เปิดบัญชีให้ลูกธนาคารไหนดีให้ได้ดอกเบี้ยสูง ผลประโยชน์จัดเต็ม
นอกเหนือจากการทำประกันสะสมทรัพย์ให้ลูกแล้ว การเปิดบัญชีให้ลูกก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งซึ่งจะช่วยสร้างอนาคตทางการเงินที่ดีให้กับลูกน้อย เพราะนอกจากจะเป็นการออมเงินให้ลูกไว้ใช้ตามต้องการในอนาคตแล้ว ยังเป็นเงินสำรองไว้ให้อุ่นใจเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นอีกด้วย แต่การจะเลือกว่าเปิดบัญชีให้ลูกธนาคารไหนดีต้องพิจารณาจากหลายปัจจัยเพื่อให้สามารถออมเงินให้ลูกได้ตอบโจทย์ตรงตามความต้องการของเรามากที่สุด
สำหรับใครที่สนใจอยากเปิดบัญชีเงินฝากให้ลูก วันนี้น้องแคร์ขอแนะนำปัจจัยที่ควรพิจารณาก่อนเปิดบัญชีให้ลูก ทั้งภาษี คุณสมบัติการสมัคร อัตราดอกเบี้ย และอื่น ๆ อีกมากมาย รวมถึงแนะนำเอกสารที่ต้องเตรียม เพื่อตอบคำถามว่าควรเปิดบัญชีให้ลูกธนาคารไหนดี ออมเงินให้ลูกแบบไหนดี
เปิดบัญชีให้ลูกต้องพิจารณาอะไรบ้าง?
การเปิดบัญชีเงินฝากให้ลูกเป็นการเปิดบัญชีเพื่อออมเงินระยะยาว มีเป้าหมายคือสร้างผลตอบแทนจากดอกเบี้ยเงินฝากและผลประโยชน์อื่น ๆ ให้ได้มากที่สุด ดังนั้น ปัจจัยที่ควรพิจารณาก่อนเปิดบัญชีให้ลูกจึงมีดังนี้
- อัตราดอกเบี้ย
อัตราดอกเบี้ยเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผลตอบแทนจากการออมเงินให้ลูกงอกเงย ยกตัวอย่างเช่น หากเปิดบัญชีเงินฝากให้ลูก 2 บัญชีพร้อมกัน โดยบัญชีหนึ่งให้ดอกเบี้ย 0.5% ต่อปี และอีกบัญชีให้ดอกเบี้ย 2.0% ต่อปี หากฝากเงิน 1,000 บาทในทั้งสองบัญชีเท่ากันทุกเดือนเป็นเวลา 5 ปี บัญชีที่มีดอกเบี้ยสูงกว่าจะให้ผลตอบแทนมากกว่าถึง 2,173 บาท ดังนั้นจึงควรเปิดบัญชีให้ลูกโดยเลือกบัญชีเงินฝากดอกเบี้ยสูงเป็นหลักเพื่อเพิ่มความคุ้มค่าให้การฝากเงิน
- ข้อกำหนดในการฝาก
ถึงแม้ว่าหลายธนาคารอาจมีผลิตภัณฑ์บัญชีเงินฝากดอกเบี้ยสูงอยู่มากมาย แต่หลายครั้งอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นก็ต้องแลกมาด้วยข้อหนดในการฝากเงินที่ซับซ้อนมากขึ้น เช่น อาจต้องฝากเงินเป็นประจำทุกเดือนในจำนวนเท่า ๆ กัน หรือห้ามถอนเงินออกก่อนเวลาที่กำหนด จึงจะได้ดอกเบี้ยที่สูง ดังนั้น พ่อแม่และผู้ปกครองที่ต้องการเปิดบัญชีให้ลูกจึงต้องพิจารณาข้อกำหนดในการฝากเงินของแต่ละบัญชีเพื่อให้มั่นใจว่าจะสามารถทำตามข้อหนดเหล่านี้ได้ในระยะยาว
