Rabbit Care Logo
ใช้ใจแคร์ ดูแลครบ
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ในการเก็บข้อมูลเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการใช้งาน และเพื่อเก็บข้อมูลสถิติ ท่านสามารถศึกษารายละเอียด เพิ่มเติมได้ที่นโยบายคุกกี้
info
🎵 เดือน 10 นี้!! Rabbit Care แจกลำโพง Marshall Emberton 2 และ Rabbit Voucher มูลค่ารวม 13,490 บาท แค่สมัครบัตรฯ UOB ผ่าน Rabbit Care คลิก! 💳
user profile image
เขียนโดยNok Srihongวันที่เผยแพร่: Apr 30, 2024
ประกันรถยนต์ ลดหย่อนภาษีได้ไหม? กรณีใด สามารถลดหย่อนได้บ้าง

สำหรับผู้มีเงินได้ที่มีรายได้ถึงเกณฑ์ที่กำหนด ก็จะต้องเสียภาษีให้กับรัฐบาล โดยค่าใช้จ่ายของผู้เสียภาษี สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ และเบี้ยประกันก็จัดเป็นหนึ่งในค่าใช้จ่ายที่ใช้ลดหย่อนภาษีได้ แต่สำหรับประกันรถยนต์ ลดหย่อนภาษีได้ไหม วันนี้ แรบบิท แคร์ จะพามาดูกัน

สำหรับผู้ซื้อรถคันแรก ที่กำลังมองหาประกันรถยนต์อยู่นั้น อาจจะเกิดข้อสงสัยที่ว่า ประกันรถยนต์ ลดหย่อนภาษีได้ไหม จะเป็นเหมือนกับประกันชีวิต หรือประกันสุขภาพ ที่สามารถลดหย่อนภาษีได้หรือเปล่า และกรณีใดที่สามารถหักค่าลดหย่อนภาษีได้บ้าง ตามมาดูกัน

ประกันอะไร ลดหย่อนภาษีได้บ้าง?

สำหรับใครที่ยังคงมีคำถามว่า ประกันอะไรที่สามารถลดหย่อนภาษีได้บ้าง ประกันรถยนต์ ลดหย่อนภาษีได้ไหม มาดูคำตอบกัน

ประกันรถยนต์ ไม่สามารถลดหย่อนภาษีได้ นั่นก็เพราะว่ารถยนต์ ไม่อยู่ในปัจจัยพื้นฐานของการดำรงชีวิต รัฐบาลจึงไม่ได้สนับสนุนให้ใช้เบี้ยประกันรถยนต์ในการลดหย่อนภาษี ทีนี้เรามาดูกันว่า กรณีใดที่สามารถหักค่าลดหย่อนภาษีได้ หรือประกันรูปแบบใด ใช้ลดหย่อนได้บ้าง

  • เบี้ยประกันชีวิต และเบี้ยประกันสะสมทรัพย์
    สามารถลดหย่อนได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 100,000 บาท และกรมธรรม์ต้องมีกำหนดระยะเวลา 10 ปีขึ้นไป ทั้งยังจะต้องเป็นประกันชีวิตที่ทำกับบริษัทประกันในประเทศไทยเท่านั้น และหากมีผลประโยชน์ตอบแทนคืนทุกปี (ไม่รวมเงินปันผลตามกรมธรรม์) จะต้องไม่เกินร้อยละ 20 ของเบี้ยประกันรายปีนั่นเอง
  • เบี้ยประกันสุขภาพ
    ลดหย่อนได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 25,000 บาท เมื่อรวมกับเบี้ยประกันชีวิต และเบี้ยประกันสะสมทรัพย์แล้ว จะต้องไม่เกิน 100,000 บาท
  • เบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ
    ลดหย่อนได้ตามจริง สูงสุด 15% ของรายได้ แต่ต้องไม่เกิน 200,000 บาท ต้องเป็นประกันที่ทำกับบริษัทประกันชีวิตในประเทศไทยเท่านั้น กรมธรรม์ต้องมีกำหนดระยะเวลา 10 ปีขึ้นไป และเมื่อรวมกับการออมและกองทุนเพื่อการเกษียณอายุอื่น ๆ แล้ว จะต้องไม่เกิน 500,000 บาท และหากใช้เบี้ยประกันชีวิตลดหย่อนภาษีไปแล้ว แต่ยังไม่เกิน 100,000 บาท ก็สามารถนำเบี้ยประกันบำนาญไปหักลดหย่อนให้เต็ม 100,000 บาทได้ก่อน และส่วนที่เหลือสามารถนำมาใช้ลดหย่อนเพิ่มได้อีกสูงสุด 15% ของรายได้

