ความหวังเป็นฝั่งฝา ขอสินเชื่อบ้านอย่างไรให้ผ่าน
เมื่อถึงวัยหนึ่งของชีวิต การมีบ้านสักหลัง มีทรัพย์สินที่อยู่อาศัยไว้ซักแห่ง เป็นการวางรากฐานให้แก่ชีวิต ให้กับลูกหลานในอนาคตข้างหน้า หรือซื้อเพื่อเป็นที่พักหลังเกษียณให้บุพการีเองก็ได้
แต่การซื้อบ้านสักหลังไม่ได้มูลค่าน้อยๆ ไม่มีใครเลือกซื้อเงินสดกัน ดังนั้นการกู้เงินซื้อบ้านกับอธนาคารจึงเป็นขั้นตอนหลักในการซื้อบ้าน แต่การขอสินเชื่อบ้านไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับทุกคนหรอกนะครับ
เพราะการกู้ยืมเงินก้อนใหญ่หลักหลายล้านบาท ผู้ให้กู้ยืมจำเป็นต้องมีหลักประกันที่มั่นใจได้ว่าคนกู้อย่างเราจะไม่หนีไม่จ่าย ทำให้หนี้สูญไป ผู้กู้ยืมบางท่านอาจจะสามารถรับผิดชอบไหวได้ง่ายๆ แต่ไม่ได้มีหลักประกันที่แน่ชัด ตรงตามความต้องการของผู้ปล่อยสินเชื่อ บทความนี้จะมาบอกเล่าถึงเทคนิคการยื่นเรื่องขอสินเชื่อสำหรับที่อยู่อาศัย ว่าทำอย่างไร โอกาสที่จะได้รับสินเชื่อจะสูงขึ้น ขออย่างไรให้ผ่านเงื่อนไข
เอกสารจำเป็นที่ช่วยในการขอสินเชื่อ
-
สลิปเงินเดือน หรือ รายการบัญชี ย้อนหลัง 6 เดือน
สลิปเงินเดือนหรือรายการบัญชีย้อนหลังนั้นมีไว้เพื่อเป็นหลักฐานให้แก่ธนาคารอุ่นใจว่าเราสามารถหมุนเวียนเงินได้ โดยที่สลิปเงินเดือนจะต้องตรงกับแผนทางการเงินที่เรานำเสนอให้แก่ธนาคารด้วยนะครับ ว่ามันใกล้เคียงกันหรือเปล่า หากท่านไม่มีสลิปเงินเดือน ก็ใช้เป็น Statement จากธนาคาร และหลักฐานบัญชีย้อนหลังไปว่าเป็นเงินที่มีการหมุนเวียนเข้าออกจริง
-
เอกสารหลักทรัพย์ค้ำประกัน
ไม่ว่าเงินในบัญชีของท่านจะมากมายขนาดไหน การมีเอกสารหลักทรัพย์ค้ำประกันไว้ จะเป็นการแสดงให้เห็นว่าคุณมีข้อแลกเปลี่ยนที่คุ้มค่ากับทางธนาคาร โดยเฉพาะเมื่อคุณสามารถผ่อนชำระได้อย่างแน่นอน ยกตัวอย่างเช่น สำเนาโฉนดที่ดิน หรือ สำเนากรรมสิทธิ์ห้องชุด, สำเนาเอกสารสัญญาซื้อขาย, เอกสารหลักฐานการชำระเงินดาวน์, แผนที่โดยสังเขปของที่ตั้งหลักทรัพย์ค้ำประกัน
-
หลักฐานการประกอบการ รวมถึงใบวิชาชีพ
เอกสารจำพวกโฉนดที่ดินอย่างในข้อสองจะแตกต่างกับส่วนนี้ เพราะส่วนนี้จะไม่ใช่หลักประกันในการกู้ยืม แต่จะใช้ในส่วนของหลักฐานที่ช่วยเสริมภาพลักษณ์สุขภาพทางการเงิน สำหรับเจ้าของกิจการที่จะใช้เป็นใบประกอบกิจการหรือหลักฐานว่าเป็นเจ้าของหรือหุ้นส่วนห้างค้าจริงๆ ใบวิชาชีพที่จำเป็นต้องสอบเองก็มีประโยชน์เช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นแพทย์ วิศวกรเป็นต้น
เทคนิคในการขอสินเชื่อได้ง่ายขึ้น
-
กู้ร่วม
การกู้ร่วมหมายถึงการใช้ชื่อคนขอสินเชื่อร่วมกับผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว สามีภรรยา หรือบุตรของตัวเอง โดยจำเป็นต้องใช้หลักฐานความสัมพันธ์ที่ชัดเจน เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือให้แก่การกู้ยืม อีกทั้งเมื่อเรามีผู้กู้ร่วม เราจะได้เพิ่มทั้งคุณภาพการเงินของเรา ไม่ว่าจะเป็นบัญชีหมุนเวียน หรือเงินเดือนด้วย โดยทางธนาคารจะใช้การบวกทบร่วมเสริมเข้าไป เช่นเงินเดือน 30,000 กับ 30,000 ก็จะเป็นหกหมื่น แต่จะหมายความว่าหนี้สินในส่วนนี้จะหารร่วมกัน
