
ดัชนี S&P500 คืออะไร? ทำไมถึงน่าสนใจสำหรับเหล่านักลงทุน
สินทรัพย์ สิ่งที่ผู้ที่คิดจะเป็นเจ้าของธุรกิจ/เจ้าของกิจการควรรู้จักไว้ สินทรัพย์ คืออะไร มีความสำคัญอย่างไร มีกี่ประเภท แตกต่างกับทรัพย์สินอย่างไร สินทรัพย์ไม่มีตัวตนคืออะไร งบแสดงฐานะทางการเงินประกอบด้วยองค์ประกอบอะไรบ้าง ? อธิบายส่วนประกอบและสมการการทำงบแสดงฐานะทางการเงิน จาก แรบบิท แคร์
สินทรัพย์เป็นทรัพยากรที่มีมูลค่า ซึ่งอาจเป็นของบุคคลหรือกิจการที่มีสิทธิ์ครอบครอง หรือเป็นผู้ถือสิทธิ์ในการครอบครอง รวมถึงคาดว่าจะได้รับประโยชน์ในอนาคต ซึ่งเกิดมาจากเหตุการณ์ในอดีต สามารถที่จะมีรูปร่างที่ชัดเจน เช่น บ้าน ที่ดิน อาคาร เครื่องจักร รถยนต์ และอุปกรณ์ต่าง ๆ และบางครั้งก็ไม่มีรูปร่างที่ชัดเจนหรือเป็นสิ่งของก็ได้ โดยยังสามารถถือเป็นสินทรัพย์ เช่น สิทธิบัตร ลิขสิทธิ์ สัมปทาน โปรแกรมคอมพิวเตอร์ เครื่องหมายการค้า ทรัพยากรต่าง ๆ
ซึ่งทรัพยากรต่าง ๆ จะสามารถถือเป็นสินทรัพย์และสามารถได้ประโยชน์ทางเศรษฐกิจเมื่อเข้าข่ายองค์ประกอบหลัก 3 ส่วนดังนี้
หลังจากที่เราได้ทราบกันไปแล้วว่าคำว่า สินทรัพย์ คืออะไร ต่อมาเราจะมาดูกันว่าคำว่า “สินทรัพย์” และ “ทรัพย์สิน” มีความเหมือนกันหรือแตกต่างกันหรือไม่อย่างไร เริ่มต้นด้วยการทำความรู้จักความหมายและลักษณะการนำมาใช้งานของคำเหล่านี้กันได้เลย
เป็นคำที่ใช้กันทั่วไป มักนำมาใช้ในการอธิบายถึงสิ่งของที่มีมูลค่าต่าง ๆ ที่สามารถถือครองและนับมูลค่าเป็นเงินได้ อย่างไรก็ดี คำว่า “ทรัพย์สิน” ส่วนใหญ่จะพบในหมวดของกฎหมาย คำนี้สามารถแบ่งออกเป็น
เป็นคำที่สามารถพบเห็นในงานทางบัญชีและการเงิน มักใช้ในบัญชีและงบการเงิน คำนี้อาจหมายถึงทรัพย์สินที่เป็นมูลค่าที่บุคคลหรือกิจการครอบครอง อย่างไรก็ตาม คำว่า “สินทรัพย์” มีความหมายที่กว้างกว่าที่รวมถึงประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับในอนาคตด้วย ตัวอย่างเช่น ลูกหนี้การค้า ที่ถือว่าเป็นสินทรัพย์ในทางบัญชี แม้ไม่ได้เป็นทรัพย์สิน แต่ก็เป็นประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับในอนาคต นอกจากนี้ สิ่งของเช่นรถยนต์ที่ถูกซื้อขายซึ่งทางกฎหมายยังไม่ได้ถือครองเป็นทรัพย์สิน แต่ในบัญชี ถือว่าเป็นสินทรัพย์ของกิจการเรียบร้อยแล้ว
อาจกล่าวสรุปได้อย่างง่ายว่าทรัพย์สินนั้นจะใช้เรียกสิ่งของที่มีมูลค่าต่าง ๆ ทั่วไปที่บุคคลนั้นๆเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ แต่สินทรัพย์จะนับรวมประโยชน์ที่คาดว่าจะได้ในอนาคตด้วยนั่นเอง
สินทรัพย์นั้นจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ คือ สินทรัพย์หมุนเวียนและสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน
สินทรัพย์ไม่มีตัวตน (Intangible Assets) หมายถึงสินทรัพย์ที่ไม่เป็นตัวเงิน หรือไม่ได้เป็นสิ่งของแต่สามารถวัดมูลค่าได้อย่างน่าเชื่อถือ สินทรัพย์เหล่านี้ไม่สามารถจับต้องได้ แต่อยู่ภายใต้การควบคุมของกิจการและสามารถนำไปใช้ประโยชน์เชิงเศรษฐกิจในอนาคตได้
