เงินผู้สูงอายุสมัครอย่างไร? เข้าทุกวันที่เท่าไร?และทำไมควรซื้อ “ประกันผู้สูงอายุ”
เงินผู้สูงอายุ หรือที่หลาย ๆ คนรู้จักกันในชื่อ เบี้ยคนชรา เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เหล่านี้ล้วนเป็นเรื่องเดียวกัน เคยสงสัยกันไหมว่า เงินผู้สูงอายุนั้น มีความสำคัญหรือจำเป็นมากน้อยเพียงใด ทำไมคนส่วนใหญ่เลือกที่จะรับ รับได้ที่ไหนบ้าง หรือต้องทำอย่างไรบ้าง วันนี้น้องแคร์รวบรวมคำตอบไว้ให้แล้ว ไปดูกันเลย!!
เบี้ยผู้สูงอายุ คืออะไร?
เงินผู้สูงอายุ หรือที่หลาย ๆ คนรู้จักกันในชื่อเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เป็นหนึ่งในสวัสดิการที่รัฐบาลไทยจัดหามาให้สำหรับผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป นับว่าเป็นเงินช่วยเหลือที่ทำให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นเพราะในปัจจุบันค่าครองชีพก็สูงมากยิ่งขึ้น รายได้จากอาชีพที่ทำอยู่อาจไม่เพียงพอ โดยก่อนที่คุณจะได้รับเงินผู้สูงอายุ คุณจำเป็นต้องศึกษาเงื่อนไขและลงทะเบียนก่อน
ประกันผู้สูงอายุ สามารถสมัครได้ตั้งแต่อายุ 50 ปี ซึ่งจะได้รับความคุ้มครองเป็นเวลายาว บางบริษัทประกันอาจให้ความคุ้มครองไปตลอดชีวิต หากมีงบถึงน้องแคร์แนะนำให้คุณสมัครประกันผู้สูงอายุไว้เลย เพราะมีความยืดหยุ่นกว่า เพราะบางครั้งการรอเงินผู้สูงอายุจากรัฐบาล อาจต้องรอนานและได้จำนวนเงินที่น้อยกว่า
เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ให้เงินช่วยเหลือเท่าไร?
เงินผู้สูงอายุ รัฐบาลจะให้เป็นลำดับขึ้นบันไดตามอายุของผู้สูงอายุ แบ่งเป็น อายุ 60-69 ปี จะได้รับ 600 บาท/คน อายุ 70-79 ปี จะได้รับ 700 บาท/คน อายุ 80-89 ปี จะได้รับ 800 บาท/คน และผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 90 ปี จะได้รับเบี้ยยังชีพ 1,000 บาท/คน ยิ่งอายุมากขึ้นก็จะได้รับเงินมากขึ้นตามไปด้วย
เงินช่วยเหลือพิเศษผู้สูงอายุ เพิ่มเท่าไหร่?
เงินผู้สูงอายุล่าสุดคือวันที่ 19 ก.ย. 65 แต่ปัจจุบันได้มีการเพิ่มเงินช่วยเหลือพิเศษผู้สูงอายุขึ้น ดังนี้:
- อายุ 60-69 ปี จะได้รับเงินช่วยเหลือพิเศษผู้สูงอายุเพิ่ม 100 บาท รวมเป็น 700 บาท
- อายุ 70-79 ปี จะได้รับเงินช่วยเหลือผู้สูงอายุเพิ่ม 150 บาท รวมเป็น 850 บาท
- อายุ 80-89 ปี จะได้รับเงินช่วยเหลือผู้สูงอายุเพิ่ม 200 บาท รวมเป็น 1,000 บาท
- อายุมากกว่า 90 ปี จะได้รับเงินช่วยเหลือพิเศษผู้สูงอายุ 250 บาท รวมเป็น 1,250 บาท
ลงทะเบียนรับเบี้ยคนชราอย่างไร?
ผู้สูงอายุที่อายุครบ 60 ปี สามารถลงทะเบียนเพื่อรับเงินผู้สูงอายุได้ เช่น ลงทะเบียนในปีงบประมาณ 2566 เพื่อรับเบี้ยผู้สูงอายุในปี 2567 โดยทางรัฐบาลเปิดให้ลงทะเบียน 2 ช่วง คือ ช่วงที่ 1 เดือนตุลาคม – พฤศจิกายน 2565 และ ช่วงที่ 2 เดือนมกราคม – กันยายน 2566 โดยการลงทะเบียนจะต้องลงตามวัน เวลา สถานที่ ที่กำหนด โดยต้องทำการในเวลาราชการ
เบี้ยผู้สูงอายุ 2567 ลงทะเบียนที่ไหน?
