) สามารถนำเบี้ยประกันบำนาญมาใช้ลดหย่อนในส่วนนี้ได้ ทำให้สามารถลดหย่อนภาษีด้วยประกันบำนาญได้สูงสุดถึง 300,000 บาท
เงื่อนไขสำคัญของประกันบำนาญที่ต้องรู้ก่อนตัดสินใจ
ก่อนตัดสินใจทำประกันบำนาญเพื่อใช้สิทธิลดหย่อนภาษี ควรทำความเข้าใจเงื่อนไขสำคัญต่างๆ ตามที่กรมสรรพากรกำหนด ดังนี้
- ระยะเวลาคุ้มครอง กรมธรรม์ประกันชีวิตแบบบำนาญต้องมีระยะเวลาคุ้มครองตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป
- บริษัทประกันในประเทศ ต้องเป็นกรมธรรม์ที่ทำกับบริษัทประกันชีวิตที่ประกอบกิจการในประเทศไทยเท่านั้น
- การจ่ายผลประโยชน์ มีการกำหนดจ่ายผลประโยชน์เป็นเงินบำนาญรายงวดอย่างสม่ำเสมอ เมื่อผู้เอาประกันมีอายุตั้งแต่ 55 ปีขึ้นไป จนถึงอายุ 85 ปีหรือมากกว่านั้น
- ชำระเบี้ยครบถ้วน ผู้เอาประกันจะต้องจ่ายเบี้ยประกันภัยครบถ้วนแล้วก่อนที่จะได้รับผลประโยชน์เงินบำนาญ
ข้อดีและข้อควรพิจารณาของประกันบำนาญ
เพื่อให้การตัดสินใจของคุณรอบคอบที่สุด ควรพิจารณาทั้งข้อดีและข้อจำกัดของประกันบำนาญ
ข้อดี
- สร้างรายได้ที่แน่นอนหลังเกษียณ ประกันบำนาญการันตีการจ่ายเงินคืนเป็นรายงวดที่แน่นอน ช่วยให้คุณวางแผนการใช้จ่ายในวัยเกษียณได้อย่างมั่นใจ ไม่ต้องกังวลกับความผันผวนของสภาวะเศรษฐกิจ
- สร้างวินัยในการออมระยะยาว การชำระเบี้ยประกันอย่างสม่ำเสมอเป็นการสร้างวินัยทางการเงินที่ดี ทำให้มั่นใจได้ว่าจะมีเงินออมส่วนหนึ่งไว้สำหรับวัยเกษียณอย่างแน่นอน
- ความคุ้มครองชีวิต นอกจากผลประโยชน์ด้านเงินบำนาญแล้ว ยังมอบความคุ้มครองกรณีเสียชีวิต ทำให้มีเงินก้อนเป็นมรดกตกทอดไปยังผู้รับผลประโยชน์ที่ระบุไว้
- ลดหย่อนภาษีได้ เป็นเครื่องมือวางแผนเกษียณที่ให้ประโยชน์สองต่อ คือการออมเงินเพื่ออนาคตและประหยัดภาษีในปัจจุบัน
ข้อควรพิจารณา
- ผลตอบแทนอาจไม่สูง ผลตอบแทนของประกันบำนาญมักจะอยู่ในระดับที่ไม่สูงมากนัก เฉลี่ยประมาณ 2-3% ต่อปี ซึ่งอาจไม่สามารถเอาชนะอัตราเงินเฟ้อได้
- สภาพคล่องต่ำ เป็นการลงทุนระยะยาว เงินที่จ่ายไปไม่สามารถถอนออกมาใช้ก่อนกำหนดได้ หากเวนคืนกรมธรรม์ก่อนครบกำหนดอาจไม่ได้รับเงินคืนเต็มจำนวน
- ความคุ้มครองชีวิตไม่สูง แบบประกันบำนาญจะเน้นไปที่การสร้างรายได้หลังเกษียณ ทำให้ความคุ้มครองกรณีเสียชีวิตอาจไม่สูงเท่าประกันชีวิตแบบอื่น ๆ
วิธีเลือกซื้อประกันบำนาญให้เหมาะกับเป้าหมายทางการเงิน
การเลือกซื้อประกันบำนาญที่เหมาะสม ควรพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายและความสามารถทางการเงินของคุณ
- กำหนดเป้าหมายเงินบำนาญที่ต้องการ คำนวณค่าใช้จ่ายที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในวัยเกษียณ เพื่อกำหนดว่าคุณต้องการเงินบำนาญรายเดือนหรือรายปีเป็นจำนวนเท่าไหร่ โดยทั่วไปควรตั้งเป้าไว้ที่ประมาณ 70% ของค่าใช้จ่ายในปัจจุบัน
- ประเมินความสามารถในการชำระเบี้ย เลือกชำระเบี้ยประกันในจำนวนที่เหมาะสมกับรายได้ โดยไม่กระทบต่อสภาพคล่องทางการเงินในปัจจุบัน สัดส่วนที่แนะนำคือประมาณ 15-20% ของรายได้ต่อปี
- พิจารณาระยะเวลาชำระเบี้ยและช่วงเวลารับบำนาญ แบบประกันบำนาญมีให้เลือกหลากหลาย ทั้งแบบชำระเบี้ยระยะสั้น (เช่น 5 ปี, 10 ปี) และชำระเบี้ยจนถึงอายุเกษียณ ควรเลือกระยะเวลาที่สอดคล้องกับแผนการเงินของคุณ
