ประกันหมดอายุ แต่มีใบเคลม ยังเคลมได้ไหม? สรุปใบเคลมมีอายุกี่ปี

ปัญหาที่อาจมีโอกาสเกิดขึ้นได้ในโลกความเป็นจริง อย่างการที่ประกันหมดอายุ แต่มีใบเคลม เรายังสามารถนำไปเคลมได้ไหม จะมีปัญหาอะไรตามมาหรือไม่หากเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ใครที่กังวลอยู่ แรบบิท แคร์ มีคำตอบมาให้แน่นอน รวมถึงเรื่องราวอื่น ๆ ที่เกี่ยวคล่อง และค่อนข้างคล้ายคลึงกัน เช่น ได้ใบเคลมแล้ว ทำไงต่อ, เอารถไปเคลมต้องทำอย่างไร, ใบเคลมมีอายุกี่ปี และประกันรถหมดอายุ ต่อไม่ทัน เป็นอะไรไหม ทีนี้ทุกคนจะหมดห่วงได้เลยกับอนาคตในการใช้งานประกันรถยนต์ที่ดูแลครอบคลุม สำหรับการใช้งานที่เหมาะสมของแต่ละคน มาร่วมหาคำตอบไปพร้อมกันเลยว่าประกันหมดอายุ แต่มีใบเคลม ยังเคลมได้ไหม และคำถามอื่น ๆ ทั้งหมดที่กล่าวมาด้วย!

ได้ใบเคลมแล้ว ทำไงต่อ คำตอบ คือ เราสามารถนำกระดาษใบเคลม เข้าไปติดต่อขอรับการซ่อมแซม หรือบริการต่าง ๆ จากสถานที่ให้บริการตามกำหนดในเงื่อนไขกรมธรรม์ได้เลย หากใครที่เลือกใช้ประกันรถยนต์แบบซ่อมห้าง (ซ่อมศูนย์บริการ) ก็ติดต่อไปยังศูนย์ในเครือ เพื่อนัดหมายวันเข้าใช้บริการ รวมถึงนำรถยนต์เข้าศูนย์พร้อมใบเคลม เพื่อประมเินระยะเวลาการซ่อมแซมต่อไป ส่วนผู้ที่เลือกใช้ประกันรถยนต์แบบซ่อมอู่ ก็สามารถติดต่อกับอู่ที่อยู่ในเครือบริษัทประกันรถยนต์ได้โดยตรง เพื่อนัดหมายเข้าซ่อมแซมได้เช่นเดียวกัน จึงต่างกันเพียงแค่ช่องทางการติดต่อ และเข้าใช้บริการให้ถูกสถานที่เท่านั้นเอง

ฉะนั้นปัญหาที่มือใหม่หัดขับหรือคนที่เพิ่งเคยใช้งานบริการประกันรถยนต์หลายคน เกิดความสงสัยขึ้นมาเหมือนกัน ว่าถ้าเรารถยนต์เกิดอุบัติเหตุ มีตัวแทนบริษัทประกันเข้ามาดูแล พร้อมออกใบเคลมประกันมาให้แล้วเรียบร้อย เพียงแค่กระดาษ 1 แผ่นนี้ ก็อุ่นใจได้แล้วว่ารถของเราจะได้รับการซ่อมแซมอย่างแน่นอน ส่วนใครที่มีคำถามประกันหมดอายุ แต่มีใบเคลมอยู่ผุดขึ้นมา เก็บความสงสัยไว้อีกนิด แล้วเจอกับคำตอบในหัวข้อที่เหลือได้เลย

เอารถไปเคลมมีกี่ขั้นตอน ต้องทำอะไรบ้าง เบื้องต้นการติดต่อเพื่อเคลมรถ จะมีอยู่ประมาณ 5 ขั้นตอน คือ ติดต่ออู่หรือศูนย์บริการในเครือ, นัดหมายการเข้าใช้บริการ, นำใบเคลมและบัตรประชาชนไปยื่น, ประเมินวันในการซ่อมแซม และรอรับรถในวันที่ทำการนัดหมาย เพียงเท่านี้ก็เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการเคลมเพื่อซ่อมแซมรถยนต์แล้ว ซึ่งรายละเอียดเพิ่มเติมในขั้นตอนทั้งหมด มีดังนี้

• ติดต่ออู่หรือศูนย์บริการในเครือ โดยสถานที่ในเครือจะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขในกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ของเรา ที่เลือกสมัครใช้บริการเอาไว้ สามารถค้นหาสถานที่ใกล้เคียง ได้จากหน้าเว็บของประกันภัยอีกทีหนึ่ง
• นัดหมายการเข้าใช้บริการ เพื่อให้เรานำรถยนต์ที่เสียหายเข้าไปประเมินกับทางอู่ หรือศูนย์บริการได้อย่างสะดวกสบายที่สุด
• นำใบเคลมและบัตรประชาชนไปยื่น เพื่อเป็นการยืนยันว่าเจ้าของรถยนต์กับผู้สมัครประกันรถยนต์ เป็นคนเดียวกัน (กรณีที่มีการสมัครประกันแบบระบุชื่อ) ส่วนประกันรูปแบบอื่นอาจมีเอกสารเพิ่มเติมตามเงื่อนไข ควรเช็กให้ดีก่อนเอารถยนต์ไปเคลม
• ประเมินวันในการซ่อมแซม ทางศูนย์ หรืออู่จะทำการประเมินความเสียหายโดยรวม เพื่อคาดการณ์ระยะเวลาในการซ่อมแซม หากเงื่อนไขประกันมีรถยนต์ให้ใช้งานแทน รวมถึงค่าขาดประโยชน์ ต้องเช็กให้ดีก่อนเสียสิทธิ์
• รอรับรถในวันที่ทำการนัดหมาย เมื่อจัดการขั้นตอนทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว ก็เตรียมรอรับรถยนต์หลังจากซ่อมแซมเสร็จตามที่ได้รับวันนัดหมายเอาไว้
  
  

เพียงเท่านี้ก็ถือเป็นอันเสร็จสิ้นแล้วกับการเอารถยนต์ไปเคลม แต่ทั้งนี้ถ้าใครมีปัญหาที่มีความจำเป็นต้องใช้งานรถยนต์ หรือยังไม่สามารถระบุวันที่จะเอารถยนต์ไปเคลมได้แบบแน่นอน ต้องมาดูข้อมูลเพิ่มเติมว่าใบเคลมมีอายุกี่ปี และถ้าหากประกันหมดอายุ แต่มีใบเคลมที่ทางบริษัทเคยออกให้แล้ว ยังสามารถเอาเคลมได้อยู่หรือไม่

ใบเคลมมีอายุกี่ปี คำตอบ คือ ใบเคลมมีอายุนานถึง 2 ปี นับตั้งแต่วันที่เกิดอุบัติเหตุ ทีนี้สบายใจได้เลยว่าจะเอารถไปเคลมเมื่อไหร่ก็ได้ ขอเพียงแค่อยู่ในเงื่อนไขของกรมธรรม์ และตามระยะเวลาที่กำหนดเอาไว้ ไม่ต้องกังวลเรื่องใบเคลมมีอายุกี่ปีอีกต่อไป อย่างไรก็ตาม แนะนำให้รีบดำเนินการแจ้งซ่อมภายใน 15 วันจะดีที่สุด เพื่อป้องกันไม่ให้ใบเคลมสูญหายและปัญหาอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นตามมา

ส่วนเรื่องประกันหมดอายุ แต่มีใบเคลม ยังเคลมได้ไหม ก็ตอบได้ทันทีเลยว่า สามารถเคลมได้อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นการที่ประกันหมดอายุ แต่มีใบเคลมแล้วไม่ได้ต่อประกันรถยนต์กับบริษัทอื่น หรือตัดสินใจกลับมาต่อประกันรถยนต์กับบริษัทเดิมหลังจากที่ประกันหมดอายุ แต่มีใบเคลม ก็ยังเคลมได้เช่นกัน ซึ่งกรณีที่หลายคนกังวลจะเป็นเรื่องที่หากประกันหมดอายุ แต่มีใบเคลมบริษัทเก่า จะเคลมได้ไหมถ้าทำประกันบริษัทใหม่แล้ว ตรงนี้ก็ยังตอบเช่นเดิมว่าทำได้เหมือนกัน ไม่ต้องกังวลเลย แต่ทางที่ดีการเลือกเคลมประกันรถให้เร็วที่สุด จะช่วยให้เราเกิดความสบายใจได้มากกว่า และยังซ่อมแซมรถยนต์ของเราให้กลับมาดูดีได้ไวอีกเช่นกัน

