ประตูหนีบนิ้ว! อุบัติเหตุเล็กๆ ที่ไม่เล็กอย่างที่คิด
ประตูหนีบนิ้ว อุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้เสมอ แน่นอนว่าดูผิวเผินอาจจะเป็นอุบัติเหตุเล็กๆ น้อยๆ แต่คุณรู้หรือไม่ว่า บางครั้ง ประตูหนีบนิ้ว อาจจะเป็นเรื่องใหญ่กว่าที่คุณคิดก็ได้ ว่าแต่ถ้าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เราจะทำอย่างไรดีนะ ? อาการแบบไหนควรไปพบแพทย์ คลิกเลย!
ประตูหนีบนิ้ว! อุบัติเหตุเล็กๆ ที่ไม่เล็กอย่างที่คิด
เช็กความรุนแรงของบาดแผล และอาการบาดเจ็บ
นอกจากอย่าตื่นตกใจ พยายามคุมสติแล้ว คุณลองตรวจเช็กนิ้ว มือ ที่โดนประตูหนีบมีบาดแผล มีเลือดออกหรือไม่ รวมไปถึงเช็กว่า มีอาการเล็บฉีกหรือเปล่า
ในกรณีที่มีอาการดั่งกล่าว ควรเริ่มต้นด้วยการทำความสะอาดบาดแผลด้วยสบู่และน้ำสะอาด ซับให้แห้ง และทำแผลด้วยเบตาดีน หรือปิดพลาสเตอร์ให้เรียบร้อย เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อโรคเข้าไปในแผล
บรรเทาอาการปวด ด้วยการประคบเย็น
หลังจากเช็กอาการของนิ้ว หรือมือที่ถูกประตูหนีบแล้ว ให้คุณใช้น้ำแข็ง หรือแผ่นทำความเย็น ห่อด้วยผ้าขนหนูสะอาด แล้วมาประคบในบริเวณนิ้วที่โดนประตูหนีบ และควรทำทันที เพราะการประคบเย็นในทันที จะสามารถช่วยลดอาการปวดและอาการบวมลงได้ และควรประคบเย็นต่อเนื่องเป็นเวลาประมาณ 10 นาที และประคบทุกๆ 20 นาที ตลอดวัน
ที่สำคัญ ต้องระวังอย่าให้น้ำแข็งสัมผัสกับผิวโดยตรงเป็นเวลานาน เพราะอาจเสี่ยงโดนน้ำแข็งกัดได้ และอย่าประคบแรงเกินไป เพราะจะยิ่งทำให้เกิดอาการช้ำ และปวดรุนแรงแทนได้
หรือในกรณีที่ไม่มีน้ำแข็งจริงๆ คุณอาจจะหาอะไรที่เย็นๆ มาประคบแทนแก้ขัดไปก่อนก็ได้ อย่าง ถุงผัก, ถุงอาหารแช่แข็งที่อยู่ในช่องฟรีซ ก็สามารถใช้ได้ทดแทนชั่วคราวเหมือนกัน
ควรยกนิ้วขึ้นสูงกว่าระดับหัวใจ
การยกนิ้วขึ้นให้สูงกว่าระดับของหัวใจ จะทำให้เลือดไหลเวียนไปยังบริเวณที่บาดเจ็บได้ช้าลง และช่วยลดแรงดัน อาการบวม และอาการอักเสบได้
นอกเหนือจากการหมั่นยกนิ้วแล้ว แนะนำว่า อย่าเพิ่งใช้นิ้วที่โดนประตูหนีบในทันที ควรหยุดพักให้นิ้วมีอาการดีขึ้น เพราะอาจทำให้อาการบาดเจ็บนั้นรุนแรงขึ้นมากกว่าเดิม
ที่สำคัญ อย่าลืมหมั่นเช็กอาการ หรือคอยสังเกตดูว่า นิ้วที่โดนหนีบนั้นมีอาการบวม อักเสบ หรือมีอาการอื่นๆ แทรกซ้อนเข้ามาหรือไม่อีกด้วย เพราะโดยทั่วไป อาการที่โดนประตูหนีบนิ้ว สามารถหายได้เองภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์
แต่ในบางครั้ง หากโดนประตูหนีบแรงๆ หรือมีบาดแผลที่ดูแลทำความสะอาดได้ไม่เพียงพอ ก็อาจทำให้เกิดปัญหา และหากมีอาการดั่งต่อไปนี้ ควรได้รับการรักษาจากแพทย์
- นิ้วรู้สึกชาทหรือไม่มีความรู้สึก
- ไม่สามารถขยับนิ้ว หรืองอนิ้วไม่ได้
- นิ้วเบี้ยวผิดรูป หรือกระดูกหัก
- มีสัญญาณของการติดเชื้อ เช่น น้ำหนอง นิ้วบวมแดง หรือมีไข้
- ข้อหรือกระดูกที่ฝ่ามือบาดเจ็บ
- เนื้อรองเล็บบาดเจ็บ
- มีแผลบาดลึก
- มีสิ่งสกปรกติดค้างที่ต้องเอาออกไม่ให้ติดเชื้อ
- ไม่หายสนิทเสียที หรืออาการไม่ดีขึ้น
ทานยาแก้ปวด หากยังปวดแผลอยู่
หากมีอาการปวดมากจนทนไม่ไหว สามารถกินยาแก้ปวด หรือยาลดอักเสบที่หาซื้อได้ตามร้านขายยาและควรมีติดไว้ในตู้ยาสามัญประจำบ้าน เช่น ยาพาราเซตามอล ยาไอบูโพรเฟน (ibuprofen) หรือยาแอสไพริน เพื่อช่วยบรรเทาอาการปวดและอาการอักเสบได้ แต่ก่อนทานยานั้น ควรปรึกษาแพทย์ หรือเภสัชก่อนซื้อเสมอด้วย
อย่าลืม กินยาให้ครบโดสตามที่คุณหมอสั่ง หรือเภสัชกรแนะนำ อย่างยา Acetaminophen ต้องกินทุก 4 – 6 ชั่วโมง ส่วน ibuprofen ทุก 6 – 8 ชั่วโมง และถ้าคุณมีปัญหาเรื่องกระเพาะ ไต หรือท้องอยู่ อย่าทานยา ibuprofen โดยไม่ปรึกษาผู้เชียวชาญก่อนเด็ดขาด
ทั่วไปแล้ว อาการบาดเจ็บก็ควรจะดีขึ้นอย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่กี่วัน อย่าลืมลองขยับนิ้วที่โดนประตูหนีบดู ว่าสามารถขยับได้ตามปกติหรือไม่ หากคุณไม่สามารถขยับนิ้วได้ หรือไม่สามารถรับรู้ความรู้สึกในบริเวณนิ้วนั้นได้ ควรรีบไปพบหมอเพื่อทำการตรวจในทันที
สิ่งที่ไม่ควรทำ หากโดนประตูหนีบ
ในกรณีที่มีแผลเลือดไหล หลังจากทำความสะอาด เราจะแนะนำให้ใช้พลาสเตอร์ปิดแผล มากกว่าการพันผ้าพันแผล หรือรัดในบริเวณนิ้วที่โดนประตูหนีบ เพราะอาการบาดเจ็บจากการโดนประตูหนีบจะทำให้มีเลือดไหลมาในบริเวณนั้นเป็นจำนวนมาก การพันหรือรัดแผลในบริเวณนี้ จะทำให้เลือดไม่สามารถมาเลี้ยงได้อย่างเพียงพอ และทำให้เนื้อเยื่อในบริเวณที่โดนประตูหนีบเสียหายมากขึ้น
นอกจากนี้ก็พยายามอย่าใช้เพิ่งรีบใช้นิ้วที่บาดเจ็บจนกว่าจะหายดี เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการปวดมากขึ้น หรือทำให้แผลแย่ลงได้
บางครั้ง เลือดจะเริ่มมาสะสมในบริเวณที่ถูกประตูหนีบ ทำให้เกิดเป็นรอยช้ำ หรือห้อเลือด ในบริเวณนิ้ว หรือใต้เล็บ ที่อาจทำให้รู้สึกปวดหรือชาได้ คุณควรเจาะห้อเลือดนั้นโดยใช้เข็มที่ทำการฆ่าเชื้อแล้ว เพื่อช่วยระบายเลือดที่ค้างอยู่ให้ออกไป และทำให้แผลหายได้ไวขึ้น
ประตูหนีบนิ้วนั้น หายได้ไม่ยาก ไม่กี่สัปดาห์ อาการก็จะดีขึ้น และหลังจากนั้นควรพยายามขยับ และยืดนิ้วที่บาดเจ็บนั้น หรือนวดเบาๆ ในบริเวณที่โดนหนีบ เพื่อช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ลดการสะสมของเซลล์เนื้อเยื่อ และเซลล์เลือดที่ตายแล้ว ทำให้อาการบาดเจ็บฟื้นฟูเร็วขึ้นอีกด้วย
เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอ อย่างประตูหนีบนิ้ว หายเราดูแล รักษาไม่ดี หรืออาการไม่ดีขึ้น ก็อาจนำพาไปสู่อาการที่ใหญ่กว่าได้ อย่างงี้ ต้องนี่เลย! ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล จาก Rabbit Care ที่ช่วยให้คุณอุ่นใจได้มากขึ้นกับทุกย่างก้าวของชีวิต
ไม่ว่าจะเรื่องใหญ่ประตูหนีบนิ้วจนกระดูกแตก หรือแค่หกล้มเป็นแผล ก้างปลาติดคอ ประกันอุบัติเหตุเหล่านี้ก็ช่วยเหลือคุณได้!
สรุป
ประตูหนีบนิ้วเป็นอุบัติเหตุที่พบได้บ่อยในชีวิตประจำวัน อาจเกิดขึ้นได้กับเด็กเล็ก ผู้ใหญ่ หรือผู้สูงอายุ ความรุนแรงของอุบัติเหตุขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น แรงที่หนีบ ระยะเวลาที่หนีบ และตำแหน่งที่โดนหนีบ หากหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุไม่ได้ ก็ควรรีบปฐมพยาบาลอย่างถูกต้อง เพื่อลดความเสี่ยงของผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นแต่หากอาการรุนแรง เช่น ปวดมาก เลือดออกมาก เล็บฉีกมาก หรือสงสัยว่ากระดูกนิ้วหักหรือร้าว ควรรีบไปพบแพทย์โดยเร็ว
นักเขียนรุ่นไฮบริด เขียนบทความด้านการบริหารเงินส่วนบุคคลและการลงทุนต่าง ๆ กว่า 7 ปี เริ่มต้นที่งานเขียนที่ Rabbit Finance จนย้ายมาที่ Rabbit Care และ Asia Direct