3 วิธีเลือกซื้อหน้ากากอนามัยสำหรับเด็กเพื่อป้องกันโควิด-19
เริ่มต้นปี 2022 ด้วยการใช้ชีวิตร่วมกับไวรัสโควิด-19 มาตลอดนับสองปีเต็ม ซึ่งตอนนี้ยังคงเฝ้าระวังกันอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงสำหรับผู้สูงวัย และเด็ก ถึงแม้ว่าจะได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสไปบ้างแล้ว แต่สายพันธุ์ใหม่ ‘โอมิครอน’ ที่กำลังแพร่กระจายไป 38 ประเทศทั่วโลก โดย WHO หรือองค์การอนามัยโลกจัดให้เป็นสายพันธุ์ระดับที่น่ากังวลตัวที่ 5 และต้องเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงสูงเป็นพิเศษ
มีการยืนยันข้อมูลจาก ศ.นพ.มานพ พิทักษ์ภากร หัวหน้าศูนย์วิจัยการแพทย์แม่นยำ คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล ว่าในประเทศอังกฤษพบอัตราเด็กป่วยนอนโรงพยาบาลจากการติดเชื้อโอมิครอนสูงกว่าการติดเชื้อที่ผ่านมา คาดว่ากลุ่มเด็กๆ บางส่วนยังไม่ได้รับวัคซีน และไม่มีการปลูกฝังวิธีป้องกันเชื้อไวรัสอย่างถูกต้อง iPrice Group เล็งเห็นว่าว่าหน้ากากอนามัยคือไอเทมสำคัญ จึงขอแนะนำ 5 วิธีเลือกซื้อหน้ากากอนามัยสำหรับเด็กให้เพื่อปกป้องภัยโควิด-19 ดังนี้
เลือกประเภทหน้ากากให้เหมาะสม
ผู้ปกครองต้องทำความเข้าใจประเภทหน้ากากอนามัยให้ถูกต้องก่อนตัดสินซื้อให้ลูกน้อยสวมใส่ หลัก ๆ จะมีเพียง 3 ประเภท คือ
- หน้ากากอนามัยแบบแผ่น (หน้ากากทางการแพทย์) ผลิตจากพลาสติกพอลิโพรไพลีน โดยหันด้านสีเขียวออกนอกสามารถป้องกันแบคทีเรียได้ถึง 66.37%
- หน้ากากเนื้อผ้า มีทั้งผ้าฝ้าย และใยสังเคราะห์สามารถกรองฝุ่นละออง น้ำมูก น้ำลาย แต่ไม่สามารถกรองเชื้อโรคเล็ก ๆ ได้ดีมากนัก
- หน้ากากใช้ในทางอุตสาหกรรม เช่น N95, FFP1 ประสิทธิภาพป้องกันสูงได้ถึงฝุ่นละออง PM 2.5 ทรงหน้ากากครอบมิดชิด ซึ่งหากใส่นาน ๆ ทำให้หายใจลำบาก
หน้ากากประเภทเหล่านี้สามารถป้องกันเชื้อไวรัสได้ แต่จุดประสงค์การใช้งานจะแตกต่างกันออกไป ขอเสริมว่าหน้ากากในทางอุตสาหกรรมแบบ N95 ไม่เหมาะสมสำหรับเด็กเพราะว่ามีสายรัดที่บีบแน่นจนทำให้หายใจลำบาก แนะนำว่าควรเป็นแบบผ้าหรือหน้ากากอนามัยแบบแผ่นให้ตรงไซส์เด็ก ดูจะเหมาะสำหรับการสวมใส่ที่สบาย หายใจสะดวกกว่า
ช่วงวัยที่เหมาะสมในการสวมหน้ากากอนามัย
การสวมใส่หน้ากากอนามัยให้เด็กนั้นถือว่าเป็นการปลูกฝังการป้องกันที่ดี แต่การที่จะสวมให้เด็กทุกวัยนั้นมีคำเตือนจากแพทย์หญิง พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัยแนะนำว่าควรใช้หน้ากากให้เหมาะกับช่วงวัยของเด็กดังนี้
- ทารกแรกเกิด – 1 ปี: ไม่ควรให้สวมใส่อย่างยิ่งเพราะเด็กทารกยังมีระบบหายใจไม่แข็งแรงพอเสี่ยงต่อการสะสมคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นอันตรายต่อระบบประสาทได้
- 1 – 2 ปี: เริ่มเรียนรู้การสวมใส่หน้ากากอนามัยได้ แต่ต้องระวังเรื่องความอึดอัด แนะนำว่าใส่เพียงระยะสั้นที่สุด
- มากกว่า 2 ปีขึ้นไป: มีความเข้าใจในการสวมใส่หน้ากากอนามัยเองได้ และย้ำเตือนเมื่อต้องออกนอกบ้านต้องใส่ทุกครั้ง
ซื้อจากร้านที่เชื่อถือได้
สินค้าทุกอย่างมักจะมีการปลอมแปลงในทุกวงการ แม้กระทั่งหน้ากากอนามัยก็มีสินค้าที่เอามาขายมือสอง ดูแล้วไม่ควรเป็นอย่างยิ่ง เพราะการเลือกซื้อหน้ากากอนามัยต้องมั่นใจว่าสามารถป้องกันฝุ่น และไวรัสเป็นได้อย่างดี แหล่งซื้อหน้ากากอนามัยทั่วไปแล้วสามารถซื้อผ่านร้านขายยา หรือช่องทางออนไลน์หลายแพลตฟอร์ม ตรวจสอบจากการรีวิวผู้สั่งซื้อท่านอื่นเพื่อความมั่นใจในตัวสินค้าที่ใช้งานได้จริง
หนึ่งครอบครัวไม่ว่าจะเป็นใครย่อมมีคนรัก คนห่วงอยู่เสมอ โดยเฉพาะเด็กเล็ก มักจะซนตามธรรมชาติในช่วงวัยของเขา ผู้ปกครองต้องปลูกฝังการป้องกันด้วยคำแนะนำที่ดีคือ ควรใจเย็น ๆ และต้องให้เวลาเด็กได้เรียนรู้ถึงผลกระทบต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น โปรดจำไว้ว่าไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ วิธีการนุ่มนวลที่สุดจะทำให้พวกเขาตั้งใจฟัง จดจำในสิ่งที่พูดได้ดีกว่าการใช้คำรุนแรง ตะคอก และขู่ให้กลัว ไม่อย่างนั้นความห่วงใยจะกลับกลายเป็นแรงต่อต้านแทน
เขียนโดย อัดนาน ปูตีลา
Thirakan Thongseenual เป็นนักเขียนที่มีประสบการณ์มากกว่า 3 ปี ที่ RabbitCare และ Asia Direct โดยมีความชำนาญในประกันรถยนต์ เน้นเขียนบทความที่เผยแพร่บน Blog และมีความเชี่ยวชาญด้าน SEO กว่า 4 ปี ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอได้ใช้ในการสร้างความรู้และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของ RabbitCare อย่างมีประสิทธิภาพ จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ปริญญาตรี สาขา Information Technology