แคร์การเงิน

เงินผู้สูงอายุสมัครอย่างไร? เข้าทุกวันที่เท่าไร?และทำไมควรซื้อ “ประกันผู้สูงอายุ”

ผู้เขียน : Mayya Style

เป็นนักเขียนสายสุขภาพและการเงินที่มีประสบการณ์ในการเขียนมากมาย โดยได้ฝากผลงานในหลากหลายรูปแบบที่เน้นด้านบริหารร่างกายและจิตใจ ทำงานที่ Rabbit Care ได้อย่างมืออาชีพ

close
Published March 03, 2023

เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน

เงินผู้สูงอายุ หรือที่หลาย ๆ คนรู้จักกันในชื่อ เบี้ยคนชรา เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เหล่านี้ล้วนเป็นเรื่องเดียวกัน เคยสงสัยกันไหมว่า เงินผู้สูงอายุนั้น มีความสำคัญหรือจำเป็นมากน้อยเพียงใด ทำไมคนส่วนใหญ่เลือกที่จะรับ รับได้ที่ไหนบ้าง หรือต้องทำอย่างไรบ้าง วันนี้น้องแคร์รวบรวมคำตอบไว้ให้แล้ว ไปดูกันเลย!!

ประกันสุขภาพที่คุณเลือกเองได้ พร้อมชำระได้หลากหลายช่องทาง
icon angle up or down

เลือกแผนประกันสุขภาพที่คุณสนใจ

    ชื่อนามสกุล

    หมายเลขโทรศัพท์

    เบี้ยผู้สูงอายุ คืออะไร? 

    เงินผู้สูงอายุ หรือที่หลาย ๆ คนรู้จักกันในชื่อเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เป็นหนึ่งในสวัสดิการที่รัฐบาลไทยจัดหามาให้สำหรับผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป นับว่าเป็นเงินช่วยเหลือที่ทำให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นเพราะในปัจจุบันค่าครองชีพก็สูงมากยิ่งขึ้น รายได้จากอาชีพที่ทำอยู่อาจไม่เพียงพอ โดยก่อนที่คุณจะได้รับเงินผู้สูงอายุ คุณจำเป็นต้องศึกษาเงื่อนไขและลงทะเบียนก่อน 

    ประกันผู้สูงอายุ สามารถสมัครได้ตั้งแต่อายุ 50 ปี ซึ่งจะได้รับความคุ้มครองเป็นเวลายาว บางบริษัทประกันอาจให้ความคุ้มครองไปตลอดชีวิต หากมีงบถึงน้องแคร์แนะนำให้คุณสมัครประกันผู้สูงอายุไว้เลย เพราะมีความยืดหยุ่นกว่า เพราะบางครั้งการรอเงินผู้สูงอายุจากรัฐบาล อาจต้องรอนานและได้จำนวนเงินที่น้อยกว่า 

    เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ให้เงินช่วยเหลือเท่าไร?

    เงินผู้สูงอายุ รัฐบาลจะให้เป็นลำดับขึ้นบันไดตามอายุของผู้สูงอายุ แบ่งเป็น อายุ 60-69 ปี จะได้รับ 600 บาท/คน อายุ 70-79 ปี จะได้รับ 700 บาท/คน อายุ 80-89 ปี จะได้รับ 800 บาท/คน และผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 90 ปี จะได้รับเบี้ยยังชีพ 1,000 บาท/คน ยิ่งอายุมากขึ้นก็จะได้รับเงินมากขึ้นตามไปด้วย

    เงินช่วยเหลือพิเศษผู้สูงอายุ เพิ่มเท่าไหร่? 

