ประกันชีวิตช่วงสงครามชายแดน ใครได้ ใครเสีย?

เมื่อคุณอาศัยอยู่ในพื้นที่ชายแดนที่มีความไม่สงบ หรือมีแนวโน้มเกิดเหตุการณ์ปะทะ เช่น การซ้อมรบ การปะทะชายแดน หรือภัยจากอาวุธหนัก ประกันภัยกลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยปกป้องชีวิต ทรัพย์สิน และความมั่นคงของครอบครัวในภาวะวิกฤต

อยู่ในพื้นที่ชายแดน เสี่ยงปะทะหรือภัยสงคราม ควรทำประกันแบบไหนดี? ประกันภัยสำหรับผู้อยู่อาศัยในพื้นที่ชายแดน เสี่ยงปะทะ-สงคราม ควรมีอะไรบ้าง? แล้วแบบนี้อาชีพอย่างทหาร ชายแดน ไทย กัมพูชา  ตำรวจ ทำประกันแบบไหนได้บ้าง?  วันนี้ แรบบิท แคร์ มีคำตอบ!

ควรมีประกันอะไร และเลือกอย่างไรให้คุ้ม สำหรับคนอยู่พื้นที่เสี่ยง?

หากคุณอยู่ในพื้นที่ชายแดนที่มีความเสี่ยงต่อการปะทะหรือเหตุความไม่สงบ เช่น พื้นที่ติดเขตชายแดน, หรือมีอาศัยอยู่ในบริเวณพรมแดน ชายแดน ที่มีประวัติเกิดเหตุปะทะระหว่างประเทศ หรือมีครอบครัวทำอาชีพเสี่ยง เช่น ทหาร, ตำรวจอาสาสมัคร การทำประกันที่เหมาะสม จะช่วยเป็นเกราะป้องกันทางการเงินให้กับคุณได้เป็นอย่างดี

แล้วแบบนี้เริ่มต้นเลือกทำประกันอะไร? โดยคุณอาจจะเริ่มต้นจากการมองหาประกันเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็น

ประกันชีวิต

สงครามกับประกันชีวิตนั่นเป้นเรื่องที่ละเอียดอ่อน และการเลือกประกันชีวิตก็สามารถเลือกแยกย่อยได้อีก โดยสรุปแบบที่เราขอแนะนำ มีดังนี้ 

• ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา คุ้มครองชีวิตในช่วงเวลาที่กำหนด เช่น 10 – 20 ปี มีจุดเด่นที่เบี้ยถูก คุ้มครองสูง เหมาะกับผู้มีภาระครอบครัว ทหาร หรือตำรวจที่ต้องการคุ้มครองในช่วงปฏิบัติหน้าที่

• ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ เน้นคุ้มครองตลอดชีวิต พร้อมเงินคืนหรือเงินสะสมในระยะยาว เหมาะกับผู้ที่ต้องการความมั่นคงระยะยาว พร้อมสร้างมรดก และคุ้มครองกรณีเสียชีวิต เน้นช่วยสร้างหลักประกันให้ครอบครัว

ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ของตัวผู้ทำประกันเอง ควรอ่านข้อยกเว้นประกันชีวิตให้ครบถ้วนก่อนเสมอ เพราะให้การเบิกเคลมนั้นไม่เกิดปัญหาในการเคลมประกันชีวิต

ประกันอุบัติเหตุ

เสริมความคุ้มครองจากการเกิดอุบัติเหตุ เหมาะกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด เช่น การบาดเจ็บจากแรงระเบิด หรือปะทะ โดยหลัก ๆ หากมีการเบิกเคลมจะให้เงินชดเชยหากทุพพลภาพหรือเสียชีวิต ทั้งนี้ หากคุณทำงานอาชีพเสี่ยง หรืออยู่ในพื้นที่เสี่ยง อย่าลืมควรตรวจสอบด้วยว่าครอบคลุมอุบัติเหตุจากการทำงานเสี่ยงหรือไม่ด้วย