เงื่อนไขการลงทะเบียนเพื่อรับเงินผู้สูงอายุ คุณสามารถลงทะเบียนที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามภูมิลำเนาของคุณในวันและเวลาราชการ หากอยู่ในกรุงเทพสามารถลงทะเบียนได้ที่สำนักงานเขตที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน หากคุณอยู่ต่างจังหวัดสามารถลงทะเบียนได้ที่ สำนักงานเทศบาล หรือ อบต.ที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน มากไปกว่านั้นคุณสามารถลงทะเบียนได้ที่ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)
เอกสารที่ต้องใช้ในการลงทะเบียนรับเงินผู้สูงอายุ
กรณีไปลงทะเบียนด้วยตัวเอง จำเป็นต้องเตรียมเอกสาร ดังนี้
- บัตรประจำตัวประชาชน หากไม่มีอาจใช้บัตรอื่น ๆ ที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐบาล แต่ในบัตรนั้นต้องมีรูปถ่ายของคุณ 1 ฉบับ
- ทะเบียนบ้าน ฉบับเจ้าบ้าน 1 ฉบับ
- สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร ในกรณีที่ผู้ขอรับเงินผู้สูงอายุผ่านธนาคาร 1 ฉบับ
กรณีไม่สามารถไปลงทะเบียนได้ด้วยตนเอง ต้องเตรียมเอกสารเพิ่มเติม ดังนี้
- หนังสือมอบอำนาจ 1 ฉบับ
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ 1 ฉบับ
- สำเนาทะเบียนบ้านของผู้รับมอบอำนาจ 1 ฉบับ
ขั้นตอนการลงทะเบียน
- ยื่นเอกสารต่อเจ้าหน้าที่
- เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบเอกสารของผู้ที่ประสงค์จะขอรับเงินผู้สูงอายุในปีงบประมาณถัดไป โดยขั้นตอนนี้จะรอประมาณ 30 นาที
- เจ้าหน้าที่ออกใบรับลงทะเบียนให้กับผู้ขอลงทะเบียนหรือผู้รับมอบอำนาจ รอประมาณ 30 นาที โดยขั้นตอนนี้เรียกว่าการลงนามและคณะกรรมการมีมติ
ใครมีสิทธิ์ได้รับเงินผู้สูงอายุบ้าง?
คุณสมบัติข้อที่มีสิทธิได้รับเบี้ยคนชรา หรือ เบี้ยผู้สูงอายุ มีดังนี้:
- ต้องเป็นสัญชาติไทย และมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตการปกครององค์กรส่วนท้องถิ่นตามทะเบียนบ้าน
- ต้องมีอายุครบ 59 ปีบริบูรณ์ เพราะรัฐบาลอนุญาตให้ลงทะเบียนล่วงหน้าก่อนอายุ 60 ปีได้
ตัวอย่าง : หากต้องการลงทะเบียนปี 2566 ต้องเป็นผู้ที่เกิดก่อน 1 ตุลาคม 2505
** แต่หากเป็นผู้สูงอายุที่ทะเบียนราษฎ ไม่ได้ระบุวัน เดือน คือระบุแต่ปีเกิด ให้ถือว่าเกิดวันที่ 1 มกราคม ของปีนั้น ๆ
- ผู้ที่มีบุตรทำงานในหน่วยงานของภาครัฐจะได้รับเงินบำนาญพิเศษตลอดชีวิต เพื่อทดแทนการที่บุตรทำหน้าที่เพื่อประเทศไทยจนร่างกายพิการ เกิดทุพลภาพ หรือเสียชีวิตอันเกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ มากไปกว่านั้น หากคุณได้รับสวัสดิการคนจนจากภาครัฐ คุณก็ยังมีสิทธิได้รับเบี้ยผู้สูงอายุเช่นกัน
- ต้องเป็นผู้ที่ไม่เคยได้รับสวัสดิการหรือสิมทธิประโยชน์จากหน่วยงานของรัฐบาล เช่น เงินบำนาญ ได้เงินเดือนจากรัฐบาล เป็นต้น
เงินผู้สูงอายุ เข้าวันไหน?
ผู้สูงอายุที่มีสิทธิได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ จะได้รับเงินทุก ๆ เดือนตุลาคมของทุกปี เมื่อมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ แตื่ปัจจุบันมีการลงทะเบียนเพื่อรับเงินผู้สูงอายุในปีงบประมาณถัดไป ดังนั้น รัฐบาลจะโอนเงินให้คุณทุกวันที่ 10 ของเดือน อย่างไรก็ตาม ถ้าวันที่ 10 ของเดือนนั้น ๆ ตรงกับวันหยุด รัฐบาลก็จะจ่ายเงินผู้สูงอายุล่วงหน้า ทำให้แต่ละเดือน อาจได้รับเบี้ยคนชราไม่ตรงกัน
- เดือนมกราคม 2566 เงินผู้สูงอายุเข้า วันอังคารที่ 10 มกราคม 2566
- เดือนกุมภาพันธ์ 2566 เบี้ยคนชราเข้า วันศุกร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2566
- เดือนมีนาคม 2566 เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเข้า วันศุกร์ที่ 10 มีนาคม 2566
- เดือนเมษายน 2566 เบี้ยผู้สูงอายุเข้า วันจันทร์ที่ 8 เมษายน 2565
- เดือนพฤษภาคม 2566 เบี้ยผู้สูงอายุเข้า วันพุธที่ 10 พฤษภาคม 2566
- เดือนมิถุนายน 2566 เบี้ยคนชราเข้า วันจันทร์ที่ 9 มิถุนายน 2566
- เดือนกรกฎาคม 2566 เงินผู้สูงอายุ วันจันทร์ที่ 10 กรกฎาคม 2566
- เดือนสิงหาคม 2566 เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเข้า วันพฤหัสบดีที่ 10 สิงหาคม 2566
- เดือนกันยายน 2566 เบี้ยคนชราเข้า วันศุกร์ที่ 8 กันยายน 2566
- เดือนตุลาคม 2566 เบี้ยผู้สูงอายุเข้า วันอังคารที่ 10 ตุลาคม 2566
- เดือนพฤศจิกายน 2566 เบี้ยคนชราเข้า วันศุกร์ที่ 10 พฤศจิกายน 2566
- เดือนธันวาคม 2566 เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเข้า วันศุกร์ที่ 8 ธันวาคม 2566
หากเกิดวันที่ 2-31 ตุลาคม 2506 จะได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุครั้งแรกในเดือนพฤศจิกายน 2566
หากเกิดวันที่ 2-31 ธันวาคม 2506 จะได้รับเบี้ยคนชราครั้งแรกในเดือนมกราคม 2567
หากเกิดวันที่ 2-31 มีนาคม 2507 จะได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุครั้งแรกในเดือนมกราคม 2567
หากเกิดวันที่ 2-31 มิถุนายน 2507 จะได้รับเบี้ยผู้สูงอายุครั้งแรกในเดือนกรกฎาคม 2567
หมายเหตุ
หากผู้สูงอายุคนไหนที่เกิดวันที่ 1 จะได้รับเงินผู้สูงอายุในเดือนเกิดนั้นทันที
- ผู้สูงอายุที่เกิดวันที่ 1 พฤศจิกายน 2506 จะได้รับเบี้ยคนชราครั้งแรกในเดือนพฤศจิกายน 2566
- ผู้สูงอายุที่เกิดวันที่ 1 เมษยน 2507 จะได้รับเงินผู้สูงอายุครั้งแรกในเดือนเมษายน 2567
- ผู้สูงอายุที่เกิดวันที่ 1 กันยายน 2507 จะได้รับเงินช่วยเหลือผู้สูงอายุครั้งแรกในเดือนกันยายน 2567
อายุเกิน 60 ลงทะเบียนได้ไหม?
ในกรณีที่ผู้สูงอายุมีอายุเกิน 60 ปี สามารถลงทะเบียนเพื่อขอรับเบี้ยคนชราได้ โดยคุณสามารถลงทะเบียนในช่วง เดือนมกราคม-กันยายน 2566 ได้เลย เพื่อรับเงินช่วยเหลือผู้สูงอายุในปีงบประมาณ ปี 2567 อย่างไรก็ตาม ครุณจะได้รับเบี้ยคนชราครั้งแรกในเดือนตุลาคม ปี 2566 แต่จะไม่มีการจ่ายทบย้อนหลัง
เช่น นางสาวแคร์ อายุ 61 ปี ลงทะเบียนในเดือนกันยายน 2566 ซึ่งจะได้รับเงินในเดือนตุลาคม 2566 แต่เงินที่นางสาวแคร์ได้จะไม่มีการจ่ายย้อนหลังตอนนางสาวแคร์อายุครบ 60 ปี
ช่องทางการรับเงิน มีอะไรบ้าง?
ช่องทางการรับเงินผู้สูงอายุ มี 4 วิธี ดังนี้:
- ผู้สูงอายุมารับเงินสดด้วยตนเอง
- ให้ผู้รับมอบอำนาจมารับเงินผู้สูงอายุแทน
- โอนเงินเข้าสู่บัญชีของผู้สูงอายุ
- โอนเงินเข้าสู่บัญชีของผู้รับมอบอำนาจ
สวัสดิการผู้สูงอายุ นอกเหนือจากเบี้ยคนชรา มีอะไรบ้าง?
- ได้รับการลดค่าโดยสารสาธารณะ ครึ่งราคา เช่น รถไฟ, รถไฟฟ้า MRT, รถไฟฟ้า BTS, รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์, รถบขส., เรือด่วนเจ้าพระยา เป็นต้น
- ได้รับการปรับสภาพที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุที่มีความยากจน แล้วที่อยู่อาศัยมีความไม่มั่นคง ไม่ปลอดภัย
- ได้รับบริการกู้ยืมเงินปลอดดอกเบี้ย เพื่อนำเงินไปลงทุนทำธุรกิจและการค้าขาย
- ได้รับสิทธิด้านการประกอบอาชีพ เช่น การขอรับคำปรึกษา คำแนะนำ เกี่ยวกับการสมัครงานและการฝึกอาชีพ
- ได้รับสิทธิทางด้านการแพทย์ คือการได้รับการดูแลด้านสุขภาพผ่านช่องทางพิเศษ
- ได้รับความช่วยเหลือทางด้านกฎหมาย
- ได้รับข้อยกเว้นค่าเข้าชมในสถานที่ของรัฐบสล เช่น ค่าเข้าอุทยานแห่งชาติ ค่าเข้าพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ และอื่น ๆ
- ได้รับเงินช่วยเหลือค่างานศพกรณีเสียชีวิต
การสิ้นสุดการได้รับเงินผู้สูงอายุ กรณีใดบ้าง?
โดยปกติแล้วคุณจะมีสิทธิได้รับเงินผู้สูงอายุเมื่อคุณมีอายุครบ 60 ปี แต่คุณจะสิ้นสุดการได้รับเบี้ยคนชราเมื่อ ถึงแก่กรรม ขาดคุณสใมบัติ หรือ แจ้งสละสิทธิ์ขอรับเบี้ยผู้สูงอายุ
เงินผู้สูงอายุไม่เข้าเพราะอะไร? ต้องติดต่อที่ไหน?
หลายคนกำลังประสบปัญหาที่ว่า เมื่อถึงช่วงเวลาที่จะได้รับเงินผู้สูงอายุแล้ว เงินไม่เข้า โดยส่วนใหญ่ปัญหานี้จะเกิดกับผู้สูงอายุที่เลือกรับเงินแบบโอนเข้าบัญชี ดังนั้น หากคุณปรับสมุดบัญชีแล้วเบี้ยคนชราไม่เข้า ให้ติดต่อที่หน่วยงานที่ขอรับเบี้ยคนชราได้ ดังนั้น ขอแนะนำให้คุณเดินทางไปรับเงินช่วยเหลือผู้สูงอายุด้วยตนเองเพื่อลดปัญหาเงินไม่เข้า
แต่หากคุณซื้อประกันผู้สูงอายุ คุณจะหมดกังวลเรื่องเงินไม่เข้า เพราะคุณจะได้ทราบถึงวันที่จำได้รับเงินคืนตั้งแต่วันแรกที่ซื้อกรมธรรม์ มากไปกว่านั้นคุณจะได้ทราบถึงจำนวนเงินที่มีความแน่นอน ชัดเจน หากมีปัญหาอะไรก็สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ที่บริษัทประกันที่พร้อมให้ความช่วยเหลือคุณตลอด
จุดด้อยของเบี้ยผู้สูงอายุมีอะไรบ้าง?
