เจ้าของรถต้องอ่าน! สิ่งที่ควรรู้ เกี่ยวกับการเคลมประกันรถยนต์
เคลมประกันรถยนต์ สิ่งที่เจ้าของรถยนต์ทุกคันจำเป็นที่จะต้องเผชิญไม่ช้าก็เร็ว ซึ่งการทราบรายละเอียด และมีความรู้เกี่ยวกับการเคลมประกันรถยนต์นั้นถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยรักษาผลประโยชน์ของเราได้เป็นอย่างมาก ดังนั้นวันนี้ แรบบิท แคร์ จึงได้เลือกนำเรื่องราวน่ารู้ที่เกี่ยวกับการเคลมประกันรถยนต์ที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้มาฝาก หวังว่าจะช่วยไขข้อข้องใจ และลดความสับสนของทุกคนเกี่ยวกับรายละเอียดในการเคลมประกันไปได้มาก ลองไปอ่านเพื่อทำความเข้าใจกันในบทความนี้ได้เลย!
การเคลมประกันรถยนต์
เคลมประกันรถยนต์ คือ สิ่งที่ต้องทำเมื่อรถยนต์ของเรานั้นเกิดความเสียหายเนื่องจากอุบัติเหตุน้อยใหญ่บนท้องถนน หรืออาจเกิดจากการเฉี่ยวชนกับวัตถุสิ่งของต่าง ๆ ด้วยความไม่ระมัดระวังของเราในขณะที่ขับขี่ ซึ่งในการที่เราจะเคลมประกันนั้นจะถูกแบ่งออกเป็น 2 กรณีด้วยกัน คือ การเคลมแบบมีคู่กรณี หรือที่เราเรียกกันว่าการเคลมสด (Fresh Claim) และการเคลมแบบไม่มีคู่กรณี ที่เราเรียกกันว่าการเคลมแห้ง (Dry Claim) นั่นเอง
เคลมประกันรถยนต์ เคลมสด คืออะไร ?
การเคลมสด หมายถึง การเรียกร้องค่าสินไหมทันทีหลังจากเกิดอุบัติเหตุรถชน โดยคู่กรณียังอยู่ในที่เกิดเหตุ (ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุระหว่างรถยนต์สองคัน) ซึ่งจะต้องโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาที่จุดเกิดเหตุเพื่อตรวจสอบและออกเอกสารสำหรับการเคลมทันที หากมีผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุ จำเป็นต้องไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ โดยใช้ใบขับขี่และหน้ากรมธรรม์ประกันภัยเป็นหลักฐาน
กรณีรถคันที่เกิดอุบัติเหตุหรือได้รับความเสียหายได้ทำประกันรถชั้น 1, ประกัน 2+, ประกันรถยนต์ 3+ ไว้ สามารถนำรถเข้าซ่อมได้กับศูนย์บริการ (ซ่อมศูนย์) หรืออู่ซ่อมรถยนต์ (ซ่อมอู่) ได้ทันที โดยแสดงเอกสารใบเคลมกับหน่วยงานซ่อมรถที่ต้องการใช้บริการและนำรถเข้าซ่อมได้ตามสะดวกภายในระยะเวลา 1 ปี นับตั้งแต่วันที่ใบเคลมจากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบอุบัติเหตุ ส่วน "ประกันรถยนต์ 2+ กับ 3+ ต่างกันอย่างไร" ดูข้อมูลได้ที่นี่
เคลมประกันรถยนต์ เคลมแห้ง คืออะไร ?
การเคลมแห้งหมายถึงการเรียกร้องค่าสินไหมที่เกิดขึ้นหลังจากอุบัติเหตุผ่านไปแล้ว โดยส่วนใหญ่มักเป็นความเสียหายเล็กน้อยที่ไม่ได้เกิดจากการชนกับรถยนต์คันอื่น เช่น การขับรถชนเสาไฟ กำแพง ป้าย ขอบถนน ราวสะพาน เป็นต้น ซึ่งอุบัติเหตุเหล่านี้นั้นจะทำให้รถเกิดรอยขูดขีดหรือรอยบุบเล็กน้อยเพียงเท่านั้น ซึ่งไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการขับขี่โดยตรง และไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ
- การเคลมแห้งที่เคลมได้แม้ไม่มีคู่กรณี เช่น การโดนชนแล้วหนี รถเสียหายไม่สามารถระบุสาเหตุได้ หรือกรณีรถชนกับคู่กรณีไม่ใช่รถยนต์ ฯลฯ จะมีในประกันรถยนต์ชั้น 1 เท่านั้น
- รถชนต้องแจ้งประกันภายในกี่วัน สามารถแจ้งหลังเกิดเหตุ 2-3 วัน หรือรวบรวมรอแจ้งพร้อมกันในครั้งเดียวก่อนครบรอบสัญญากรมธรรม์ประกันรถยนต์
เคลมประกันรถยนต์ เคลมประกัน ซ่อมเองได้ไหม ?