- คุณสมบัติ
นอกจากนี้ ธนาคารหลายแห่งยังกำหนดคุณสมบัติในการเปิดบัญชีให้ลูกที่แตกต่างกัน เช่น บางบัญชีอาจกำหนดอายุขั้นต่ำของลูก หรืออาจกำหนดว่าเมื่อผู้ฝากอายุครบกำหนดแล้ว จะเปลี่ยนประเภทบัญชีเป็นบัญชีเงินฝากปกติ พ่อแม่และผู้ปกครองที่ต้องการเปิดบัญชีเงินฝากให้ลูกจึงต้องตรวจสอบรายละเอียดคุณสมบัติของผู้ฝากอย่างละเอียด แล้วจึงเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสถานการณ์ของตนเอง เช่น หากเป็นคุณแม่ลูกอ่อนอายุไม่ถึง 1 ปี ก็ควรเลือกบัญชีที่ให้เปิดได้ตั้งแต่แรกเกิด
- ภาษี
รู้หรือไม่ว่าดอกเบี้ยที่ได้จากบัญชีเงินฝากจะต้องถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 15% ในกรณีที่ได้ดอกเบี้ยรวมกันเกิน 20,000 บาทต่อปี อย่างไรก็ตาม หากเราได้ดอกเบี้ยเงินฝากรวมกันไม่ถึง 20,000 และยินยอมให้ธนาคารส่งข้อมูลดอกเบี้ยที่ได้รับให้กับกรมสรรพากร ก็จะไม่ต้องเสียภาษีดอกเบี้ยเงินฝากแต่อย่างใด ซึ่งถ้าเราไม่ได้ฝากเงินไว้เกิน 1 ล้านบาท ก็มีโอกาสน้อยมากที่ต้องเสียภาษี ดังนั้น ก่อนจะเปิดบัญชีให้ลูกโดยเลือกบัญชีเงินฝากปลอดภาษี ลองตรวจสอบก่อนว่าดอกเบี้ยที่คาดว่าจะได้อยู่ในเกณฑ์ที่เสียภาษีหรือไม่
- เงินฝากขั้นต่ำ
นอกจากจะต้องดูอัตราดอกเบี้ย ข้อกำหนดในการฝาก คุณสมบัติผู้ฝาก และภาษีดอกเบี้ยเงินฝากแล้ว อีกปัจจัยหนึ่งที่ต้องพิจารณาก่อนเปิดบัญชีให้ลูกก็คือเงินฝากขั้นต่ำ โดยควรดูว่าบัญชีที่สนใจมีกำหนดเงินฝากขั้นต่ำเท่าไหร่ เช่น ธนาคารอาจกำหนดให้ฝากเงินขั้นต่ำ 50 บาท 500 บาท หรือ 1,000 บาท เราสามารถฝากเงินตามที่กำหนดได้หรือไม่ หากถอนเงินหมดบัญชีแล้วจะเกิดอะไรขึ้น เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จากบัญชีเงินฝากได้มากที่สุด
- ผลประโยชน์
ปัจจัยสุดท้ายที่ควรพิจารณาในการเปิดบัญชีให้ลูกคือผลประโยชน์เสริมอื่น ๆ เนื่องจากหลายธนาคารที่ออกผลิตภัณฑ์บัญชีเงินฝากสำหรับออมเงินให้ลูกจะมาพร้อมกับผลประโยชน์พิเศษ เช่น โบนัสดอกเบี้ย เงินขวัญถุง สิทธิ์ลุ้นรับทุนการศึกษา และบริการหักบัญชีอัตโนมัติ ผลประโยชน์เหล่านี้จะเพิ่มความคุ้มค่าให้กับการฝากเงินหรือช่วยอำนวยความสะดวกในการออมเงินให้ลูก
เปิดบัญชีเงินฝากให้ลูกใช้เอกสารอะไรบ้าง?
