เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ ‘ช็อกโกแลต’ ทำมาจากอะไร มีประโยชน์อย่างไร และมีข้อควรระวังในการรับประทานอย่างไรบ้าง ?
ช็อกโกแลต ขนมชนิดโปรดในดวงใจของหลาย ๆ คนที่ช่วยสร้างความสุขให้ทุกครั้งเมื่อรับประทานนั้น ความจริงแล้วทำมาจากอะไร มีประวัติความเป็นมาอย่างไร การรับประทานช็อกโกแลตนั้นมีประโยชน์มากน้อยแค่ไหน มีข้อควรระวังในการรับประทานอย่างไร ? แรบบิท แคร์ ได้รวบรวมเรื่องราวต่างที่เกี่ยวกับช็อกโกแลตมาให้ ลองอ่านทำความเข้าใจกันดูได้เลย
ช็อกโกแลต คืออะไร ?
ช็อกโกแลต คือขนมหวานชิ้นโปรดของใครหลาย ๆ คน อีกทั้งยังถือเป็นวัตถุดิบในการประกอบอาหารอย่างหนึ่ง ซึ่งมีกรรมวิธีการทำมาจากการหมัก การคั่ว และการบดของเมล็ดโกโก้ โดยจะมีการผสมไขมันโกโก้ น้ำตาล นม และสารแต่งกลิ่น เข้าไปเพื่อให้ได้รสชาติที่ต้องการ
ทั้งนี้ช็อกโกแลตนั้นสามารถนำมาทำเป็นของหวานได้หลากหลายเมนู รังสรรอาหารชนิดต่าง ๆ ออกมาได้หลากหลายจาน อาจกล่าวได้ว่าช็อกโกแลตนั้นถือเป็นวัตถุดิบชั้นยอดในวงการอาหารเลยทีเดียว
ประวัติความเป็นมาของช็อกโกแลต
สำหรับประวัติความเป็นมาของช็อกโกแลตนั้น ช็อกโกแลตได้มีการถูกค้นพบมาตั้งแต่ 2,000 ปีหลังจากสมัยของพระนางคลีโอพัตราราชินีแห่งอียิปต์ ซึ่งช็อกโกแลตนั้นเป็นผลผลิตซึ่งได้จากเมล็ดของต้นคาเคา (Cacao) ที่พบได้ในป่าร้อนชื้นของทวีปอเมริกา จัดอยู่ในตระกูล Theobroma Cacao ซึ่งแปลว่า “อาหารแห่งทวยเทพ” นั่นเอง
สำหรับชนกลุ่มแรกที่รู้จักการทำช็อกโกแลตนั้น คืออารยธรรมโบราณที่อาศัยอยู่ในแม็กซิโกและอเมริกากลาง โดยชนกลุ่มนี้ได้แก่ชาวมายาและชาวแอซเทคแห่งอารยธรรมเมโสอเมริกา ซึ่งพวกเขาได้ทำการนำเมล็ดคาเคามาบดและไปผสมกับเครื่องปรุงที่หลากหลายชนิดเพื่อทำเป็นเครื่องดื่มรสขมเฝื่อน
เวลาต่อมาเมล็ดคาเคาได้เดินทางข้ามผ่านการเวลาและผ่านการปรับปรุงกรรมวิธีในการนำมาประกอบเป็นเครื่องดื่มและอาหารชนิดต่าง ๆ ด้วยชนชาติต่าง ๆ จนกลายมาเป็นช็อกโกแลตในยุคปัจจุบัน
ช็อกโกแลต ทำมาจากอะไร ?
