
เช็กลิสต์ 10 พฤติกรรมที่คุณ(อาจ)พลาด ขณะเลือกซื้อประกันสุขภาพ
“FOMO” หรือ Fear of Missing Out เป็นอีกหนึ่งคำศัพท์ที่ไม่ใหม่แต่กำลังเป็นที่พูดถึงกันเป็นอย่างมากในปัจจุบัน ถ้าคุณเป็นคนที่ไม่พลาดทุกความเคลื่อนไหวของสังคม เป็นคนตามติดกระแสในโลกออนไลน์ตลอดเวลา และเกลียดการตกข่าว ตกเทรนด์เป็นที่สุดแล้วล่ะก็ คุณอาจอยู่ในกลุ่มของ FOMO แล้วก็ได้ ซึ่งน้องแคร์จะขอพาทุกคนไปทำความรู้จักกันให้ดีขึ้นว่าจริง ๆ แล้ว Fear of Missing Out หรือ FOMO คืออะไรกันแน่น จะส่งผลกระทบอะไรกับเราในการใช้ชีวิตบ้าง ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันได้เลย
Fear of Missing Out หรือ FOMO คือ อาการความกลัว ความกังวลที่จะตกกระเทรนด์ กลัวที่จะพลาดกระแส ประเด็นร้อนแรงที่กำลังเป็นที่พูดถึงกันอยู่ในสังคมปัจจุบันนั่นเอง ซึ่งคนที่เป็น FOMO จะเสพติดการใช้ช่องทาง Social Media ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram, Twitter หรือว่าจะเป็น TikTok
เพื่อที่คนในกลุ่ม FOMO จะได้ทำการโพสหรือแชร์ในสิ่งที่กำลังเป็นกระแสเป็นคนแรก ๆ เนื่องจากกลัวการไม่เป็นที่ยอมรับ และมีความอยากเป็นคนสำคัญ ซึ่งการใช้งานของกลุ่ม FOMO หรือ Fear of Missing Out จะไม่ใช่การใช้งาน Social Media ในระดับปกติเหมือนคนธรรมดาทั่ว ๆ ไป แต่เรียกได้ว่าแทบจะนั่งเฝ้าหน้าจอเกาะติดอยู่ตลอดเวลาเลยก็ว่าได้
สำหรับคนที่อยากรู้อาการของ FOMO เพื่อเช็กว่าตัวเองอยู่ในกลุ่มอาการ FOMO หรือไม่ รวมไปถึงการนำเอาเช็กลิสต์ไปตรวจสอบดูว่าคนรอบตัวเป็น FOMO หรือ Fear of Missing Out หรือไม่ น้องแคร์ได้ทำการรวบรวมเอาลักษณะอาการต่าง ๆ มาไว้ให้ทุกคนได้ลองตรวจสอบดูแล้ว ตามตัวอย่างข้างล่างนี้
จากที่เรากล่าวมาทั้งหมดจะเห็นว่าภาวะ FOMO ส่งผลกระทบหลาย ๆ ด้านกับชีวิตของคนที่ประสบปัญหานี้ โดยเฉพาะปัญหาด้านลบที่ตามมาต่าง ๆ มากมาย แต่ก็ใช่ว่าการเป็น FOMO จะมีแต่สิ่งที่เลวร้ายไปสะทั้งหมด หากมองให้ละเอียดลงไปก็มีบางมุมที่เป็นข้อดีของโฟโมอยู่บ้าง ไปดูกันว่าผลกระทบทั้งด้านดีและด้านแย่เป็นอย่างไรบ้าง
สร้างแรงบันดาลใจ : เนื่องจากการที่เสพสื่อ Social Media อย่างหลากหลาย ซึ่งเราอาจจะไปสะดุดกับแรงบันดาลใจอะไรบางอย่าง ที่สามารถจุดประกายให้กับเราหลงใหลหรือชื่นชอบกับสิ่งนั้นก็ได้
ถึงจะพอมีข้อดีอยู่บ้างแต่ผลกระทบหลักของ FOMO จะมาในรูปแบบของผลเสียสะมากกว่า ไปดูกันว่าหากหมกมุ่นหรือเสพติดการเล่น Social Media จนเกินไปจะส่งผลเสียอะไรกับเราได้บ้าง
นี่เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของผลกระทบด้านลบจากการเป็น FOMO ทีสามารถเกิดกับเราได้เท่านั้น
ไม่ต้องตื่นตระหนกตกใจกันเกินไปหากรู้ตัวแล้วว่าเป็น FOMO เนื่องจากกลุ่มอาการแบบนี้สามารถแก้ไขให้หายหรืออาการดีขึ้นได้ ซึ่งเราได้สรุปแนวทางการแก้ไขเพื่อให้เพื่อน ๆ ได้นำไปปรับใช้กับตัวเอง หรือว่าจะนำไปให้คนที่เข้าข่าย FOMO นำไปปรับใช้กับพฤติกรรมของตัวเองได้ โดยมีแนวทางต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
ขั้นแรกของการแก้ไขปัญหาคือต้องยอมรับกับตัวเองก่อนว่าเรามีอาการของ FOMO เกิดขึ้นกับตัวเอง เพื่อทำการเปิดใจและหาทางแก้ไข
ลดการใช้งานโทรศัพท์มือถือของให้น้อยลง หากไม่ใช้การใช้งานที่จำเป็นอาจจะจำกัดชั่วโมงการเล่นซึ่งก็เป็นทำนองเดียวกันกับการใช้งาน Social Media หรืออาจจะไปถึงขั้นการทำ Social Detox
ด้วยชีวิตที่เร่งรีบทำให้เราอาจจะต้องหาความบันเทิงต่าง ๆ เพื่อเข้ามาเยียวยาความเหนื่อยล้าต่าง ๆ ลองปรับชีวิตให้ช้าลงบ้าง เพื่อใช้เวลาเสพสิ่งต่าง ๆ ให้นานมากขึ้น
หากคุณเป็น FOMO แล้วเราขอแนะนำให้คุณได้ลองออกไปท่องโลกกว้างไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวตามที่ต่าง ๆ นอกจากจะเป็นการจำกัดให้ใช้ Social น้อยลงและยังเป็นการสร้างประการณ์ใหม่ ๆ กับตัวเองอีกด้วย
ลองมองหากิจกรรมที่ตัวเองชอบหรืองานอดิเรกต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นกีฬา การเล่นดนตรี การทำอาหาร การอ่านหนังสือ และอีกมากมายให้คุณค้นหา เพื่อเบนความสนใจลด FOMO ที่เกิดขึ้น
สร้างมิตรภาพที่ดีกับคนรอบข้างไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัว เพื่อนสนิท หรือเพื่อนร่วมงาน ลดความสำคัญของโลกออนไลน์ลง
ถ้าวิธีต่าง ๆ ที่เราแนะนำยังไม่สามารถจัดการปัญหา FOMO หรือ Fear of Missing Out ได้ขอแนะนำให้ลองปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญอย่างเช่นจิตแพทย์เพื่อหาทางรับมือปัญหาที่เกิดขึ้น
FOMO เป็นอีกหนึ่งปัญหาสำคัญของผู้คนในยุคนี้ โดยที่ FOMO คือ อาการที่กลัวจะตกกระเทรนด์หรือกระแสต่าง ๆ ซึ่งสามารถก่อให้เกิดผลกระทบต่าง ๆ ในทางลบได้ โดยหนึ่งในทางแนวการรับมือนอกจากการลดการเล่นมือถือและรวมไปถึงการทำ Social Detox ก็คือการออกทำกิจกรรมอื่น ๆ หรืองานอดิเรกเพราะเป็นกิจกรรมที่จะช่วยให้เพื่อน ๆ ได้ผ่อนคลายจากความเครียดที่สะสม ยังเป็นการมีความสุขที่ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก
แต่ต้องยอมรับว่ากิจกรรมเหล่านี้ที่จะทำเพื่อลดภาวะ FOMO ย่อมใช้เงินเป็นตัวขับเคลื่อน เราอยากแนะนำให้ใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต เพราะว่าคุณจะได้รับความสะดวกสบายและรวมไปถึงสิทธิพิเศษต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการสะสมไมล์การเดินทาง สะสมคะแนนแลกของ และอีกนานาผลประโยชน์ที่คุณจะได้รับ โดยคุณสามรถมาสมัครบัตรเครดิตกับเราง่าย ๆ ได้ที่ แรบบิท แคร์ เพราะว่าเรามีบัตรหลากหลายรูปแบบที่สามารถตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต
มีประสบการณ์มากกว่า 3 ปี เป็นนักเขียนด้านประกันสุขภาพ ประกันชีวิต เพื่อสุขภาพที่ Rabbit Care และ Asia Direct
และ 12 ปี ในอุตสาหกรรม OTA อย่าง Laterooms.com , Expedia.com จึงมีความเชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยว
จบการศึกษาปริญญาตรี สาขาการจัดการการเงิน มหาวิทยาลัยขอนแก่น
บทความแคร์สุขภาพ
เช็กลิสต์ 10 พฤติกรรมที่คุณ(อาจ)พลาด ขณะเลือกซื้อประกันสุขภาพ
โรคพุ่มพวงคืออะไร มีอาการอย่างไร อันตรายถึงชีวิตหรือไม่ ?