ใบเคลมประกันรถยนต์ คือ อะไร มีอายุนานเท่าไหร่ ถ้าไม่ได้ใช้แลกเป็นเงินสดแทนได้ไหม
ถึงแม้ว่าเราทำประกันรถยนต์ต่อเนื่องทุกปี แต่หากไม่ได้มีการเคลม จะมีโอกาสน้อยมากที่ได้เห็นใบเคลมประกันอย่างเป็นทางการ เพราะไม่มีเหตุจำเป็นให้ต้องใช้งาน ซึ่งการไม่ได้เห็นใบเคลม ก็ถือเป็นเรื่องดีจากการที่เราไม่ได้พบเจออุบัติเหตุ จนต้องเคลมการเสียหาย แต่ทั้งนี้เราควรมีความรู้ในเรื่องของใบเคลมประกันรถยนต์เผื่อเอาไว้ ในกรณีที่ต้องใช้งาน รวมถึงข้อควรรู้ต่าง ๆ ที่ช่วยให้เราสามารถจัดการกับใบเคลมประกันรถได้เหมาะสม สำหรับคนที่ทำประกันรถยนต์อยู่ ทว่ายังไม่เคยได้ใช้ใบเคลมประกัน สามารถติดตามอ่านข้อมูลทั้งหมดได้ในบทความนี้
ใบเคลม คือ อะไร
ใบเคลมประกันรถยนต์ คือ เอกสารที่ทางบริษัทประกันภัยรถยนต์ออกให้กับผู้เอาประกันภัย เป็นหลักฐานในเรื่องความเสียหายของตัวรถยนต์ ที่เกิดขึ้นในอุบัติเหตุ โดยอุบัติเหตุที่สามารถเคลมได้ในรายละเอียดของใบเคลม จะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขการคุ้มครองกรมธรรม์ที่เราเลือกสมัครไว้แต่จะยกเว้นในกรณีค่าเสื่อมสภาพของอะไหล่ เมื่อทางตัวแทนได้มีการระบุรายละเอียดลงเอกสารเรียบร้อยแล้ว ทางผู้เอาประกันภัย สามารถนำรถยนต์เข้าไปรับบริการซ่อมแซมตามความคุ้มครอง ที่อู่หรือศูนย์บริการที่เราเลือกไว้ในกรมธรรม์ได้เลย เพียงแค่นำใบเคลมประกันรถไปยื่นพร้อมเอกสารยืนยันตัวตนเพิ่มเติม ก็เข้ารับการซ่อมแซมได้ง่าย ๆ
ตัวอย่าง ใบเคลม รถยนต์
ตัวอย่างใบเคลมประกันทั้งใบเคลมสดและใบเคลมแห้งจะมีรายละเอียดที่ต้องครบถ้วนเป็นพื้นฐาน เช่น วันที่เกิดเหตุ, เลขกรมธรรม์, เลขที่อุบัติเหตุ, รถประกันยี่ห้อ, ทะเบียน, ข้อมูลคู่กรณี (หากมี), ความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อตัวรถยนต์ของผู้เอาประกันภัย และการลงชื่อผู้รับหลักฐาน หรือผู้ปฏิบัติงานในแต่ละครั้ง เพื่อให้การเคลมเสร็จสมบูรณ์บนใบเคลมจะต้องมีลายลักษณ์อักษรที่ชัดเจนในทุก ๆ เรื่อง เพื่อให้ผู้เอาประกันภัยได้รับความคุ้มครองตามกรมธรรม์
ใบเคลมประกันรถยนต์ มีอายุ กี่ วัน
ใบเคลมประกัน อายุการใช้งานยาวนานกว่าที่หลายคนคิด จากปกติเราอาจเริ่มตั้งคำถามว่าใบเคลมประกันรถยนต์อยู่ได้กี่วัน หรือ ใบเคลม อยู่ได้กี่เดือน แต่ในความเป็นจริงแล้วมันสามารถอยู่ได้นานถึง 2 ปี ก่อนจะหมดอายุความ ตามที่กฎหมายกำหนด นั่นก็แปลว่าใบเคลมประกัน หมดอายุภายใน 2 ปีนั่นเอง ดังนั้นการตั้งคำถามถึงอายุของใบเคลมประกันรถ ต้องเริ่มตั้งแต่ใบเคลมประกันรถยนต์ มีอายุกี่ปีนั่นเอง ถึงแม้ระยะเวลาของใบเคลมประกันดูจะอยู่ได้นานก็จริง แต่แนะนำให้รีบเข้าใช้บริการเมื่อเกิดเหตุจะดีที่สุด เพื่อรับการดูแลคุ้มครองครบถ้วน ไม่ขาดตกบกพร่อง
แต่ถ้าหากว่าเป็นกรณีที่เรานั้นเป็นฝ่ายถูก เราก็จะสามารถเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นค่าซ่อมแซมรถ หรือค่าขาดผลประโยชน์จากทางบริษัทประกันภัยของคู่กรณี หรือว่าจะเรียกร้องโดยตรงจากคู่กรณีเลยก็สามารถทำได้ โดยเรานั้นจะต้องใช้สิทธิเรียกร้องภายใน 1 ปี นับตั้งแต่วันที่เกิดเหตุด้วย
ใบเคลม a b c d คือ อะไร
รหัส ใบเคลมประกัน a b c d มาจากไหน แท้จริงแล้วมันคืออะไรกันแน่? การแบ่งด้วยตัวอักษร ดังกล่าว หมายถึงระดับความเสียหายที่เกิดขึ้นในแต่ละส่วน ซึ่งทางตัวแทนประกันจะมีเกณฑ์ในการประเมินแต่ละระดับอยู่แล้ว เว้นแต่ว่าความเสียหายที่เกิดขึ้น ไม่สามารถประเมินได้ จะถูกระบุไว้เป็นรหัสด้วยคำว่า Null บนใบเคลมแทน
ใบเคลม l m h x คือ อะไร
กรณีที่ใบเคลมประกันรถยนต์มีรหัส l m h x จะเป็นการแบ่งแยกระดับความเสียหายเช่นเดียวกัน เพียงแต่เปลี่ยนตัวอักษรในการสื่อสารแตกต่างออกไป ขึ้นอยู่กับบริษัทประกันภัยแต่ละแห่งที่ใช้ไม่เหมือนกัน ส่วนตัวสุดท้ายอย่าง x จะหมายถึงการเปลี่ยนอะไหล่ ซึ่งแปลว่าเกิดความเสียหายหนัก ไม่สามารถซ่อมแซมได้
ใบเคลม หมดอายุ ทํา ยัง ไง
หลังจากที่เรารู้แล้วว่าใบเคลมประกันรถยนต์ มีอายุเท่าไหร่ เราต้องระวังด้วยว่าหากใบเคลมประกัน หมดอายุจะเกิดปัญหาเรื่องการใช้งานตามมา เพราะเราจะไม่สามารถเข้ารับการเคลมได้ ต้องมีการออกใบเคลมใหม่ ซึ่งต้องติดต่อกับบริษัทประกันภัยรถยนต์โดยตรง ฉะนั้นพอได้รับใบเคลมประกันรถมาเรียบร้อยแล้ว ควรหาวันเวลาที่สะดวก เข้าไปใช้บริการให้เร็วที่สุด
คำแนะนำเพิ่มเติม หากประกันรถยนต์ของเราใกล้หมดอายุ แต่ได้มีการออกใบเคลมไว้ก่อนแล้ว ใบเคลมประกันรถใบนั้นจะยังสามารถใช้งานได้ตามปกติ เรานำรถยนต์เข้าไปซ่อมแซมกับอู่ หรือศูนย์บริการที่เลือกไว้ได้ตามปกติ
ใบเคลม แลก เงิน ได้ไหม
สำหรับใบเคลมประกันที่เราได้รับมาจากทางบริษัทประกันรถยนต์ จะไม่สามารถนำใบเคลมแลกเงินได้ ดังนั้นหากรับใบเคลมประกันรถยนต์มาแล้ว ควรนำไปใช้งานตามเงื่อนไขที่ระบุเอาไว้ในกรมธรรม์ถึงจะดีที่สุด
คำแนะนำเพิ่มเติม การใช้งานใบเคลมประกันรถ ควรใช้งานภายในระยะเวลา 1 ปี กรณีที่เราเป็นฝ่ายถูก เผื่อมีการติดต่อเรื่องการขาดผลประโยชน์จากการใช้งานรถยนต์ ในกรอบระยะเวลาที่กล่าวไป จะช่วยให้เราสามารถจัดการเรื่องราวต่าง ๆ ควบคู่ไปกับเรื่องใบเคลมประกันได้ง่ายที่สุดแล้ว
มีกรณีใดบ้างที่บริษัทประกันภัยจะไม่รับเคลม?
- เมื่อใช้รถยนต์ในทางที่ผิดกฎหมาย เช่น ขนส่งยาเสพติด เป็นต้น
- เมื่อใช้รถยนต์ผิดประเภท เช่น นำรถไปใช้งานแบบลากจูง หรือนำรถไปตกแต่งเป็นรถซิ่งเพื่อนำไปแข่ง เป็นต้น
- เมื่อผู้ขับขี่เมาแล้วขับ หรือมีปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ในเลือดมากกว่า 150 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
- เมื่อนำรถยนต์ไปใช้นอกเหนืออาณาเขตที่คุ้มครอง หรือการขับรถออกไปยังนอกประเทศนั่นเอง
- เมื่อเกิดอุบัติเหตุและได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์สงคราม อาวุธปรมาณู การปฏิวัติต่อต้าน หรือกัมมันตภาพรังสี เป็นต้น
ค่า Deductible กับค่า Excess แตกต่างกันอย่างไร?
ค่า Excess กับค่า Deductible เป็นค่าเสียหายส่วนแรก โดยค่า Excess จะบังคับให้จ่าย 1,000 - 4,000 บาทเมื่อมีการแจ้งเคลมแบบไม่มีคู่กรณี ส่วนค่า Deductible จะเป็นค่าเสียหายแบบสมัครใจจ่าย ซึ่งจะจ่ายเมื่อมีการแจ้งเคลมแบบมีคู่กรณี หรือเมื่อคุณเป็นฝ่ายผิดเท่านั้น และการจ่ายค่า Deductible ก็มักจะได้รับส่วนลดเบี้ยประกันด้วย
ใบเคลมประกัน หาย ต้องทำอย่างไร
ถ้าเอกสารเคลมประกันสูญหาย เราจะต้องรีบดำเนินการจัดการโดยเร็วด้วย 4 ขั้นตอน คือ ติดต่อบริษัทประกันภัยรถยนต์ที่เราสมัครไว้, ไปแจ้งความเอกสารหาย, นำใบแจ้งความยื่นกับบริษัทประกันภัย และนำไปใช้งานตามปกติ ถึงแม้มันจะดูง่าย แต่บอกเลยว่าการที่เราทำใบเคลมประกันรถสูญหาย ไม่ใช่เรื่องปกติ เป็นเหตุที่ควรรีบจัดการให้ไวที่สุด สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมในแต่ละขั้นตอน มีดังนี้
- ติดต่อบริษัทประกันภัยที่เราสมัครไว้ เพื่อทำการแจ้งรายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับการเคลมในครั้งนั้น และเตรียมรับหมายเลขเคลมเผื่อเอาไว้จัดการต่อ
- แจ้งความเอกสารหาย ที่สถานีตำรวจ ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานว่าใบเคลมประกันรถยนต์ของเราหายไปจริง ซึ่งต้องมีการลงรายละเอียดที่ชัดเจน ได้แก่ หมายเลขเคลม เลขทะเบียนรถ ยี่ห้อรถ รุ่น และรายละเอียดอื่น ๆ เพิ่มเติม
- นำใบแจ้งความยื่นกับบริษัทประกันรถยนต์ เพื่อขอสำเนาใบเคลมประกันรถยนต์ใหม่ โดยตรงจากทางบริษัทประกันรถยนต์ เพราะถ้าเราไม่มีใบเคลมประกันรถ จะไม่สามารถนำรถยนต์เข้าซ่อมได้ตามปกติ
- นำไปใช้งานตามปกติ เข้ารับบริการซ่อมแซมจากศูนย์รถยนต์ หรืออู่ที่เราเลือกไว้ในเงื่อนไขกรมธรรม์
