รถมอเตอร์ไซค์ GPX Legend 250 Twin II
ประวัติและวิวัฒนาการของรถมอเตอร์ไซค์ GPX Legend 250 Twin II
ทุกวันนี้เราจะสังเกตเห็นได้ว่ามีผู้คนขับขี่รถมอเตอร์ไซต์มากกว่ารถยนต์กันแล้ว เนื่องด้วยปัจจัยหลาย ๆ อย่าง เช่น ค่าน้ำมันที่สูงขึ้น หรือการจราจรที่ติดขัดในตัวเมือง การเลือกขับขี่รถมอเตอร์ไซต์จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ที่จะสามารถนำพาเราไปสู่จุดหมายได้ภายในระยะเวลาที่รวดเร็วมากยิ่งขึ้น หรือจะเป็นชาว Biker ที่จะพารถคู่ใจออกเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ ได้อย่างสนุกสนาน ปลอดภัย และประหยัดน้ำมัน ไม่ว่าจะเดินทางไกลแค่ไหนก็หายห่วง ซึ่งในวันนี้เราจะมาพูดถึงรถมอเตอร์ไซค์ GPX Legend 250 Twin II ที่โดดเด่นทั้งในเรื่องของดีไซน์ความคลาสสิค และสมรรถนะอันดีเยี่ยม ในราคาที่จับต้องได้ มาให้ทุกคนได้ดูกัน
ซึ่งในตระกูลของ Legend นั้นได้ถือกำเนิดขึ้นมาครั้งแรกเมื่อปี 2015 และได้มีการปรับปรุงพัฒนาเทคโนโลยีและสมรรถนะของตัวรถออกมาได้อย่างต่อเนื่องหลายรุ่น จนถึงรุ่นล่าสุดในปัจจุบัน จึงนับว่าเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่น่าจับตามองมาก ๆ ซึ่งก่อนหน้าที่จะมีรุ่น GPX Legend 250 Twin II ออกมานั้น ในปี 2020 ก็ได้มีการเปิดตัว GPX Legend 250 Twin และได้รับการตอบรับจากลูกค้าแบบล้นหลาม ทำให้ทางค่ายได้พัฒนา การใช้งาน และเผยโฉมรถมอเตอร์ไซค์ GPX Legend 250 Twin II ออกมาอีกรุ่น โดยที่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ในเรื่องของสไตล์ที่คลาสสิคเหมือนเดิม มีให้เลือกทั้งหมด 3 เฉดสีด้วยกัน ได้แก่ สี Silver Space(เฉดสีเทาเงา มีส่วนผสมของ Mica Pigment ที่ให้ประกายสีรุ้ง) สี Black Phoenix(เฉดสีดำเงา มีส่วนผสมของ Glass Flakes ที่ให้ประกายสีแดง) และสี Matt Black Phoenix(เฉดสีดำด้าน มีส่วนผสมของ Glass Flakes ที่ให้ประกายสีแดง)
เอกลักษณ์อันโดดเด่นของ GPX Legend 250 Twin II
- โช๊คอัพจาก YSS รุ่น G-Series เป็นโช๊คแก๊สแบบแยกห้องระหว่างแก๊สและน้ำมัน ดีไซน์ทันสมัย แฝงความเท่ด้วย Sub Tank สีทอง ที่ภายในบรรจุแก๊สไนโตรเจนเอาไว้ เพื่อทำการเคลื่อนที่ของโช๊คให้นุ่มนวลมากยิ่งขึ้น และนอกจากนี้ยังสามารถปรับระยะฟรีโหลดได้ด้วย โดยการปรับแบบเกลียวหรือระบบ Threaded spring preload
- กระจกมองข้างดีไซน์ทรงกลม ที่เป็นแบบความคลาสสิกของ GPX Legend 250 Twin II โดยถูกออกแบบมาเพื่อให้รับกับตำแหน่งการมองเห็นที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น และสามารถหมุนปรับองศาได้ พร้อมทั้งกระจกที่ยังได้รับเครื่องหมาย E4 มาตรฐานยุโรป EEC(European Standard) อีกด้วย
- ปลอกแฮนด์ที่คงดีไซน์ความคลาสสิกของ GPX Legend 250 Twin II ดูเรียบหรู มีเนื้อสัมผัสที่นุ่ม จับได้ถนัดมือมากขึ้น
- ขุมพลังเครื่องยนต์ 2 สูบขนาด 234 ซีซี แบบ 4 จังหวะ 4 วาล์ว และมาพร้อมกับเทคโนโลยีการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบหัวฉีด GPX-Fi(แบรนด์ Delphi จากประเทศอเมริกา) ระบบเกียร์ 6 สปีด และแรงบิดสูงสุด 15 นิวตันเมตร(6,500 รอบต่อนาที) ที่จะทำให้การขับขี่ของเราสนุกมากยิ่งขึ้น
- รถมอเตอร์ไซค์ GPX Legend 250 Twin II มีหน้าจอแสดงผลมาตรวัดแบบทรงกลม ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี FULL DIGITAL LCD METER ที่ออกแบบมาให้มองเห็นได้อย่างชัดเจน และมีสีสันสดใสสวยงาม พร้อมบอกข้อมูลการขับขี่ที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นมาตรวัดความเร็ว, มาตรวัดรอบเครื่องยนต์, นาฬิกา, มาตรวัดระดับน้ำมันเชื้อเพลิง, มาตรวัดระยะทาง และไฟบอกตำแหน่งของเกียร์ เป็นต้น
- มีระบบกันสั่นสะเทือนหน้าแบบหัวกลับ(Upside Down) ที่จะช่วยให้รถมอเตอร์ไซค์ GPX Legend 250 Twin II นิ่งมากขึ้น ขับขี่ได้นุ่มนวลมากขึ้น และควบคุมตัวรถได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
- ระบบเบรกหน้าแบบ Twin disc brake ที่ทำงานร่วมกับลูกสูบ 4 pot มีขนาดจานดิสก์ 276 มิลลิเมตร ที่จะทำให้เรามั่นใจในทุกการขับขี่มากขึ้น
- รถมอเตอร์ไซค์ GPX Legend 250 Twin II มีไฟหน้าและไฟท้ายเป็นแบบ FULL LED สว่าง คมชัด ทั้งในตอนกลางวันและตอนกลางคืน และด้านหน้าจะมีไฟ DRL หรือ Daytime Running Light เพื่อเสริมความคมชัดในเวลากลางวันมากยิ่งขึ้น
- โซ่จากแบรนด์ RK แบบมี O-Ring ที่จะช่วยป้องกันสิ่งสกปรกไม่ให้เข้าไปภายในโซ่ ซึ่งจะส่งผลทำให้รถมอเตอร์ไซค์ GPX Legend 250 Twin II เงียบขึ้นเพราะโซ่เงียบ อีกทั้ง O-Ring ยังมีจาระบีอยู่ข้างใน เพื่อช่วยหล่อลื่นข้อต่อให้มีความลื่นมากยิ่งขึ้น เป็นการช่วยยืดอายุการใช้งานของโซ่ให้ยาวนานมากยิ่งขึ้นกว่าโซ่ธรรมดาเป็นเท่าตัว
- รถมอเตอร์ไซค์ GPX Legend 250 Twin II มาพร้อมล้ออัลลอยแบบอลูมิเนียมขนาด 17 นิ้ว ดีไซน์คลาสสิค แข็งแกร่ง ทนทาน ดูล้ำสมัย
- เบาะนั่งที่ทำจากหนังชนิดพิเศษ ทรงคลาสสิค ที่ออกแบบมาให้มีความแตกต่างกันของทั้ง 2 material ระหว่างเบาะนั่งของผู้ขับและเบาะนั่งของผู้ซ้อน
- รถมอเตอร์ไซค์ GPX Legend 250 Twin II มีถังน้ำมันความจุขนาด 14.5 ลิตร ที่ออกแบบมาให้ด้านข้างเว้า แบบหลบเข่าของผู้ขับ พร้อมติดตั้งแผ่นกันรอยทั้งสองข้าง ซึ่งนอกจากจะช่วยไม่ให้ข้างถังเป็นรอยได้ง่ายแล้ว ยังช่วยกันลื่นและสามารถทำให้เรานั่งหนีบถังได้อย่างมั่นใจมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
- Function Control ที่บาร์แฮนด์มอเตอร์ไซค์ GPX Legend 250 Twin II ได้แก่ การเปิดไฟเลี้ยว, การสตาร์ทรถ, การเปิดไฟสูง/ไฟต่ำ และการเปิดไฟฉุกเฉิน
ราคารุ่นรถมอเตอร์ไซค์ GPX Legend 250 Twin II
ราคานี้จะรวมการการันตี 3 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ระยะใดจะถึงก่อน) เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า นอกจากนี้รถมอเตอร์ไซต์ GPX Legend 250 Twin II ยังได้รับ ECO Sticker(ข้อมูลรถจักรยานยนต์ตามมาตรฐานสากล), มาตรฐานผลิตภัณฑ์มอก. 2915-2561, มาตรฐานผลิตภัณฑ์ E-mark(E13) และมาตรฐานผลิตภัณฑ์กระจก(E9)
- GPX Legend 250 Twin II : 81,900 บาท
*หมายเหตุุราคาข้างต้นเป็นราคาเปิดตัว
สเปกและสมรรถนะเครื่องยนต์รถมอเตอร์ไซค์ GPX Legend 250 Twin II
เครื่องยนต์และสมรรถนะของมอเตอร์ไซค์ | GPX Legend 250 Twin II |
เครื่องยนต์ | 2 สูบ 4 จังหวะ 4 วาล์ว |
ปริมาตรกระบอกสูบ | 234 ซีซี(SOHC) |
การระบายความร้อน | oil-cooled |
กระบอกสูบxช่วงชัก | 53x53 มม. |
ระบบจุดระเบิด | Electric Control-FI |
อัตราส่วนกำลังอัด | 9.2:1 |
ระบบเกียร์ | 6 สปีด |
ประเภทน้ำมันเชื้อเพลิง | Gasohol 91,95 |
ความจุน้ำมันเชื้อเพลิง | 14.5 ลิตร |
ระบบเบรกและล้อของมอเตอร์ไซค์ GPX Legend 250 Twin II
ระบบเบรกของมอเตอร์ไซค์ | GPX Legend 250 Twin II |
ระบบเบรก | Hydraulic Brake |
เบรกหน้า | Twin Disc brake/4 pot |
เบรกหลัง | Single Disk brake/1 pot |
ขนาดดิสก์เบรกหน้า | 276 มม. |
ขนาดดิสก์เบรกหลัง | 220 มม. |
วงล้อหน้า/หลัง | 2.15x17/3.0x17 นิ้ว |
ขนาดล้อหน้า | 110/90 |
ขนาดล้อหลัง | 130/90 |
ลมยาง | หน้า 32 psi และหลัง 40 psi |
ดีไซน์ ฟังก์ชันรถมอเตอร์ไซค์ GPX Legend 250 Twin II
- ขนาดตัวรถ(กว้างxยาวxสูง) เท่ากับ 785x2,040,1,120 มม.
- ระยะฐานล้อ 1,340 มม.
- ความสูงจากพื้นถึงเครื่อง 180 มม.
- วงเลี้ยวแคบสุด 35 องศา
- น้ำหนักสุทธิ 156 กก.
- ความสูงจากพื้นถึงเบาะ 790 มม.
- ระบบไฟหน้า/หลัง เป็นแบบ LED
- ไฟเลี้ยว/ไฟฉุกเฉิน เป็นแบบ Incandescent Lamp
- ระบบจุดระเบิด=12V 9Ah
- เรือนไมล์เป็นแบบ Full Digital LCD Meter
- โครงสร้างตัวถังเป็น Backbone frame
- ระยะเทรล 105 มม.
- มุมแคสเตอร์ 28.5 องศา
- โซ่ RK 520(O-Ring)
- สเตอร์หน้า=13
- สเตอร์หลัง=38
- โช๊คอัพหน้าแบบ Upside down
- โช๊คอัพหลังแบบ YSS Twin Shock up With Sub Tank
- ท่อไอเสียทรงเมกาโฟน ปลายรีเวทสี Anodize Silver
ข้อดี/ข้อเสีย ของรถมอเตอร์ไซค์ GPX Legend 250 Twin II
ข้อดี | ข้อเสีย |
มอเตอร์ไซค์ GPX Legend 250 Twin II มีราคาที่ไม่สูงจนเกินไป จับต้องได้ง่าย | อะไหล่เดิมจากโรงงานบางชิ้นของมอเตอร์ไซค์ GPX Legend 250 Twin II จะไม่ค่อยทนทาน |
ดีไซน์คลาสสิค สวยหรู ดูทันสมัย | ท่อไอเสียของมอเตอร์ไซค์ GPX Legend 250 Twin II เป็นสนิมเร็ว |
อะไหล่รถมอเตอร์ไซค์ GPX Legend 250 Twin II หาง่าย มีศูนย์บริการเยอะ | ตรงแฮนด์บาร์ยังมี Option ที่ไม่หลากหลายเท่าไหร่ |
ความคุ้มครองประกันมอเตอร์ไซค์
คำถามและข้อสงสัยที่พบบ่อย
สรุปแล้วมอเตอร์ไซค์ GPX Legend 250 Twin II เหมาะกับใคร?
ด้วยความที่รถมอเตอร์ไซต์ GPX Legend 250 Twin II เป็นรถแนวคลาสสิคเรโทรไบค์ ที่ให้กลิ่นอายแบบดั้งเดิม มีการขับขี่ที่นุ่มนวล ในราคาที่จับต้องได้ จึงเหมาะกับคนที่กำลังตามหารถมอเตอร์ไซต์แนวคลาสสิคที่ขับง่าย คล่องตัว สมรรถนะดี ใช้งานได้ทั้งในตัวเมืองและต่างจังหวัด เดินทางไกลได้สบายมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม เพราะว่ามีแฮนด์บาร์มอเตอร์ไซค์ GPX Legend 250 Twin II ที่ยึดจับด้วยตุ๊กตาแฮนด์ มีกระจกมองข้างแบบปรับองศาได้ และมีการออกแบบมาเพื่อให้รับกับองศาการนั่งในขณะที่เรากำลังขับขี่อยู่ด้วย
มอเตอร์ไซค์ GPX Legend 250 Twin II ควรทำประกันชั้นไหนดี?
ถ้าจะพูดถึงรถมอเตอร์ไซค์ โดยเฉพาะบิ๊กไบค์ หรือใครที่กำลังจะซื้อมอเตอร์ไซค์ GPX Legend 250 Twin II ควรมีประกันภัยชั้น 1 เพราะความคุ้มครองที่ครอบคลุมมากที่สุด ถึงแม้เบี้ยประกันจะแพงกว่าประเภทอื่น แต่ก็ให้ความคุ้มค่า และความอุ่นใจได้มากที่สุดเช่นกัน อีกทั้งยังตอบโจทย์การใช้รถมอเตอร์ไซค์ที่มีราคาค่อนข้างสูง หรือมีค่าบำรุงรักษาและค่าอะไหล่ที่สูง การเลือกทำประกันชั้น 1 จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด สามารถเปรียบเทียบแผนประกันหรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ประกันรถมอเตอร์ไซค์
ซื้อประกันมอเตอร์ไซค์ GPX Legend 250 Twin II ผ่านแรบบิท แคร์ จะได้สิทธิประโยชน์อะไรบ้าง?
นอกจากจะมีบริการเปรียบเทียบราคาเบี้ยประกันของรถมอเตอร์ไซค์ให้คุณแล้ว แรบบิทแคร์ ยังมีประกันภัยมอเตอร์ไซค์ของบริษัทชั้นนำให้ได้เลือกสรรอีกมากมาย ที่มาพร้อมกับโปรโมชั่นพิเศษ และบริการหลังการขายแบบ Exclusive เพื่อให้คุณอุ่นใจมากยิ่งขึ้น อีกทั้งเบี้ยประกันยังสามารถผ่อนจ่ายได้อีกด้วย สำหรับใครที่กำลังวางแผนในเรื่องของการเงินอยู่ก็อุ่นใจได้อีกเช่นกัน รวมทั้งคำแนะนำดี ๆ ที่คุณจะได้รับจากผู้เชี่ยวชาญด้านประกันภัย ดังนั้นใครที่กำลังมองหาประกันภัยรถมอเตอร์ไซค์อยู่ ก็สามารถเข้ามาดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของแรบบิท แคร์ ได้เลย