เมาแล้วขับเสียค่าปรับเท่าไร? เคลมประกันได้ไหม? ปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเท่าใดที่ผิดกฎหมาย?
คดีเมาแล้วขับ เป็นคดีอาญาประเภทหนึ่งที่สร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้ใช้รถใช้ถนนเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม หลายคนอาจสงสัยว่าเมาแค่ไหนประกันไม่จ่าย หรือเมาแล้วชนประกันจ่ายไหม วันนี้ แรบบิท แคร์ หาคำตอบมาให้แล้ว พร้อมสรุปอัตราโทษจากการขับขี่ขณะมึนเมาสุรามาฝากกัน
เป่าแอลกอฮอล์ ไม่เกินเท่าไหร่ ถึงจะไม่โดนจับ?
การเป่าแอลกอฮอล์ผ่านครื่องตรวจเป่าแอลกอฮอล์จากลมหายใจ (Breathalyzer) ต้องมีค่าระดับแอลกอฮอล์ในเลือด (Blood Alcohol Content; BAC) ไม่เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ (mg%) หรือไม่เกินตามที่กฎหมายกำหนดจึงจะไม่ผิดกฎหมายฐานขับขี่ในขณะมึนเมา
กรณีเครื่องเป่าตรวจวัดแอลกอฮอล์ไม่สามารถคำนวณค่าปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดออกมาเป็นมิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ได้ ให้ใช้ค่าสัมประสิทธิ์ (2,000 : 1) ตามที่ระบุไว้ในกฎกระทรวง ฉบับที่ 16 ในการแปลงค่าและคำนวณระดับแอลกอฮอล์ในลมหายใจให้เป็นระดับแอลกอฮอล์ในเลือด ตัวอย่างเช่น ตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ในลมหายได้เท่ากับ 0.25 mg/l จะเทียบเท่ากับระดับแอลกอฮอล์ในเลือดเท่ากับ 500 mg/l หรือเท่ากับ 50 mg%
ระดับแอลกอฮอล์ในเลือด เท่าไร ห้ามขับรถ?
ปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดของผู้ขับขี่ที่ผิดกฎหมายกรณีขับขี่รถในขณะเมาสุรา ได้แก่ 1) ผู้ขับขี่ทั่วไปที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดสูงกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ (mg%) หรือ 2) ผู้ขับขี่ที่มีอายุหรือประสบการณ์การขับขี่น้อยกว่าที่กำหนด และมีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดสูงกว่า 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ (mg%) มีรายละเอียดดังนี้
50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
ผู้ขับขี่ที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดจากการเป่าแอลกอฮอล์หรือตรวจวัดเลือด เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ให้ถือว่าเมาสุรา ตามที่ระบุไว้ในกฎกระทรวง ฉบับที่ 16 โดยเครื่องตรวดวัดระดับแอลกอฮอล์ในเลือด หรือทำการตรวจเลือด ณ โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดและทำการเจาะเลือดภายใต้การกำกับดูแลของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพเวชกรรม
20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
ผู้ขับขี่ที่มีอายุน้อยหรือมีประสบการณ์ในการขับขี่ไม่เพียงพอตามที่ระบุไว้ในกฎกระทรวง ฉบับที่ 21 เมื่อมีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกิน 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ให้ถือว่าเมาสุรา มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
- ผู้ขับขี่ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์
- ผู้ขับขี่ที่ได้รับใบอนุญาตขับรถชั่วคราว
- ผู้ขับขี่ที่มีใบอนุญาตขับขี่ประเภทอื่นที่ใช้แทนกันไม่ได้
- ผู้ขับขี่ที่ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ อยู่ในระหว่างถูกพักใช้ หรือเพิกถอนใบขับขี่
โปรแกรมคำนวณปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด
เมาแล้วขับประกันจ่ายไหม?
ประกันภัยรถภาคบังคับหรือ พรบ.รถยนต์
กรณีผู้ขับขี่เมาแล้วขับหรือบุคคลภายนอกที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเมาแล้วขับรถชน จะได้รับความคุ้มครองกรณีบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากกรณีเมาแล้วขับตามเงื่อนไขความคุ้มครองประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ที่รถของผู้ขับขี่หรือได้ทำไว้ ในขณะที่ประกันรถภาคสมัครใจจะให้ความคุ้มครองเฉพาะกรณีที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนดหรือตามที่มีระบุไว้ในสัญญากรมธรรม์เท่านั้น
ประกันภัยรถภาคสมัครใจ
กรณีเมาแล้วขับและเป็นฝ่ายผิด แต่มีระดับปริมาณแอลกอฮอล์ในเกินไม่เกินตามที่ระบุไว้ในสัญญากรมธรรม์ บริษัทประกันจะจ่ายสินไหมชดเชยความเสียหายต่อตัวรถและความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอกตามเงื่อนไขประกันภัยภาคสมัคใจที่ทำเอาไว้ แต่กรณีที่ผู้ขับขี่มีระดับปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกินกว่าที่กำหนด บริษัทประกันจะจ่ายสินไหมชดเชยให้แก่ผู้เสียหายเท่านั้น ไม่จ่ายให้กับผู้ทำประกัน
มีแอลกอฮอล์กี่เปอร์เซ็นต์ ประกันไม่จ่าย?
ผู้ขับขี่ทำประกันรถภาคสมัครใจ และมีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกินกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จะไม่ได้รับความคุ้มครองทั้งชีวิตและทรัพย์สินตามเงื่อนไขความคุ้มครองของกรมธรรม์ประกันรถที่ทำเอาไว้ ตามประกาศสำนักงาน คปภ. เรื่องการแก้ไขข้อความกรมธรรม์ประกันภัยกรณีเมาแล้วขับ จะไม่ได้รับความคุ้มครองเมื่อมีปริมาณแอลกอฮอลล์มากกว่า 50 mg% ซึ่งประกาศเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2560
คำสั่งนายทะเบียนที่ 22/2551 | คำสั่งนายทะเบียนที่ 11/2560 |
การขับขี่โดยบุคคลซึ่งในขณะขับขี่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเส้นเลือดไม่น้อยกว่า 150 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ | การขับขี่โดยบุคคลซึ่งในขณะขับขี่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกินกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นไปตามกฎกระทรวงฉบับที่ 16 (พ.ศ. 2537) ออกตามความในพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 กำหนดให้ถือว่า “เมาสุรา” |
คู่กรณีเมาแล้วขับรถมาชน ประกันคุ้มครองไหม?
ผู้ประสบภัย บุคคลภายนอก หรือผู้ที่ได้รับความเสียหายจากรถคันที่เมาแล้วชนและรถคันดังกล่าวได้ทำประกันรถยนต์ประเภทสมัครใจไว้ จะได้รับความคุ้มครองตามเงื่อนไขความคุ้มครองประกันรถครบถ้วน โดยบริษัทประกันภัยของรถคู่กรณีที่เป็นฝ่ายผิดจะต้องชดเชยค่าสินไหมทดแทนทั้งในส่วนของชีวิตและทรัพย์สิน และไล่เบี้ยค่าสินไหมที่จ่ายไปคืนจากผู้ขับขี่ที่มีปริมาณแอลกอฮอล์เกินกว่าที่กำหนด
เมาแล้วขับแต่เป็นฝ่ายถูก ประกันคุ้มครองหรือไม่?
กรณีเมาแล้วชนและเป็นฝ่ายถูก บริษัทประกันจะให้ความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นกับทรัพย์สินและชีวิตของผู้ขับขี่หรือผู้ทำประกันตามเงื่อนไขของประกันภัยภาคสมัครใจ เฉพาะกรณีที่ผู้ขับขี่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดไม่เกิน 50 mg.% หรือไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด หรือไม่เกินกว่าที่ระบุไว้ในรายละเอียดกรมธรรม์เท่านั้น ในขณะที่ประกันภัยภาคบังคับ หรือ พ.ร.บ. จะยังให้ความคุ้มครองเช่นเดิม
อย่างไรก็ตาม คดีเมาแล้วขับเป็นคดีอาญา โดยความผิดตามกฎหมายอาญากรณีเมาแล้วขับ เกิดขึ้นและสำเร็จในทันทีที่ขับขี่ในขณะที่มีปริมาณแอลกอฮอล์เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ไม่เกี่ยวกับกรณีประมาทร่วมหรือคู่กรณีกระทำความผิดด้วยหรือไม่ รวมถึงการฝ่าฝืนกฎหมายเมื่อเกิดอุบัติเหตุ มักจะถูกสันนิษฐานไว้ก่อนว่าฝ่ายนั้นเป็นผู้ประมาท ซึ่งต้องมีการพิจารณาข้อเท็จจริงและหลักฐานแวดล้อมประกอบต่อไป
เมาแล้วขับ เสียค่าปรับเท่าไหร่ มีโทษอะไรบ้าง?
บทลงโทษกรณีเมาแล้วขับ หรือการปฏิเสธการเป่าตรวจวัดแอลกอฮอล์ คือ โทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับ 10,000 – 20,000 บาท สั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ไม่น้อยกว่า 6 เดือน หรือสั่งเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ นอกจากนั้นแล้วยังมีบทลงโทษทั้งจำและปรับผู้ขับขี่ที่เมาแล้วชนในกรณีอื่น ๆ ตามที่มีระบุไว้ในพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 43 (2) ดังต่อไปนี้
เมาแล้วขับและมีปริมาณแอลกอฮอล์เกินกำหนด
ผู้ขับขี่ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับตั้งแต่ 5,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ของผู้นั้นมีกำหนดไม่น้อยกว่า 6 เดือน หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่
เมาแล้วขับ เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่ร่างกายและจิตใจ
ผู้ขับขี่ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-5 ปี ปรับตั้งแต่ 20,000-100,000 บาท และให้ศาลสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ของผู้นั้นมีกำหนดไม่น้อยกว่า 1 ปี หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่
เมาแล้วขับ เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส
ผู้ขับขี่ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2-6 ปี ปรับตั้งแต่ 40,000-120,000 บาท และให้ศาลสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ของผู้นั้นมีกำหนดไม่น้อยกว่า 2 ปี หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่
เมาแล้วขับ เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
ผู้ขับขี่ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3-10 ปี และปรับตั้งแต่ 60,000-200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่
ปฎิเสธการเป่าแอลกอฮอล์ เสียค่าปรับเท่าไหร่
การปฏิเสธเป่าวัดแอลกอฮอล์จะมีโทษเท่ากับกรณีเมาแล้วขับคือ จำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับ 10,000 – 20,000 บาท ระงับใบอนุญาตขับรถไม่น้อยกว่า 6 เดือน และศาลสามารถสั่งพักใบอนุญาตขับรถ หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับรถ และสามารถยึดรถไว้ไม่เกิน 7 วันด้วย
ผู้ขับขี่ที่มีอายุมากกว่า 20 ปีบริบูรณ์ มีปริมาณแอลกอฮอล์เกินกว่าเท่าใด จะถือว่าเมาแล้วขับ
ล่าสุด พ.ร.บ. จราจรทางบกได้กำหนดว่า ผู้ที่อายุเกิน 20 ปี หากมีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ก็จะถือว่าเมาสุราเช่นกัน โดยกฎหมายได้กำหนดบทลงโทษไว้ว่าต้องติดคุก ถูกปรับ และบำเพ็ญประโยชน์ นอกจากนี้ หากเกิดอุบัติเหตุจากการขับขี่ขณะเมา บริษัทประกันบางแห่งอาจไม่ให้ความคุ้มครอง ดังนั้นการหลีกเลี่ยงการดื่มจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดเพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทั้งต่อตนเองและเพื่อนร่วมทางบนท้องถนน.
โดนเป่าแอลกอฮอล์ เสียค่าปรับเท่าไหร่
ถ้าคุณโดนเป่าแอลกอฮอล์ คุณไม่จำเป็นต้องเสียค่าปรับ แต่ถ้าหากมีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด จะต้องโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับ 10,000 – 20,000 บาท สั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ไม่น้อยกว่า 6 เดือน หรือสั่งเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่
แรบบิท แคร์ รวบรวมแบบประกันรถยนต์จากทุกบริษัทประกันชั้นนำมาให้เลือกครบ พร้อมเปรียบเทียบและต่อประกันรถยนต์ออนไลน์ด้วยตัวเองง่าย ๆ ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมรับสิทธิพิเศษเพิ่มเมื่อเลือกซื้อประกันรถยนต์กับ แรบบิท แคร์ ตั้งแต่วันนี้ ไม่ว่าจะเป็น ส่วนลดสูงสุด 70% ผ่อนเบี้ยประกัน 0% ผ่านบัตรเครดิตหรือเงินสด นานสูงสุด 10 เดือน บริการช่วยเหลืออุบัติเหตุฉุกเฉินทางถนนตลอด 24 ชั่วโมง หรือรถใช้ระหว่างซ่อม โทรเลย 1438
บทความเกี่ยวกับกฏหมายจราจร
Tawan มีประสบการณ์สร้างสรรค์ผลงานออนไลน์ 2 ปี เขียนด้านยานยนต์ ประกันยานยนต์ที่ Rabbit Care และ Asia Direct
มีใบอนุญาตเป็นนายหน้าประกันชีวิตและนายหน้าประกันวินาศภัย มีความเชี่ยวชาญด้านประกันรถยนต์และประกันชีวิต