หากเป็นไปได้ การดูแลรักษาใบเคลมประกันเอาไว้ให้ดีที่สุด เป็นเรื่องปกติที่ผู้เอาประกันภัยควรทำอยู่แล้ว แต่ในเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน ทำหายขึ้นมา ต้องรีบดำเนินการโดยเร็ว เพราะกว่าในแต่ละขั้นตอนจะสามารถจัดการได้เสร็จ อาจต้องใช้เวลาอย่างต่ำ 1-2 วัน กลายเป็นว่าเราจะต้องนำรถเข้าเคลมประกันช้าลงไปอีก
ยกตัวอย่างนิยามชนิดเคลมประกัน
นิยามการเคลมประกันตรงนี้เป็นข้อมูลเสริมเพิ่มเติม เผื่อว่าใครที่เคยสังเกตบนเอกสารการเคลม แล้วนึกสงสัยว่าตัวอักษรย่อ E, N, I, S, G, A, M หรือ D ที่ปรากฎให้เราเห็นนอกเหนือจากรหัสที่นำเสนอใบด้านบน มันหมายถึงอะไรบ้าง ลองมาดูข้อมูลที่น่าสนใจเพิ่มเติมกันได้เลย
- E External คือ การตรวจสอบอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นภายในช่วงเวลา 6 โมงเช้า ถึง 6 โมงเย็น
- N Night คือ การตรวจสอบอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นภายในช่วงเวลา 6 โมงเย็น ถึง 6 โมงเช้า
- I Internal คือ การตรวจสอบอุบัติเหตุที่ผู้เอาประกัน หรือคู่กรณีเข้ามาตรวจสอบโดยตรงที่บริษัท
- S Service คือ กรณีที่เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ หรือ การเคลมที่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว
- G Garage คือ การเข้าเคลมอู่ที่ได้รับอนุมัติให้มีการเปิดเคลมได้
- A Application คือ การเคลมผ่านระบบของแอปพลิเคชั่นตามเงื่อนไขที่กำหนด
- M Mirror คือ การเข้าเคลมร้านกระจกที่ติดต่อได้ และได้รับการอนุมัติเคลม
- D Make an appointment within the day คือ การเคลมประกันภัยตามเงื่อนไข และมีการตรวจสอบรายละเอียดการเกิดเหตุภายในวันเดียวกันทั้งหมด
ทั้งหมดนี้อาจไม่ได้เป็นประโยชน์กับเรามากเท่าไหร่นัก แต่อย่างน้อยมันช่วยให้เราหายสงสัยในสิ่งที่เกิดขึ้นได้ เว้นว่าจะเกิดความกังวลขึ้นมา เราสามารถติดต่อสอบถามเข้าไปยังบริษัทประกันภัยได้โดยตรง ทางบริษัทพร้อมให้คำตอบที่เราสงสัยได้อย่างครบถ้วนแน่นอน
คนที่รักรถยนต์หรือมีการใช้งานรถประจำทุกวัน แนะนำว่าควรเลือกสมัครประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ติดเอาไว้ เพื่อให้ได้รับการคุ้มครองตลอดเวลาที่เดินทาง หากตัดสินใจไม่ถูก สามารถโทรเข้ามาปรึกษาโดยตรงกับทาง แรบบิท แคร์ ได้ที่เบอร์ 1438 (โทรได้ตลอดเวลา) กรณีที่เลือกซื้อประกันภัยรถยนต์จาก แรบบิท แคร์ จะได้รับส่วนลดสูงสุดถึง 70%
ความคุ้มครองประกันรถยนต์