ประกันรถยนต์ ลดหย่อนภาษีได้ไหม ซื้อรถยนต์ ผ่อนรถยนต์ ลดหย่อนได้หรือเปล่า?

ประกันรถยนต์ส่วนบุคคล ไม่สามารถลดหย่อนภาษีได้ การซื้อรถยนต์ หรือผ่อนรถยนต์ก็ไม่สามารถลดหย่อนได้เช่นกัน เนื่องจากรถยนต์จัดเป็นสิ่งฟุ่มเฟือย สามารถหักลดหย่อนได้เฉพาะดอกเบี้ยเงินกู้ยืมเพื่อซื้อหรือสร้างที่อยู่อาศัยเท่านั้น

ประกันภัยรถยนต์ คืออะไร ทำไมจึงไม่อยู่ในเงื่อนไขลดหย่อนภาษี

ประกันรถยนต์ คือ สัญญาที่ทำร่วมกันระหว่างบริษัทประกันภัย และผู้เอาประกันภัย โดยมีสัญญาร่วมกันว่าบริษัทประกันภัยจะต้องจ่ายค่าสินไหมทดแทน และค่าเสียหายที่เกิดจากอุบัติเหตุบนท้องถนน หรือค่าเสียหายต่าง ๆ ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในสัญญา โดยผู้ถือประกันจะต้องจ่ายเบี้ยประกันเป็นจำนวนเงินที่กำหนดไว้ในสัญญา (กรมธรรม์) นับตั้งแต่วันแรกที่ทำสัญญา และจะเป็นสัญญาที่สิ้นสุดปีต่อปีเท่านั้น

สาเหตุที่การซื้อประกันรถยนต์ ไม่จัดอยู่ในค่าใช้จ่ายที่สามารถลดหย่อนภาษีได้นั้น เหตุผลก็เพราะรถยนต์ไม่จัดอยู่ในพื้นฐานการดำรงชีวิต อีกทั้งประกันภัยรถยนต์ ยังมีพรบ. คุ้มครองเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว บวกกับบริษัทประกันรถนั้นล้วนเป็นธุรกิจของเอกชน หากรัฐส่งเสริมให้การซื้อประกันรถยนต์สามารถลดหย่อนภาษีได้ จะนับเป็นการส่งเสริมที่ไม่เป็นธรรม ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ จึงส่งผลให้ประกันรถยนต์ไม่สามารถลดหย่อนภาษีได้ ตอบข้อสงสัยของคำถามที่ว่า ประกันรถยนต์ ลดหย่อนภาษีได้ไหม ได้เป็นอย่างดี

ซื้อรถยังไง ให้ประหยัดภาษีได้ด้วย กรณีใดที่สามารถหักค่าลดหย่อนภาษีได้

หลังจากได้ทราบกันไปแล้วว่า ประกันรถยนต์ ลดหย่อนภาษีได้ไหม คงทำให้ใครหลายคนที่กำลังวางแผนการลดหย่อนภาษีอยู่นั้น ต้องจัดระเบียบค่าลดหย่อนเสียใหม่ ซึ่งแม้ว่า ประกันรถยนต์จะไม่สามารถลดหย่อนภาษีได้ แต่ก็ยังมีวิธีการที่ทำให้เราสามารถซื้อรถไปพร้อม ๆ กับการประหยัดภาษีได้ด้วย แต่จะทำได้ก็ต่อเมื่อประกันรถยนต์นั้นเป็นรถยนต์สำหรับภาคธุรกิจ และซื้อในนามบริษัท เช่น รถรับจ้าง ส่งอาหารเดลิเวอรี่ หรือธุรกิจรถเช่า เป็นต้น ซึ่งหมายความว่า หากเป็นรถที่ใช้สำหรับประกอบธุรกิจ ก็สามารถใช้ประกันรถยนต์ที่ซื้อไว้ ลดหย่อนภาษีในภาคธุรกิจได้ เพราะจัดเป็นค่าใช้จ่ายของบริษัท เป็นต้นทุนในการทำธุรกิจนั่นเอง ซึ่งบุคคลทั่วไปที่มีธุรกิจอื่นนอกเหนือจากงานประจำ เช่น ขับแท็กซี่ ก็สามารถใช้ประกันในส่วนนี้ลดหย่อนภาษีเงินได้ภาคธุรกิจได้