อย่างที่ได้กล่าวถึงไปข้างต้นแล้วว่าช็อกโกแลตนั้นได้มีการพัฒนามาจากการนำเมล็ดจากต้น Cacoa หรือที่เรารู้จักกันในนามต้นโกโก้เขตร้อน โดยกรรมวิธีในการทำช็อกโกแลตนั้นจะเป็นการนำเมล็ดโกโก้มาทำการหมัก คั่ว และบดอย่างละเอียด จะนั้นได้นำไปผสมผสานกับไขมันโกโก้ น้ำตาล นม และสารแต่งกลิ่นต่าง ๆ จนได้ออกมาเป็นช็อกโกแลตสำเร็จรูปอย่างที่เราได้ทานกันอยู่ในทุกวันนี้นั่นเอง
ประเภทของช็อกโกแลต
อย่างที่เราต่างก็ทราบกันดีอยู่แล้วว่าช็อกโกแลตมีอยู่มากมายหลายประเภทด้วยกัน โรงพยาบาลเพชรเวชให้ข้อมูลเกี่ยวกับประเภทของช็อกโกแลตว่า ช็อกโกแลตนั้นมีการแบ่งออกเป็นประเภทต่าง ๆ ที่จะมีส่วนผสมและรสชาติที่แตกต่างกัน ดังนี้
- ดาร์กช็อกโกแลต (Dark Chocolate) : เป็น Chocolate ที่ทำจากน้ำตาล เนย ไขมัน และน้ำที่คั้นจากเมล็ดโกโก้ และอาจมีการเพิ่มวานิลลาเข้าไปด้วยเล็กน้อย
- ช็อกโกแลตนม (Milk Chocolate) : เป็น Chocolate ที่ทำจากดาร์กช็อกโกแลตผสมกับนม
- ไวท์ช็อกโกแลต (Milk Chocolate) : เป็น Chocolate ที่มีส่วนผสมคล้ายกับดาร์กช็อกโกแลต เพียงแต่ใส่นมลงไปด้วย และจะไม่มีส่วนประกอบที่เป็นของเหลวจากโกโก้
- Sweet Chocolate : ซึ่งจะเป็นการเพิ่มความหวานให้กับ Chocolate และจะถูกแบ่งย่อยเป็นอีก 3 ระดับ คือ Unsweetened ช็อกโกแลตที่ไม่ผสมอะไรลงไปเลย มีรสชาติฝาด ขม , ช็อกโกแลตดำ Chocolate ที่มีปริมาณโกโก้เหลวสูงถึง 75% หวานน้อยมาก , Semisweet เป็น Chocolate ที่เพิ่มความหวานโดยใช้โกโก้บัตเตอร์
และนี่ก็คือการแบ่งประเภทของ Chocolate ประเภทหลัก ๆ ที่ถูกจัดประเภทเป็นมาตรฐานสากล ใครชอบรับประทาน Chocolate แบบไหนต้องจำกันเอาไว้ เวลาไปซื้อที่ร้านค้าจะได้เลือกซื้อได้อย่างถูกต้องตรงใจนั่นเอง
ช็อกโกแลต ประโยชน์
รู้หรือไม่ว่านอกจาก Chocolate จะมีรสชาติที่อร่อยและช่วยสร้างความสุขให้กับเราได้แล้ว Chocolate ยังมีประโยชน์ด้านอื่น ๆ อีกมากมาย ได้แก่
- ช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจ เนื่องจาก Chocolate เต็มไปด้วยแร่ธาตุและวิตามินที่ช่วยบำรุงเลือด ส่งผลให้เลือดไหลเวียนดี ป้องกันการเกิดโรคหัวใจ เบาหวาน และความดันได้เป็นอย่างดี
- การทาน Chocolate ช่วยป้องกันภาวะความดันโลหิตสูง : การรับประทานทานดาร์กช็อก โกแลตสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง จะสามารถช่วยควบคุมความดันเลือดให้เป็นปกติได้ อีกทั้งยังป้องกันภาวะเส้นเลือดอุดตัน และภาวะหลอดเลือดแดงแข็งตัวได้ด้วย
- การทาน Chocolate ช่วยเพิ่มไขมันดีและลดไขมันเลว : เพราะโกโก้และดาร์กช็อก โกแลตจะมีสารฟลาโวนอยด์และโพลีฟีนอล ที่สามารถช่วยลดไขมันไม่ดี LDL พร้อมเพิ่มระดับไขมันดี HDL ในเลือดได้เป็นอย่างดีนั่นเอง
- ช่วยให้สมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ : สารฟลาโวนอยด์ในดาร์กช็อกโกแลต จะช่วยให้หลอดเลือดขยายตัว ส่งผลให้เลือดและออกซิเจนสามารถลำเลียงไปยังสมองได้ดีมากขึ้น
- การทาน Chocolate ช่วยเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย : มีคุณสมบัติช่วยลดการอักเสบ รวมถึงลดโอกาสการเกิดโรคชนิดอื่น ๆ ได้เป็นอย่างดี
- การทาน Chocolate ช่วยลดความเครียดได้ : เนื่องจากมีผลงานวิจัยยืนยันว่า คนที่ทานดาร์กช็อกโกแลตวันละ 40 กรัม ต่อเนื่องประมาณ 2 อาทิตย์ จะส่งผลให้ระดับฮอร์โมนความเครียดในสมองลดต่ำลง
ทั้งอร่อยและอุดมไปด้วยคุณประโยชน์ในการดูแลร่างกายแบบนี้ Chocolate ถึงได้กลายเป็นวัตถุดิบยอดนิยมที่ทุกคนต่างก็ชอบรับประทานและเป็นที่รู้จักในวงกว้างเป็นอย่างดี ที่สำคัญต้องรับประทานแต่พอดีจะได้ไม่ส่งผลเสียแทนผลดีต่อร่างกาย
ช็อกโกแลต กับ ไวท์ช็อกโกแลต ต่างกันอย่างไร ?
สำหรับบางคนที่อ่านแล้วอาจจะยังไม่ค่อยเข้าใจว่าช็อกโกแลตและไวท์ช็อกโกแลตนั้นมีความแตกต่างกันอย่างไร ความจริงแล้ว Chocolate 2 ชนิด มีพื้นฐานการผลิตมาจากเมล็ดโกโก้เช่นเดียวกันเพียงแต่จะแตกต่างกันตรงที่
ช็อกโกแลตจะมีส่วนผสมมาจากเมล็ดของต้นโกโก้ โกโก้เหลว และเนยโกโก้
ส่วนไวท์ช็อกโกแลตนั้นจะมี ส่วนผสมของเนยโกโก้ น้ำตาล นมสด กลิ่นวานิลลา และในบางครั้งก็มีการแต่งรสลงไปด้วย แต่จะไม่มีการใส่โกโก้เหลวลงไปอีกทั้งเนื้อสัมผัสยังแตกหักง่ายกว่าด้วยนั่นเอง
ช็อกโกแลต กับ โกโก้ ต่างกันอย่างไร ?
หลังจากที่ได้ทราบความแตกต่างระหว่างช็อกโกแลตและไวท์ช็อกโกแลตกันไปแล้ว บางคนอาจจะมีข้อสงสัยต่อว่าแล้วช็อกโกแลตนั้นมีความแตกต่างจากโกโก้หรือไม่อย่างไร ซึ่งสำหรับคำตอบของคำถามนี้นั้นในอุตสาหกรรมช็อกโกแลตของอเมริกาได้ให้การจำกัดความไว้ว่า
โกโก้ (cocoa) คือเมล็ดของต้นโกโก้ และช็อกโกแลต (chocolate) คือส่วนผสมระหว่างเมล็ดของต้นโกโก้และเนยโกโก้ (ไขมันของเมล็ดโกโก้) นั่นเอง
ข้อควรระวังในการทานช็อกโกแลต
ถึงแม้ว่าการรับประทาน Chocolate นั้นจะมีคุณประโยชน์ต่อร่างกายของคนเรามากมาย แต่หากว่ารับประทาน Chocolate มากจนเกินไป หรือรับประทานมากเกินระดับความเหมาะสมก็จะก่อให้เกิดผลเสียขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นการทำให้มีระดับน้ำตาลในเลือดสูง เป็นโรคอ้วน หรือเป็นโรคเบาหวานได้ เพราะในส่วนประกอบของ Chocolate นั้นมี เฟนิลไธลามิน, ธีโอโบรไมน์ และคาเฟอีน รวมถึงมีการแต่งสี กลิ่น และผสมน้ำตาลเพิ่มลงไปมากมาย ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยของร่างกายควรเลือกรับประทานในปริมาณที่พอดี
