แคร์แม่และเด็ก

เด็กหลอดแก้ว คืออะไร? มีวิธีและขั้นตอนทำอย่างไร? ราคาเท่าไหร่? แตกต่างจากการทำแบบ ICSI, IUI, และ IVF อย่างไร? 

ผู้เขียน : Mayya Style

เป็นนักเขียนสายสุขภาพและการเงินที่มีประสบการณ์ในการเขียนมากมาย โดยได้ฝากผลงานในหลากหลายรูปแบบที่เน้นด้านบริหารร่างกายและจิตใจ ทำงานที่ Rabbit Care ได้อย่างมืออาชีพ

close
 
 
Published: July 6,2023

ในชีวิตรักของคนสองคน การมีลูกถือเป็นของขวัญให้กับคู่รัก แต่ใครจะเชื่อว่าหลาย ๆ คนยังต้องเผชิญกับอุปสรรคในการมีลูกเนื่องจากปัญหาทางด้านสุขภาพ มีผู้หญิงไม่น้อยมีภาวะมีลูกยาก หรือ มีบุตรยาก ทำให้ต้องปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนล่วงหน้าเป็นระยะยาว หรือบางคู่รักอาจไม่อยากมีเพศสัมพันธ์กันแต่อยากมีลูก ก็สามารถทำเด็กหลอดแก้วได้ วันนี้น้องแคร์จะพามารู้จักว่ามันคืออะไร มีขั้นตอนการทำอย่างไร ราคาเท่าไหร ไปดูกันเลย!! 

  
บัตรไหนคุ้ม เปรียบเทียบเลย แค่ 30 วิ เช็คเลย!
icon angle up or down

สามารถเลือกได้มากกว่า 1 ข้อ

เด็กจบใหม่ รักการท่องเที่ยว รักการช้อปปิ้ง รักความหรูหรา รักสุขภาพ รักการกิน
  

เด็กหลอดแก้ว คืออะไร? 

เด็กหลอดแก้ว หรือ IVF ย่อมาจาก In Vitro Fertillization คือหนึ่งในวิธีการแก้ไขสำหรับผู้ป่วยที่มีภาวะมีลูกยาก โดยการใช้เทคโนโลยีมาช่วยในการเจริญพันธุ์ วิธีนี้จะนำไข่ของผู้หญิง และอสุจิของผู็ชายมาผสมกันเพื่อให้เกิดการปฏิสนธิภายนอกร่างกาย เด็กหลอดแก้วจะฟักตัวภายในห้องแลปหรือห้องปฎิบัติการ เมื่อเกิดตัวอ่อนแล้วจึงนำกลับไปฉีดเข้าไปในโพรงมดลูกของผู้หญิงเพื่อให้เกิดการฝังตัวและตั้งครรภ์ต่อไป 

การปฎิบัติตัวก่อนทำเด็กหลอดแก้ว 

ก่อนทำเด็กหลอดแก้ว ฝ่ายชายและฝ่ายหญิงจะต้องทำการตรวจหาสาเหตุก่อนว่าทำไมมีภาวะมีบุตรยาก หากเป็นผู้ชายที่ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ควรงด และฝ่ายหญิงจำเป็นต้องได้รับการตรวจภายใน เพื่อคัดกรองมะเร็งปากมดลูกและหาความผิดปกติอื่น ๆ เนื่องจากมีผลต่ออัตราการประสบผลสำเร็จในการทำเด็กหลอดแก้ว เช่น ผู้หญิงที่มีน้ำหนักเกินเกณฑ์มาตรฐาน คุณหมอจะแนะนำให้ควบคุมน้ำหนักและพบหมอทางด้านโภชนาการก่อน 

ทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิงจะได้รับคำแนะนำเพื่อให้เข้าใจถึงวิธีการทำ อัตราความสำเร็จ ความเสี่ยงในการทำ หากมีคำถามหรือข้อสงสัยควรถามแพทย์ทันที หลังจากนั้นคุณจำเป็นต้องลงนามในหนังสือยินยอมทำเด็กหลอดแก้ว 

ขั้นตอนการทำเด็กหลอดแก้ว 

ขั้นตอนในการทำเด็กหลอดแก้ว แบ่งเป็น 4 ขั้นตอนใหญ่ ๆ คือ การเก็บไข่ การปฏิสนธิ การเพาะเลี้ยงตัวอ่อน และการย้ายตัวอ่อน ซึ่งแต่ละวิธีมีขั้นตอน ระยะเวลา ที่แตกต่างกันไปโดยมีรายละเอียดดังนี้

