ทำความเข้าใจความหมายของ พอร์ตหุ้น และภัยของ พอร์ตแตก



สำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่เพิ่งก้าวเข้าสู่โลกของการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ หนึ่งในคำศัพท์สำคัญที่คุณจะได้ยินบ่อยครั้งคือ “พอร์ตหุ้น” และสิ่งที่ควรระวังอย่างยิ่งคือปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “พอร์ตแตก”
โดยวันนี้ ทาง แรบบิท แคร์ จะมาทำความเข้าใจกันมากขึ้นกับพอร์ตการลงทุนต่าง ๆ ต้องทำยังไงให้ให้สามารถบริหารจัดการการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถือพอร์ตที่ไม่เสี่ยงไว้กับตัวกันนะ
พอร์ต คือ อะไร?
สำหรับในการลงทุน พอร์ต คือ การรวมกันของสินทรัพย์ทางการเงินหลากหลายประเภท ที่นักลงทุนถือครองอยู่ ไม่ว่าจะเป็น หุ้น, ตราสารหนี้, กองทุนรวม, อสังหาริมทรัพย์ หรือสินทรัพย์ดิจิทัลต่าง ๆ โดยมีจุดประสงค์หลักเพื่อกระจายความเสี่ยง และเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนโดยรวม ซึ่งแต่ละคนจะมีพอร์ตลงทุนที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับระดับความเสี่ยงที่รับได้ อยากลงทุนด้วยระยะเวลานานเท่าไหร่ และ มีเป้าหมายอย่างไรในการลงทุนนั่นเเอง
แล้ว พอร์ตหุ้น คือ อะไร?
สำหรับ พอร์ตหุ้น คือ ชุดของหุ้นที่นักลงทุนถือครองอยู่ทั้งหมด ซึ่งอาจประกอบด้วยหุ้นจากอุตสาหกรรมที่แตกต่างกัน ขนาดบริษัทที่ไม่เท่ากัน หรือมีปัจจัยพื้นฐานที่หลากหลาย การสร้าง พอร์ตหุ้น ที่ดีคือการเลือกหุ้นที่มีศักยภาพ และจัดสัดส่วนการลงทุนให้เหมาะสม เพื่อให้พอร์ตโดยรวมสามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้
พอร์ตแตก คือ อะไร?
พอร์ตแตก คือ สถานการณ์ที่ มูลค่าของพอร์ตการลงทุนลดลงอย่างรุนแรง จนทำให้เงินลงทุนแทบไม่เหลือ หรือขาดทุนหนักจนไม่สามารถฟื้นตัวกลับมาได้ง่าย ๆ โดยทั่วไปมักจะเกี่ยวข้องกับการลงทุนในตลาดหุ้นที่มีความผันผวนสูง โดยมีสาเหตุหลัก ๆ ดังนี้
- การใช้ Margin หรือ Leverage มากเกินไป การกู้เงินจากโบรกเกอร์ เพื่อซื้อหุ้นจำนวนมากกว่าเงินทุนที่มีจริง หากราคาหุ้นตกลงอย่างหนัก โบรกเกอร์จะเรียกให้เติมเงิน หากไม่สามารถเติมได้ ก็จะถูกบังคับขายหุ้น ซึ่งอาจทำให้เงินลงทุนหมดไปได้ง่าย ๆ
- ขาดการกระจายความเสี่ยง การลงทุนในหุ้นเพียงไม่กี่ตัว หรือลงทุนในหุ้นตัวเดียวจำนวนมาก หากหุ้นตัวนั้นราคาตกลงอย่างรุนแรง ก็จะส่งผลกระทบต่อพอร์ตทั้งหมดทันที
- ลงทุนในหุ้นปั่น หรือหุ้นที่มีความเสี่ยงสูง เพราะหุ้นบางประเภทมีการเคลื่อนไหวของราคาที่รุนแรงและขาดปัจจัยพื้นฐานรองรับที่ดี เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ราคาอาจดิ่งลงอย่างรวดเร็ว
- ไม่มีวินัยในการลงทุน และไม่ตัดขาดทุน การปล่อยให้หุ้นที่ขาดทุนหนัก ติดลบไปเรื่อย ๆ โดยหวังว่าจะกลับมา ซึ่งในความเป็นจริงอาจไม่เป็นเช่นนั้น และนำไปสู่การขาดทุนที่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ
จะป้องกันพอร์ตแตกยังไงดี?
การหลีกเลี่ยงสถานการณ์ พอร์ตแตก ทำได้โดยการวางแผนและมีวินัยในการลงทุน โดยพื้นบานหลัก ๆ ที่เราควรรู้ และควรระวังเสมอ มีดังนี้
- กระจายความเสี่ยงของพอร์ตอย่างสม่ำเสมอ แบ่งเงินลงทุนไปยังหุ้นหลาย ๆ ตัว ในหลาย ๆ อุตสาหกรรม หรือสินทรัพย์ประเภทอื่น ๆ ด้วย
- ทำความเข้าใจความเสี่ยงของ Margin ควรเลือกใช้ในปริมาณที่เหมาะสม และมีเงินทุนสำรองเพียงพอ
- ศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน ไม่ว่าจะเป็นการทำความใจในธุรกิจ งบการเงิน และแนวโน้มของบริษัทที่คุณจะลงทุน
- กำหนดจุดตัดขาดทุน โดยวางแผนไว้ล่วงหน้าว่า หากราคาหุ้นตกลงถึงระดับใด จะต้องขายออกเพื่อจำกัดความเสียหายเมื่อหุ้นราคาตก
- คอยติดตามข่าวสาร เรียนรู้กลยุทธ์การลงทุน เพื่อให้คุณวางแผนการซื้อขายหุ้นได้
เพราะการลงทุนในตลาดหุ้นมีความเสี่ยงเสมอ ดังนั้นการวางแผนให้พอร์ตหุ้น และตระหนักถึงภัยของพอร์ตแตกอย่างรอบคอบ และถี่ถ้วน ก็จะช่วยให้คุณสามารถบริหารจัดการการ และวางแผนลงทุนได้ละเอียด รอบคอบมากยิ่งขึ้น
เริ่มต้นจัดพอร์ตหุ้นยังไงดีนะ?
