11 Soft Skills ที่คนทำงานควรมีในวัยทำงาน
ในช่วงที่ผ่านมา สถานการณ์โควิด-19 ทำให้การหางานสมัครงานนั้นขรุขระไม่น้อย เพราะการแข่งขันในตลาดแรงงานค่อนข้างสูง แม้จะมี Hard Skills หรือความรู้ความสามารถที่เกี่ยวข้องกับสายงานโดยตรงแล้วก็อาจยังไม่เพียงพอในสายตาองค์กร เนื่องจากหลายองค์กรให้ความสำคัญกับ Soft Skills หรือทักษะที่พัฒนาจากการใช้ชีวิต ปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น ๆ และประสบการณ์ในการทำงาน ซึ่งสามารถนำไปปรับใช้ในการทำงานจริงได้มากขึ้น และพยายามมองหาคนทำงานที่มีทักษะทั้ง 2 อย่างควบคู่กัน ดังนั้น JobThai เลยอยากมาแนะนำว่า Soft Skills ไหนบ้างที่องค์กรมองหาจากคนทำงาน
1. ความสามารถในการปรับตัว (Adaptability)
การปรับตัวนั้นเป็นทักษะสำคัญอันดับต้น ๆ ที่คนทำงานจำเป็นต้องมีในยุคที่ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนแปลงรวดเร็วไปหมด ทั้งรูปแบบการใช้ชีวิตและวิธีการทำงานที่ต่างไปจากเดิมด้วยผลกระทบของโควิด-19 จากเข้าออฟฟิศทุกวันก็เปลี่ยนมาเป็น Work from Home หรือ
Hybrid Working ดังนั้นยิ่งปรับตัวได้ไว ก็ยิ่งเรียนรู้ รับมือ และไปต่อได้เร็วขึ้นนั่นเอง
2. การสื่อสาร (Communication)
ไม่ว่าจะทำงานอะไรล้วนต้องมีการติดต่อสื่อสารกัน ทั้งกับหัวหน้า เพื่อนร่วมงาน หรือลูกค้า ซึ่งการสื่อสารที่ถูกต้องและตรงประเด็นจะช่วยให้เกิดความร่วมมือในการทำงาน ทำให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่น โดยเฉพาะในยุคนี้ที่การสื่อสารถูกเปลี่ยนรูปแบบให้เป็นการพูดคุยกันผ่านทางออนไลน์มากขึ้น เราจึงต้องปรับตัวตามและเรียนรู้ที่จะสื่อสารทางไกลให้ได้ประสิทธิภาพ
3. การบริหารเวลา (Time Management)
คนทำงานในยุคนี้นอกจากต้องเร่งรีบเพื่อแข่งกับเวลาแล้วยังต้องทำอะไรหลาย ๆ อย่างพร้อมกันอีกด้วย ดังนั้นเราจึงต้องฝึกฝนการวางแผน ควบคุม กำหนดระยะเวลา และจัดลำดับความสำคัญของงานให้ชัดเจน รวมถึงควบคุมตัวเองให้มีวินัยจนทำตามแผนที่วางไว้ได้ด้วย
4. การคิดเชิงวิเคราะห์ (Critical Thinking)
โลกที่เต็มไปด้วยข้อมูลมหาศาล หรือ Big Data แบบทุกวันนี้ ทักษะการคิดวิเคราะห์จะช่วยให้เราย่อยข้อมูลจำนวนมากได้ด้วยการเอามาวิเคราะห์ ตีความ แยกแยะว่าสิ่งใดจริง สิ่งใดเท็จ จนทำให้สามารถรู้ลึกเบื้องหลังของข้อมูลที่ได้มา และตัดสินใจนำข้อมูลเหล่านั้นไปใช้ได้ถูกต้องแม่นยำกว่าเดิม
5. ความคิดสร้างสรรค์ (Creativity)
ความคิดสร้างสรรค์ถือเป็นทักษะที่หลายองค์กรให้คุณค่าและมองหาในตัวคนทำงาน เพราะการทำงานในยุคนี้แข่งกันที่ความคิดสร้างสรรค์และไอเดียแปลกใหม่ แต่ทักษะนี้ไม่มีหลักสูตรตายตัวในการเรียนการสอน ทำให้เราต้องฝึกฝนจากการสังเกตสิ่งต่าง ๆ และเสพข้อมูลที่หลากหลาย สะสม Input เพื่อเป็นไอเดียในการคิดค้นสิ่งใหม่ ๆ
6. ความเข้าใจในเทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Literacy)
ปัจจุบันนี้การทำงานและการใช้ชีวิตในหลาย ๆ แง่มุมถูกปรับให้เป็นรูปแบบออนไลน์ และเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีแทบทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นการซื้อขายสินค้า E-commerce การทำการตลาด การทำคอนเทนต์ต่าง ๆ เพราะฉะนั้นยิ่งมีความเข้าใจเทคโนโลยี สามารถใช้งานโปรแกรมแอปพลิเคชัน และเครื่องมือดิจิทัลต่าง ๆ ได้อย่างคล่องแคล่วมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งได้เปรียบในการทำงานมากขึ้นเท่านั้น