ลีสซิ่ง VS เช่าซื้อ รถยนต์ กับประโยชน์ทางภาษี

นอกจากการซื้อประกันรถยนต์ในนามบริษัท ที่ช่วยในการลดหย่อนภาษีได้แล้ว ยังมีประโยชน์ทางภาษีในรูปแบบอื่นอีกที่เจ้าของธุรกิจสามารถนำไปลดหย่อนได้ ได้แก่ ลีสซิ่ง และการเช่าซื้อรถยนต์

ลีสซิ่ง เป็นการเช่าซื้อรถในรูปแบบที่ไม่ต้องการเป็นเจ้าของ โดยจะต้องชำระเงินค่าเช่าเป็นงวดตามจำนวนเงิน และระยะเวลาที่ระบุไว้ในสัญญาเช่า และเมื่อหมดสัญญา ผู้เช่าสามารถเลือกได้ว่าจะต่อสัญญา จะซื้อทรัพย์สินในราคาที่ตกลงกันไว้ หรือจะเลือกคืนทรัพย์ให้แก่ผู้เช่าก็ได้ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วสัญญาเช่าจะมีระยะเวลาไม่เกิน 5 ปี เหมาะกับผู้ที่ไม่ต้องการจ่ายเงินจำนวนมาก แต่ต้องการเช่าเพื่อใช้งานในระยะยาว

การเช่าซื้อ จะแตกต่างจากลีสซิ่งตรงที่ เมื่อครบสัญญาเช่า กรรมสิทธิ์จะถูกโอนเป็นของผู้เช่าซื้อโดยอัตโนมัติ นับเป็นสัญญาที่เจ้าของทรัพย์สินให้เช่า ภายใต้เงื่อนไขที่ว่า เมื่อครบกำหนดสัญญา หรือเมื่อผู้เช่าจ่ายเงินให้ครบตามจำนวนงวดที่ตกลงกันไว้ ทรัพย์สินจะตกเป็นของผู้เช่าทันที

สำหรับการเช่าซื้อ จะนำมาใช้ประโยชน์ในทางภาษีได้ในรูปแบบของค่าเสื่อมราคา ซึ่งสามารถใช้ได้ตั้งแต่เริ่มผ่อนชำระ ในส่วนของลีสซิ่งนั้น จะใช้ประโยชน์ทางภาษีได้ในรูปแบบของค่าเช่ารายเดือน ซึ่งนับเป็นค่าใช้จ่ายที่สามารถนำไปลดหย่อนได้เต็มจำนวน แต่จะไม่สามารถหักค่าเสื่อมราคาได้ เนื่องจากยังไม่ได้เป็นเจ้าของทรัพย์สิน และเมื่อเทียบกับการเช่าซื้อแล้ว ลีสซิ่งสามารถลดหย่อนภาษีได้มากกว่าถึง 2 เท่า จึงเป็นเหตุผลที่องค์กรส่วนใหญ่เลือกทำลีสซิ่งมากกว่าการเช่าซื้อ

ขายรถยนต์ของตัวเอง ต้องเสียภาษีไหม นับเป็นรายได้หรือเปล่า

อย่างที่ได้ทราบกันไปแล้วว่า ประกันรถยนต์จะสามารถใช้ประโยชน์ทางภาษีได้ก็ต่อเมื่อ ประกันนั้นซื้อในนามบริษัท หากเป็นประกันรถยนต์ส่วนบุคคลจะไม่สามารถลดหย่อนภาษีได้ การขายรถยนต์ก็เช่นกัน หากเป็นรถยนต์ส่วนบุคคล ไม่จำเป็นต้องยื่นเสียภาษี เพราะเป็นการขายที่ไม่ได้มุ่งเน้นในด้านการค้า หรือการหากำไร แต่จะต้องเสียค่าอากรแสตมป์ในการทำสัญญา

แต่หากเป็นการขายรถยนต์เพื่อธุรกิจ ที่มุ่งเน้นการหากำไร อย่างเช่น ธุรกิจเต็นท์รถ ก็จะต้องเสียภาษี ซึ่งต่างจากการขายรถยนต์ส่วนบุคคล

สิทธิลดหย่อนภาษี ปี 2567 อะไรที่สามารถลดหย่อนภาษีได้บ้าง

สำหรับสิทธิลดหย่อนภาษีปี 2567 เมื่อแบ่งตามหมวดหมู่ จะแบ่งได้ดังนี้

สิทธิลดหย่อนส่วนตัวและครอบครัว

ได้แก่ สิทธิลดหย่อนส่วนตัว สำหรับผู้มีเงินได้ สิทธิลดหย่อนสำหรับคู่สมรส บุตร บุตรบุญธรรม การฝากครรภ์ คลอดบุตร สิทธิลดหย่อนบิดา มารดา ประกันสุขภาพบิดามารดา ประกันชีวิตคู่สมรส สิทธิคนพิการ และทุพพลภาพ

การออม การลงทุน ประกันชีวิต

เช่น ประกันสังคม กองทุน ประกันชีวิต ประกันสุขภาพ เป็นต้น

สิทธิลดหย่อนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ

ประกอบไปด้วย ดอกเบี้ยบ้าน และโครงการ Easy e-receipt

เงินบริจาค

ได้แก่ เงินบริจาคทั่วไป เงินบริจาคพรรคการเมือง และเงินบริจาคลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า

การทำประกันรถยนต์ นอกจากจะช่วยคุ้มครองในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ได้แล้ว ยังได้ประโยชน์ในการลดหย่อนภาษีอีกด้วย หากเป็นการซื้อในนามบริษัท เพียงแค่จ่ายเบี้ยประกันไม่กี่บาทต่อปี ก็ได้รับความคุ้มครองไปเต็ม ๆ คุ้มค่ากว่าการเสียเงินก้อนใหญ่เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งประกันรถยนต์ จาก แรบบิท แคร์ ช่วยให้คุณเลือกผ่อนได้ง่าย ไม่มีบัตรเครดิตก็ผ่อนได้ พร้อมประกันคุณภาพบริการดีเยี่ยมจาก 15 บริษัทชั้นนำให้เลือกสรร ซื้อง่าย ได้กรมธรรม์เร็ว สะดวกทุกขั้นตอน

ความคุ้มครองประกันรถยนต์
ความคุ้มครองรถผู้ทำประกัน
ประเภทประกันภัย
ชั้น 1
ชั้น 2+
ชั้น 2
ชั้น 3+
ชั้น 3
ชนแบบมีคู่กรณีชนแบบมีคู่กรณี
x
x
ชนแบบไม่มีคู่กรณีชนแบบไม่มีคู่กรณี
x
x
x
x
ไฟไหม้ไฟไหม้
x
x
รถหายรถหาย
x
x
ภัยธรรมชาติภัยธรรมชาติ
x
x
ช่วยเหลือ 24 ชม. ช่วยเหลือ 24 ชม.
x
x
x
ซื้อประกันรถยนต์   
คลิก
คลิก
คลิก
คลิก
คลิก
ความคุ้มครองอื่นๆ ครอบคลุมทุกชั้นประกัน
คุ้มครองคู่กรณี และทรัพย์สินคู่กรณี
อุบัติเหตุ ค่ารักษาพยาบาลบุคคลที่สาม
คุ้มครองชิวิตบุคคลที่สาม
คุ้มครองชีวิตผู้ขับขี่
ค่ารักษาพยาบาลตัวผู้ขับขี่
การประกันตัวผู้ขับขี่
ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของเรา