บ้านอยู่ใกล้ชายแดน เคลมประกันได้ไหมถ้าเจอลูกหลงชายแดน?



ด้วยสถานการณ์ที่ยังตึงเครียดกันอยู่ ทำให้การอยู่อาศัยใกล้พื้นที่ชายแดน อาจทำให้คุณต้องเผชิญความเสี่ยงจากเหตุการณ์ไม่คาดคิด เช่น การปะทะกัน, เหตุยิงลูกหลง หรือแม้แต่แรงระเบิดที่สร้างความเสียหายต่อบ้านหรือทรัพย์สิน แล้วแบบนี้ ประกันบ้านจะรับเคลมไหมนะ?
วันนี้ แรบบิท แคร์ จะพาคุณมาเช็กให้ชัดว่า อยู่ชายแดน ถ้าบ้านเจอลูกหลง เคลมได้ไหม? ประกันแบบไหนที่คุ้มครอง? และควรเลือกซื้อประกันภัยบ้านอย่างไรให้เหมาะกับพื้นที่เสี่ยงได้บ้างนะ
บ้านอยู่ชายแดน เจอลูกหลง ประกันที่อยู่อาศัยเคลมได้ไหม?
หากคุณอาศัยในพื้นที่เสี่ยง หลายคนอาจะกังวล เมื่อบ้านต้องโดนลูกหลงชายแดน หรือจากเหตุปะทะต่าง ๆ หากทำประกันบ้านไว้จะเบิกเคลมได้ไหม ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขในกรมธรรม์ เพราะประกันบ้านทั่วไป มักมีข้อยกเว้นไม่คุ้มครองความเสียหายจาก
- สงคราม, การรุกราน, การปฏิวัติ หรือความไม่สงบทางการเมือง
- การก่อการร้าย หรือเหตุการณ์ที่เกิดจากกลุ่มติดอาวุธ
แต่ถ้าความเสียหายเกิดจากอุบัติเหตุทั่วไป เช่น กระสุนปืนจากการล่าสัตว์ หรือเหตุยิงทะเลาะวิวาทโดยไม่ได้ตั้งใจ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการสู้รบ ทางประกันอาจพิจารณาคุ้มครอง
และในกรณีที่ต้องการประกันภัยบ้านที่ครอบคลุมความเสียหายจากลูกหลง ควรพิจารณาประกันบ้านที่มีความคุ้มครองเพิ่มเติม เช่น
- คุ้มครองจากการก่อการร้าย / ความไม่สงบ
- คุ้มครองความเสียหายจากบุคคลภายนอก
โดยประกันที่อยู่อาศัยที่ซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติม อาจต้องจ่ายเบี้ยประกันสูงขึ้น เนื่องจากความเสี่ยงของพื้นที่มากกว่าพื้นที่ทั่วไปนั่นเอง
ลำหรับล่าสุด คปภ.ได้ประชุมเพื่อจำกัดความเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา จะถือเป็นเหตุปะทะกันทางทหารทั้ง 2 ประเทศ ไม่ใช่สงครามหรือการรุกราน เนื่องจากเป็นเหตุการณ์จำกัดพื้นที่ โดยไม่ได้ขยายขอบเขตเป็นการสู้รบระดับประเทศ หรือรัฐต่อรัฐ ซึ่งถือเป็นลักษณะภัยสงคราม ดังนั้น บริษัทประกันไม่สามารถนำมาเป็นเหตุปฏิเสธการจ่ายสินไหมได้ เช่น กรณีของปั๊มน้ำมันที่ได้รับความเสียหายจากลูกหลง

แล้วถ้าระเบิดลงบ้าน จะเคลมประกันที่อยู่อาศัยได้หรือไม่?