ประกันสุขภาพ 

ช่วยครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลกรณีบาดเจ็บ มีแผนสำหรับผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก บางแบบมีวงเงินช่วยกรณีฉุกเฉิน ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาล เหมาะสำหรับทุกคน เพราะถึงแม้ไม่มีการปะทะ หรือเหตุการณ์รุนแรง ประกันสุขภาพจะช่วยดูแล เบิกเคลมค่ารักษาพยาบาลจากการเจ็บป่วยอื่น ๆ ได้

ประกันทรัพย์สินต่าง ๆ

ไม่ว่าจะเป็น บ้าน รถ เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากแรงระเบิด ไฟไหม้ หรือการสูญหายของทรัพย์สิน เหมาะสำหรับผู้ที่มีบ้านหรือธุรกิจในพื้นที่ชายแดน

สำหรับผู้ที่มีบ้านอยู่ใกล้ชายแดน หรือพื้นที่สุ่มเสี่ยง หรือทำอาชีพเสี่ยง ควรตรวจสอบเงื่อนไขเสมอว่า ความเสียหายจากภัยสงคราม/การปะทะ จะได้รับความคุ้มครองหรือไม่ เพื่อป้องกันปัญหาการยกเลิกกรมธรรม์ หรืออาจไม่สามารถเบิกเคลมประกันชีวิตในสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นภายหลังได้

รวมตารางประกันที่แนะนำ

ประเภท	แนะนำ	เงื่อนไขที่ต้องระวัง
✅ ประกันชีวิต	เหมาะ	ประกันชีวิตช่วงเหตุไม่สงบ ระวังข้อยกเว้นสงคราม/จลาจล
✅ ประกันอุบัติเหตุ	เหมาะ	อ่านว่าครอบคลุม “เหตุปะทะ” หรือไม่
✅ ประกันสุขภาพ	เสริมได้	ใช้ได้กรณีบาดเจ็บโดยไม่ได้เจตนาเข้าร่วม
✅ ประกันเฉพาะกลุ่ม	ดีมาก	เหมาะกับทหาร, ตำรวจ, เจ้าหน้าที่ชายแดน
❌ ประกันทรัพย์สินทั่วไป	ไม่ครอบคลุม	มักไม่คุ้มครองทรัพย์สินเสียหายจากสงคราม

เคล็ดลับเพิ่มเติม เลือกประกันอย่างไรสำหรับผู้ที่อยู่พื้นที่เสี่ยง

• เปรียบเทียบแผนจากหลายบริษัท ไม่ว่าจะเป็นประกันอะไรก็ตาม เพื่อให้ได้เบี้ยที่คุ้มค่า การคุ้มครองที่เหมาะกับคุณมากที่สุด
  
• เลือกวงเงินที่ครอบคลุมเหตุไม่คาดฝันให้ได้มากที่สุด
  
• อ่านเงื่อนไขภัยที่คุ้มครองอย่างละเอียด โดยเฉพาะคำว่า “ยกเว้นภัยสงคราม” เพราะภัยจากการสู้รบ สงคราม การก่อการร้าย มักถูกยกเว้น เว้นแต่ซื้อความคุ้มครองอื่นเสริม
  
• บางกรณีอาจต้องมีแผนเฉพาะ หรือปรึกษาตัวแทนมืออาชีพ
  
• บางกรมธรรม์ไม่คุ้มครองกรณีเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ทหาร ตำรวจ ดังนั้นอ่านรายละเอียดต่าง ๆ ให้ดี โดยเฉพาะผู้ที่ประกอบอาชีพเสี่ยง

แล้วแบบนี้ ประกันภัยสงครามมีจริงไหม?

โดยทั่วไป “ภัยสงคราม” มักถูกยกเว้นในการประกันภัยทั่วไป เช่น ประกันชีวิต หรือประกันอุบัติเหตุ แต่บางบริษัทมีแผนเสริมที่สามารถเพิ่มความคุ้มครองกรณีเหตุการณ์รุนแรง หรือกรณีพิเศษที่เกี่ยวข้องกับภัยสงครามได้ 

นอกจากนี้ ในบางเหตุการณ์ทางบริษัทประกันอาจมองว่าไม่ใช่สงคราม หรือเหตุจราจลแต่อย่างใด จึงอาจเบิกเคลมได้ แนะนำว่าควรสอบถามบริษัทประกันโดยตรง และแจ้งสถานที่พักอาศัยเพื่อให้แนะนำแผนประกันที่เหมาะสมจะดีที่สุด

อาชีพเสี่ยง ทหาร ตำรวจ เลือกแบบไหนให้คุ้มสุด?

