Rabbit Care Logo
ใช้ใจแคร์ ดูแลครบ
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ในการเก็บข้อมูลเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการใช้งาน และเพื่อเก็บข้อมูลสถิติ ท่านสามารถศึกษารายละเอียด เพิ่มเติมได้ที่นโยบายคุกกี้
user profile image
เขียนโดยPaweennuch W.วันที่เผยแพร่: Oct 05, 2023

นักลงทุนควรรู้! Asset Class คืออะไร?

สำหรับนักลงทุนแล้ว การศึกษาข้อมูลเบื้องต้นก่อนการลงทุนนับว่าสำคัญมาก เพราะนั่นคือการนำเงินของเราไปฝากให้สินทรัพย์ต่างๆ ทำผลตอบแทนให้เรา ซึ่งก็สามารถเป็นไปได้ทั้งขาดทุนและได้กำไร ฉะนั้นแล้ว การเลือกประเภทการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ ควรเริ่มต้นจากการศึกษาว่า Asset Class คืออะไร และมีความสำคัญอย่างไรบ้าง

Asset Class คืออะไร?

Asset Class คือ กลุ่มของสินทรัพย์เพื่อการลงทุนในประเภทต่างๆ ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน ทั้งแง่ของผลตอบแทน ความเสี่ยง เกณฑ์การซื้อขาย และอยู่ภายใต้กฎและข้อบังคับเดียวกันด้วยนั่นเอง

ประเภทของ Asset Class?

การจัดประเภทของ Asset Class นั้นสามารถแบ่งออกได้หลายรูปแบบ จากการอ้างอิงของข้อมูลที่แตกต่างกันของสถาบันการเงินหรือจากการค้นคว้า แต่จากข้อมูลของ U.S. Bancorp Investments จำแนก Asset Class ออกเป็นทั้งหมด 4 classes ด้วยกันคือ

1. เงินสด

Asset Class ประเภทแรก คือ เงินสดในที่นี้ไม่ว่าจะเป็น เงินฝาก เหรียญ ธนบัตร ตั๋วธนาคารต่างๆ หรือตั๋วสัญญาใช้เงิน ที่ออกโดยสถาบันการเงิน นับว่าอยู่ในประเภทนี้ทั้งสิ้น ซึ่งสินทรัพย์ประเภทนี้ จะถือว่ามีความเสี่ยงต่ำที่สุด เพราะความเสี่ยงเดียวที่มีคืออัตราเงินเฟ้อเท่านั้น และให้ผลตอบแทนเป็นอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก

2. ตราสารหนี้ (Fixed Income)

เป็นสินทรัพย์ที่รับประกันผลตอบแทนโดยรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็น พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรเทศบาล หุ้นกู้ ตั๋วเงินคลังต่างๆ ที่นับเป็นตราสารที่แสดงถึงการกู้ยืม โดยผู้ถือตราสารหนี้จะนับเป็น ผู้ให้กู้ และผู้ออกตราสารหนี้จะเป็น ผู้กู้ เมื่อครบกำหนดสัญญา ผู้ให้กู้จะได้รับเงินต้นคืนพร้อมดอกเบี้ยที่เป็นผลตอบแทน หรือมองง่ายๆ ก็คือการให้กู้ยืมเงินแล้วจ่ายเป็นดอกเบี้ยนั่นเอง ซึ่งผลตอบแทนจะมากกว่าการฝากเงินสดไว้กับธนาคาร แต่ก็มีความเสี่ยงที่มากกว่าเล็กน้อย อันเนื่องมาจากการปรับเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ย หรือกรณีบริษัทเอกชนและรัฐบาลไม่ได้สามารถจ่ายเงินกู้ได้

3. ตราสารทุน หรือหุ้น (Equity)

ตราสารทุนหรือที่เราคุ้นหูกันว่า ‘หุ้น’ ก็เป็นส่วนหนึ่งของ Asset Class โดย หุ้น คือการเป็นเจ้าของร่วมกันของผู้ถือหุ้นในบริษัทต่างๆ เพื่อระดมทุนไปใช้ในการดำเนินกิจการ ซึ่งสามารถลงทุนด้วยสัดส่วนของหุ้นได้หลากหลาย ตั้งแต่หุ้นที่เปิดซื้อขายกันเป็นสาธารณะ ไปจนถึงกองทุนที่เป็นเจ้าของหุ้น หรือแม้กระทั่งการลงทุนในบริษัทเอกชน โดยผลตอบแทนที่ได้รับจะมาในรูปแบบส่วนต่างของราคา หรือเงินปันผล แต่ความเสี่ยงก็จะเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ อันเนื่องมาจากความผันผวนทางเศรษฐกิจและอยู่ภายใต้ตลาดหุ้น

4. สินทรัพย์จริง (Real Assets)

นับเป็นสินทรัพย์เพื่อการลงทุนประเภทจับต้องได้ (Tangible things) หรือครอบคลุมสินทรัพย์ทางกายภาพ ซึ่งก็เป็นหนึ่งในประเภทของ Asset Class โดย สามารถแบ่งออกเป็น

