
เช็กลิสต์ 10 พฤติกรรมที่คุณ(อาจ)พลาด ขณะเลือกซื้อประกันสุขภาพ
โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน แม้ฟังชื่อดูแล้วอาจดูไม่ใช่เรื่องใหญ่หรือโรคที่มีความร้ายแรงเท่าใดนัก แต่กลับเป็นโรคซึ่งมีอาการที่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของคนเราเป็นอย่างมาก และแน่นอนว่าขึ้นชื่อว่าโรคภัยไข้เจ็บแล้ว ย่อมไม่มีใครต้องการที่จะเป็นอย่างแน่นอน วันนี้ แรบบิท แคร์ เลือกนำข้อมูลเกี่ยวกับโรคน้ำในหูไม่เท่ากันมาฝาก เพราะโรคนี้อาจเกิดขึ้นกับทุกคนเมื่อไหร่ก็ได้ จึงควรมีความรู้เบื้องต้นติดตัวกันไว้ มีอาการอย่างไร จะได้ลองสังเกตกันดูได้ และรีบทำการรักษาได้อย่างทันท่วงที
โรงพยาบาลพญาไทให้ข้อมูลเกี่ยวกับอาการน้ำในหูไม่เท่ากันว่า โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน หรือ โรคความดันน้ำในหูไม่เท่ากันนั้น โรคนี้มีชื่อว่าในทางการแพทย์ว่าโรคเมเนียร์ (Meniere’s Disease) ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะพบมากในผู้ที่มีอายุอยู่ระหว่าง 30-60 ปี และสามารถพบได้ในทั้งเพศหญิงและเพศชาย
โดยโรคน้ำในหูไม่เท่ากันนั้นเกิดจากความผิดปกติของหูชั้นในของคนเราซึ่งมีภาวะความดันน้ำในหูชั้นในที่เรียกว่า Endolymph มากผิดปกติ จึงส่งผลให้หูขั้นในที่มีหน้าที่ในการรับเสียง และทำหน้าที่หลักในการควบคุมการทรงตัวทำงานผิดปกติ จึงเป็นสาเหตุให้ผู้ป่วยที่ป่วยเป็นโรคน้ำในหูไม่เท่ากันเกิดอาการวิงเวียนศีรษะ หูอื้อ สูญเสียการได้ยิน และรู้สึกถึงแรงดันภายในหูนั่นเอง
สำหรับผู้ที่กำลังสงสัยว่าโรคน้ำในหูไม่เท่ากันนั้นมีสาเหตุมาจากอะไร คำตอบคือ ในปัจจุบันนั้นทางด้านการแพทย์ยังไม่มีการสรุปหรือทราบเหตุผลอย่างแน่ชัดว่าอาการน้ำในหูไม่เท่ากันนั้นเกิดจากอะไร แต่ก็มีการแจกแจงปัจจัยที่เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดโรคออกมาได้หลากหลายข้อ คือ
ปัจจัยเหล่านี้ถือเป็นปัจจัยสำคัญและมักพบในตัวของผู้ป่วยที่เป็นโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน แน่นอนว่าสำหรับปัจจัยจากกรรมพันธุ์หรือการติดเชื้อไวรัสเราอาจไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่สำหรับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ไม่ดีต่อสุขภาพ และการเลือกอยู่ในสถานที่ที่เงียบสงบไม่มีเสียงอึกทึกคอยรบกวนนั้นเป็นสิ่งที่เราเลือกให้ตนเองได้อย่างแน่นอน
โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน คือโรคที่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของเซลล์ประสาทที่ควบคุมการทรงตัวโดยตรง ซึ่งเมื่อป่วยเป็นโรคน้ำในหูไม่เท่ากันแล้ว ก็จะส่งผลให้มีอาการ ดังนี้
และอาการเหล่านี้ก็คืออาการเมื่อเป็นโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน ใครมีอาการเหล่านี้ต้องลองไปเช็กและตรวจสุขภาพกัน อย่านิ่งนอนใจเป็นอันขาดเพราะไม่เช่นนั้นอาจเกิดอันตราย
