
ต่อพรบ+ภาษี รถกระบะ ราคาเท่าไหร่ แพงหรือไม่ ?
เมื่อเกิดอุบัติรถชนจนรถพังใช้งานต่อไม่ได้ ทำให้ต้องหยุดใช้รถ นอกจากคำถามที่ว่าประกันชั้น 1 เคลมอะไรได้บ้างแล้วคำถามต่อๆ ไป คือ จะหารถที่ไหนมาใช้แทน? ค่าเสียโอกาสหรือค่าเดินทางในระหว่างรอซ่อมรถใครจะเป็นคนจ่าย? ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถนับวันยังไง? คู่กรณีไม่มีประกันต้องเบิกค่าสินไหมทดแทนการใช้รถยังไง?
วันนี้ แรบบิท แคร์ รวบรวมวิธีเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน หรือค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถระหว่างซ่อมให้ได้เต็มตามความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง พร้อมตัวช่วยให้มีรถใช้งานระหว่างรอซ่อมแบบไม่มีค่าใช้จ่ายมาฝากกัน
ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ คือ เงินชดเชยจากบริษัทประกันภัยคู่กรณีเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางของเจ้าของรถคันที่เสียหายในระหว่างที่รถยังจัดซ่อมไม่เสร็จ หรือซ่อมล่าช้าเกินกว่าที่ตกลง เนื่องจากบริษัทฯ ไม่สามารถจัดหารถสำรองให้ใช้ระหว่ารอรถซ่อมได้ โดยสามารถเรียกค่าชดเชยขาดประโยชน์จากการใช้รถจากประกันรถยนต์ประเภทสมัครใจเท่านั้น
สามารถเรียกร้องค่าชดเชยขาดประโยชน์จากการใช้รถได้ไม่ต่ำกว่าวันละ 500-1,000 บาท ตามประเภทรถที่ คปภ. กำหนด และเริ่มนับวันขาดประโยชน์ใช้รถได้ตั้งแต่วันที่นำรถเข้าอู่ซ่อม รวมวันเสาร์/อาทิตย์ วันหยุดราชการ และวันนักขัตฤกษ์ จนถึงวันที่ซ่อมแล้วเสร็จ เนื่องจากบริษัทฯ มีหน้าที่เป็นผู้ควบคุมการจัดซ่อมให้อู่ซ่อมรถให้ผู้เสียหายโดยเร็ว จึงไม่มีข้อยกเว้นเรื่องวันหยุด
การคำนวณจำนวนเงินค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถจะอ้างอิงตามเกณฑ์เรียกร้องค่าชดเชยขาดประโยชน์จากการใช้รถตามประเภทรถที่ คปภ. กำหนด กรณีจำเป็นต้องเช่ารถที่มีค่าเช่ารายวันสูงกว่าจำนวนเงินขั้นต่ำที่กำหนด เช่น กำหนดให้ต้องได้ค่าชดเชยขั้นต่ำไม่น้อยกว่าวันละ 500 บาท แต่ค่าเช่ารถอยู่ที่วันละ 800 บาท สามารถเบิกค่าเช่ารถได้ตามจริง แต่ต้องเป็นรถที่มีรุ่นใกล้เคียง และมีใบเสร็จชัดเจน
การนับวันวันขาดประโยชน์จากใช้รถระหว่างซ่อม จะเริ่มนับตั้งแต่วันที่รถเกิดอุบัติเหตุใช้งานไม่ได้ หรือวันที่นำรถเข้าอู่ซ่อม แม้ว่าจะยังไม่เริ่มการซ่อมรถ รวมถึงนับรวมวันเสาร์/อาทิตย์ ไม่เว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนัตฤกษ์ เนื่องจากบริษัทประกันมีหน้าที่เป็นผู้ควบคุมจัดการให้อู่ซ่อมดำเนินการซ่อมรถผู้เสียหายให้แล้วเสร็จ แม้มีเหตุล่าช้าใดใดก็ตาม
หากคู่กรณีไม่มีประกัน ผู้เสียหายที่เป็นฝ่ายถูกต้องเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถกับผู้ขับขี่หรือเจ้าของรถคู่กรณีที่เป็นฝ่ายผิดโดยตรง โดยต้องแจ้งความลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐานก่อน จากนั้นนำหลักฐานการเช่ารถและอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องประกอบการเรียกร้อง โดยมีเจ้าหน้าตำรวจเป็นตัวกลางเจรจา หากไม่สามารถตกลงได้ อาจต้องฟ้องศาลต่อไป
สามารถเรียกค่าสินไหมทดแทนขาดประโยชน์การใช้รถได้ทั้งฝ่ายถูก (ผู้เสียหาย) และฝ่ายผิด (ผู้ละเมิด) แม้ว่าจะเป็นฝ่ายผิด หรือชนแบบมีคู่กรณีที่ไม่ใช่รถ ทำให้รถเสียหาย ไม่สามารถใช้งานได้ และต้องนำรถซ่อม หากอู่ซ่อมดำเนินการซ่อมรถนานกว่าที่ตกลง หรือมีเหตุให้ล่าช้าโดยไม่สมควร สามารถเรียกค่าชดเชยขาดประโยชน์ใช้รถจากบริษัทประกันของตนเองได้
สามารถเข้ายื่นเอกสารที่ใช้ในการเรียกสินไหมค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถระหว่างซ่อมได้ตัวตนเอง หรือมอบอำนาจให้บุคคลอื่นดำเนินการแทนให้ได้ ณ บริษัทประกันภัยรถยนต์ของคู่กรณี หรือจัดส่งเอกสารผ่านไปรษณีย์ โทรสาร หรือช่องทางออนไลน์ตามที่แต่ละบริษัทฯ กำหนด
หนังสือเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถระหว่างซ่อมสำหรับใช้ยื่นเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากบริษัทประกันภัย ไม่มีแบบฟอร์มบังคับเฉพาะตัว และไม่จำเป็นต้องเป็นแบบฟอร์มทางการ สามารถพิมพ์หรือเขียนขึ้นใหม่ด้วยตนเอง พร้อมระบุข้อความสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการเรียกร้องค่าสินไหมให้ครบถ้วนและชัดเจน
วันที่ ….