สำหรับผู้ที่อยากนำรถไปซ่อมเองแล้วค่อยเบิกค่าซ่อมแต่ไม่ทราบว่าสามารถทำได้ไหม ส่วนใหญ่แล้วจะไม่สามารถทำได้ แต่ทั้งนี้ต้องตรวจสอบรายละเอียดเงื่อนไขกับทางบริษัทประกันภัยเพื่อความแน่นอน
การเคลมประกันรถยนต์ ไม่มีคู่กรณี
แน่นอนว่าแม้จะทราบไปแล้วว่าการ เคลมประกันรถยนต์แบบไม่มีคู่กรณี คืออะไร แต่เจ้าของรถที่ต้องการที่จะเคลมประกันรถยนต์ก็คงยังมีข้อสงสัยอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่ง แรบบิท แคร์ได้นำคำตอบของคำถามที่พบบ่อยมาให้ ดังนี้
เคลมประกันรถยนต์ เคลมประกัน ไม่มี คู่กรณี จะเสียประวัติ ไหม ?
แจ้งเคลมประกันรถยนต์เสียประวัติไหม ในการเคลมประกันรถยนต์แบบไม่มีคู่กรณีหรือแบบแห้งนั้น ในกรณีดังกล่าวจะมีการตัดสินว่าตัวเราเป็นฝ่ายผิด ซึ่งแน่นอนว่าจะส่งผลเสียต่อประวัติอย่างแน่นอน โดยจะมีผลทำให้เบี้ยประกันของเราในปีต่อ ๆ ไป แพงขึ้นนั่นเอง
เคลมประกันรถยนต์ เคลมประกัน ไม่มีคู่กรณี ไม่เสียค่า Excess ใช่ไหม ?
กรณีเคลมประกันรถยนต์แบบไม่มีคู่กรณี เช่น ชนฟุตบาต กิ่งไม้ขูด ชนเสาไฟฟ้า หรือคู่กรณีหนีไปและไม่สามารถอธิบายรายละเอียดหรือมีหลักฐานที่ชัดเจนโดยส่วนมากนั้นจะต้องมีการเสียค่า Excess ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของกรมธรรม์ แต่ในบางบริษัทก็อาจจะมีการยกเว้นค่า Excess ได้
การเคลมประกันรถยนต์ วิธี เคลมประกัน มี คู่กรณี
สำหรับผู้ที่ไม่ทราบว่าหากต้องการ เคลมประกันรถยนต์ในกรณีที่มีคู่กรณี (เคลมสด) จะมีวิธีในการดำเนินการอย่างไรบ้าง คำตอบคือเมื่อต้องการทำการเคลมประกันรถยนต์จะมีวิธีในการดำเนินการ ดังนี้
- เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นให้รีบโทรติดต่อบริษัทประกันที่คุณได้ซื้อกรมธรรม์ไว้ ซึ่งหากคุณซื้อประกันรถยนต์ กับ แรบบิท แคร์ เรามีเจ้าหน้าที่พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
- เมื่อเจ้าหน้าที่รับเรื่องให้ทำการแจ้งรายละเอียดหมายเลขทะเบียนรถยนต์ เลขกรมธรรม์ ชื่อผู้ขับขี่ เบอร์โทรติดต่อของผู้ขับขี่ และอธิบายจุดเกิดเหตุและลักษณะการเกิดเหตุอย่างชัดเจนเพื่อความรวดเร็วในการดำเนินการ
- เจ้าหน้าที่จะเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุเพื่อประเมินความเสียหายทันที
- หลังจากตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุเสร็จสิ้น บริษัทประกันจะทำการตรวจสอบการเคลมตามเงื่อนไขกรมธรรม์ที่ได้ซื้อไว้ เมื่อการตรวจสอบเสร็จสิ้น จะได้รับใบแจ้งเคลมเป็นลำดับถัดไป
- นำรถเข้าซ่อมที่อู่ในเครือหรือศูนย์บริการ ตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ที่ได้เลือกไว้
และนี่ก็คือวิธีเคลมประกันรถยนต์แบบมีคู่กรณี จะสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนว่ามีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยากแต่อย่างใด โดยหัวใจสำคัญก็คือการเลือกบริษัทประกันภัย หรือตัวแทนประกันภัยที่พึ่งพาในภาวะฉุกเฉินได้อย่าง แรบบิท แคร์ นั่นเอง
เคลมประกันรถยนต์ ใช้เอกสารอะไรบ้าง ?
แน่นอนว่าเมื่อจะเคลมประกันรถยนต์นั้นการเตรียมเอกสารที่ใช้ในการเคลมประกันจะเป็นสิ่งที่ละเลยไม่ได้เป็นอันขาด ซึ่งในวันนี้ แรบบิท แคร์ ได้รวบรวมเอกสารที่ต้องเตรียมไว้ใช้เคลมประกันรถยนต์มาให้แล้ว
เอกสารเคลมประกันรถยนต์
- สำเนาใบขับขี่ของผู้ขับขี่ขณะเกิดเหตุ
- สำเนาทะเบียนรถ
- สำเนาหน้าตารางกรมธรรม์
- สำเนาบันทึกประจำวัน (แล้วแต่กรณี)
- เอกสารชนแล้วแยก หรือใบหลักฐานยอมรับผิดจากคู่กรณี (แล้วแต่กรณี)
ใบมอบอํานาจ เคลมประกันรถยนต์ใช้ในกรณีไหน ?
จะต้องใช้ใบมอบอำนาจเคลมประกันรถยนต์ร่วมด้วยในกรณีเจ้าของรถมอบอํานาจให้บุคคลอื่นดําเนินการ เคลมประกันรถยนต์แทน
เคลมประกันรถยนต์ ค่าเสียหายส่วนแรก คืออะไร ?
สำหรับผู้ที่ยังไม่ทราบว่าค่าเสียหายส่วนแรกนั้นคืออะไร อันดับแรกก็ต้องมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับค่าเสียหายส่วนแรกกัน โดยค่าเสียหายส่วนแรกคือจำนวนเงินที่ผู้เอาประกันภัยต้องจ่ายเพิ่มเติมให้กับบริษัทประกันภัยตามที่ คปภ. กำหนด เพื่อป้องกันการแจ้งเคลมซ่อมรถโดยไม่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นจริง หรือจากการขับรถด้วยความประมาท ซึ่งค่าเสียหายส่วนแรกแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ ค่า Excess และค่า Deductible
เคลมประกันรถยนต์ ค่า Excess คืออะไร ?
ค่า Excess เป็นค่าเสียหายส่วนแรกภาคบังคับที่เกิดขึ้นเฉพาะกับการเคลมประกันภัยชั้น 1 ผู้เอาประกันภัยจะต้องจ่ายค่า Excess ให้กับบริษัทประกันเมื่อนำรถเข้าซ่อมที่ศูนย์หรืออู่ซ่อมรถ โดยเริ่มต้นที่ 1,000 บาทต่อเหตุการณ์ ในกรณีที่ผู้เอาประกันแจ้งเคลมอุบัติเหตุรถชนแต่ไม่สามารถระบุคู่กรณีได้ หรือไม่สามารถแจ้งรายละเอียดคู่กรณี ความประมาทของผู้ขับขี่ หรือไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจน เช่น
- ถูกชนแล้วหนี ไม่สามารถหาคู่กรณีหรือหลักฐานบ่งบอกคู่กรณีได้
- รถมีรอยขีดข่วนหรือสีลอกจากการถูกทำลาย
- หินหรือวัตถุใด ๆ กระเด็นใส่รถจนเกิดความเสียหาย
- รถครูดเสา ฟุตบาท หรือตกหลุม
- รถเหยียบตะปูหรือของมีคมอื่น ทำให้ยางฉีก
- รถถูกสัตว์กัดแทะ เช่น สุนัขกัดรถหรือแมวข่วน
เคลมประกันรถยนต์ ค่า Excess คิดยังไง ?
โดยปกติแล้วผู้เอาประกันภัยจะต้องจ่ายค่า Excess เริ่มต้นที่ 1,000 บาทต่อเหตุการณ์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการประเมินของบริษัทประกันภัย และเงื่อนไขกรมธรรม์
เคลมประกันรถยนต์ ค่าExcess ต้องจ่ายตอนไหน
สำหรับผู้ที่สงสัยว่าจะต้องจ่ายค่า Excess ตอนไหน ผู้เอาประกันภัยจะต้องจ่ายค่า Excess ให้กับบริษัทประกันเมื่อนำรถเข้าซ่อมที่ศูนย์หรืออู่ซ่อมรถนั่นเอง
เคลมประกันรถยนต์ ค่า deduct คืออะไร ?
สำหรับค่า Deductible เมื่อเคลมประกันรถยนต์นั้น คือค่าเสียหายส่วนแรกที่ผู้เอาประกันภัยยินยอมจ่ายให้กับบริษัทประกันภัยด้วยความสมัครใจเมื่อเกิดอุบัติเหตุและต้องการเคลมรถ โดยที่เป็นฝ่ายผิดและมีคู่กรณี ตามข้อตกลงในกรมธรรม์จะต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกเริ่มต้นที่ 2,000 – 5,000 บาท แต่หากเราเป็นฝ่ายถูกจะไม่ต้องเสียค่าเสียหายส่วนแรก นอกจากนี้ยังสามารถใช้ค่า Deductible เพื่อลดค่าเบี้ยประกันภัยได้อีกด้วย
เคลมประกันไม่เสียค่า Excess กรณีไหน ?
เคลมประกันรถยนต์โดยไม่ต้องเสียค่า Excess จะเกิดขึ้นในกรณีที่เป็นการเกิดอุบัติเหตุในลักษณะที่มีคู่กรณี หรือเป็นการเคลมแบบสดนั่นเอง
เคลมประกันรถยนต์ ประกันคืนทุน คืออะไร ?
ประกันคืนทุนคือค่าสินไหมทดแทนที่บริษัทประกันจะจ่ายให้ผู้เอาประกันเมื่อเกิดความเสียหายต่อรถยนต์ เช่น อุบัติเหตุ รถหาย หรือรถไฟไหม้ ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของประเภทประกันภัยรถยนต์ที่ผู้เอาประกันได้เลือกไว้ โดยปกติทุนประกันจะถูกกำหนดตามยี่ห้อและรุ่นของรถ รวมถึงอายุของรถด้วย หากรถใหม่เพิ่งซื้อมา ทุนประกันก็จะสูงที่สุด
เคลมประกันรถยนต์ ข้อกำหนดการคืนทุนประกัน รถยนต์ คปภ.
เมื่อรถยนต์เสียหายสิ้นเชิง หมายถึง รถยนต์เสียหายจนไม่สามารถซ่อมให้กลับสภาพเดิมได้ หรือการซ่อมต้องใช้ค่าใช้จ่ายไม่น้อยกว่า 70% ของมูลค่ารถยนต์ขณะเกิดความเสียหาย บริษัทประกันต้องจ่ายค่าสินไหมทดแทนเต็มจำนวน (มักเรียกว่า "คืนทุนประกัน") ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนรถยนต์หรือชดเชยเป็นเงินสด แต่หากไม่สามารถตกลงกันได้ว่าจะซ่อมหรือคืนทุนประกัน ให้ดำเนินการจัดซ่อมโดยอู่กลางประกันภัย หากการซ่อมโดยอู่กลางมีความบกพร่องหรือเสียหายเพิ่มขึ้น หรือซ่อมล่าช้า บริษัทประกันไม่ต้องรับผิดชอบ ยกเว้นในกรณีที่อู่กลางนั้นเป็นอู่คู่สัญญาของบริษัทประกัน
สำหรับอะไหล่ที่ใช้ซ่อม หากหาไม่ได้ในท้องตลาด ให้นำเข้าจากต่างประเทศ โดยบริษัทประกันจะรับผิดชอบไม่เกินราคานำเข้าที่ส่งมาทางเรือ
หากในกรมธรรม์มีการระบุชื่อผู้รับประโยชน์ เช่น บริษัทไฟแนนซ์ในกรณีที่รถยังผ่อนอยู่ บริษัทประกันจะจ่ายค่าสินไหมให้ผู้รับประโยชน์ตามส่วนได้ส่วนเสีย เมื่อจ่ายค่าสินไหมแล้ว ให้ถือว่าความคุ้มครองสิ้นสุด
เคลมประกันรถยนต์ คืนทุนประกัน ซากรถเป็นของใคร ?
ต้องพิจารณาตัวเลข 80% ว่าขณะทำประกันได้ทำประกันรถไว้ไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่ารถขณะเอาประกันหรือไม่ หากใช่และรถเสียหายสิ้นเชิง ผู้เอาประกันจะต้องโอนรถยนต์ให้กับบริษัทประกันด้วย โดยบริษัทประกันจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการโอนทั้งหมด หรืออาจเรียกว่าคืนซากรถ ติดไฟแนนซ์
สัญญาซื้อขายซากรถยนต์
ในส่วนของการคืนทุนประกันและทำสัญญาซื้อขายซากรถยนต์นั้น จะต้องมีการระบุ ว่าค่าใช้จ่ายในการโอน และต่อภาษี ผู้ซื้อเป็นผู้รับผิดชอบ และดำเนินการทั้งหมด อีกทั้งผู้ขายได้ส่งมอบรถยนต์คันดังกล่าว ในสภาพที่ถูกต้องตรงความต้องการของผู้ซื้อ ให้แก่ผู้ซื้อเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในวันที่ xx เวลา xx
ตัวอย่าง หนังสือ ขอคืนทุนประกันหาได้ที่ไหน ?
สามารถเสิร์ชดูตัวอย่างหนังสือขอคืนทุนประกันตามอินเทอร์เน็ตได้ จะมีหนังสือขอคืนทุนประกันให้ดูเป็นตัวอย่างได้ทั่วไปเลยทีเดียว
คืนซากรถ ติดไฟแนนซ์ ไม่มีประกันได้ไหม ?
กรณีไม่มีประกันรถยนต์จะไม่สามารถคืนซากรถ ติดไฟแนนซ์เพื่อขอคืนทุนประกันได้แต่อย่างใด เพราะฉะนั้นควรทำประกันรถยนต์เผื่อเอาไว้
คืนซากรถ ติดไฟแนนซ์ มีประกันได้ไหม ?
สามารถขอคืนทุนประกัน คืนซากรถ ในกรณีที่มีประกันชั้น 1 ได้ หากเป็นประกันชั้นอื่น หรือไม่มีประกันจะไม่สามารถคืนทุยประกันได้นั่นเอง
เคลมประกันรถยนต์ เคลมประกัน ย้อน หลัง ได้ไหม ?
เคลมประกันรถยนต์ย้อนหลังสามารถทำได้ ในกรณีที่ความเสียหายเป็นเพียงเล็กน้อย อย่างไรก็ตามควรจดบันทึกข้อมูลการเกิดเหตุอย่างชัดเจน เช่น วันที่ เวลา สถานที่ และลักษณะของเหตุการณ์ เพื่อการทำเคลมที่เร็วและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ การเคลมย้อนหลังอาจมีค่าใช้จ่ายส่วนแรกประมาณ 1,000 - 4,000 บาท ขึ้นอยู่กับข้อตกลงกับบริษัทประกัน
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเคลมประกันรถยนต์
เคลมประกันรถยนต์ ใบเคลมรถ มีอายุเท่าไหร่ ?
อายุใบเคลมประกันรถยนต์จะมีอายุ 2 ปี นับตั้งแต่วันที่บริษัทประกันภัยออกเอกสารให้แก่ผู้ทำประกัน เช่น เมื่อทำประกัน ชั้น 1 หลังได้รับเอกสารจะสามารถนำรถเข้าซ่อมเมื่อไหร่ก็ได้ภายใน 2 ปี
ขายซากรถ แต่ยังผ่อนไม่หมดได้ไหม ?
ถ้าคุณต้องการขายซากรถที่ยังผ่อนไม่หมด รถชนหนัก ติดไฟแนนซ์แต่อยากขาย ต้องทราบว่ากรรมสิทธิ์ของรถยนต์ยังเป็นของบริษัทไฟแนนซ์อยู่จนกว่าจะชำระหนี้สินทั้งหมดเสร็จสิ้น ดังนั้น ต้องติดต่อแจ้งให้บริษัทไฟแนนซ์ทราบเสมอก่อนที่จะทำการขายซากรถนั้น การขายโดยไม่ได้รับอนุญาตจากบริษัทไฟแนนซ์จะเป็นการละเมิดกฎหมาย และอาจทำให้เกิดปัญหาทางกฎหมายต่อไปได้ด้วย ดังนั้น การแจ้งให้ไฟแนนซ์ทราบและขออนุญาตก่อนการขายเป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายอย่างถูกต้อง
ทั้งหมดนี้คือข้อมูลน่ารู้ที่เกี่ยวกับการ เคลมประกันรถยนต์ที่เจ้าของรถยนต์ทุกคันควรที่จะทราบเอาไว้ หวังว่าจะมีประโยชน์กับทุกคนในอนาคตได้ ศึกษากันเอาไว้ เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินมาจะได้รับมือได้นั่นเอง
ความคุ้มครองประกันภัยรถยนต์แต่ละประเภท