เอกสารที่ใช้ในการเปิดบัญชีให้ลูกจะแตกต่างกันตามอายุของลูกและข้อกำหนดของแต่ละธนาคาร แต่โดยทั่วไปแล้วควรเตรียมเอกสารดังต่อไปนี้
- สูติบัตร (ส่วนใหญ่จะใช้ในกรณีที่ลูกยังไม่มีบัตรประชาชน)
- บัตรประจำตัวประชาชน (ทั้งของพ่อแม่และของลูก)
- สำเนาทะเบียนบ้าน (ทั้งของพ่อแม่และของลูก)
- ทะเบียนสมรสของพ่อและแม่หรือหนังสือรับรองบุตร (จะใช้ในกรณีที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส)
อัปเดต เปิดบัญชีให้ลูกธนาคารไหนดี
หลักจากเราได้ทราบกันไปแล้วว่าเปิดบัญชีให้ลูกต้องพิจารณาอะไร ต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง ต่อไปน้องแคร์จะตอบคำถามว่าควรเปิดบัญชีให้ลูกธนาคารไหนดี โดยจะแนะนำทั้งบัญชีสำหรับเด็กที่มีผลประโยชน์พิเศษต่าง ๆ รวมถึงบัญชีอื่น ๆ ที่ให้ดอกเบี้ยสูงเหมาะสำหรับการออมเงินให้ลูก
ธนาคารกรุงไทย
ธนาคารกรุงไทยมีผลิตภัณฑ์บัญชีเงินฝากสำหรับเปิดบัญชีให้ลูกโดยเฉพาะ นั่นก็คือ “บัญชีเงินฝากออมทรัพย์พิเศษสำหรับผู้เยาว์ (Krungthai Kids Saving)” ซึ่งมีจุดเด่นคือ ไม่ต้องฝากต่อเนื่องทุกเดือนและได้ดอกเบี้ยพิเศษหากฝากมากกว่าถอน
อัตราดอกเบี้ย: เท่ากับบัญชีออมทรัพย์ปกติ (ปัจจุบัน ณ วันที่ 10 มีนาคม 2565 อยู่ที่ 0.25% ต่อปี) หากมีเงินฝากมากกว่าถอนในเดือนนั้นจะได้รับโบนัสเพิ่ม 100% จากอัตราดอกเบี้ยที่ได้รับทุกต้นเดือนถัดจากเดือนที่จ่ายดอกเบี้ย
เงินฝากขั้นต่ำ: 2,000 – 1,000,000 บาท
อายุ: ตั้งแต่แรกเกิด – 15 ปี
ธนาคารออมสิน
บัญชีเงินฝาก Youth Savings เป็นบัญชีเงินฝากสำหรับเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 7 – 23 ปี มีจุดเด่นคือไม่เเสียภาษีดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ในกรณีบุคคลธรรมดา กำหนดเงินฝากขึ้นต่ำเพียง 100 บาทเท่านั้น และฝากเพิ่มได้ต่ำสุดครั้งละ 50 บาท เหมาะกับการเปิดบัญชีให้ลูกเพื่อสร้างวินัยในการออมเงิน
อัตราดอกเบี้ย: ต่ำกว่า 1 แสนบาท = 0.50 % ต่อปี ตั้งแต่ 1 แสนบาทขึ้นไป = 0.25 % ต่อปี
เงินฝากขั้นต่ำ: 100 บาท
อายุ: 7 – 23 ปี
ธนาคารกสิกรไทย
บัญชีเงินฝากทวีทรัพย์เป็นบัญชีเงินฝากประจำ เหมาะสำหรับการเปิดบัญชีให้ลูกเพื่อออมเงินอย่างสม่ำเสมอในจำนวนเท่ากันเป็นเวลา 24 เดือน มีจุดเด่นคือไม่เเสียภาษีดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์เมื่อฝากครบกำหนดเวลาตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนดและสามารถหักบัญชีอัตโนมัติได้ ไม่ต้องฝากเงินเองทุกเดือน
อัตราดอกเบี้ย : 1.9% ต่อปี (ณ วันที่ 10 มีนาคม 2565)
เงินฝากขั้นต่ำ: 500 บาท สูงสุดไม่เกิน 25,000 บาท โดยต้องฝากเงินในจำนวนเดิมเท่ากันทุกเดือนจนกว่าจะครบ 24 เดือน
อายุ: ตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป
ธนาคารกรุงเทพ
สินมัธยะทรัพย์ทวี-บัวหลวงคิดส์เป็นบัญชีเงินฝากประจำปลอดภาษีระยะเวลา 24 เดือน มีจุดเด่นคือไม่เเสียภาษีดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์เมื่อฝากครบกำหนดเวลาตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด ทำให้เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่เหมาะสำหรับการเปิดบัญชีให้ลูก
อัตราดอกเบี้ย: 1.9% ต่อปี (ณ วันที่ 10 มีนาคม 2565)