ในปัจจุบันปัญหาของการได้รับเงินผู้สูงอายุมีมากมาย เช่น ปัญหาการไม่ได้รับเงิน ผู้สูงอายุที่เคยได้รับเบี้ยคนชราถูกเรียกเงินคืน ทำให้บางครั้งผู้สูงอายุที่มีรายได้ต่ำกว่าเส้นยากจนได้รับความลำบากมากขึ้น หรือบางครั้งเบี้ยคนชราที่ได้รับต่อเดือนไม่เพียงพอ ทำให้บางคนต้องอดมื้อกินมื้อเพื่อที่จะเก็บเงินไว้ใช้ในยามจำเป็น ดังนั้นหากคุณมีงบถึง อยากแนะนำให้คุณซื้อประกันผู้สูงอายุดีกว่า :
ข้อดีของประกันผู้สูงอายุ | ข้อเสียของเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ |
1. มีเจ้าหน้าที่ที่พร้อมให้ความช่วยเหลือตลอดเวลาเมื่อเกิดปัญหา | 1. ระบบฐานข้อมูลระหว่างกระทรวงการคลังและกระทรวงมหาดไทยไม่เชื่อมโยงกัน |
2. เป็นเงินออม เพื่อเป็นทุนให้ลูกหลานในอนาคต | 2. เงินที่ได้ในแต่ละเดือนไม่เพียงพอต่อการใช้งาน |
3. หมดปัญหาเรื่องเงินไม่เข้า เพราะคุณจะได้ทราบถึงจำนวนเงิน และวันที่จะได้รับเงินล่วงหน้าตั้งแต่วันแรกที่ทำประกัน มีความเป็นระบบ | 3. ผู้สูงอายุถูกเรียกเงิน มากกว่า 15,000 รายเพราะได้รับเงินซ้ำซ้อน ส่วนใหญ่ได้รับเงินซ้ำซ้อนกับเงินบำนาญ ทหาร-ตำรวจ |
4. สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ | 4. มีปัญหาการไม่ได้รับเงิน |
การบริจาคเงินผู้สูงอายุ ดีอย่างไร?
หากคุณไม่ได้เดือดร้อนทางด้านการเงินหรือฐานะครอบครัวไม่ได้ยากจนมากนัก คุณสามารถช่วยเหลือสังคมได้โดยการบริจาคเงินผู้สูงอายุ โดยคุณสมบัติ คือ ต้องเป็นผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปที่ได้รับเงินผู้สูงอายุ โดยข้อดีของผู้บริจาค จะได้รับเหรียญเชิดชูเกียรติจากกองทุนผู้สูงอายุ มากไปกว่านั้นคุณสามารถนำไปลดหย่อยภาษีได้ โดยคุณสามารถยกเงิกการบริจาคได้ หากบริจาคครบ 12 ครั้ง
เงินผู้สูงอายุ ย้ายทะเบียนบ้าน ต้องทำยังไงบ้าง?
สำหรับผู้สูงอายุที่ย้ายภูมิลำเนา จำเป็นต้องไปลงทะเบียนเพื่อรับเงินช่วยเหลือผู้สูงอายุในพื้นที่ใหม่ที่คุณพักอาศัย แต่ต้องไม่เกินเดือนพฤศจิกายนของปีนั้น ๆ มากไปกกว่านั้นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งเดิมจะยังคงจ่ายเบี้ยคนชราจนถึงเดือนกันยายน หลังจากนั้นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งใหม่จะจ่าบเบี้ยผู้สูงอายุให้คุณแทน
ข้อมูลทั้งหมดนี้เกี่ยวกับเงินผู้สูงอายุ เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายก็มักจะทรุดโทรมลง ทำให้หลายคนต้องเก็บเงินไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน ค่ารักษาพลยาบาล ค่ายา ก็ย่อมมากขึ้นตามไปด้วย
ดังนั้น น้องแคร์ขอแนะนำให้คุณซื้อประกันเกษียณอายุ ของแรบบิท แคร์ ติดตัวไว้สักหนึ่งฉบับ เพราะให้ความคุ้มครองตั้งแต่ก่อนเกษียณไปจนถึงอายุ 85 ปี มีหลักประกันที่แน่นอน มากไปกว่านั้นยังสามารถนำไปลดหย่อยภาษีได้อีก เบี้ยเริ่มต้นเดือนละ 175 บาท คุ้มค่า สบายกระเป๋า ครบจบในที่เดียว หากคุณสนใจสมามารถติดต่อได้ที่ 1438 ตลอด 24 ชั่วโมง
เป็นนักเขียนสายสุขภาพและการเงินที่มีประสบการณ์ในการเขียนมากมาย โดยได้ฝากผลงานในหลากหลายรูปแบบที่เน้นด้านบริหารร่างกายและจิตใจ ทำงานที่ Rabbit Care และ Asia Direct ได้อย่างมืออาชีพ