เรื่อง ขอเรียกร้องสินไหมค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถระหว่างซ่อม
เรียน แผนกสินไหมทดแทน บริษัท …..(ชื่อบริษัทประกันภัยของคู่กรณี)…..
สิ่งที่ส่งมาด้วย
1. …..(รายการเอกสารที่เกี่ยวข้อง)…..
2. ……(รายการเอกสารที่เกี่ยวข้อง)…..
3. ……(รายการเอกสารที่เกี่ยวข้อง)…..
ข้าพเจ้า…..(ชื่อนามสกุลเจ้าของรถ)…..เป็นเจ้าของรถยนต์ยี่ห้อ…..(ยี่ห้อรถ)…..รุ่น…..(รุ่นรถ)…..หมายเลขทะเบียน…..(เลขทะเบียน)…..ถูกรถยนต์ยี่ห้อ…..(ยี่ห้อรถ)…..รุ่น…..(รุ่นรถ)…..หมายเลขทะเบียน…..(เลขทะเบียน)…..ชนเข้าที่…..(บริเวณของรถที่ได้รับความเสียหาย)…..สถานที่เกิดเหตุ…..(สถานที่เกิดเหตุ)…..จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้รถข้าพเจ้ามีความเสียหายดังนี้…..(บรรยายรายการความเสียหายที่เกิดขึ้นกับตัวรถ)…..
ข้าพเจ้าจึงได้นำรถยนต์เข้าซ่อมที่…..(ชื่อและที่ตั้งอู่ซ่อม)…..ในวันที่…..(วันเดือนปีที่นำรถเข้าซ่อม)…..โดยซ่อมเสร็จวันที่…..(วันเดือนปีที่นำรถออก)…..รวมเป็นเวลา…..(จำนวนวัน)…..วัน ข้าพเจ้ามีความจำเป็นต้องใช้รถเพื่อ…..(วัตถุประสงค์การใช้รถก่อนส่งซ่อม)…..
ดังนั้น จึงขอเรียกร้องสินไหมดังต่อไปนี้
1. ค่าขาดผลประโยชน์จากการใช้รถ/ค่าเช่ารถ…..(จำนวนเงิน)…..บาทต่อวัน เป็นระยะเวลา…..(จำนวนวัน)…..วัน รวม…..(จำนวนเงิน)…..บาท
2. ค่าการเสื่อมสภาพรถ…..(จำนวนเงิน)…..บาท เนื่องจาก…..(บรรยายสภาพความเสียหายและเปรียบเทียบราคาของรถในท้องตลาด ณ ปัจจุบัน)…..
รวมเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น…..(จำนวนเงิน)…..บาท ดังรายละเอียดในเอกสารแนบ
ด้วยเหตุนี้ ข้าพเจ้าจึงมอบอำนาจให้…..(ชื่อผู้รับมอบอำนาจ-ถ้ามี)…..ดำเนินการเรียกร้องค่าขายประโยชน์จากการใช้รถและค่าเสื่อมสภาพรถของข้าพเจ้าจนเสร็จการ
จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา
ลงชื่อ
…..(ลายมือชื่อหรือลายเซ็น)…..
…..(ลายมือชื่อแบบบรรจง)…..
…..(หมายเลขทะเบียนรถ)…..
…..(เบอร์โทรศัพท์ติดต่อ)…..
