7 ขั้นตอนเตรียมตัวก่อนกู้บ้านหลังแรก

กองบรรณาธิการ
ผู้เขียน: กองบรรณาธิการ Published: October 24, 2019
กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการ
ทีมกองบรรณาธิการ กลุ่มนักเขียนผู้มีประสบการณ์ด้านรถยนต์ การเงิน และประกันภัย ของ แรบบิท แคร์ ที่เปิดดำเนินการมาแล้วมากกว่า 10 ปี
คะน้าใบเขียว
แก้ไขโดย: คะน้าใบเขียว Last edited: October 25, 2019
คะน้าใบเขียว
คะน้าใบเขียว
นักเขียนรุ่นไฮบริด เขียนบทความด้านการบริหารเงินส่วนบุคคลและการลงทุนต่าง ๆ กว่า 7 ปี เริ่มต้นที่งานเขียนที่ Rabbit Finance จนย้ายมาที่ Rabbit Care และ Asia Direct
ขั้นตอนการกู้บ้านหลังแรก

หลายคนอาจจะคิดว่าการกู้เงินซื้อบ้านหรือคอนโดสักหลังอาจจะเป็นเรื่องยาก แน่นอนว่าอาจจะต้องเตรียมตัวหลายขั้นตอนสักนิด เนื่องจากธนาคารต้องการมั่นใจจริงๆ ว่าคุณจะสามารถผ่อนภาระหนี้ที่กู้ได้ Bangkok Citismart จึงขอเสนอ 7 ขั้นตอนที่คุณต้องรู้และเตรียมตัวให้พร้อมก่อนกู้ ซึ่งจะช่วยวางแผนเรื่องเงิน การคำนวนความสามารถในการผ่อน รวมถึงแนวทางการมีประวัติทางด้านบัญชีที่ดีให้เตรียมตัวก่อนจะมีบ้านหรือคอนโดหลังแรก มั่นใจได้ว่าจะสามารถกู้ผ่านได้สบายๆ อย่างแน่นอน

  • คำนวนความสามารถในการกู้

สูตรการคำนวณราคาบ้านที่จะกู้ซื้อได้นั้น สามารถคำนวณคร่าวๆ โดยใช้สูตร ดังนี้

คำนวนความสามารถในการกู้บ้าน

ภาระหนี้สินอื่น หรือศัพท์ธนาคารจะเรียกว่าค่า DSR (Debt Service Ratio) หมายถึงหนี้สินทุกอย่างที่มี เช่น ค่าผ่อนรถ ค่าบัตรเครดิต ค่าโทรศัพท์ เป็นต้น ซึ่งธนาคารส่วนใหญ่จะอนุญาตให้ผู้กู้บ้านมีภาระหนี้ได้ 40% ของรายได้ ดังตัวอย่างภาพขวา สมมติว่ามีรายได้ต่อเดือน 50,000 บาท และภาระหนี้ผ่อนโทรศัพท์อยู่เดือนละ 5,000 บาท ความสามารถผ่อนชำระเมื่อหักลบแล้วจึงเหลือเพียง 15,000 บาท เท่านั้น

และหากจะคำนวนหาวงเงินที่สามารถกู้ได้ ณ ขณะนั้นต้องมาดูกันว่าดอกเบี้ยที่ธนาคารกำหนดไว้เป็นล้านละกี่บาทต่อเดือน ตัวอย่างในภาพจะเป็นการตั้งดอกเบี้ยอยู่ที่ 6.5% ผ่อนชำระล้านละ 7,000 บาทต่อเดือน เมื่อนำมาคำนวนรวมกับความสามารถผ่อนชำระต่อเดือน วงเงินที่สามารถกู้ได้จะอยู่ที่ประมาณ 2,140,000 บาทต่อเดือนครับ

เมื่อทราบกำลังของราคาบ้านหรือคอนโดที่เราสามารถผ่อนไหวแล้ว ก็เป็นขั้นตอนของการเลือกหาที่อยู่อาศัยให้เหมาะสมกับความสามารถต่อไป

  • เก็บเงินไว้ดาวน์

จะซื้อบ้านหรือคอนโดทั้งที ไม่ใช่ว่าจะกู้จากธนาคารอย่างเดียวนะครับ เพราะธนาคารมีกฎให้เรากู้ได้สูงสุด 90% ของราคาบ้านหรือคอนโดเท่านั้น อีก 10% คือเงินดาวน์ที่เราต้องจ่ายเองครับ เช่น หากบ้านราคา 1,000,000 บาท ธนาคารจะให้เรากู้ได้ 900,000 บาท อีก 100,000 บาท เราต้องผ่อนจ่ายให้กับผู้พัฒนาโครงการเป็นรายเดือน ในระหว่างที่โครงการกำลังก่อสร้าง (ธนาคารจะปล่อยกู้เมื่อที่อยู่อาศัยนั้นสร้างเสร็จแล้ว) โดยทั่วไปจะเก็บเงินดาวน์ที่ 10-20% ของราคาบ้านครับ

ก่อนยื่นกู้บ้านแต่ละแบบจะมีโปรแกรมผ่อนแตกต่างกันครับ หากเป็นโครงการแนวราบ เช่น บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮาส์ หรืออาคารพานิชย์ มักจะวางโปรแกรมให้ผ่อน 3-6 เดือนก่อนยื่นกู้บ้าน เช่น บ้านราคา 6,000,000 บาท เรียกเก็บเงินดาวน์ 10% = 600,000 บาท โดยให้ผ่อนดาวน์ 3 เดือน ดังนั้น จึงต้องชำระค่าดาวน์บ้านเฉลี่ยเดือนละ 200,000 บาท

หากเป็นคอนโดมิเนียม จะมีระยะเวลาการก่อสร้างนานกว่า จึงมีโปรแกรมการผ่อนดาวน์ที่ค่อนข้างนานระหว่าง 8 – 36 เดือน ขึ้นอยู่กับความเร็วในการสร้าง วิธีคำนวณเดียวกัน ยกตัวอย่าง ราคาคอนโดฯ 3,000,000 บาท เรียกเก็บเงินดาวน์ 10% = 300,000 บาท โดยให้ผ่อนดาวน์ 12 เดือน ดังนั้น จึงต้องชำระค่าดาวน์คอนโดฯ เฉลี่ยเดือนละ 25,000 บาท

ดังนั้น ก่อนซื้อบ้านหรือคอนโดฯ ควรวางแผนไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ จะได้มีเงินชำระค่าดาวน์ล่วงหน้านะครับ

  • รักษารายการเดินบัญชีให้คงที่

เวลาจะกู้ขอสินเชื่อ ทางธนาคารจะขอรายการเดินบัญชี หรือ Statement ย้อนหลัง 6 เดือน เพราะฉะนั้นเราควรวางแผนให้ 6 เดือนนี้มีเงินคงไว้ในบัญชีสม่ำเสมอ ไม่ควรถอนออกหมดทุกเดือน หรือฝากเข้าบัญชีทุกเดือนก็จะช่วยให้เพิ่มความน่าเชื่อถือในการกู้ให้ง่ายขึ้นครับ

  • ชำระหนี้ให้หมดก่อนกู้

การที่เรามีภาระการชำระหนี้ต่างๆ จะทำให้เรามีวงเงินในการกู้บ้านต่ำลงนั่นเองครับ ดังนั้น ควรชำระให้หมดก่อนที่จะยื่นเอกสารกู้ มิเช่นนั้น ธนาคารจะถือว่าเรามีภาระหนี้สินอื่น ซึ่งต้องนำไปหักลบกับวงเงินที่สามารถกู้ได้ครับ

  • เครดิตบูโร

เรื่องนี้สำคัญมากครับ หลายคนที่มีบัตรเครดิตแล้วผ่อนชำระหนี้ไม่ตรงกำหนดของธนาคาร จะทำให้ติดเครดิตบูโรได้ครับ โดยธนาคารจะตรวจสอบย้อนหลัง 2 ปี หากมีการชำระหนี้ไม่ตรงเวลาจะติด “แบล็กลิสต์” ถือว่าเป็นผู้กู้ที่มีความเสี่ยงจะเป็นหนี้เสีย ดังนั้น ในระยะเวลา 2 ปีนี้ ควรผ่อนชำระให้ตรงเวลาทุกครั้งนะครับ

  • ปิดบัตรเครดิต

การที่ธนาคารมาชวนสมัครบัตรเครดิตด้วยข้อเสนออะไรก็ตาม จะทำให้การกู้ของเราเป็นไปได้ยากขึ้นนะครับ ยิ่งหากใครที่มีบัตรเครดิตมากกว่า 1 ใบ ธนาคารจะมองว่าผู้กู้มีโอกาสสร้างหนี้สูงขึ้น ดังนั้น ก่อนยื่นเอกสารกู้ควรยกเลิกบัตรเครดิตให้เหลือเพียง 1-2 ใบเท่านั้น