โดยทั่วไป ประกันบ้าน หรือ ประกันทรัพย์สิน มีความคุ้มครองหลักครอบคลุมความเสียหายจาก ไฟไหม้ ฟ้าผ่า และการระเบิด อยู่ แต่มีเงื่อนไขและข้อยกเว้นที่ควรรู้อยู่เช่นกัน โดยเราสามารถแยกสถานการณ์เคลมประกันบ้านได้ ดังนี้
ระเบิดจากอุบัติเหตุภายในบ้าน
สามารถเคลมประกันบ้านได้ เนื่องจากจัดเป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นภายในบ้าน และอยู่ในความคุ้มครองมาตรฐานของประกันบ้านเกือบทุกแผน เช่น แก๊สรั่วจากเตาแก๊ส จนเกิดการระเบิด, หม้อแรงดันทำงานผิดพลาดจนระเบิด หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าขัดข้องจนเกิดการลุกไหม้และระเบิด
ระเบิดจากการก่อการร้ายหรือจลาจล
ส่วนใหญ่ไม่คุ้มครองหากความเสียหายเกิดจากการก่อการร้าย, การประท้วงรุนแรง, การจลาจล หรือความไม่สงบ เนื่องจากมักอยู่ในข้อยกเว้นของกรมธรรม์ บริษัทฯบางแห่งอาจจะมีให้คุณซื้อความคุ้มครองภัยก่อการร้ายเพิ่ม จึงจะเคลมเหตุจากโดนลูกหลงเหล่านี้ได้
ระเบิดจากเหตุปะทะชายแดนหรือสงคราม
กรณีนี้จะไม่คุ้มครอง และส่วนใหญ่ ทางบริษัทประกันจะไม่จ่าย เพราะเข้าข่ายสงคราม และปฏิบัติการทางทหาร เรียกได้ว่าอยู่ในข้อยกเว้นของเกือบทุกกรมธรรม์ ยกเว้นมีแผนพิเศษครอบคลุมพื้นที่เสี่ยงโดยเฉพาะ แต่จะมีกรณียกเว้นอยู่เช่นกัน หากทาง คปภ. หรือ รัฐบาบลได้ประชุมและชี้ว่าสิ่งนี้ไม่เข้าข่ายสงคราม ก็อาจจะออกคำสั่งให้บริษัทประกันสามารถเบิกเคลมได้เช่นกัน
ทั้งนี้ เมื่อต้องเบิกเคลมประกันบ้าน อย่าลืมเก็บหลักฐานทุกครั้งเมื่อเกิดเหตุ เช่น ภาพถ่าย, ใบแจ้งความ หรือรายงานจากเจ้าหน้าที่ ไว้สำหรับเบิกเคลมด้วย

เคล็ดลับเลือกประกันบ้านสำหรับพื้นที่ชายแดน
สำหรับใครที่สนใจในการทำประกันบ้าน แบบนี้จะเลือกประกันอย่างไรดีนะ โดยปัจจัยการเลือกซื้อประกันบ้านนั่นสามารถทำได้ ดังนี้
- อ่านข้อยกเว้นในกรมธรรม์ให้ละเอียด โดยเฉพาะคำว่า “สงคราม” และ “ความไม่สงบ” ว่าอ้างอิงอย่างไร แบบไหนเรียกเข้าข่าย?
- สอบถามตัวแทนประกันโดยตรงว่า หากเกิดเหตุลูกหลงในพื้นที่ของคุณ จะเข้าข่ายความคุ้มครองหรือไม่ เคลมประกันบ้านได้ไหม? ทั้งนี้การสอบถามโดยตรงจะทำให้คุณได้ประกันบ้านที่เหมาะ ไม่เสียประโยชน์ในภายหลัง
- เลือกบริษัทประกันที่มีแผนเฉพาะพื้นที่เสี่ยง ซึ่งประกันอาจมีการออกแบบกรมธรรม์พิเศษเพิ่มเติม โดยอาจจะเพิ่มกับเบี้ยประกันที่มากขึ้น หรือมีพื้นที่ยกเว้นพิเศษอะไรบ้างหรือเปล่า เพื่อตรวจสอบว่าบ้านของคุณเข้าข่ายหรือไม่
- สำหรับบ้านที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง ควรเลือกทุนประกันที่เพียงพอทั้งตัวบ้านและทรัพย์สิน เพื่อให้เคลมได้ครอบคลุม เช่น ตัวบ้าน (โครงสร้าง), ทรัพย์สินภายใน (เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า), เอกสารสำคัญ หรือของมีค่า (ถ้ากรมธรรม์ครอบคลุม)
ถ้าคุณอยู่ชายแดน ควรเลือกประกันบ้านที่ ครอบคลุมภัยจากการระเบิด ภัยก่อการร้าย และโจรกรรม พร้อมตรวจสอบข้อยกเว้นเรื่องสงครามหรือการปะทะชายแดนให้ชัดเจน และปรียบเทียบแผนจากหลายบริษัทก่อนตัดสินใจ เพื่อให้เคลมได้จริง คุ้มค่าที่สุด
ตัวอย่างความคุ้มครองจากประกันบ้านที่ควรมี
ความคุ้มครอง | ควรมีในกรมธรรม์ |
ไฟไหม้ ฟ้าผ่า การระเบิด | ✅ |
ภัยธรรมชาติ (น้ำท่วม ลมพายุ แผ่นดินไหว) | ✅ |
โจรกรรม/ปล้นสะดม | ✅ |
ภัยก่อการร้าย | ✅ |
ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก | ✅ |
ถ้าประกันไม่คุ้มครอง ควรทำอย่างไรดีละ?