สามารถเริ่มดำเนินการเรียกร้องสินไหมค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถกับบริษัทประกันรถที่รถคู่กรณี (ฝ่ายผิด) จัดทำประกันรถประเภทสมัครใจไว้เมื่อรถซ่อมแล้วเสร็จ และได้รับเอกสารใบรับรถคืนจากอู่ซ่อมรถแล้ว โดยบริษัทฯ อาจขอเจรจาต่อรองค่าขาดประโยชน์เบื้องต้นก่อน หากผู้เสียหายตกลง จะได้รับเงินค่าชดเชยการขาดประโยชน์การใช้รถ ไม่เกิน 7 วัน
หากไม่สามารถเจรจาตกลงค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถได้เป็นที่พอใจทั้งสองฝ่าย อาจต้องแจ้งเรื่องต่อ คปภ. เพื่อให้ช่วยไกล่เกลี่ยต่อ แต่ คปภ. มีอำนาจสั่งให้บริษัทฯ จ่ายค่าสินไหมชดเชยเท่านั้น ไม่มีอำนาจระบุจำนวนเงินค่าชดเชยที่บริษัทฯ ต้องจ่ายให้ หากยังไม่สามารถตกลงกันได้ ต้องไปสู่ขั้นตอนการระงับข้อพิพาทด้วยวิธีอนุญาโตตุลาการหรือฟ้องร้องคดีผู้บริโภคต่อไป
สามารถติดต่อแจ้งร้องเรียนเรื่องการเรียกร้องค่าขาดผลประโยชน์การใช้รถระหว่างซ่อมกับ คปภ. ได้ที่ ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนด้านการประกันภัย (Insurance Complaint Center : ICC) ผ่านทาง https://complaintportal.oic.or.th/ppms/login หรือยื่นเรื่องด้วยตัวเองที่ คปภ. สำนักงานใหญ่ และสำนักงาน คปภ. ภูมิภาค โทร. 0-2515-3999 หรือ สายด่วนประกันภัย 1186 ในวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 8.30-16.30 น. E-mail : [email protected]
ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ เป็นการชดเชยที่ผู้เอาประกันภัยหรือเจ้าของรถได้รับหากรถของตนไม่สามารถใช้งานได้ในระหว่างที่อยู่ในระหว่างการซ่อมหลังจากเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งการชดเชยนี้มักคำนวณเป็นเงินรายวัน หรืออาจให้เป็นรถทดแทน ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของประกันภัยและการเรียกร้องค่าเสียหาย
การเรียกเคลมค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถจะขึ้นอยู่กับประเภทของประกันภัยที่คุณทำไว้และสถานการณ์ของอุบัติเหตุ โดยรายละเอียดการเคลมมีดังนี้
1. ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 : สามารถเคลมค่าขาดประโยชน์ได้
2. ประกัน 2+ และประกัน 3+ : สามารถเคลมได้ถ้าเป็นฝ่ายถูก
3. ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2 และ 3 : ไม่สามารถเคลมได้โดยตรง
แรบบิท แคร์ เพิ่มความมั่นใจในวันที่ไม่มีรถขับ ด้วยบริการมีรถใช้ระหว่างซ่อม (Car Replacement) ฟรีสูงสุด 3 วัน/1 ครั้ง/ปีกรมธรรม์ กรณีเป็นฝ่ายถูก หรือเลือกอัพเกรดรุ่นรถ/เช่ารถต่อในราคาพิเศษ หากต้องการใช้รถมากกว่า 3 วัน สำหรับลูกค้าที่ทำประกันรถยนต์ชั้น 1
พร้อมบริการเสริมเพิ่มความแคร์แม้ไม่มีเหตุให้แจ้งเคลมประกันอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นผ่อน 0% ด้วยเงินสดหรือบัตรเครดิต นานสูงสุด 10 เดือน บริการเคลมออนไลน์ หรือระบบ CareOS ตัวช่วยเปรียบเทียบประกันรถยนต์ภายใน 30 วินาที รับเบี้ยประกันราคาพิเศษเฉพาะคุณเท่านั้น! โทรเลย 1438 หรือ rabbitcare.com
Tawan มีประสบการณ์สร้างสรรค์ผลงานออนไลน์ 2 ปี เขียนด้านยานยนต์ ประกันยานยนต์ที่ Rabbit Care และ Asia Direct
มีใบอนุญาตเป็นนายหน้าประกันชีวิตและนายหน้าประกันวินาศภัย มีความเชี่ยวชาญด้านประกันรถยนต์และประกันชีวิต
บทความแคร์เรื่องประกันยานยนต์
ต่อพรบ+ภาษี รถกระบะ ราคาเท่าไหร่ แพงหรือไม่ ?
ประกันรถบรรทุก เป็นอย่างไร ต้องเป็นรถลักษณะไหนถึงจะได้รับความคุ้มครอง
Ambulance ต้องทำประกันหรือไม่ ? ประกันรถพยาบาล คืออะไร ?