เตรียมรับมือให้ดี กับนโยบายดึงเงินฝาก 10 ปีเข้าคลัง

กองบรรณาธิการ
ผู้เขียน: กองบรรณาธิการ Published: พฤศจิกายน 9, 2017
กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการ
ทีมกองบรรณาธิการ กลุ่มนักเขียนผู้มีประสบการณ์ด้านรถยนต์ การเงิน และประกันภัย ของ แรบบิท แคร์ ที่เปิดดำเนินการมาแล้วมากกว่า 10 ปี

เชื่อว่า ข่าวเศรษฐกิจที่เป็นที่น่าจับตามองที่สุดในตอนนี้ก็คงหนีไม่พ้นเรื่อง “นโยบายที่จะดึงบัญชีไม่เคลื่อนไหวเกิน 10 ปีขึ้นไปนำมาเป็นเงินคงคลัง” ทั้งเงินออมทรัพย์ ฝากประจำต่าง ๆ ซึ่งคาดกันว่า น่าจะมีมากกว่า 10,000 ล้านบาทเลยทีเดียว

พอข่าวนี้ออกมา เรียกได้ว่าตามสื่อต่าง ๆ โดยเฉพาะโลกออนไลน์ ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ออกมามากมาย ซึ่งส่วนใหญ่ออกมาทางลบ คือ คลังทำแบบนี้มันไม่ถูก เงินที่เราหามาด้วยความยากลำบากจะยึดไปได้ยังไง แบบนี้ปล้นกันชัด ๆ นี่นา เป็นต้น

หรือมีอีกหลากหลายความเห็น เช่น บ้างก็วิจารณ์ว่า รัฐบาลถังแตกเรียบร้อยแล้วเลยต้องทำแบบนี้ ส่วนตัวอยากจะให้มาลองวิเคราะห์กันเป็นเรื่อง ๆ ไปก่อน มากกว่าจะใช้ความคิดเห็นเพื่อตัดสิน

2 ประเด็นที่เงินฝาก 10 ปีถูกดึงเข้าเงินคงคลัง 

  • บัญชีไม่เคลื่อนไหวมีโอกาสที่จะเป็นบัญชีแบบไหนบ้าง?

คิดว่าบัญชีไม่เคลื่อนไหว 10 ปีขึ้นไป คงจะไม่ใช่บัญชีที่รับเงินเดือนของเรา หรือว่าเป็นบัญชีที่เราออมเงินไว้เพื่อทำอะไรแน่นอน แต่เชื่อว่ามากกว่า 90% น่าจะเป็นบัญชีที่เจ้าของเสียชีวิตไปแล้ว แล้วไม่ได้แจ้งลูกหลาน หรือไม่ก็เป็นบัญชีที่เราลืมไปว่าเคยเปิดไว้

ถ้าในกรณีที่เราลืมไปว่าเคยมีบัญชีเปิดไว้ เงินในนั้นก็คงไม่มากเท่าไหร่ เผลอๆ ถ้ามีเงินไม่เกิน 2,000 บาทเกิน 1 ปี ก็โดนธนาคารเก็บค่าธรรมเนียมหมดแล้วด้วยซ้ำ

ซึ่งถ้าถามต่อว่า เปรียบเทียบกับเงินเป็นหมื่นล้านที่ถูกนอนทิ้งไว้ ผลประโยชน์ก็เข้าบริษัทเอกชนอย่างธนาคาร กับเงินไปสร้างประโยชน์โดยรัฐบาล ดู ๆ แล้วเราน่าจะได้ประโยชน์จากรัฐบาลมากกว่า ถ้าเราไม่ได้ถือหุ้นของกลุ่มธนาคารไว้ ถ้ามองมุมนี้ การที่คลังเอาเงินฝาก 10 ไปใช้ให้เกิดประโยชน์กับประเทศ และระบบเศรษฐกิจน่าจะดีกว่า

เงินฝาก 10 ปี

  • สมมติว่าเงินฝาก 10 ปีถูกดึงเข้าคลังไปแล้ว 

ส่วนอีกประเด็นก็คือ ถ้าเงินเราถูกดึงเข้าคลังไปแล้ว เกิดเราไปค้นบ้านใหม่จัดบ้านใหม่ แล้วดันเจอสมุดบัญชีธนาคารขึ้นมา แล้วเช็คเงินว่าหายไปไหน โดนดึงไปหรือเปล่า ก็สามารถเอาคืนมาได้ เพราะเขาไม่มีสิทธิ์ในเงินเราขนาดที่ว่ายึดเงินไปเลย ดังนั้น ไม่ต้องกังวลว่า รัฐบาลจะยึดเงินไปแล้วไม่คืน