ประกันรถหมดอายุ ต่อไม่ทัน เป็นอะไรไหม ในความเป็นจริงแล้วต้องบอกว่าไม่เป็นอะไร เนื่องจากประกันรถยนต์ต่าง ๆ เป็นประกันภาคสมัครใจที่เราสามารถเลือกทำได้ตามความต้องการ แต่ที่จะขาดไม่ได้เลยนั่นคือ พ.ร.บ. รถยนต์ ที่ต้องมีการต่อเนื่องทุกปีตามที่กฎหมายกำหนด ถ้าหากไม่มีการต่อพ.ร.บ. จะไม่สามารถยื่นภาษีได้ พอไม่มีการจ่ายภาษี ไม่ได้รับป้ายวงกลม ก็จะมีสิทธิ์ถูกเรียกปรับ และรับโทษสูงได้เลยทีเดียว

เบื้องต้นหากประกันหมดอายุ แต่มีใบเคลมแล้วต้องใช้งานจริง ๆ ควรหาเวลาว่างที่เหมาะสม เพื่อเข้าใช้บริการอย่างน้อยภายใน 15 วัน เพราะถ้าหากปล่อยทิ้งไว้นานเกินไปหลังจากที่เกิดอุบัติเหตุ จนมีร่องรอยความเสียหายเยอะมากขึ้นเกินกว่าที่ใบเคลมระบุเอาไว้ ต่อให้เป็นช่วงที่ประกันยังไม่หมด หรือประกันหมดอายุ แต่มีใบเคลม ก็อาจต้องจ่ายค่าซ่อมแซมที่นอกเหนือจากรายละเอียดในเคลมเพิ่มเติมด้วยตัวเองทั้งหมด กลายเป็นค่าใช้จ่ายบานปลายกว่าเดิมนั่นเอง

ถ้าหากกังวลเกี่ยวกับประกันหมดอายุ แต่มีใบเคลมอยู่ แล้วกลัวจะมีปัญหาเคลมไม่ได้ ก็หมดกังวลกันไปแล้ว แต่ใครที่กลัวว่าจะขาดต่อประกันนานจนลืมตัว ปัจจุบันสามารถต่อประกันรถยนต์ล่วงหน้าได้สูงสุดถึง 3 เดือน ซึ่งจะช่วยให้เรามีโอกาสได้เปรียบเทียบประกันต่าง ๆ ในระยะเวลาที่เหมาะสม และยังได้เลือกผ่อน 0% 3-6 เดือน ตามเงื่อนไขของบริษัทประกันรถยนต์หลาย ๆ แห่งด้วยเช่นกัน จึงขึ้นอยู่กับการวางแผนว่าเราจะเลือกต่อประกันรถยนต์ ในรูปแบบใดที่เหมาะสมกับเราที่สุด

สรุปสุดท้ายนี้คงไม่ต้องห่วงอีกต่อไปแล้วในเรื่องประกันหมดอายุ แต่มีใบเคลมจะเคลมได้ไหม เพราะที่ไหนก็ให้เคลมได้แน่นอน เพียงแต่จะเคลมได้เฉพาะร่องรอยความเสียหายที่เกิดขึ้นเฉพาะอุบัติเหตุที่มีการออกใบเคลมเท่านั้น หากมีความเสียหายเพิ่มเติมนอกเหนือจากที่ระบุเอาไว้ เจ้าของรถยนต์ต้องเป็นคนรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นเองทั้งหมด ตามที่ทางอู่หรือศูนย์บริการประเมินมา สำหรับใครที่ต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับประกันรถยนต์เพิ่มเติม รวมถึงเปรียบเทียบประกันรถยนต์ที่เหมาะสมกับคุณที่สุด เพื่อทำการต่อล่วงหน้า สามารถติดต่อหา แรบบิท แคร์ ได้ที่เบอร์ 1438 (โทรได้ 24 ชั่วโมง) และถ้าตัดสินใจซื้อประกันรถยนต์ที่ แรบบิท แคร์ รับส่วนลดพิเศษสูงสุดถึง 70% หรือผ่อน 0% นานสุด 10 เดือน