เงินฝากขั้นต่ำ: 500 บาท ถึง 25,000 บาท โดยต้องฝากเงินในจำนวนเดิมเท่ากันทุกเดือนจนกว่าจะครบ 24 เดือน
อายุ: ตั้งแต่แรกเกิด – 14 ปี
ธนาคารเพื่อการเกษตร
บัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรมีผลิตภัณฑ์ “โครงการเงินออมลูกรัก” สำหรับการเก็บเงินให้ลูกหรือเปิดบัญชีให้ลูก โดยผลิตภัณฑ์นี้มีจุดเด่นคือผู้ฝากจะได้รับเงินขวัญถุงเป็นรายปีต่อเนื่องกัน 5 ปีรวมทั้งหมด 3,600 บาท และมีสิทธิ์ลุ้นรับทุนการศึกษาทุกวันที่ 14 กุมภาพันธ์ของทุกปี รวมถึงสามารถเปิดบัญชีเงินฝากให้ลูกได้มากกว่า 1 บัญชี
อัตราดอกเบี้ย: 1.50% ต่อปี
เงินฝากขั้นต่ำ: 1,000 บาท และต้องฝากติดต่อกันเดือนละ 1,000 บาททุกเดือน หรือฝากล่วงหน้าได้ไม่เกิน 12 เดือน
อายุ: ตั้งแต่แรกเกิด – 15 ปี
ธนาคาร | ประเภทบัญชี | จุดเด่น | ดอกเบี้ย | เงินฝากขั้นต่ำ |
ธนาคารกรุงไทย | บัญชีเงินฝากออมทรัพย์พิเศษ | - ไม่ต้องฝากต่อเนื่องทุกเดือน | 0.25% ต่อปี* (ณ วันที่ 10 มีนาคม 2565) *รับดอกเบี้ยโบนัสเพิ่ม 100% หากมีเงินฝากมากกว่าถอนในเดือนนั้น | 2,000 บาท |
ธนาคารออมสิน | บัญชีเงินฝากเผื่อเรียก | - ไม่ต้องฝากต่อเนื่องทุกเดือน | - 0.50 % ต่อปี สำหรับเงินต่ำกว่า 1 แสนบาท | 100 บาท |
ธนาคารกสิกรไทย | บัญชีเงินฝากประจำ | - ไม่เเสียภาษีดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ | 1.9% ต่อปี (ณ วันที่ 10 มีนาคม 2565) | 500 บาท |
ธนาคารกรุงเทพ | บัญชีเงินฝากประจำ | - ไม่เเสียภาษีดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ | 1.9% ต่อปี (ณ วันที่ 10 มีนาคม 2565) | 500 บาท |
ธนาคารเพื่อการเกษตร | บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ | - รับเงินขวัญถุงรวมทั้งหมด 3,600 บาท | 1.50% ต่อปี | 1,000 บาท |
ไม่ว่าคุณจะต้องการออมเงินให้ลูกไว้ใช้จ่ายในอนาคต หรือเก็บเงินให้ลูกไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน การเลือกเปิดบัญชีให้ลูกอย่างเหมาะสมจะช่วยให้คุณทำตามเป้าหมายทางการเงินได้ รวมทั้งเป็นจุดเริ่มต้นให้ลูกเรียนรู้เรื่อง การเงิน สำหรับ นักเรียน ที่ดีอีกด้วย น้องแคร์หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ทุกคนตัดสินใจได้ว่าควรเปิดบัญชีให้ลูกธนาคารไหนดี หรือถ้าหากใครแค่ต้องการเปิดบัญชีเงินฝากดอกเบี้ยสูงเพื่อให้ได้ผลตอบแทนสูงสุด อย่าลืมติดตามบทความถัดไป
บทความที่เกี่ยวข้อง
สรุป
• การเปิดบัญชีเงินฝากให้ลูกเป็นการออมเงินระยะยาวเพื่อสร้างผลตอบแทนจากดอกเบี้ยและผลประโยชน์อื่น ๆ
• ปัจจัยที่ควรพิจารณาก่อนเปิดบัญชีให้ลูก ได้แก่ อัตราดอกเบี้ย ข้อกำหนดในการฝาก คุณสมบัติผู้ฝาก ภาษีดอกเบี้ยเงินฝาก และเงินฝากขั้นต่ำ
• ธนาคารต่าง ๆ มีผลิตภัณฑ์บัญชีเงินฝากสำหรับเด็กที่มีผลประโยชน์พิเศษ เช่น โบนัสดอกเบี้ย เงินขวัญถุง สิทธิ์ลุ้นรับทุนการศึกษา และบริการหักบัญชีอัตโนมัติ
• ธนาคารที่แนะนำสำหรับการเปิดบัญชีให้ลูก ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงเทพ และธนาคารเพื่อการเกษตร
• การเลือกเปิดบัญชีให้ลูกอย่างเหมาะสมจะช่วยให้ผู้ปกครองบรรลุเป้าหมายทางการเงินได้
ทีมกองบรรณาธิการ กลุ่มนักเขียนผู้มีประสบการณ์ด้านรถยนต์ การเงิน และประกันภัย ของ แรบบิท แคร์ ที่เปิดดำเนินการมาแล้วมากกว่า 10 ปี