1. การเก็บไข่

ก่อนการเก็บไข่ ฝ่ายหญิงจะมีการกระตุ้นไข่ด้วยฮอร์โมน เพื่อให้ไข่มีการเจริญเติบโต แข็งแรง มีขนาดและปริมาณเพียงพอตามความต้องการของแพทย์ หลังจากนั้นแพทย์จะให้ยาสลบหรือให้ยาระงับความรู้สึกระยะสั้นทางหลอดเลือดเพื่อไม่ให้เกิดความเจ็บปวดในขณะที่เก็บไข่ ขั้นตอนนี้จะใช้เวลาไม่นานเพียง 20-30 นาทีเท่านั้น โดยแพทย์จะใช้เข็มดูดไข่จากบริเวณช่องคลอดและใช้การอัลตร้าซาวด์เพื่อบอกตำแหน่งและทิศทางของไข่ 

2. การปฏิสนธิ 

ก่อนการการปฏิสนธิ ฝ่ายชายต้องทำการเก็บอสุจิใส่ในภาชนะที่แพทย์เตรียมไว้ให้ เพื่อนำมาคัดและและเลือกเฉพาะอสุจิที่มีความแข็งแรงมากที่สุดที่พร้อมจะปฎิสนธิ แพทย์จะนำอสุจิที่มีความสมบูรณ์และแข็งแรงไปผสมกับไข่ในห้องทดลอง หากฝ่ายชายมีน้ำเชื้อน้อยหรือมีอสุจิที่ไม่ได้คุณภาพ ก็จะทำให้เกิดความเสี่ยงที่ไข่จะไม่ได้รับการผสม อย่างไรก็ตาม ควรใช้วิธีคัดเลือกอสุจิเพียงตัวเดียวและฉีดเข้าไปในไข่โดยไม่ต้องรอให้ปฏิสนธิกันเอง วิธีดังกล่าวรียกว่า ICSI หรือ Intracytoplasmic Sperm injection

3. การเพาะเลี้ยงตัวอ่อน 

เมื่อเกิดการปฏิสนธิกันจนกลายเป็นตัวอ่อน ก็จะทำการเลี้ยงตัวอ่อนต่อในห้องปฎิบัติการจนตัวอ่อนเกิดการเจริฐเติบโต และแบ่งเซลล์ออกเป็น 6-8 เซลล์ซึ่งจะใช้เวลาประมาณสามวัน และหลังจากการปฎิวนธิไป 5 วัน ตัวอ่อนจะเจริญเติบโตเข้าสู่ระยะบลาสโตซีสต์

4. การย้ายตัวอ่อน

เมื่อตัวอ่อนเกิดการเจริญเติบโตแข็งแรงแล้ว แพทย์จะทำการย้ายตัวอ่อนจากหลอดแก้วไปยังโพรงมดลูกของฝ่ายหญิงโดยการใส่เครื่องมือทางช่องคลอด คล้ายกับการตรวจภายใน ขั้นตอนนี้ไม่เจ็บและไม่จำเป็นต้องใช้ยาระงับปวดหรือยาสลบ ใช้เวลาทำประมาณ 30 นาที อุปกรณ์เครื่องมือที่ขาดไม่ได้คือเครื่องอัลตร้าซาวด์ ใช้ในการบอกตำแหน่งที่เหมาะสมก่อนที่จะวางตัวอ่อนในโพรงมดลูก ซึ่งระยะเวลาในการย้ายตัวอ่อนสามารถทำได้ 2 ระยะ คือ ตัวอ่อนอายุ 3 วันและตัวอ่อนอายุ 5 วันหลังการปฏิสนธิ 

การปฎิบัติตัวหลังจากย้ายตัวอ่อนเข้าสู่โพรงมดลูก

  1. นอนพักผ่อนให้เพียงพอ
  2. งดการเกร็งหน้าท้อง หรือการทำงานหนัก ๆ 
  3. งดการมีเพศสัมพันธ์
  4. งดการสวนล้างบริเวณช่องคลอด
  5. หากมีอาการผิดปกติ ควรรีบมาพบแพทย์ที่โรงพยาบาล 

การทำเด็กหลอดแก้ว ราคาเท่าไหร่? 

 การทำเด็กหลอดแก้วใจะมีราคาที่สูง แต่มีช่วงราคาที่แตกต่างกันออกไปตามสถานที่ที่รับบริการ โดยสามารถแยกได้ดังนี้

  • โรงพยาบาลรัฐบาล : เด็กหลอดแก้ว ค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ประมาณ 70,000 – 200,000 บาท เช่น โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โรงพยาบาลรามาธิบดี
  • คลินิกรักษาผู้มีบุตรยาก : เด็กหลอดแก้ว ค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ประมาณ 200,000 บาท
  • โรงพยาบาลเอกชน : เด็กหลอดแก้ว ค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ประมาณ 400,000 บาทขึ้นไป เช่น โรงพยาบาลพญาไท 3

ทำไมการทำเด็กหลอดแก้วถึงมีราคาสูง? 

นอกจากค่าบริการที่ต้องจ่ายให้กับสถานพยาบาลแล้ว ยังมีค่าอื่น ๆ มากมาย เช่น ค่ายากระตุ้นไข่ ค่าตรวจโครโมโซม เป็นต้น โดยมีรายละเอียดดังนี้

1. ค่ายากระตุ้นไข่ 

การทำเด็กหลอดแก้วมีราคาที่แพง ส่วนหนึ่งมาจากค่ายากระตุ้นไข่ ถ้าผู้หญิงคนไหนจำเป็นต้องใช้ขนาดยากระตุ้นไข่เยอะ ราคาก็จะยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น เช่น ผู้หญิงที่มีอายุเยอะ ปริมาณไข่น้อย การตอบสนองต่อยาไม่ดีนัก ทำให้แพทย์ต้องเพิ่มขนาดยา เป็นต้น แต่สำหรับใครที่มีไข่เยอะ อาจขใช้ปริมาณยากระตุ้นไข่น้อยก็จริง แต่อาจจะได้ตัวอ่อนที่เยอะจึงทำให้เสียค่าแช่แข็งตัวอ่อนเยอะเช่นเดียวกัน 

2. ค่าตรวจโครโมโซม

ในการทำเด็กหลอดแก้ว บางคนอาจจำเป็นต้องตรวจโรโมโซมของตัวอ่อน ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นนอกเหนือจากการทำเด็กหลอดแก้วแบบปกติ ซึ่งราคาอาจสูงไปถึงการทำ IVF/ICSI 

3. ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ

ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เช่น ค่าการแช่เข็งไข่หรือสเปิร์มในกรณีที่ยังไม่สามารถทำ IVF/ICSI ได้ทันที, การแช่แข็งตัวอ่อนเพื่อตรวจโครโมโซม, การกระตุ้นไข่หลายรอบในกรณีไข่มีปริมาณน้อยและไม่มีคุณภาพ, ค่าผ่าตัดหาเชื้ออสุจิกรณีอสุจิฝ่ายชายน้อย, การทำ ERA ในกรณีที่ตัวอ่อนไม่ฝังตัวเนื่องจากมดลูกไม่พร้อม เป็นต้น 

การทำ IUI, ICSI และ IVF ต่างกันอย่างไร

การทำเด็กหลอดแก้ว ปัจจุบันมีอยู่ 3 วิธีที่คนส่วนใหญ่นิยมทำกัน ได้แก่  IUI (Intrauterine insemination), ICSI (Intracytoplasmic Sperm Injection), และ IVF (In-Vitro Fertilization) โดยมีความแตกต่างกัน ดังนี้ 

1. IUI (Intrauterine Insemination)

การทำ IUI เป็นกระบวนการทางการสืบพันธุ์ที่ใช้สำหรับผู้หญิงที่มีการตั้งครรภ์ที่ยากขึ้น แต่ยังมีระบบตัวอ่อนและระงับการตั้งครรภ์ที่ดี กระบวนการนี้ทำงานโดยการฉีดอสุจิ (sperm) ที่ผ่านการส่งเสริมและเตรียมตัวลงในโพรงมดลูกของผู้หญิงในช่วงเวลาที่เหมาะสมกับการตกไข่ โดยวัตถุประสงค์ของการทำ IUI คือเพิ่มโอกาสให้อสุจิแต่ละเซลล์ผสมกับไข่ได้ง่ายขึ้น เพื่อเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์

2. ICSI (Intracytoplasmic Sperm Injection) 

เด็กหลอดแก้ว ICSI เป็นกระบวนการทางการสืบพันธุ์ที่ใช้ในกรณีที่ผู้ชายมีปัญหาเกี่ยวกับคุณภาพและจำนวนของอสุจิ กระบวนการนี้นำเข้าอสุจิที่แข็งแรงที่สุดเข้าสู่ไข่ โดยใช้เข็มขนาดเล็กที่เจาะไข่และฉีดอสุจิเข้าไปในไข่ อสุจิที่ผสมกันแล้วจะถูกเลี้ยงในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมในห้องปฏิบัติการจนกว่าจะพัฒนาเป็นตัวอ่อนในระยะเวลาที่เหมาะสม จากนั้นตัวอ่อนจะถูกนำเข้าไปใส่ในโพรงมดลูกของผู้หญิงเพื่อเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์