สำหรับใครที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่เข้าข่ายการปะทะกัน อาจพิจารณาทำประกันที่อยู่อาศัยเพิ่มเติมที่คุ้มครองความเสียหายจากการก่อการร้ายเพิ่มเติม หรือแม้แต่ประกันประเภทต่าง ๆ อย่างประกันชีวิต ประกันอุบัติเหตุ ประกันสุขภาพ รวมไปถึงการมองหาหนทางป้องกันอื่น ๆ เพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งกำแพงหนา ๆ ลดโอกาสที่กระสุนลูกหลงชายแดนจะทะลุตัวบ้านมากขึ้น หรือเสริมโครงสร้างบ้านให้แข็งแรงมากขึ้น
นอกจากนี้ จะแนะนำให้ติดตามการประกาศข่าวสารเยียวยาจากทางรัฐบาล เนื่องจากบางเงื่อนไขอาจทำให้คุณไม่สามารถเบิกเคลมประกันได้ แต่จะเป็นหน้าที่ของทางรัฐบาลที่เข้ามาช่วยเหลือ เยียวยา ในบางสถานการณ์ โดยอาจจะต้องติดตามข่าวสารต่าง ๆ ที่จะตามาในอนาคต
อยู่ใกล้ชายแดน ไม่ใช่ว่าทุกเหตุลูกหลงจะเคลมประกันได้ ต้องดูรายละเอียดในกรมธรรม์เป็นหลัก และหากอยู่ในพื้นที่เสี่ยงสูง การซื้อความคุ้มครองเสริมที่ครอบคลุมความไม่สงบหรือการก่อการร้าย จะช่วยให้คุณได้รับความคุ้มครองมากขึ้น ปรึกษาเลยกับ ประกันภัยที่อยู่อาศัย จาก แรบบิท แคร์
สรุป
หากคุณอาศัยอยู่ใน พื้นที่ชายแดน หรือใกล้เขตที่มีความเสี่ยงต่อเหตุปะทะ การเลือกประกันบ้านไม่ใช่แค่เรื่องป้องกันไฟไหม้หรือโจรกรรมเท่านั้น แต่ต้องคำนึงถึงความเสี่ยงพิเศษอย่าง การระเบิด ภัยก่อการร้าย หรือความไม่สงบ เพื่อให้มั่นใจว่ากรมธรรม์ที่เลือก เคลมได้จริง หากเกิดเหตุไม่คาดคิด ทั้งนี้ แรบบิท แคร์ แนะนำให้คอยติดตามข่าวสาร เพราะในบางกรณี แม้จะเป็นเหตุปะทะใกล้ชายแดน แต่บริษัทประกัน หรือทาง คปภ. ออกการตีความว่าไม่ใช่สงคราม ก็สามารถเบิกเคลมค่าสินไหมจากประกันบ้านได้เช่นกัน

นักเขียนรุ่นไฮบริด เขียนบทความด้านการบริหารเงินส่วนบุคคลและการลงทุนต่าง ๆ กว่า 7 ปี เริ่มต้นที่งานเขียนที่ Rabbit Finance จนย้ายมาที่ Rabbit Care และ Asia Direct