ค่าเสียหายส่วนแรกคืออะไร? ค่า Excess ประกัน/ค่าดีดัก ทำไมต้องจ่าย?

Tawan
ผู้เขียน: Tawan Published: ตุลาคม 4, 2022
Tawan
Tawan
Tawan มีประสบการณ์สร้างสรรค์ผลงานออนไลน์ 2 ปี เขียนด้านยานยนต์ ประกันยานยนต์ที่ Rabbit Care และ Asia Direct มีใบอนุญาตเป็นนายหน้าประกันชีวิตและนายหน้าประกันวินาศภัย มีความเชี่ยวชาญด้านประกันรถยนต์และประกันชีวิต
ค่าเสียหายส่วนแรกคืออะไร? ค่าเอ็กเซส ค่าดีดักต่างกันไหม?

“ค่าเสียหายส่วนแรก” หรือที่หลายคนเรียกในชื่อ ค่าดีดัก (Deductible) ค่าเอกเซส (Excess) หรือ ค่าแอคเซ็ปท์ (Accept) คือ จำนวนเงินที่ผู้ทำประกันต้องจ่ายก่อนเข้ารับการเคลมความเสียหายกรณีเป็นฝ่ายผิด หรือไม่มีคู่กรณี โดยต้องจ่ายตามจำนวนเงินที่ระบุในกรมธรรม์ หรือตกลงไว้กับบริษัทประกัน แต่หากเป็นฝ่ายถูก ผู้ทำประกันจะไม่ต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก

ทำให้หลายคนเกิดคำถามว่าเลือกทำประกันรถยนต์ชั้น 1 แล้ว แต่ทำไมยังโดนเก็บค่าเสียหายส่วนแรก ตอนเคลมประกันชั้น 1 อยู่? สรุปแล้วค่าความรับผิดส่วนแรก หรือค่าส่วนร่วมคืออะไรกันแน่? ต้องจ่ายตอนไหน? แรบบิท แคร์ รวบรวมข้อมูลทุกเรื่องที่ต้องรู้ของทั้งค่าเอ็กเซส (Excess) และค่าดีดัก (Deductible) มาฝากกัน

ค่าเสียหายส่วนแรกคืออะไร? ทำไมต้องจ่ายความรับผิดส่วนแรก?

ค่าเสียหายส่วนแรก หรือค่าส่วนร่วม คือ หลักเกณฑ์การเรียกเก็บค่าเสียหายที่ผู้เอาประกันต้องร่วมรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถยนต์ก่อนเคลมกับบริษัทประกันตามที่ คปภ. กำหนด เพื่อป้องกันกรณีแจ้งเคลมซ่อมรถโดยไม่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นจริง หรือจากการขับรถประมาท รู้จักในหลายชื่อ เช่น ค่าเอ็กเซส (Excess), ค่าดีดัก (Deductible) หรือค่าแอคเซ็ปท์ (Accept)

ค่า Excess ประกันรถคืออะไร?

ค่าเอ็กเซส (Excess) คือ ค่าเสียหายส่วนแรกภาคบังคับ หรือค่าเสียหายส่วนแรกเมื่อแจ้งเคลมอุบัติเหตุรถชนไม่ทราบคู่กรณีหรือไม่สามารถแจ้งรายละเอียดคู่กรณีได้ รวมถึงแจ้งเคลมความเสียหายที่ไม่ได้เกิดจากเหตุรถชนหรือคว่ำตามประกาศสำนักงาน คปภ. เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2552 โดยต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก 1,000 บาทต่อเหตุการณ์

ค่าดีดัก (Deductible) ประกันภัยรถยนต์คืออะไร?

ค่าดีดัก (Deductible) คือ ค่าเสียหายส่วนแรกภาคสมัครใจ หรือค่าเสียหายส่วนแรกที่ระบุไว้ในหน้าตารางกรมธรรม์ของผู้ทำประกันเฉพาะราย ตั้งแต่ 1,000-5,000 บาท เมื่อแจ้งเคลมรถเสียหายแบบมีคู่กรณี และเป็นฝ่ายผิด ซึ่งจะได้ส่วนลดค่าเบี้ยประกันตามค่ารับผิดส่วนแรกที่ตกลงจ่าย ยกเว้นกรณีเป็นฝ่ายถูก และระบุตัวฝ่ายผิดได้ จะไม่ต้องจ่ายค่าดีดัก 

ค่า Excess ประกันกับ ค่า Deductible ต่างกันอย่างไร?

ค่าเอ็กเซส (Excess) คือ ค่าเสียหายส่วนแรกแบบบังคับ 1,000 บาท/เหตุการณ์ จ่ายเมื่อเคลมแบบไม่มีคู่กรณีหรือระบุคู่กรณีไม่ได้ หรือเกิดความเสียหายที่ไม่ใช่การชน/คว่ำตามประกาศ คปภ. ส่วนค่าดีดัก (Deductible) คือ ค่าเสียหายส่วนแรกแบบสมัครใจจ่ายตามตกลงกับบริษัทประกัน จ่ายเมื่อเคลมแบบมีคู่กรณี และเป็นฝ่ายผิด แต่จะได้รับส่วนลดเบี้ยประกันตามค่าดีดักที่ตกลงจ่าย

ค่า Excess ประกันต้องจ่ายตอนไหน? เท่าไร?

ต้องจ่ายค่าเอ็กเซส (Excess) กรณีไหนบ้าง? จ่ายตอนไหน?

ค่าเสียหายส่วนแรกแบบบังคับจ่าย (Excess) ต้องจ่ายก่อนเข้ารับการซ่อมความเสียหาย เมื่อแจ้งเคลมความเสียหาย กรณีรถได้รับความเสียหายที่ไม่ได้เกิดจากการชน/คว่ำ แต่ไม่สามารถระบุรายละเอียดคู่กรณีได้ ยกเว้นกรณีรถชนกับคู่กรณีที่ไม่ใช่รถยนต์ และแจ้งรายละเอียดการเกิดเหตุชัดเจน เช่น ชนรั้ว ชนต้นไม้ ชนสัตว์ หรือชนก้อนหิน

กรณีรถได้รับความเสียหายที่ไม่ได้เกิดจากการชน/คว่ำ

ความเสียหายจากการมุ่งร้าย/กลั่นแกล้ง

จ่ายค่า Excess ประกันกรณีรถได้รับความเสียหายจากร่องรอยการกระทำของบุคคล แต่ไม่สามารถระบุตัวผู้กระทำผิด รวมถึงวันเวลาเกิดเหตุ และสถานที่ที่รถได้รับความเสียหายได้อย่างชัดเจน

  • รถถูกบุคคลอื่นทุบทำลาย/ขูดขีดเสียหาย 

ความเสียหายจากการกระทบกับวัตถุ/สิ่งของ

จ่ายค่า Excess เมื่อรถได้รับความเสียหายเฉพาะพื้นผิวของสีรถ ไม่รวมกรณีความเสียหายบุบ แตก หรือร้าวของส่วนหนึ่งส่วนใดของตัวรถ หรืออุปกรณ์ในรถ และไม่รวมกรณีความเสียหายจากภัยธรรมชาติที่ทำให้ส่วนหนึ่งส่วนใดของตัวรถ (ยกเว้นสีรถ) เสียหาย เช่น ความเสียหายจากเหตุน้ำท่วม ลมพายุพัดต้นไม้หรือกิ่งไม้หล่นใส่รถ เป็นต้น

  • รถถูกหินหรือวัสดุใดๆ กระเด็นใส่ 
  • รถเฉี่ยวกิ่งไม้ สายไฟฟ้า หรือลวดหนาม 
  • รถตกหลุมถนน 
  • รถครูดพื้นถนน
  • รถเหยียบตะปู หรือวัสดุมีคม
  • รถโดนละอองสีหรือวัสดุใดๆ
  • รถถูกวัสดุในตัวรถกระแทกหรือกรีดโดน
  • รถถูกสัตว์กัดแทะหรือขีดข่วน

กรณีรถได้รับความเสียหายจากการชน หรืออื่นๆ ที่ระบุคู่กรณีไม่ได้

  • รถถูกรถคันอื่นเฉี่ยวชน/ชนแล้วหนี
  • รถชนรถคันอื่นเสียหาย
  • รถลื่นไถลตกข้างทางแต่ไม่พลิกคว่ำ

เคลมแบบไหนต้องจ่ายค่าดีดัก (Deductible)?

ค่าเสียหายส่วนแรกแบบสมัครใจจ่าย (Deductible) จะจ่ายตามที่ตกลงไว้กับบริษัทประกันภัยและมีระบุไว้ในกรมธรรม์กรณีที่แจ้งเคลมความเสียหายอุบัติเหตุที่เป็นฝ่ายผิด หรือไม่มีคู่กรณี โดยอาจเป็นความเสียหายส่วนแรกจ่ายการใช้รถผิดเงื่อนไขกรมธรรม์ (ใช้รถผิดประเภท, ชื่อคนขับไม่ตรงกับที่ระบุไว้) การเคลมสีรอบคัน หรือการเปลี่ยนอะไหล่ที่มีการเสื่อมสภาพ

ค่าเสียหายส่วนแรก หรือค่า Excess ประกันคิดยังไง?

การคิดคำนวณค่าเสียหายส่วนแรกจะคิดตามจำนวนเหตุการณ์ความเสียหายที่เกิดขึ้น 1,000 บาทต่อเหตุการณ์ ไม่ใช่จำนวนชิ้นส่วนที่ได้รับความเสียหาย ตัวอย่างเช่น รถเฉี่ยวชน 1 ครั้ง เกิดความเสียหาย 2-3 จุด ต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก 1,000 บาท แต่หากรถบุบเสียหายจากหินกระเด็นใส่ และมีรอยถลอกจากการครูดพื้นถนน ต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก 2,000 บาท (2 เหตุการณ์)

เคลมแบบไหนไม่ต้องเสียค่าเสียหายส่วนแรก? เคลมแบบไหนต้องเสียค่า Excess?

เคลมประกันไม่เสียค่า Excess ทำอย่างไร? 

ค่าเสียหายส่วนแรกทั้งแบบบังคับ (ค่าเอ็กเซส) หรือแบบสมัครใจ (ค่าดีดัก) ไม่ต้องจ่ายเมื่อแจ้งเคลมประกันจากการชนที่ทำให้รถความเสียหายในระดับบุบ แตก ร้าว อธิบายเหตุการณ์ได้ชัดเจน หรือระบุตัวคู่กรณีเพื่อให้บริษัทฯ ตามเรียกเก็บค่าเสียหายได้ และเป็นฝ่ายถูก เช่น ชนกับรถทั่วไป ชนเสาไฟฟ้าล้ม ชนคนวิ่งตัดหน้า หรือรถพลิกคว่ำ

ขออนุโลมค่า Excess ประกันได้ไหม?

สามารถแจ้งขออนุโลมจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก หรือค่าเอ็กเซส (Excess) ได้ตามความเสียหายที่เกิดขึ้นจริงตามเงื่อนไขความคุ้มครองของกรมธรรม์ หรือความเสียหายที่ไม่ได้รับความคุ้มครอง ตามเงื่อนไขแต่ละบริษัทฯ โดยต้องเป็นลูกค้าประวัติดี ไม่เคยเคลมมาก่อน และต่อประกันกับบริษัทฯ มาอย่างต่อเนื่อง แต่ต้องทำหนังสือขออนุโลมค่าเสียหายส่วนแรกไว้เป็นหลักฐานให้กับบริษัทฯ

ค่าเสียหายส่วนแรก หัก ณ ที่จ่ายไหม? ได้ใบเสร็จหรือเปล่า?

ค่าเสียหายส่วนแรก หรือ เงินค่าซ่อมรถยนต์เป็นรายจ่ายเกี่ยวกับรถยนต์ที่จ่ายให้แก่บริษัทรับประกัน เป็นเงินได้พึงประเมินประเภทค่าจ้างทำของตามมาตรา 40(8) แห่งประมวลรัษฎากร อันอยู่ในบังคับต้องถูกหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ในอัตราร้อยละ 3.0 (3%) ตามข้อ 8 ของคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป.4/2528 บริษัทฯ จึงมีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย

ทำไมต้องซื้อประกันรถที่มีค่าเสียหายส่วนแรก? เหมาะกับใคร?

ประกันรถยนต์แบบมีค่าเสียหายส่วนแรก เหมาะกับผู้ที่มีความชำนาญในการขับขี่และขับขี่ด้วยความระมัดระวัง หรือผู้ที่ไม่ค่อยได้ใช้รถหรือขับรถ เพราะมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนน้อยกว่าปกติ และจะได้ส่วนลดเบี้ยประกันจากค่าเสียหายส่วนแรกแบบสมัครใจที่ตกลงจ่ายกับบริษัทฯ หรือค่าดีดัก (Deductible) แต่หากเกิดความเสียหายขึ้น ผู้ทำประกันต้องความรับผิดชอบค่าเสียหายส่วนแรกตามที่กำหนด

ประกันรถยนต์ชั้นใดบ้างที่ต้องเสียค่าเสียหายส่วนแรก

ค่าเสียหายส่วนแรก แบบค่า Excess เป็นค่าใช้จ่ายที่ผู้เอาประกันต้องรับผิดชอบจ่ายเองบางส่วนก่อนที่บริษัทประกันจะเข้ามาคุ้มครองความเสียหายที่เหลือ ค่าเสียหายส่วนแรกมักเกิดขึ้นในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุและต้องการเคลมประกัน โดยประเภทของประกันภัยรถยนต์ที่มีโอกาสต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกจะแตกต่างกันไปตามสถานการณ์ ดังนี้

1. ประกันภัยรถยนต์ชั้น1

  • ค่าเสียหายส่วนแรกในบางกรณี: ประกันชั้น 1 มักจะมีค่าเสียหายส่วนแรกในกรณีที่ผู้ขับขี่ไม่สามารถระบุคู่กรณีได้ หรือในกรณีที่เป็นความผิดของผู้เอาประกันเอง เช่น
  • ขับรถชนสิ่งของ เช่น เสาไฟ ต้นไม้ หรือขอบทาง แต่ไม่มีคู่กรณี
  • รถถูกขีดข่วนหรือเกิดความเสียหายเล็กน้อยจากการชนที่ไม่สามารถระบุได้ว่าเกิดจากอะไร (เช่น พบรอยขีดข่วนเมื่อจอดรถทิ้งไว้)
  • ค่าเสียหายส่วนแรกโดยปกติ จะอยู่ที่ประมาณ 1,000 – 5,000 บาท ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของประกันภัยและรายละเอียดในกรมธรรม์
  • ไม่มีค่าเสียหายส่วนแรกในกรณีทั่วไป: ถ้ามีคู่กรณีและสามารถระบุคู่กรณีได้ชัดเจน ประกันชั้น 1 จะไม่เรียกเก็บค่าเสียหายส่วนแรก

2. ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+ และ 3+

  • ค่าเสียหายส่วนแรกในบางกรณี: ประกัน 2+ และประกัน3+ มักจะมีค่าเสียหายส่วนแรกเช่นเดียวกับประกันชั้น 1 ในกรณีที่ไม่สามารถระบุคู่กรณีได้ หรืออุบัติเหตุที่เกิดจากความประมาทของผู้ขับขี่ เช่น
  • ชนสิ่งของหรือเกิดอุบัติเหตุที่ไม่มีคู่กรณีเข้ามาเกี่ยวข้อง
  • ความเสียหายเล็กน้อยหรือรอยขีดข่วนที่ไม่สามารถหาสาเหตุหรือคู่กรณีได้
  • ไม่มีค่าเสียหายส่วนแรกในกรณีที่มีคู่กรณี: หากสามารถระบุคู่กรณีได้และเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากการชนกับยานพาหนะทางบก ค่าเสียหายส่วนแรกจะไม่ถูกเรียกเก็บจากผู้เอาประกัน

3. ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2 และ 3

  • ไม่มีค่าเสียหายส่วนแรกในกรณีทั่วไป: ประกันชั้น 2 และประกันภัยชั้น 3 มักจะไม่มีค่าเสียหายส่วนแรกในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุและมีคู่กรณี เนื่องจากประกันประเภทนี้ให้ความคุ้มครองเฉพาะความเสียหายต่อทรัพย์สินและชีวิตของบุคคลภายนอกเท่านั้น
  • กรณีที่เกิดความเสียหายที่ต้องเคลมกับคู่กรณี: ผู้เอาประกันไม่ต้องเสียค่าเสียหายส่วนแรก เพราะประกันจะจ่ายค่าเสียหายทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับคู่กรณี

แรบบิท แคร์ รวบรวมแบบประกันรถยนต์ให้เลือกเปรียบเทียบออนไลน์ได้ครบจากทุกบริษัทฯ ชั้นนำ ทั้งแบบมีค่าเสียหายส่วนแรก (Deductible) ลดเบี้ยสูงสุด 5,000 บาท  หรือประกันชั้น 1 ราคาพิเศษเฉพาะคุณเท่านั้น พร้อมส่วนลดและบริการเสริมความมั่นใจแม้ไม่มีเหตุให้เรียกเคลม ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมกว่า 10 รายการ ครบทั้งมีรถใช้ระหว่างซ่อม แจ้งเหตุฉุกเฉิน 24 ชม. หรือชดเชยค่าเดินทางกลับบ้าน โทรเลย. 1438 หรือ rabbitcare.com

บทความแคร์เรื่องประกันยานยนต์

Rabbit Care Blog Image 102491

แคร์เรื่องประกันยานยนต์

ประมาทร่วม คืออะไร? ทำความเข้าใจให้ถูก ก่อนถูกเรียกค่าเสียหายหรือต้องขึ้นศาล

หลายคนอาจเคยได้ยินคำว่าประมาทร่วม จากข่าวอุบัติเหตุหรือเหตุการณ์บนท้องถนน แต่ไม่เข้าใจอย่างแท้จริงว่า ประมาทร่วม คือ อะไรกันแน่
Thirakan T
11/07/2025
Rabbit Care Blog Image 102242

แคร์เรื่องประกันยานยนต์

ใบขับขี่หาย ทําไง ? ทำใหม่แบบออนไลน์ได้รึเปล่า?

ใบขับขี่เขาว่าเป็นเรื่องใหญ่ แน่นอนว่าทุกคนคงไม่อยากกลับไปสอบใบขับขี่กันใหม่โดยใช่เหตุแน่ แถมการไม่พกใบขับขี่ก็อาจถูกปรับตามกฎหมายจราจรอีกด้วย
Thirakan T
25/06/2025
Rabbit Care Blog Image 102184

แคร์เรื่องประกันยานยนต์

กฎหมายคาดเข็มขัดนิรภัย โทษปรับเท่าไหร่?

ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าหนึ่งในกฎหมายจราจรที่เราคุ้นเคยมากที่สุด และทุกคนต้องรู้จักกันเป็นอย่างกฎหมายคาดเข็มขัดนิรภัย
Thirakan T
25/06/2025