
บัตรเครดิตเติมน้ำมัน (Fleet Card) คืออะไร ? มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร ?
ปัจจุบันการทำธุรกิจส่วนตัวถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการหาเงิน นอกเหนือจากการเป็นพนักงานประจำ อย่างไรก็ตามสิ่งที่พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ต้องรู้คือการยื่นภาษี เนื่องจากเป็นสิ่งที่กฎหมายกำหนดและทุกคนที่มีรายได้จำเป็นต้องปฎิบัติตามแม้กระทั่งฟรีแลนซ์
วันนี้ แรบบิท แคร์ จะมาให้ความรู้เกี่ยวกับภาษีย้อนหลัง ว่ามันคืออะไร ต้องเสียค่าปรับหรือไม่ และถ้าหากฝ่าฝืนมีโทษอย่างไร ไปดูกันเลย!!
การยื่นภาษีย้อนหลัง ภาษาอังกฤษเรียกว่า back taxes หรือ Retroactive tax ก็ได้เช่นกัน เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้เมื่อมีการตรวจสอบจากสามหน่วยงาน คือ กรมสรรพากร กรมศุลกาการ และ กรมสรรพสมิต โดยปัจจัยที่ทำให้เกิดการเรียกเก็บภาษีย้อนหลังคือ ไม่ยื่นภาษีตามที่กำหนด งบการเงินไม่ถูกต้อง หรือมีการกระทำที่ผิดปกติเป็นเหตุให้กรมสรรพากรสงสัยและเข้าตรวจสอบเพื่อดูแลให้ยอดเก็บภาษี สรรพากรถูกต้องตามที่กำหนดไว้
หากผู้เสียภาษีโดนเรียกเก็บภาษีย้อนหลัง สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 กรณี คือคนที่เคยยื่นภาษีแล้ว และ คนที่ยังไม่เคยยื่นภาษี โดยมีรายละเอียดดังนี้
คุณต้องนำเงินไปจ่ายตามที่กรมสรรพากรเรียกเก็บ แต่แนะนำให้รวบรวมหลักฐานไปให้พร้อมและนำไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่ เช่น ใบลดหย่อนภาษี เป็นต้น เพื่อหาข้อแก้ต่างและนำไปลดหย่อนภาษี
หากคุณเป็นคนที่ยังไม่เคยยื่นภาษีเลย ให้ดำเนินการยื่นภาษีและชำระค่าปรับตามยอดที่เจ้าหน้าที่แจ้งให้ทราบ หลังจากนั้นให้ติดต่อสำนักงานบัญชี ซึ่งค่าปรับจะถูกบวกเพิ่มจากภาษีอีกเดือนละ 1.5% โดยนับตั้งแต่วันแรกที่เลยกำหนดยื่นภาษีจนถึงวันที่ดำเนินการชำระค่าภาษี
หากคุณถูกเรียกเก็บภาษีย้อนหลัง จะสามารถแบ่งออกเป็น 2 กรณี คือ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา / นิติบุคคล และภาษีธุรกิจ ซึ่งหลายคนอาจมีความสงสัยว่า อายุความเท่าไหร่ มีคำตอบ!
สำหรับบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล ในอายุความตามหมายเรียกทั้งหมด 2 ปี นับจากวันที่ยื่นภาษี อย่างไรก็ตามอายุความจะขยายไปถึง 5 ปี เมื่อมีหลักฐานว่าผู้นั้นจงใจในการหลีกเลี่ยงการจ่ายภาษีจริง แต่ในกรณีที่ผู้นั้นเคยยื่ภาษีมาแล้ว คุณจะสามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ 10 ปี และกรมสรรพากรก็มีสิทธิเรียกดูรายการเดินบัญชีของคุณได้เช่นกัน
กรมสรรพากรสามารถเรียกเก็บภาษีย้อนหลังได้มากถึง 10 ปีตามมาตรา 193/31 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ โดยที่ไม่จำเป็นต้องออกหมายเรียก โดยอายุความจะนับตั้งแต่วันสิ้นสุดการยื่นแบบภาษี
หากไม่อยากโดยเรียกเก็บภาษีย้อนหลัง สิ่งแรกที่คุณควรทำคือการทำบัญชีให้มีความถูกต้อง ชัดเจน ตรวจสอบได้ เพื่อที่จะได้มีข้อมูลไปชีแจงกับกรมสรรพากรได้ หลังจากนั้นให้คุณดำเนินการคำนวณภาษีเบื้องต้น ซึ่งในปัจจุบันมีแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์มากมายที่อำนวนความสะดวก เช่น FlowAccount, Calculator Tax เป็นต้น เครื่องมือเหล่านี้จะช่วยลดความเสี่ยงในการถูกเรียกเก็บภาษีย้อนหลัง เพราะจะช่วยในการบันทึกบัญชีออนไลน์ และบันทึกข้อมูลรายรับรายจ่ายไว้ในที่เดียว
นอกจากนี้ก่อนยื่นภาษีควรตรวจสอบเอกสารให้ถูกต้องครบถ้วน ตรวจสอบดูว่ารายรับของเราอยู่ในเงินได้ประเภทไหนกันแน่ และ ตรวจสอบรายการลดหย่อน ที่มีสิทธิใช้ เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกเรียกเก็บภาษีย้อนหลัง
หลายคนอาจสงสัยกันว่า หากเจตนาไม่ยื่นภาษี ยื่นภาษีล่าช้า ยื่นภาศษีไม่ครบ หรือถูกเรียกเก็บภาษีย้อนหลัง มีโทษอย่างไรบ้าง ซึ่งโทษและภาษีย้อนหลัง ค่าปรับจะถูกลดหลั่นกันไปตามความผิด โดยมีรายละเอียดดังนี้
เหล่านี้คือแหล่งความรู้เรื่องการถูกเรียกเก็บภาษีย้อนหลัง ที่น้องแคร์รวบรวมมาให้แล้ว เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกเรียกเก็บภาษีย้อนหลัง ขอแนะนำให้คุณใช้จ่ายด้วยบัตรเครดิตแทนการโอน และถ้าหากคุณกำลังมองหาบัตรเครดิตอยู่ แนะนำให้มาสมัครบัตรกับ แรบบิท แคร์ เพราะเรามีสิทธิพิเศษมากมายมอบให้ลูกค้า จากพันธมิตรด้านสถาบันทางการเงินชั้นนำ หากมีปัญหา เราก็มีเจ้าหน้าที่คอยให้คำปรึกษาอยู่ตลอดเวลา หากสนใจ โทรเลย 1438
เป็นนักเขียนสายสุขภาพและการเงินที่มีประสบการณ์ในการเขียนมากมาย โดยได้ฝากผลงานในหลากหลายรูปแบบที่เน้นด้านบริหารร่างกายและจิตใจ ทำงานที่ Rabbit Care และ Asia Direct ได้อย่างมืออาชีพ
บทความแคร์การเงิน
บัตรเครดิตเติมน้ำมัน (Fleet Card) คืออะไร ? มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร ?
ผ่อนบอลลูน คือ อะไร มีข้อดีข้อเสียอย่างไร เหมาะสมกับใครมากที่สุด
ไม่มีรถคืนไฟแนนซ์ ต้องเจอปัญหาใหญ่แค่ไหน