ทำอาชีพเสี่ยง อย่าง ทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่แนวหน้า หรืออาชีพภาคสนาม ล้วนต้องเผชิญกับความเสี่ยง การเลือกประกันชีวิตยังไงให้มั่นใจว่าครอบครัวได้รับการดูแลนั้น แรบบิท แคร์ แนะนำให้ซื้อประกันชีวิตสำหรับอาชีพเสี่ยงโดยเฉพาะ และเพื่อผลประโยชน์สูงสุดของผู้ทำประกัน ควรจะ 

• แจ้งอาชีพตามจริง เพื่อให้บริษัทประเมินความเสี่ยงได้ถูกต้อง และบางบริษัทประกันบางแห่งมีเบี้ยพิเศษ หรือแผนเฉพาะสำหรับทหาร-ตำรวจ ให้โดยเฉพาะ

• เลือกวงเงินคุ้มครองที่เพียงพอ เพื่อรองรับค่าครองชีพของครอบครัวหากเกิดเหตุไม่คาดคิด และลองเปรียบเทียบหลายแผนเพื่อหาเบี้ยที่เหมาะสม

• เลือกประกันที่ไม่มีข้อยกเว้นความเสี่ยงจากภารกิจ หรือมีความคุ้มครองรองรับภัยสงคราม  

ทั้งนี้ อย่าลืมอ่านข้อยกเว้นให้ดี เพราะบางแห่งอาจจะรับทำประกัน แต่จะไม่คุ้มครองหากเกิดเหตุต้องเบิกเคลมขณะปฎิบัติหน้าที่ แต่จะคุ้มครองเมื่ออยู่นอกระยะเวลาปฎิบัติการทำงานก็มีเช่นกัน

หากคุณคือ ทหาร, ตำรวจ, หรือเจ้าหน้าที่ในแนวหน้า การเลือกทำประกันชีวิตที่เหมาะกับความเสี่ยงในหน้าที่ของคุณ คือการวางแผนที่ชาญฉลาด หรืออาจจะเลือกมองหาประกันออมทรัพย์ ที่ช่วยคุณได้ในเรื่องการเกษียณ รวมถึงเป็นหลักประกันให้กับบุคคลที่คุณรัก เพื่อให้ครอบครัวมีหลักประกันที่มั่นคงไม่ว่าชีวิตจะเกิดอะไรขึ้น

สำหรับ แรบบิท แคร์ ขอแนะนำว่า ประกันออมทรัพย์ นับเป็นอีกหนึ่งรูปแบบประกันที่น่าสนใจ เพราะนอกจากเลือกความคุ้มครองระยะสั้น หรือระยะยาว ก็สามารถทำได้ ช่วยให้คุณวางแผนการเงินได้ดียิ่งกว่า เนื่องจากบางหน่วยงานอาจจะมีประกันพิเศษให้กับเจ้าหน้าที่ต้องออกไปปฎิบัติงานอยู่แล้ว

เพราะความเสี่ยงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม ไม่ว่าคุณจะทำอาชีพเสี่ยงภัยอย่าง ทหาร ตำรวจ หรือแม้แต่การทำอาชีพทั่วไป ดังนั้น การมองหาประกันชีวิต ประกันอุบัติเหตุ หรือมองเรื่องมรดกระยะยาวอย่าง ประกันออมทรัพย์ เอาไว้ นอกจากจะช่วยเพิ่มความมั่นคง ช่วยเพิ่มความอุ่นใจให้กับคนในครอบครัวได้อีกด้วย

ถ้าคุณกำลังมองหา ประกันชีวิต หรือ ประกันอุบัติเหตุ ต้องที่นี้เลย แรบบิท แคร์ โบรกเกอร์ประกันภัยที่ช่วยให้คุณตามหาประกันที่ใช่ เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณได้ไม่ยาก คลิกเลย!