    เงินผู้สูงอายุล่าสุดคือวันที่ 19 ก.ย. 65 แต่ปัจจุบันได้มีการเพิ่มเงินช่วยเหลือพิเศษผู้สูงอายุขึ้น ดังนี้: 

    • อายุ 60-69 ปี จะได้รับเงินช่วยเหลือพิเศษผู้สูงอายุเพิ่ม 100 บาท รวมเป็น 700 บาท 
    • อายุ 70-79 ปี จะได้รับเงินช่วยเหลือผู้สูงอายุเพิ่ม 150 บาท รวมเป็น 850 บาท 
    • อายุ 80-89 ปี จะได้รับเงินช่วยเหลือผู้สูงอายุเพิ่ม 200 บาท รวมเป็น 1,000 บาท 
    • อายุมากกว่า 90 ปี จะได้รับเงินช่วยเหลือพิเศษผู้สูงอายุ 250 บาท รวมเป็น 1,250 บาท 

    ลงทะเบียนรับเบี้ยคนชราอย่างไร?

    ผู้สูงอายุที่อายุครบ 60 ปี สามารถลงทะเบียนเพื่อรับเงินผู้สูงอายุได้ เช่น ลงทะเบียนในปีงบประมาณ 2566 เพื่อรับเบี้ยผู้สูงอายุในปี 2567 โดยทางรัฐบาลเปิดให้ลงทะเบียน 2 ช่วง คือ ช่วงที่ 1 เดือนตุลาคม –    พฤศจิกายน 2565 และ ช่วงที่ 2  เดือนมกราคม – กันยายน 2566 โดยการลงทะเบียนจะต้องลงตามวัน เวลา สถานที่ ที่กำหนด โดยต้องทำการในเวลาราชการ 

    เบี้ยผู้สูงอายุ 2567 ลงทะเบียนที่ไหน?

    เงื่อนไขการลงทะเบียนเพื่อรับเงินผู้สูงอายุ คุณสามารถลงทะเบียนที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามภูมิลำเนาของคุณในวันและเวลาราชการ หากอยู่ในกรุงเทพสามารถลงทะเบียนได้ที่สำนักงานเขตที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน หากคุณอยู่ต่างจังหวัดสามารถลงทะเบียนได้ที่ สำนักงานเทศบาล หรือ อบต.ที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน มากไปกว่านั้นคุณสามารถลงทะเบียนได้ที่ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)

    เอกสารที่ต้องใช้ในการลงทะเบียนรับเงินผู้สูงอายุ

    กรณีไปลงทะเบียนด้วยตัวเอง จำเป็นต้องเตรียมเอกสาร ดังนี้ 

    1. บัตรประจำตัวประชาชน หากไม่มีอาจใช้บัตรอื่น ๆ ที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐบาล แต่ในบัตรนั้นต้องมีรูปถ่ายของคุณ 1 ฉบับ 
    2. ทะเบียนบ้าน ฉบับเจ้าบ้าน 1 ฉบับ
    3. สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร ในกรณีที่ผู้ขอรับเงินผู้สูงอายุผ่านธนาคาร 1 ฉบับ

    กรณีไม่สามารถไปลงทะเบียนได้ด้วยตนเอง ต้องเตรียมเอกสารเพิ่มเติม ดังนี้ 

    1. หนังสือมอบอำนาจ 1 ฉบับ
    2. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ 1 ฉบับ
    3. สำเนาทะเบียนบ้านของผู้รับมอบอำนาจ 1 ฉบับ

    ขั้นตอนการลงทะเบียน 

    1. ยื่นเอกสารต่อเจ้าหน้าที่
    2. เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบเอกสารของผู้ที่ประสงค์จะขอรับเงินผู้สูงอายุในปีงบประมาณถัดไป โดยขั้นตอนนี้จะรอประมาณ 30 นาที 
    3. เจ้าหน้าที่ออกใบรับลงทะเบียนให้กับผู้ขอลงทะเบียนหรือผู้รับมอบอำนาจ รอประมาณ 30 นาที โดยขั้นตอนนี้เรียกว่าการลงนามและคณะกรรมการมีมติ 

    ใครมีสิทธิ์ได้รับเงินผู้สูงอายุบ้าง? 