อาจกล่าวได้ว่าสินทรัพย์ไม่มีตัวตนเป็นทรัพย์ที่ไม่แสดงให้เห็นอย่างเป็นทางการแต่สามารถแสดงความคุ้มค่าของกิจการและสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการเติบโตของกิจการในอนาคตได้อย่างแน่นอน
หลังจากทราบความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับสินทรัพย์ไปแล้ว สิ่งที่เจ้าของธุรกิจ/กิจการต้องเรียนรู้เป็นลำดับถัดไป ก็คือเรื่องของการทำงบแสดงฐานะทางการเงินซึ่งมี สินทรัพย์ หนี้สิน และส่วนของเจ้าของเป็นองค์ประกอบหลักนั่นเอง
สินทรัพย์คือทรัพยากรของกิจการ ได้รับมาจากอดีตและนำไปใช้ประโยชน์ในอนาคต (หากต้องการการยืนยันว่าสิ่งนั้นเป็นสินทรัพย์หรือไม่ควรตรวจสอบเงื่อนไขเพิ่มเติมจากข้อมูลที่ได้กล่าวไปที่หัวข้อก่อนหน้า)
หนี้สินคือสิ่งที่ต้องชำระคืนในอนาคตตามชื่อ เช่นเดียวกับการกู้ยืมเงิน (ที่เราต้องการคืนเงินให้คนที่ให้กู้) หนี้สินแบ่งเป็นหนี้สินหมุนเวียน และหนี้สินไม่หมุนเวียน
ส่วนของเจ้าของคือทุนที่มีของกิจการ ซึ่งค่าเท่ากับสินทรัพย์ลบด้วยหนี้สิน (ถ้างบแสดงฐานะการเงินถูกต้อง ผลรวมของสินทรัพย์จะเท่ากับผลรวมของหนี้สินและส่วนของเจ้าของ) โดยชื่อส่วนของเจ้าของจะเปลี่ยนไปตามลักษณะของกิจการ
เช่น ส่วนของเจ้าของสำหรับกิจการคนเดียวเรียกว่า “ส่วนของเจ้าของ” ส่วนของผู้ถือหุ้นสำหรับห้างหุ้นส่วนเรียกว่า “ส่วนของผู้ถือหุ้น” ส่วนของผู้ถือหุ้นสำหรับบริษัทเรียกว่า “ส่วนของผู้ถือหุ้น”
อีกทั้งส่วนของเจ้าของ จะประกอบด้วย 3 ส่วนคือ
หรืออาจสรุปแบบสั้น ๆ ให้เข้าใจได้ง่าย ๆ ว่า
โดยสิน ทรัพย์ หนี้สิน และส่วนของเจ้าของในงบแสดงฐานะการเงินเชื่อมโยงกันตามสมการสมการบัญชี (Accounting Equation) ซึ่งแสดงความสัมพันธ์ระหว่างส่วนประกอบหลักของงบแสดงฐานะการเงินดังนี้
สินทรัพย์ = หนี้สิน + ส่วนของเจ้าของ
และทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับสินทรัพย์ ที่เจ้าของธุรกิจ-เจ้าของกิจการหรือผู้ที่กำลังมีแผนที่จะดำเนินกิจการของตัวเองในอนาคตควรรู้ไว้ จะได้ลิสต์สิ่งที่ต้องวางแผน และนำความรู้เบื้องต้นเหล่านี้ไปต่อยอดศึกษาเพิ่มเติมกันได้ หากใครที่ศึกษาจนมีความรู้ถ่องแท้และมั่นใจ ลำดับถัดไปก็ต้องเป็นสเตปการวางแผนขั้นตอนต่าง ๆ รวมถึงหาเงินทุนเพื่อเปิดกิจการกันได้เลย
นอกจากนี้หากใครมีความกังวลเรื่องเงินทุนในการทำธุรกิจก็ไม่ต้องทุกข์ใจไป สามารถขอสินเชื่อ จาก แรบบิท แคร์ ไปเริ่มลงทุนกันได้ ยื่นขอได้พร้อมเริ่มสร้างกำไร อนุมัติเร็ว!
Tawan มีประสบการณ์สร้างสรรค์ผลงานออนไลน์ 2 ปี เขียนด้านยานยนต์ ประกันยานยนต์ที่ Rabbit Care และ Asia Direct
มีใบอนุญาตเป็นนายหน้าประกันชีวิตและนายหน้าประกันวินาศภัย มีความเชี่ยวชาญด้านประกันรถยนต์และประกันชีวิต
บทความแคร์การลงทุน
ดัชนี S&P500 คืออะไร? ทำไมถึงน่าสนใจสำหรับเหล่านักลงทุน
รู้จักกับ ดัชนี Dow Jones ทำไมนักลงทุนต้องจับตามอง?
รวมวิธีที่จะเพิ่มโอกาสในการหลุดพ้นจากการ ‘ติดดอย’ ได้มากยิ่งขึ้น!