3. IVF (In-Vitro Fertilization)

เด็กหลอดแก้ว IVF เป็นกระบวนการทางการสืบพันธุ์ที่ใช้ในกรณีที่ผู้หญิงมีปัญหาเกี่ยวกับระบบตัวอ่อน และในบางกรณีที่ผู้ชายมีปัญหาในคุณภาพและจำนวนของอสุจิด้วย กระบวนการนี้เริ่มต้นด้วยการคัดเลือกไข่ที่สมบูรณ์จากผู้หญิงและคัดเลือกอสุจิที่แข็งแรงจากผู้ชาย เจาะไข่และผสมอสุจิกับไข่ในห้องปฏิบัติการ ตัวอ่อนที่ได้รับการผสมแล้วจะถูกเลี้ยงในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมในห้องปฏิบัติการจนกว่าจะพัฒนาเป็นตัวอ่อนในระยะเวลาที่เหมาะสม จากนั้นตัวอ่อนจะถูกนำเข้าไปใส่ในโพรงมดลูกของผู้หญิงเพื่อเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์แบบปกติต่อไป

ดังนั้นจะเลือกใช้วิธีการแบบไหนก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ควรปรึกษาและพูดคุยกับแพทย์เพื่อหาแนวทางและขั้นตอนที่เหมาะสมเกี่ยวกับการทำเด็กหลอดแก้้วเพื่อความปลอดภัยและเกิดผลสำเร็จในการทำ

ข้อดี-ข้อเสีย ของการทำเด็กหลอดแก้ว

  ข้อดีของการทำเด็กหลอดแก้ว 

  ข้อเสียของการทำเด็กหลอดแก้ว 

ช่วยคัดกรองกลุ่มโรคที่มีความเสี่ยง เช่น ดาวซิน โดรม เนื่องจากแพทย์จะเลือกเฉพาะไข่และอสุจิที่มีความสมบูรณ์แข็งแรงเท่านั้น

  ค่าใช้จ่ายสูง เพราะเด็กหลอดแก้วต้องทำในห้องปฎิบัติการทางการแพทย์เท่านั้นและต้องมีการควบคุมอุณหภูมิที่ถูกต้องและคงที่

ไข่และน้ำเชื้อสามารถเก็บได้นานถึง 10 ปี เพื่อรอความพร้อมในการตั้งครรภ์ของฝ่ายหญิง เมื่อพร้อมแล้วก็สามารถย้ายตัวอ่อนเข้าสู่โพรงมดลูกได้ทันที

  บางครั้งตัวอ่อนอาจไม่เจริญเติบโต ทำให้อาจแท้งในขณะตั้งครรภ์ได้เช่นกัน 

เพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์สำหรับคุณแม่ที่มีภาวะมีลูกยาก

-

เหล่านี้คือข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับการทำเด็กหลอดแก้ว การกำเนิดดมาของบุตรล้วนเป็นสิ่งที่สวยงามและเชื่อว่าเป็นสิ่งที่คุ้มค่าแก่การลงทุน น้องแคร์อยากแนะนำให้คุณสมัครบัตรเครดิต แรบบิท แคร์ เพื่อใช้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการจ่ายเงิน เนื่องจากเด็กหลอดแก้วมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง การใช้บัตรรูดก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ แรบบิท แคร์ มีพันธมิตรกับธนาคารมากมาย และยังมีระบบเปรียบเทียบออนไลน์ง่าย ๆ เพียงไม่กี่นาทีเพื่อให้ได้บัตรที่ตอบโจทย์คุณมากที่สุด หากสนใจโทรเลย 1438  


 

บทความแคร์แม่และเด็ก

แคร์แม่และเด็ก

ความสามารถพิเศษที่ควรให้ลูกมีติดตัวไว้ เพราะอาจได้ใช้และต่อยอดได้ในระยะยาว

ความสามารถพิเศษ สิ่งที่เราต่างก็ทราบกันดีอยู่แล้วว่าหากมีติดตัวเอาไว้ย่อมเป็นผลดีมากกว่าไม่มี
Nok Srihong
25/03/2024

แคร์แม่และเด็ก

ผ่าคลอด มีข้อดีอย่างไร ? ปลอดภัยกว่าคลอดธรรมชาติหรือไม่ ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ ?

สำหรับว่าที่คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ จะผ่าคลอดหรือคลอดธรรมชาติคงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะต้องตัดสินใจ ว่าจะผ่าคลอดดีหรือไม่ การผ่าคลอดปลอดภัยกว่าคลอดธรรมชาติไหม
Nok Srihong
12/03/2024