  • เตรียมเอกสารให้พร้อม

เตรียมหลักฐานการทำงานและรายได้ต่างๆ ไว้แต่เนิ่นๆ อาทิ สลิปเงินเดือน ใบรับรองการทำงาน ที่ใช้เวลาค่อนข้างนานในการขออนุมัติจากหน่วยงานต้นสังกัด การเตรียมตัวขอเอกสารไว้ก่อนเนิ่นๆ จึงสะดวกขึ้นเมื่อธนาคารขอหลักฐานนั่นเองครับ

ทั้งหมดนี้ก็เป็นขั้นตอนของการเตรียมตัวก่อนจะเดินเข้าไปขอกู้เงินซื้อบ้านหรือคอนโดจากทางธนาคารนะครับ ถ้าเราเตรียมพร้อมให้ครบทั้งหมดนี้ รับรองว่ากู้ผ่านสบายหายห่วงแน่นอน ที่สำคัญอย่าลืมประเมินความสามารถในการกู้ของเราด้วยนะครับ จะได้ผ่อนจ่ายสบายๆ ไม่เป็นภาระหนักจนกระทบกระเป๋าสตางค์นั่นเองครับ

ที่มา


บทความแนะนำอื่นๆ : การเงินและสินเชื่อ

8 ปัจจัยที่ทำให้ กู้เงินซื้อบ้าน แล้วได้กำไร กู้เงินซื้อบ้านอย่างไร ทำอย่างไรให้ผ่านอนุมัติสินเชื่อบ้าน กู้เงินซื้อบ้าน วงเงินเต็ม 100% ทำได้จริง หรือแค่มโน? อัปเดตมาตรการ LTV ปี 2568 จะกู้ซื้อบ้านปีนี้ต้องใช้เงินดาวน์เท่าไหร่ LTV, DSR และ MRTA ตัวย่อต้องรู้ก่อนกู้ซื้อบ้าน พร้อมสูตรคำนวณ เรื่องต้องคิด ก่อนตัดสินใจ รีไฟแนนซ์บ้าน ค่าโอนบ้าน 2568 มีอะไรเปลี่ยนบ้าง? ช่วยคนซื้อบ้านอย่างไร รีไฟแนนซ์รถ คือ อะไร มีเรื่องไหนควรรู้ก่อนตัดสินใจทำ ติดแบล็คลิส ออกรถฟรีดาวน์ได้ไหม? ถ้าไม่ได้ต้องแก้วิธีไหน การกู้ซื้อบ้านในช่วงไวรัสระบาด จะกู้ได้ง่าย หรือยากกว่าเดิม ยื่นกู้ออนไลน์ ออกมอเตอร์ไซค์ได้เร็วกว่า จริงหรือไม่? รวมเทคนิคการเลือกไฟแนนซ์ ให้ได้ประโยชน์สูงสุดต้องเลือกอย่างไร รวมเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับการเช่าซื้อ

บทความแคร์การเงิน

Rabbit Care Blog Image 99755

แคร์การเงิน

การโปะงวดรถ คืออะไร เหมือนการปิดงวดรถก่อนกำหนดไหม มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร ?

เรื่องสำคัญที่เจ้าของรถทุกคนจะต้องรู้ไว้โปะงวดรถ คืออะไร จ่ายค่างวดรถเกินยอด ทำได้หรือไม่ การโปะรถยนต์มีข้อดี หรือข้อเสียอย่างไร ควรทำไหม ?
คะน้าใบเขียว
11/03/2025
Rabbit Care Blog Image 98912

แคร์การเงิน

บัตรเครดิตเติมน้ำมัน (Fleet Card) คืออะไร ? มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร ?

ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่พร้อมจะเพิ่มให้ความสะดวกสบายในการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันของเราเพิ่มขึ้นมาอย่างมากมาย บัตรเครดิตเติมน้ำมัน (Fleet Card)
Natthamon
30/12/2024
Rabbit Care Blog Image 97227

แคร์การเงิน

ผ่อนบอลลูน คือ อะไร มีข้อดีข้อเสียอย่างไร เหมาะสมกับใครมากที่สุด

เคยได้ยินกันไหมกับการผ่อนรถแบบผ่อนบอลลูน คำศัพท์ที่ดูแปลกและไม่ค่อยชินกันเท่าไหร่นัก เพราะในเวลาปกติเราตัดสินใจเลือกซื้อรถยนต์สักคันด้วยการกู้สินเชื่อ
คะน้าใบเขียว
14/11/2024