สำหรับมือใหม่ที่อยากเริ่มต้นจัดพอร์ตหุ้นในการลงทุนนั้น เริ่มต้นง่าย ๆ โดยยึดพื้นฐานเบื้องต้นไว้ว่า อย่าเลือกหุ้นแต่ในกลุ่มเดียว เช่น ถ้าถือแต่หุ้นเทคโนโลยี พอตลาดปรับฐานกลุ่มนี้อาจร่วงพร้อมกัน ควรกระจายไปยังกลุ่ม พลังงาน, สื่อสาร, ธนาคาร, อุปโภคบริโภค ฯลฯ
โดยเราควรถือหุ้นทั้ง Defensive และ Growth เพื่อสมดุลความเสี่ยงและโอกาสเติบโตของหุ้นต่าง ๆ เช่น
- หุ้น Defensive คือหุ้นที่แข็งแรงในช่วงเศรษฐกิจแย่ เช่น โรงพยาบาล สินค้าอุปโภค
- หุ้น Growth คือหุ้นที่โตเร็ว เช่น เทคโนโลยี, AI, EV
นอกจากนี้ เราควรแบ่งเงินถือ เงินสด หรือ กองทุนความเสี่ยงต่ำ เอาไว้บ้าง เพราะตลาดผันผวนแรง การมีเงินสดหรือสินทรัพย์ที่เสี่ยงต่ำ เช่น กองทุนตราสารหนี้ จะช่วยให้คุณมีเงินไว้ซื้อเพิ่มในจังหวะที่หุ้นดีราคาลง
ตัวอย่างสัดส่วนพอร์ตสำหรับมือใหม่
ประเภทหุ้น | ตัวอย่าง | สัดส่วนแนะนำ |
หุ้นเติบโต (Growth) | เทคโนโลยี, AI | 40% |
หุ้น Defensive | สาธารณูปโภค, สุขภาพ | 30% |
เงินสด / ตราสารหนี้ | พักเงินรอจังหวะ | 20% |
หุ้นปันผล / REIT | กระแสเงินสดระยะยาว | 10% |
โดยสัดส่วนนี้สามารถปรับตามอายุ เป้าหมาย และความเสี่ยงที่ยอมรับได้
ทั้งนี้ พอร์ตการลงทุนนั้นสามารถปรับยืดหยุ่นได้ตามสถานะการเงิน ปริมารที่รับความเสี่ยงได้ เพราะการจัดพอร์ตนั้นไม่มีสูตรตายตัว คุณสามารถปรับเปลี่ยนได้เสมอ
และสำหรับใครที่อยากกระจายความเสี่ยง เพิ่มโอกาสเติบโตในการลงทุนไปกับหุ้นต่างประเทศ แรบบิท แคร์ ขอแนะนำ Webull แพลตฟอร์มแรกของไทย ที่ให้บริการเทรดออปชันสหรัฐฯ เพิ่มโอกาสในการลงทุนของคุณและศักยภาพการทำกำไรที่มากขึ้น เทรดได้ 24 ชั่วโมง สามารถทำการซื้อขายหุ้นได้ทันที ไม่ต้องกลัวดีเลย์ระหว่างประเทศ มาพร้อมฟีเจอร์ข่าวสาร เครื่องมือการเทรด เครื่องมือวิเคราะห์แบบเจาะลึก รวมไว้ให้ครบในแอปแล้ว!
ให้ทุกการลงทุนและวางแผนพอร์ตการลงทุนของคุณมีทางเลือกมากยิ่งขึ้น คลิกเลย!
สรุป
พอร์ตหุ้น คือ ชุดของหุ้นที่นักลงทุนถือครองอยู่ทั้งหมด ซึ่งอาจประกอบด้วยหุ้นจากอุตสาหกรรมที่แตกต่างกัน ขนาดบริษัทที่ไม่เท่ากัน หรือมีปัจจัยพื้นฐานที่หลากหลาย ดังนั้นการเลือกหุ้นที่มีศักยภาพและจัดสัดส่วนการลงทุนให้เหมาะสม จะช่วยป้องกันการพอร์ตแตก และกระจายความเสี่ยงต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ควรแบ่งเงินถือเงินสด หรือกองทุนความเสี่ยงต่ำเอาไว้บ้าง เพราะตลาดหุ้นมักมีการผันผวนแรง จะช่วยให้คุณมีเงินไว้ซื้อเพิ่มในจังหวะที่หุ้นดีราคาลง

นักเขียนรุ่นไฮบริด เขียนบทความด้านการบริหารเงินส่วนบุคคลและการลงทุนต่าง ๆ กว่า 7 ปี เริ่มต้นที่งานเขียนที่ Rabbit Finance จนย้ายมาที่ Rabbit Care และ Asia Direct