7. ความสามารถในการแก้ปัญหาที่มีความซับซ้อน (Complex Problem Solving)
ยุคนี้แค่ทักษะการแก้ไขปัญหาธรรมดาไม่พอแล้ว แต่ต้องเป็นการแก้ไขปัญหาที่มีความซับซ้อน เพราะองค์กรต่าง ๆ มีความเชื่อมโยงกับหลายธุรกิจ มีการทำงานที่ซับซ้อนและหลากหลายมากขึ้น การแก้ปัญหาหนึ่งจุดอาจจะส่งผลกระทบต่อเนื่องเป็นลูกโซ่องค์กรจึงต้องอาศัยคนที่มองเห็นและแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนเหล่านั้นได้
8. ความเป็นผู้นำ (Leadership)
การมีทักษะความเป็นผู้นำที่ดีได้นั้นต้องมีความรับผิดชอบ มีความยุติธรรม เปิดใจรับฟังความคิดเห็นคนอื่น อีกทั้งต้องมีความสามารถในการสอนงาน ติดตาม ให้กำลังใจ และผลักดันคนอื่น ๆ รวมถึงต้องเป็นต้นแบบหรือเป็นตัวหลักในการคิดริเริ่มเปลี่ยนแปลงอะไรใหม่ ๆ ซึ่งการเป็นผู้นำอาจไม่จำเป็นต้องมาพร้อมตำแหน่งเท่านั้น แต่เป็นความคิดและทัศนคติที่จะสามารถพาทีมไปสู่เป้าหมายได้
9. การทำงานร่วมกับผู้อื่น (Collaboration)
ทุกวันนี้เราต้องทำงานร่วมกับคนที่หลากหลาย แตกต่างกันทั้งชาติพันธุ์ เพศ ช่วงวัย และทัศนคติ องค์กรต่าง ๆ จึงต้องการคนทำงานที่มีทักษะในการทำงานร่วมกับคนอื่น สามารถสร้าง Teamwork ที่ดี ดึงประสิทธิภาพในการทำงานของทุกคนในทีมออกมาได้ไม่ว่าจะทำงานกับใคร เพื่อให้งานประสบผลสำเร็จ
10. การเข้าอกเข้าใจผู้อื่น (Empathy)
นอกจากจะทำงานร่วมกับคนอื่นได้ดีแล้ว เรายังต้องเรียนรู้ที่จะทำความเข้าใจผู้อื่นด้วย เพราะการเอาใจเขามาใส่ใจเรา ทั้งในด้านความคิดและความรู้สึก โดยไม่เอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง จะช่วยให้เราสามารถมองเห็นมุมมองอื่น ๆ และคิดตัดสินใจได้อย่างรอบด้านมากขึ้น
ช่วยลดปัญหาความขัดแย้งทั้งภายในทีม ภายในองค์กร และระหว่างองค์กรกับลูกค้าด้วย
11. การล้มแล้วลุกขึ้นใหม่ได้ไว (Resilience)
ในโลกนี้ไม่มีใครไม่เคยล้มเหลว ยิ่งในยุคที่มีความเปลี่ยนแปลงมากมายและต้องลองถูกลองผิดในการทำงานตลอดเวลา ความสามารถในการล้มแล้วลุกขึ้นใหม่ได้ไวจึงเป็นอีกทักษะที่องค์กรต้องการ แม้จะทำงานผิดพลาดก็ไม่เป็นไร การเรียนรู้ความผิดพลาดนั้นแล้วหาทางแก้ไขให้งานออกมาเวิร์กเป็นเรื่องสำคัญกว่า
ถึงแม้การฝึกฝนเพิ่มพูน Hard Skills ที่เกี่ยวข้องกับสายอาชีพจะเป็นเรื่องสำคัญ แต่ก็อย่าลืมเรียนรู้ Soft Skills เพื่อนำไปปรับใช้ในการทำงานจริงด้วย เพราะ Soft Skills เหล่านี้ก็เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้เรามีโอกาสได้งานมากขึ้น
บทความแนะนำอื่น ๆ
ที่มา
Thirakan Thongseenual เป็นนักเขียนที่มีประสบการณ์มากกว่า 3 ปี ที่ RabbitCare และ Asia Direct โดยมีความชำนาญในประกันรถยนต์ เน้นเขียนบทความที่เผยแพร่บน Blog และมีความเชี่ยวชาญด้าน SEO กว่า 4 ปี ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอได้ใช้ในการสร้างความรู้และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของ RabbitCare อย่างมีประสิทธิภาพ จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ปริญญาตรี สาขา Information Technology