- เปรียบเทียบผลประโยชน์และความคุ้มครอง ศึกษาและเปรียบเทียบแบบประกันจากหลายๆ บริษัท ทั้งในด้านจำนวนเงินบำนาญที่จะได้รับ, ผลประโยชน์กรณีเสียชีวิต, และเงื่อนไขอื่นๆ เพื่อให้ได้แผนที่คุ้มค่าที่สุด
ขั้นตอนการนำเบี้ยประกันบำนาญไปใช้ลดหย่อนภาษี
การนำเบี้ยประกันบำนาญไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีนั้นไม่ยุ่งยาก เพียงปฏิบัติตามขั้นตอนต่อไปนี้
- รวบรวมเอกสาร เตรียมหนังสือรับรองการชำระเบี้ยประกันภัยที่ได้รับจากบริษัทประกัน ซึ่งจะระบุจำนวนเบี้ยประกันที่ชำระในปีภาษีนั้นๆ
- กรอกแบบแสดงรายการภาษี เมื่อถึงเวลายื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด. 90/91) ให้นำจำนวนเบี้ยประกันบำนาญที่ชำระจริงไปกรอกในหมวดค่าลดหย่อน กลุ่มประกันชีวิต ประกันสุขภาพ และเงินฝาก
- คำนวณสิทธิลดหย่อนภาษี ตรวจสอบสิทธิของตนเองว่าสามารถใช้ลดหย่อนได้เท่าไหร่ โดยคำนึงถึงเงื่อนไขเพดาน 15% ของเงินได้, วงเงินสูงสุด 200,000 บาท และวงเงินรวมกับกองทุนเกษียณอื่นๆ ที่ 500,000 บาท
- ยื่นภาษี ยื่นแบบแสดงรายการภาษีพร้อมแนบเอกสาร (หากสรรพากรเรียกขอ) ภายในระยะเวลาที่กำหนด
สรุป ประกันบำนาญเหมาะกับใครและควรเริ่มต้นเมื่อไหร่
ประกันบำนาญเหมาะสำหรับ
- ผู้ที่ต้องการวางแผนเกษียณและสร้างรายได้ที่แน่นอน เหมาะกับคนที่ต้องการความมั่นคงทางการเงิน ไม่ต้องการรับความเสี่ยงจากการลงทุนที่ผันผวน
- ผู้ที่ต้องการสิทธิประโยชน์ทางภาษี เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้มีเงินได้ที่ต้องการประหยัดภาษีควบคู่ไปกับการออมเพื่อเกษียณ
- ผู้ที่ไม่มีสวัสดิการบำนาญอื่น ๆ เช่น ฟรีแลนซ์ เจ้าของกิจการ หรือพนักงานเอกชนที่ไม่มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ประกันบำนาญจะช่วยสร้างหลักประกันรายได้ให้คุณได้
- ผู้ที่ต้องการสร้างวินัยในการออม การจ่ายเบี้ยประกันเป็นประจำช่วยสร้างวินัยทางการเงิน ทำให้มีเงินเก็บเพื่อวัยเกษียณอย่างแน่นอน
ควรเริ่มต้นเมื่อไหร่?
คำตอบที่ดีที่สุดคือ “เริ่มต้นเมื่อพร้อม” และ “ยิ่งเร็วยิ่งดี” การเริ่มต้นทำประกันบำนาญตั้งแต่อายุยังน้อย หรือในช่วงวัยทำงานประมาณ 30 ปีขึ้นไป จะมีข้อได้เปรียบคือค่าเบี้ยประกันต่อปีจะถูกกว่าการทำตอนอายุมาก ทำให้สามารถสะสมเงินก้อนเพื่อวัยเกษียณได้มากขึ้นโดยไม่เป็นภาระทางการเงินที่หนักเกินไป
โดยสรุป ประกันบำนาญเป็นเครื่องมือทางการเงินที่มีประสิทธิภาพในการวางแผนเกษียณและลดหย่อนภาษี การศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดและเลือกแผนประกันที่เหมาะสมกับเป้าหมาย จะช่วยให้คุณมีอนาคตในวัยเกษียณที่มั่นคงและมีความสุขได้ตามที่ตั้งใจไว้

Thirakan Thongseenual เป็นนักเขียนที่มีประสบการณ์มากกว่า 3 ปี ที่ RabbitCare และ Asia Direct โดยมีความชำนาญในประกันรถยนต์ เน้นเขียนบทความที่เผยแพร่บน Blog และมีความเชี่ยวชาญด้าน SEO กว่า 4 ปี ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอได้ใช้ในการสร้างความรู้และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของ RabbitCare อย่างมีประสิทธิภาพ จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ปริญญาตรี สาขา Information Technology