-
จัดการหนี้สินทั้งหมดให้แน่นอน
หลายๆครั้ง เราอาจจะยังมีหนี้สินตกค้างอยู่ เรื่องเล็กๆน้อยๆก็ควรจะเคลียร์ให้หมดเสียก่อน ไม่ว่าจะเป็นหนี้บัตรเครดิต สินเชื่อรูปแบบอื่นๆ หรือแม้แต่ยอดค้างชำระในโทรศัพท์ หากเคลียร์ได้หมดได้ก็ยิ่งดี การแสดงให้เห็นว่าเราไม่มียอดค้างชำระ
-
วางแผนการจัดการให้ชัดเจน
การเตรียมการวางแผนทางการเงินของคุณอาจจะให้ความรู้สึกเหมือนการทำรายงานส่งอาจารย์ที่โรงเรียน แม้จะดูไม่น่าเกรงขาม แต่จริงๆแล้วสำหรับคนอนุมัติเงินกู้ให้ท่านนั้น มันเป็นการแสดงความรับผิดชอบและทำให้ท่านดูน่าเชื่อถือขึ้นกว่าเดิมมาก
สาเหตุที่จะทำให้การกู้ยืมของคุณไม่ผ่าน
-
เครดิตบูโร
หากท่านรู้จักชื่อ เครดิตบูโร มาก่อน คงไม่ต้องสงสัยเลยว่าเพียงสาเหตุนี้สาเหตุเดียว จะทำให้การขอสินเชื่อของท่านตกไปอย่างแน่นอน สาเหตุการติดชื่อเครดิตบูโรนั้นมาจากการที่ท่านติดหนี้ธนาคารผู้ปล่อยเงินกู้ที่ร่วมกับเครดิตบูโร เมื่อท่านไม่ได้ชำระหนี้สินให้เรียบร้อย การติดเครดิตบูโรจะทำให้ธุรกรรมทางการเงินทุกอย่างของคุณติดขัด
-
เคลียร์เครดิตไม่เรียบร้อย
การจัดการหนี้บัตรเครดิตไม่เรียบร้อยจะทำให้ภาพลักษณ์การดูแลจัดการทรัพย์สินของท่านมีความไม่น่าเชื่อถือ ไม่จำเป็นต้องเป็นเครดิตบูโรก็ทำให้ท่านดูเสียภาพลักษณ์ได้ โดยเฉพาะเมื่อหนี้บัตรของท่านเลยช่วงหมดโปรโมชั่นปลอดดอกเบี้ยไปแล้ว ยังจัดการไม่ครบ
-
ไม่มีเครดิต
แม้จะมองว่าหนี้บัตรเครดิตจะส่งผลเสียให้กับการขอสินเชื่อสำหรับที่อยู่อาศัย แต่จริงๆแล้วหากท่านไม่มีบัตรเครดิตไว้เลย ก็จะทำให้ท่านดูเป็นคนไม่มีเครดิตไปด้วย และคนที่ไม่มีเครดิต หมายความว่าท่านดูไม่มีความน่าเชื่อ และเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่จะทำให้ธนาคารไม่ปล่อยสินเชื่อให้
หลักในการขอสินเชื่อบ้าน คือ การขอยืมเงินธนาคารนั่นแหล่ะครับ ดังนั้นเราจะขอยืมเงินใคร หากเราไม่มีข้อต่อรองที่ดี เราก็จำเป็นต้องมีเทคนิคในการทำให้ตัวเองดูดีขึ้นกว่าเดิม ซึ่งขั้นตอนต่างๆที่อ่านมาในนี้นั้น
ขั้นตอนที่สำคัญที่สุด ก็คือทักษะการสนทนา ยิ่งท่านเป็นคนพูดเก่ง หรือเป็นคนที่ขายของเป็น แม้ว่าทรัพย์สินที่ท่านมีอาจจะไม่มาก หากท่านเป็นคนที่รู้จักหว่านล้อม ความน่าเชื่อถือของท่านจะเพิ่มขึ้นเอง ส่วนใครที่อยากจะดูอัตราและความเป็นไปของการตลาดการลงทุนเพื่อเล่นอสังหาริมทรัพย์ก็ลองไปที่ http://www.moneymartthai.com/ ดูได้นะครับ
ทีมกองบรรณาธิการ กลุ่มนักเขียนผู้มีประสบการณ์ด้านรถยนต์ การเงิน และประกันภัย ของ แรบบิท แคร์ ที่เปิดดำเนินการมาแล้วมากกว่า 10 ปี