สำหรับใครที่ชื่นชอบการรับประทาน Chocolate เป็นชีวิตจิตใจ และมักรับประทาน Chocolate ในปริมาณมากเกินพอดีต้องระวังเอาไว้ จะต้องฝึกฝนตนเองให้หักห้ามใจ และอย่าลืมทำประกันสุขภาพ กับ แรบบิท แคร์ ไว้จะได้อุ่นใจ ไม่ว่าจะเกิดอาการแบบไหนก็สามารถดูแลร่างกายได้อย่างทันท่วงที
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นกับร่างกายได้หากบริโภคช็อกโกแลตมากจนเกินไป
ในช็อกโกแลตนั้นมีส่วนประกอบมากมายรวมทั้งมีสารคาเฟอีนเป็นส่วนประกอบ ดังนั้นบางครั้งหากเรารับประทานช็อกโกแลตในปริมาณมากเกินไป นอกจากจะเสี่ยงต่อการเป็นโรคต่าง ๆ แล้วก็ยังอาจทำให้ร่างกายเกิดผลข้างเคียงได้ ดังนี้
- มีอาการกระสับกระส่าย
- ปัสสาวะเพิ่มมากขึ้น
- มีอาการนอนไม่หลับ
- มีอาการใจสั่น ใจเต้นแรง
- มีผื่นหรืออาการแพ้ที่ผิวหนังเกิดขึ้น
- มีอาการคลื่นไส้
- มีอาการปวดท้อง แน่นท้อง ท้องอืด ท้องไส้ปั่นป่วน
- มีแก๊สในกระเพาะอาหาร
- มีอาการท้องผูก
- อาจเพิ่มความเสี่ยงของการปวดหัวไมเกรน
ทราบถึงประโยชน์รวมถึงข้อควรระวังในการรับประทานช็อกโกแลตกันไปแล้วก็อย่าลืมนำไปใช้ รับประทานช็อก โกแลตแต่พอดีช่วยดูแลร่างกายได้ อย่ารับประทานมากเกินไปจะเสี่ยงต่อการเป็นโรคต่าง ๆ ได้นั่นเอง
สรุป
ช็อกโกแลต คือ ขนมหวานซึ่งมีกรรมวิธีการทำมาจากการหมัก การคั่ว และการบดของเมล็ดโกโก้ โดยมีการผสมไขมันโกโก้ น้ำตาล นม และสารแต่งกลิ่นเข้าไปเพื่อให้ได้รสชาติที่ต้องการ สามารถแบ่งประเภทออกได้ ดังนี้
- ดาร์กช็อกโกแลต (Dark Chocolate) ทำจากน้ำตาล เนย ไขมัน และน้ำที่คั้นจากเมล็ดโกโก้ อาจมีการเพิ่มวานิลลาเข้าไปด้วยเล็กน้อย
- ช็อกโกแลตนม (Milk Chocolate) ทำจากดาร์กช็อกโกแลตผสมกับนม
- ไวท์ช็อกโกแลต (Milk Chocolate) มีส่วนผสมคล้ายกับดาร์กช็อกโกแลต เพียงแต่ใส่นมลงไปด้วย และจะไม่มีส่วนประกอบที่เป็นของเหลวจากโกโก้
- Sweet Chocolate เพิ่มความหวานโดยใช้โกโก้บัตเตอร์
ที่มา
มีประสบการณ์มากกว่า 3 ปี เป็นนักเขียนด้านประกันสุขภาพ ประกันชีวิต เพื่อสุขภาพที่ Rabbit Care และ Asia Direct
และ 12 ปี ในอุตสาหกรรม OTA อย่าง Laterooms.com , Expedia.com จึงมีความเชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยว
จบการศึกษาปริญญาตรี สาขาการจัดการการเงิน มหาวิทยาลัยขอนแก่น