สำหรับผู้ที่กำลังสงสัยว่าโรคน้ำในหูไม่เท่ากันนั้นอันตรายหรือไม่ ตอบได้เลยว่าโรคนี้นั้นอันตราย เพราะแม้การแสดงอาการจะเน้นหนักไปที่การเวียนหูและการได้ยินที่อาจแย่ลง แต่หากเป็นหนักขึ้นก็จะส่งผลร้ายแรงได้ เนื่องจากเป็นโรคที่ส่งผลต่อเซลล์ประสาทการทรงตัวและการได้ยิน ซึ่งสิ่งเหล่านี้นั้นส่งผลโดยตรงต่อการดำเนินชีวิตประจำวันและยังเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุจนเป็นอันตรายต่อชีวิตได้ทุกเมื่อ
โรคน้ำในหูไม่เท่ากันจำเป็นต้องไปพบแพทย์ไหม สามารถรอให้หายเองได้หรือไม่ ? แน่นอนว่าโรคน้ำในหูไม่เท่ากันหรือเริ่มมีอาการดังกล่าวจำเป็นต้องเข้ารับการตรวจวินิจฉัยจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และรับการรักษาอย่างถูกต้อง อีกทั้งยังจำเป็นต้องดูแลตนเองตามคำสั่งของแพทย์อย่างเคร่งครัด
ในส่วนของวิธีการรักษาโรคน้ำในหูไม่เท่ากันนั้นก็มีวิธีในการดูแลรักษามากมายหลายวิธี โดยแพทย์เฉพาะทางจะเป็นผู้ตรวจวินิจฉัยและทำการรักษาตามอาการของคนไข้ในแต่ละราย ซึ่งการรักษาก็จะมีหลากหลายวิธีหลากหลายระดับขั้นการรักษา ดังนี้
และวิธีเหล่านี้ก็คือวิธีที่จะใช้ในการรักษาโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน โดยไม่ว่าแพทย์จะเลือกใช้วิธีใดในการรักษาผู้ป่วยก็จำเป็นที่จะต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดร่วมด้วย
สำหรับโรคน้ำในหูไม่เท่ากันนั้น เมื่อเป็นแล้วถึงแม้จะเข้ารับการรักษาเป็นที่เรียบร้อย แต่โรคนี้นั้นถือว่าเป็นโรคที่ไม่หายขาดและสามารถเกิดขึ้นซ้ำได้ แต่การใช้ยาและการดูแลตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์จะสามารถช่วยควบคุมอาการเวียนศีรษะให้ดีขึ้นจนสามารถดำเนินชีวิตเป็นปกติได้ แต่ทั้งนี้ก็จำเป็นจะต้องดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัดและคอยสังเกตอาการของตนเองอย่างสม่ำเสมอ หากมีอาการแย่ลงหรือผิดปกติใด ๆ ต้องรีบกลับไปพบแพทย์ทันที
หากมีอาการเหล่านี้หลังจากเข้ารับการรักษา ต้องรีบเข้าพบแพทย์ทันที
สำหรับผู้ที่อยากรู้ว่าเมื่อเข้ารับการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแล้ว จะมีวิธีการดูแลตนเองและการปฏิบัติตนอย่างไรเพื่อความปลอดภัยของสุขภาพร่างกายและไม่เป็นภัยต่อชีวิตของตนเอง
วิธีเหล่านี้คือวิธีซึ่งทุกคนจะต้องดูแลตนเองอย่างเคร่งครัดในชีวิตประจำวัน ไม่เช่นนั้นอาการไม่พึงประสงค์อาจย้อนกลับมาและอาจเป็นหนักกว่าเดิม
ข้อมูลเหล่านี้คือข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับโรคน้ำในหูไม่เท่ากันที่ทุกคนควรรู้ และสำหรับใครที่มีปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดโรคน้ำในหูไม่เท่ากันได้ แรบบิท แคร์ ขอแนะนำให้เลือกทำประกันสุขภาพ กับ แรบบิท แคร์ ไว้ จะได้อุ่นใจหากป่วยไข้ก็ไม่ต้องกังวลใจเรื่อยค่ารักษาพยาบาล
มีประสบการณ์มากกว่า 3 ปี เป็นนักเขียนด้านประกันสุขภาพ ประกันชีวิต เพื่อสุขภาพที่ Rabbit Care และ Asia Direct
และ 12 ปี ในอุตสาหกรรม OTA อย่าง Laterooms.com , Expedia.com จึงมีความเชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยว
จบการศึกษาปริญญาตรี สาขาการจัดการการเงิน มหาวิทยาลัยขอนแก่น
บทความแคร์สุขภาพ
เช็กลิสต์ 10 พฤติกรรมที่คุณ(อาจ)พลาด ขณะเลือกซื้อประกันสุขภาพ
โรคพุ่มพวงคืออะไร มีอาการอย่างไร อันตรายถึงชีวิตหรือไม่ ?