ถ้าเกิดรัฐบาลใช้นโยบายดึงเงินฝาก 10 ปีที่ไม่เคลื่อนไหวเข้าคลังจริง ๆ ก็ไม่ได้หมายความว่าเงินที่มีอยู่จะหายไปจากบัญชีเงินฝากเลย แต่น่าจะมีขั้นตอนการแจ้งเตือนเจ้าของบัญชีก่อน ถ้าใครเคยมีเงินในบัญชีต่ำกว่า 2,000 บาท แล้วเกิน 1 ปีขึ้นไป ธนาคารก็จะส่งมาแจ้งว่า มีค่าธรรมเนียมรายเดือน ฯลฯ ยังไงก็แล้วแต่ น่าจะมีการแจ้งในรูปแบบนั้นสำหรับบัญชีไม่เคลื่อนไหว

กรณีก็เหมือนกับบริการพร้อมเพย์ ที่ถูกแรงต้าน ทั้ง ๆ ที่เป็นบริการที่มีข้อดีเยอะมาก แถมไม่ได้บังคับใช้ด้วย ใครอยากใช้ก็สมัคร ไม่อยากใช้ก็ไม่ต้องสมัคร ขนาดพร้อมเพย์ที่เข้ามาช่วยสนับสนุนให้การโอนเงินเป็นเรื่องง่ายขึ้น ยังโดนกระแสวิพากษ์วิจารณ์เยอะเลย ปัญหาหลักน่าจะเป็นการสื่อสารและภาพลักษณ์ ต้องยอมรับว่า รัฐบาลไทยมีปัฐหาที่ยังแก้ไม่ตกอยู่ ณ ปัจจุบันนี้


บทความแนะนำอื่นๆ : การออม / ดอกเบี้ย

6 ธนาคารพักชำระหนี้ ลดดอกเบี้ย ช่วยผู้ประสบภัยพายุปาบึก แนะนำวิธีเก็บเงิน สร้างนิสัยทางการเงินที่ดี แบงก์ชาติเผย สภาวะเงินออมร่วง สวนทาง หนี้เสีย พุ่งสูง รวมเงินฝากดอกเบี้ยสูงประจำปี 2566 ผลตอบแทนดี พลังดอกเบี้ยทบต้น วิธีสร้างเงินให้งอกเงย

บทความแคร์การลงทุน

Rabbit Care Blog Image 104318

แคร์การลงทุน

วิธีดูกราฟหุ้น ฉบับเข้าใจง่าย มือใหม่ก็อ่านได้

การดูกราฟหุ้นนั้น ถือว่าเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับนักลงทุน เพราะช่วยให้คุณรู้ว่าหุ้นกำลัง “ขึ้น” หรือ “ลง” และยังช่วยหาจังหวะซื้อขายได้แม่นยำขึ้น
คะน้าใบเขียว
05/09/2025
Rabbit Care Blog Image 104313

แคร์การลงทุน

วิธีดูแนวรับแนวต้าน และการใช้หาจุดเข้าซื้อหุ้น เริ่มต้นยังไงดี?

เมื่อถึงการวิเคราะห์หุ้นหรือกราฟเทคนิค แนวรับ (Support) และแนวต้าน (Resistance) เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในพื้นฐานที่นักลงทุนทุกคนต้องเข้าใจ เพราะทั้งสองจุดนี้เปรียบเสมือน
คะน้าใบเขียว
03/09/2025
Rabbit Care Blog Image 103623

แคร์การลงทุน

รู้จักกับการลงทุนหุ้นสกุลเงินต่างประเทศ ฉบับมือใหม่เข้าใจง่าย

คุณเคยสงสัยไหมว่า การลงทุนในหุ้นไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในประเทศ? จริงๆ แล้วนักลงทุนสามารถทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงของค่าเงินผ่าน หุ้นสกุลเงินต่างประเทศ
คะน้าใบเขียว
19/08/2025