    คุณสมบัติข้อที่มีสิทธิได้รับเบี้ยคนชรา หรือ เบี้ยผู้สูงอายุ มีดังนี้: 

    1. ต้องเป็นสัญชาติไทย และมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตการปกครององค์กรส่วนท้องถิ่นตามทะเบียนบ้าน 
    2. ต้องมีอายุครบ 59 ปีบริบูรณ์ เพราะรัฐบาลอนุญาตให้ลงทะเบียนล่วงหน้าก่อนอายุ 60 ปีได้

    ตัวอย่าง : หากต้องการลงทะเบียนปี 2566 ต้องเป็นผู้ที่เกิดก่อน 1 ตุลาคม 2505  

    ** แต่หากเป็นผู้สูงอายุที่ทะเบียนราษฎ ไม่ได้ระบุวัน เดือน คือระบุแต่ปีเกิด ให้ถือว่าเกิดวันที่ 1 มกราคม ของปีนั้น ๆ

    1. ผู้ที่มีบุตรทำงานในหน่วยงานของภาครัฐจะได้รับเงินบำนาญพิเศษตลอดชีวิต เพื่อทดแทนการที่บุตรทำหน้าที่เพื่อประเทศไทยจนร่างกายพิการ เกิดทุพลภาพ หรือเสียชีวิตอันเกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ มากไปกว่านั้น หากคุณได้รับสวัสดิการคนจนจากภาครัฐ คุณก็ยังมีสิทธิได้รับเบี้ยผู้สูงอายุเช่นกัน  
    2. ต้องเป็นผู้ที่ไม่เคยได้รับสวัสดิการหรือสิมทธิประโยชน์จากหน่วยงานของรัฐบาล เช่น เงินบำนาญ ได้เงินเดือนจากรัฐบาล เป็นต้น 

    เงินผู้สูงอายุ เข้าวันไหน?

    ผู้สูงอายุที่มีสิทธิได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ จะได้รับเงินทุก ๆ เดือนตุลาคมของทุกปี เมื่อมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ แตื่ปัจจุบันมีการลงทะเบียนเพื่อรับเงินผู้สูงอายุในปีงบประมาณถัดไป ดังนั้น รัฐบาลจะโอนเงินให้คุณทุกวันที่ 10 ของเดือน อย่างไรก็ตาม ถ้าวันที่ 10 ของเดือนนั้น ๆ ตรงกับวันหยุด รัฐบาลก็จะจ่ายเงินผู้สูงอายุล่วงหน้า ทำให้แต่ละเดือน อาจได้รับเบี้ยคนชราไม่ตรงกัน 

    • เดือนมกราคม 2566 เงินผู้สูงอายุเข้า วันอังคารที่ 10 มกราคม 2566 
    • เดือนกุมภาพันธ์ 2566 เบี้ยคนชราเข้า วันศุกร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2566 
    • เดือนมีนาคม 2566 เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเข้า วันศุกร์ที่ 10 มีนาคม 2566 
    • เดือนเมษายน 2566 เบี้ยผู้สูงอายุเข้า วันจันทร์ที่ 8 เมษายน 2565
    • เดือนพฤษภาคม 2566 เบี้ยผู้สูงอายุเข้า วันพุธที่ 10 พฤษภาคม 2566
    • เดือนมิถุนายน 2566 เบี้ยคนชราเข้า วันจันทร์ที่ 9 มิถุนายน 2566
    • เดือนกรกฎาคม 2566 เงินผู้สูงอายุ วันจันทร์ที่ 10 กรกฎาคม 2566
    • เดือนสิงหาคม 2566 เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเข้า วันพฤหัสบดีที่ 10 สิงหาคม 2566
    • เดือนกันยายน 2566 เบี้ยคนชราเข้า วันศุกร์ที่ 8 กันยายน 2566
    • เดือนตุลาคม 2566 เบี้ยผู้สูงอายุเข้า วันอังคารที่ 10 ตุลาคม 2566
    • เดือนพฤศจิกายน 2566 เบี้ยคนชราเข้า วันศุกร์ที่ 10 พฤศจิกายน 2566
    • เดือนธันวาคม 2566 เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเข้า วันศุกร์ที่ 8 ธันวาคม 2566

    หากเกิดวันที่ 2-31 ตุลาคม 2506 จะได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุครั้งแรกในเดือนพฤศจิกายน 2566

    หากเกิดวันที่ 2-31 ธันวาคม 2506 จะได้รับเบี้ยคนชราครั้งแรกในเดือนมกราคม 2567

    หากเกิดวันที่ 2-31 มีนาคม 2507 จะได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุครั้งแรกในเดือนมกราคม 2567

    หากเกิดวันที่ 2-31 มิถุนายน 2507 จะได้รับเบี้ยผู้สูงอายุครั้งแรกในเดือนกรกฎาคม 2567

    หมายเหตุ

    หากผู้สูงอายุคนไหนที่เกิดวันที่ 1 จะได้รับเงินผู้สูงอายุในเดือนเกิดนั้นทันที

    • ผู้สูงอายุที่เกิดวันที่ 1 พฤศจิกายน 2506 จะได้รับเบี้ยคนชราครั้งแรกในเดือนพฤศจิกายน 2566 
    • ผู้สูงอายุที่เกิดวันที่ 1 เมษยน 2507 จะได้รับเงินผู้สูงอายุครั้งแรกในเดือนเมษายน 2567
    • ผู้สูงอายุที่เกิดวันที่ 1 กันยายน 2507 จะได้รับเงินช่วยเหลือผู้สูงอายุครั้งแรกในเดือนกันยายน 2567

    อายุเกิน 60 ลงทะเบียนได้ไหม?  

    ในกรณีที่ผู้สูงอายุมีอายุเกิน 60 ปี สามารถลงทะเบียนเพื่อขอรับเบี้ยคนชราได้ โดยคุณสามารถลงทะเบียนในช่วง เดือนมกราคม-กันยายน 2566 ได้เลย เพื่อรับเงินช่วยเหลือผู้สูงอายุในปีงบประมาณ ปี 2567 อย่างไรก็ตาม ครุณจะได้รับเบี้ยคนชราครั้งแรกในเดือนตุลาคม ปี 2566 แต่จะไม่มีการจ่ายทบย้อนหลัง

    เช่น นางสาวแคร์ อายุ 61 ปี ลงทะเบียนในเดือนกันยายน 2566 ซึ่งจะได้รับเงินในเดือนตุลาคม 2566 แต่เงินที่นางสาวแคร์ได้จะไม่มีการจ่ายย้อนหลังตอนนางสาวแคร์อายุครบ 60 ปี 

    ช่องทางการรับเงิน มีอะไรบ้าง?

    ช่องทางการรับเงินผู้สูงอายุ มี 4 วิธี ดังนี้: 

    1. ผู้สูงอายุมารับเงินสดด้วยตนเอง 
    2. ให้ผู้รับมอบอำนาจมารับเงินผู้สูงอายุแทน
    3. โอนเงินเข้าสู่บัญชีของผู้สูงอายุ
    4. โอนเงินเข้าสู่บัญชีของผู้รับมอบอำนาจ

    สวัสดิการผู้สูงอายุ นอกเหนือจากเบี้ยคนชรา มีอะไรบ้าง? 

    1. ได้รับการลดค่าโดยสารสาธารณะ ครึ่งราคา เช่น รถไฟ, รถไฟฟ้า MRT, รถไฟฟ้า BTS, รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์, รถบขส., เรือด่วนเจ้าพระยา เป็นต้น 
    2. ได้รับการปรับสภาพที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุที่มีความยากจน แล้วที่อยู่อาศัยมีความไม่มั่นคง ไม่ปลอดภัย
    3. ได้รับบริการกู้ยืมเงินปลอดดอกเบี้ย เพื่อนำเงินไปลงทุนทำธุรกิจและการค้าขาย
    4. ได้รับสิทธิด้านการประกอบอาชีพ เช่น การขอรับคำปรึกษา คำแนะนำ เกี่ยวกับการสมัครงานและการฝึกอาชีพ
    5. ได้รับสิทธิทางด้านการแพทย์ คือการได้รับการดูแลด้านสุขภาพผ่านช่องทางพิเศษ
    6. ได้รับความช่วยเหลือทางด้านกฎหมาย 
    7. ได้รับข้อยกเว้นค่าเข้าชมในสถานที่ของรัฐบสล เช่น ค่าเข้าอุทยานแห่งชาติ ค่าเข้าพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ และอื่น ๆ
    8. ได้รับเงินช่วยเหลือค่างานศพกรณีเสียชีวิต 

    การสิ้นสุดการได้รับเงินผู้สูงอายุ กรณีใดบ้าง? 

    โดยปกติแล้วคุณจะมีสิทธิได้รับเงินผู้สูงอายุเมื่อคุณมีอายุครบ 60 ปี  แต่คุณจะสิ้นสุดการได้รับเบี้ยคนชราเมื่อ ถึงแก่กรรม ขาดคุณสใมบัติ หรือ แจ้งสละสิทธิ์ขอรับเบี้ยผู้สูงอายุ

    เงินผู้สูงอายุไม่เข้าเพราะอะไร? ต้องติดต่อที่ไหน?

    หลายคนกำลังประสบปัญหาที่ว่า เมื่อถึงช่วงเวลาที่จะได้รับเงินผู้สูงอายุแล้ว เงินไม่เข้า โดยส่วนใหญ่ปัญหานี้จะเกิดกับผู้สูงอายุที่เลือกรับเงินแบบโอนเข้าบัญชี ดังนั้น หากคุณปรับสมุดบัญชีแล้วเบี้ยคนชราไม่เข้า ให้ติดต่อที่หน่วยงานที่ขอรับเบี้ยคนชราได้  ดังนั้น ขอแนะนำให้คุณเดินทางไปรับเงินช่วยเหลือผู้สูงอายุด้วยตนเองเพื่อลดปัญหาเงินไม่เข้า

    แต่หากคุณซื้อประกันผู้สูงอายุ คุณจะหมดกังวลเรื่องเงินไม่เข้า เพราะคุณจะได้ทราบถึงวันที่จำได้รับเงินคืนตั้งแต่วันแรกที่ซื้อกรมธรรม์ มากไปกว่านั้นคุณจะได้ทราบถึงจำนวนเงินที่มีความแน่นอน ชัดเจน หากมีปัญหาอะไรก็สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ที่บริษัทประกันที่พร้อมให้ความช่วยเหลือคุณตลอด

    จุดด้อยของเบี้ยผู้สูงอายุมีอะไรบ้าง?

    ในปัจจุบันปัญหาของการได้รับเงินผู้สูงอายุมีมากมาย เช่น ปัญหาการไม่ได้รับเงิน ผู้สูงอายุที่เคยได้รับเบี้ยคนชราถูกเรียกเงินคืน ทำให้บางครั้งผู้สูงอายุที่มีรายได้ต่ำกว่าเส้นยากจนได้รับความลำบากมากขึ้น หรือบางครั้งเบี้ยคนชราที่ได้รับต่อเดือนไม่เพียงพอ ทำให้บางคนต้องอดมื้อกินมื้อเพื่อที่จะเก็บเงินไว้ใช้ในยามจำเป็น ดังนั้นหากคุณมีงบถึง อยากแนะนำให้คุณซื้อประกันผู้สูงอายุดีกว่า : 

    ข้อดีของประกันผู้สูงอายุ

    ข้อเสียของเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ

    1. มีเจ้าหน้าที่ที่พร้อมให้ความช่วยเหลือตลอดเวลาเมื่อเกิดปัญหา

    1. ระบบฐานข้อมูลระหว่างกระทรวงการคลังและกระทรวงมหาดไทยไม่เชื่อมโยงกัน

    2. เป็นเงินออม เพื่อเป็นทุนให้ลูกหลานในอนาคต

    2. เงินที่ได้ในแต่ละเดือนไม่เพียงพอต่อการใช้งาน

    3. หมดปัญหาเรื่องเงินไม่เข้า เพราะคุณจะได้ทราบถึงจำนวนเงิน และวันที่จะได้รับเงินล่วงหน้าตั้งแต่วันแรกที่ทำประกัน มีความเป็นระบบ

    3. ผู้สูงอายุถูกเรียกเงิน มากกว่า 15,000 รายเพราะได้รับเงินซ้ำซ้อน ส่วนใหญ่ได้รับเงินซ้ำซ้อนกับเงินบำนาญ ทหาร-ตำรวจ

    4. สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้

    4. มีปัญหาการไม่ได้รับเงิน

    การบริจาคเงินผู้สูงอายุ ดีอย่างไร? 

    หากคุณไม่ได้เดือดร้อนทางด้านการเงินหรือฐานะครอบครัวไม่ได้ยากจนมากนัก คุณสามารถช่วยเหลือสังคมได้โดยการบริจาคเงินผู้สูงอายุ โดยคุณสมบัติ คือ ต้องเป็นผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปที่ได้รับเงินผู้สูงอายุ โดยข้อดีของผู้บริจาค จะได้รับเหรียญเชิดชูเกียรติจากกองทุนผู้สูงอายุ มากไปกว่านั้นคุณสามารถนำไปลดหย่อยภาษีได้ โดยคุณสามารถยกเงิกการบริจาคได้ หากบริจาคครบ 12 ครั้ง 

    เงินผู้สูงอายุ ย้ายทะเบียนบ้าน ต้องทำยังไงบ้าง? 

    สำหรับผู้สูงอายุที่ย้ายภูมิลำเนา จำเป็นต้องไปลงทะเบียนเพื่อรับเงินช่วยเหลือผู้สูงอายุในพื้นที่ใหม่ที่คุณพักอาศัย แต่ต้องไม่เกินเดือนพฤศจิกายนของปีนั้น ๆ มากไปกกว่านั้นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งเดิมจะยังคงจ่ายเบี้ยคนชราจนถึงเดือนกันยายน หลังจากนั้นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งใหม่จะจ่าบเบี้ยผู้สูงอายุให้คุณแทน 

    ข้อมูลทั้งหมดนี้เกี่ยวกับเงินผู้สูงอายุ เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายก็มักจะทรุดโทรมลง ทำให้หลายคนต้องเก็บเงินไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน ค่ารักษาพลยาบาล ค่ายา ก็ย่อมมากขึ้นตามไปด้วย ดังนั้น น้องแคร์ขอแนะนำให้คุณซื้อประกันเกษียณอายุ ของแรบบิท แคร์ ติดตัวไว้สักหนึ่งฉบับ เพราะให้ความคุ้มครองตั้งแต่ก่อนเกษียณไปจนถึงอายุ 85 ปี มีหลักประกันที่แน่นอน มากไปกว่านั้นยังสามารถนำไปลดหย่อยภาษีได้อีก เบี้ยเริ่มต้นเดือนละ 175 บาท คุ้มค่า สบายกระเป๋า ครบจบในที่เดียว หากคุณสนใจสมามารถติดต่อได้ที่ 1438 ตลอด 24 ชั่วโมง 


    บทความแคร์การเงิน

    แคร์การเงิน

    ไฟแนนซ์ คืออะไร จัดไฟแนนซ์รถ รีไฟแนนซ์บ้าน ทำได้อย่างไรบ้าง

    หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า จัดไฟแนนซ์ ขอไฟแนนซ์ หรือขอสินเชื่อกันมาพอสมควร แต่อาจจะยังไม่เข้าใจรายละเอียดเรื่องการจัดไฟแนนซ์ ว่ามีขั้นตอนอย่างไร
    Thirakan T
    11/04/2024

    แคร์การเงิน

    เป็นหนี้บัตรเครดิต ยึดทรัพย์ คู่สมรสได้ไหม?

    เรื่องหนี้สิน เป็นเรื่องละเอียดอ่อนสำหรับคู่สมรส โดยเฉพาะหนี้บัตรเครดิต ที่เกิดจากการใช้จ่ายของทั้งสองฝ่าย ทั้งในกรณีที่ใช้จ่ายร่วมกัน
    Thirakan T
    11/04/2024

    แคร์การเงิน

    ผ่อนบ้านไม่ไหว ขายคืนธนาคารได้ไหม หรือควรทำอย่างไรดี

    ปัญหาผ่อนบ้านไม่ไหว น่าจะเป็นอีกหนึ่งปัญหาใหญ่ที่น่าหนักใจสำหรับใครหลายคน เพราะดอกเบี้ยบ้านที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปัญหาผ่อนบ้านไม่ไหว
    Thirakan T
    11/04/2024