  • อสังหาริมทรัพย์ (Real Estate) บ้าน ตึก คอนโด รวมไปถึงกรรมสิทธิ์ความเป็นเจ้าของที่ดิน เพื่อการซื้อขายหรือให้เช่า
  • สินค้าโภคภัณฑ์ (Commodities) U.S. Bancorp Investment ยังจัดให้ พลังงาน น้ำมัน ทองคำ ถ่านหิน โครงสร้างพื้นฐาน หรือแม้กระทั่งสินค้าทางการเกษตรต่างๆ ทั้งยางพารา ข้าวโพด ข้าวสาลี ล้วนเป็นส่วนหนึ่งใน Real Assets ทั้งสิ้น

ซึ่งสินทรัพย์จริงจะมีมูลค่าทางกายภาพ ถ้าเป็นในแง่ของอสังหาริมทรัพย์ ผลตอบแทนที่ได้ก็จะมาจากการขาย หรือปล่อยเช่าอสังหาริมทรัพย์นั้นๆ แต่ถ้าเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ ผลตอบแทนจะขึ้นอยู่กับปริมาณความต้องการซื้อ ต้องการขาย หรือ Demand Supply นั่นเอง โดยความเสี่ยงที่เกิดขึ้น ถ้าเป็นอสังหาริมทรัพย์ก็จะมาจากความผันผวนของค่าคุณสมบัติพื้นฐาน การปรับอัตราดอกเบี้ย เป็นต้น แต่ถ้าหากเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ ความเสี่ยงก็จะมาจากความผันผวนของราคาตลาด การเปลี่ยนแปลงกฎหมาย รวมไปถึงผลกระทบจากการเมือง เป็นต้น

Asset Class มีความสำคัญอย่างไร?

โดยส่วนมาก ที่ปรึกษาทางการเงินจะใช้ Asset Class เป็นเครื่องมือ หรือทางเลือกในการช่วยให้นักลงทุนสามารถเลือกการลงทุนในรูปแบบที่แตกต่างกันใน Portfolio ของการลงทุน เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยง และเพิ่มผลตอบแทนให้ได้มากที่สุด เพราะในแต่ละ Asset Class จะให้ความเสี่ยงและผลตอบแทนที่แตกต่างกันออกไป ดังสำนวนที่ว่า ‘อย่าใส่ไข่ไว้ในตะกร้าใบเดียว’

เราก็พอจะรู็ความหมายของ Asset Class คืออะไร และประเภทของ Asset Class มีอะไรบ้าง คงจะเห็นภาพรวมของ Asset Class กันเพียงพอแล้ว แต่ก่อนจะลงทุนก็อย่าลืมประเมินความเสี่ยงที่ตัวเองรับได้ และวางแผนการลงทุนให้ดีโดยบาลานซ์ทั้งความเสี่ยงและผลตอบแทนการลงทุนจากการเลือก Asset Class ที่เหมาะสม เพื่อให้การลงทุนนั้นบรรลุเป้าหมายตามที่วางไว้นั่นเอง

สินเชื่อที่ แรบบิท แคร์ แนะนำ

UOB Xpress สินเชื่อส่วนบุคคลUOB Xpress

สินเชื่อส่วนบุคคล

  • ดอกเบี้ย 9.99% ตลอดอายุสัญญา
  • วงเงินสูงสุด 2 ล้านบาท
  • รวมภาระหนี้ ผ่อนสบาย 60 เดือน
  • รายได้ 25,000 บาท อายุงาน 4 เดือน
  • เจ้าของกิจการ 25,000 บาท อายุ 3 ปี
  • อายุ 20 ปีขึ้นไป รวมอายุผ่อน 60 ปี
KKP Personal LoanKKP Personal Loan

สินเชื่อส่วนบุคคล

  • ไม่มีคนค้ำประกัน
  • รับเงินภายใน 24 ชม. หลังอนุมัติ
  • ระยะเวลาผ่อน 12-72 เดือน
  • ผ่อนแสนละ 80 บาท/วัน
  • เอกสารสลิปเงินเดือน อายุงาน 4 เดือน
  • รายได้ 30,000 บาท/เดือน
สินเชื่อเงินสด MoneyThunderMoneyThunder

สินเชื่อเงินสด

  • วงเงินถึง 1,000,000 บาท
  • อนุมัติเร็วที่สุดใน 10 นาที
  • ดอกเบี้ยเริ่มต้น 2.08% ต่อเดือน
  • วงเงินหมุนเวียน ผ่อนเริ่ม 200 บาท/เดือน
  • เงินเข้าบัญชีครั้งเดียว ผ่อน 60 เดือน
  • ไม่มีหลักทรัพย์หรือผู้ค้ำ
LINE BKLINE BK

สินเชื่อเงินสด

  • ยืมได้ด้วยรายได้ 5,000 บาท
  • ใช้ได้ทันทีหลังอนุมัติ
  • ดอกเบี้ยสูงสุด 25% วงเงิน 8 แสน
  • อัตราดอกเบี้ยสูงสุด 33% วงเงิน 100,000 บาท
  • วงเงินสูงสุด 8 แสน บาท
  • สมัครได้ง่ายใน LINE ด้วยบัญชี LINE BK

ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของเรา