รู้จัก ‘สามเหลี่ยมทางการเงิน’ หรือพีระมิดทางการเงิน เพื่อการวางแผนอนาคตที่มั่นคงและยั่งยืน

คะน้าใบเขียว
ผู้เขียน: คะน้าใบเขียว Published: ธันวาคม 13, 2023
คะน้าใบเขียว
คะน้าใบเขียว
นักเขียนรุ่นไฮบริด เขียนบทความด้านการบริหารเงินส่วนบุคคลและการลงทุนต่าง ๆ กว่า 7 ปี เริ่มต้นที่งานเขียนที่ Rabbit Finance จนย้ายมาที่ Rabbit Care และ Asia Direct
สามเหลี่ยมทางการเงิน

สามเหลี่ยมทางการเงินหรือพีระมิดทางการเงิน สิ่งที่ผู้ที่ต้องการวางแผนการเงินและอนาคตในระยะยาวต้องรู้จักเอาไว้ เพราะเพียงรู้จักเจ้าสามเหลี่ยมทางการเงินนี้ก็สามารถเปลี่ยนคุณภาพชีวิตของเราในวันข้างหน้าได้ สามเหลี่ยมการเงินนี้คืออะไร ? มีความสำคัญอย่างไร มีส่วนประกอบอะไร เหมาะกับใคร แรบบิท แคร์ รวมข้อมูลสรุปมาให้ รายละเอียดของผู้ช่วยวางแผนด้านการเงินที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล!

เปรียบเทียบประกันสุขภาพกับ Rabbit Care พิเศษ! ผ่อน 0% นานสูงสุด 10 เดือน
icon angle up or down

เลือกแผนประกันสุขภาพที่คุณสนใจ

    ชื่อนามสกุล

    หมายเลขโทรศัพท์

    สามเหลี่ยมทางการเงิน คืออะไร ?

    สามเหลี่ยมทางการเงิน หรือที่บางคนอาจคุ้นชินกับชื่อพีระมิดทางการเงินนั้น คือ รูปแบบหรือวิธีการในการบริหารจัดการเงิน การใช้จ่ายเงิน และการเก็บเงินเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพที่สูงที่สุด ซึ่งในการวางแผนนั้นก็จะมีรูปแบบที่ถูกกำหนดไว้เป็นขั้นต่าง ๆ โดยเริ่มทำจากในส่วนของฐานหรือสิ่งที่เรียกว่าการจัดสรรการเงินในส่วนของฐานพีระมิด ก่อนจะไล่ระดับขยับสเตปไต่ขึ้นไปในขั้นที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ โดยสามเหลี่ยมทางการเงินนั้นจะถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก ๆ หรือ 3 ระดับขั้น ด้วยกัน ซึ่งจะกล่าวอธิบายให้โดยละเอียดในหัวข้อถัดไป

    ส่วนประกอบของสามเหลี่ยมทางการเงิน

    อย่างที่ทราบกันไปแล้วว่าสามเหลี่ยมทางการเงินนั้นจะประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก ๆ ด้วยกัน เพื่อเป็นการแบ่งลำดับขั้นและจัดสรรบริหารการเงินของเราได้อย่างมีระเบียบแบบแผน โดยส่วนประกอบทั้ง 3 ส่วนของสามเหลี่ยมทางการเงินก็จะมีดังนี้

    ส่วนที่ 1 ของสามเหลี่ยมทางการเงิน : ความจำเป็นพื้นฐานและการจัดการความเสี่ยง (Basic Needs and Risk Management)

    ส่วนนี้ของสามเหลี่ยมทางการเงินนั้นนับเป็นจุดเริ่มต้น หรืออาจอธิบายให้มองเห็นภาพอย่างชัดเจนได้ง่าย ๆ ว่าคือส่วนฐานของพีระมิด และแม้จะเป็นส่วนแรกหรือสิ่งที่เหมือนจะเป็นพื้นฐานแต่ความจริงแล้วการวางแผนทางการเงินในส่วนนี้นั้นถือว่าสำคัญมาก ทุกคนควรที่จะเตรียมความพร้อมในส่วนนี้อยู่เสมอ เหตุผลก็เพราะหากการวางแผนและการจัดการทางการเงินในส่วนนี้ล้มเหลวก็จะส่งผลกระทบทำให้ส่วนอื่น ๆ ล้มเหลวไปด้วย เช่นเดียวกับการสร้างพีระมิดซึ่งหากฐานไม่มั่นคงแข็งแรงและถล่มล้มลง ส่วนอื่น ๆ ที่สูงขึ้นไปก็ย่อมพังลงมาไม่ต่างกันนั่นเอง

    สำหรับการจัดการทางการเงินในส่วนนี้ คือการมีเงินก้อนแรก ซึ่งเป็นเงินสำหรับสำรองฉุกเฉินจำนวน 3-6 เท่าของค่าใช้จ่ายต่อเดือน หรืออาจเรียกให้เข้าใจง่าย ๆ ว่าจะต้องมีเงินเก็บสำรองใช้ฉุกเฉินสำหรับการใช้จ่ายรายเดือนล่วงหน้าอย่างน้อย 3-6 เดือนเป็นอย่างต่ำ ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นหลักประกันสภาพคล่องให้กับตัวเองหรือเก็บไว้ลงทุนระยะยาวในภายภาคหน้า อีกทั้งเงินก้อนดังกล่าวอาจเป็นสิ่งที่จะช่วยเราได้ในวันที่เดือดร้อนหรืออับจนหนทางที่สุดได้อีกด้วย

    สำหรับการบริหารและจัดสรรเงินในส่วนนี้ของสามเหลี่ยมทางการเงินนั้น ขอแนะนำว่าให้ทำการฝากธนาคารหรือลงทุนในกองทุนรวมที่มีสภาพคล่องสูง และทำการจัดสรรโดย 

    • แบ่งเป็นเงินสำหรับเก็บออมและลงทุนจำนวน 10-30%
    • ภาระหนี้สินที่มีไม่ควรที่จะเกิน 35-45% 
    • ภาระหนี้สินที่ไม่รวมหนี้บ้านไม่ควรที่จะเกิน 15-20%

    นอกจากนี้ยังควรที่จะมีการบริหารจัดการความเสี่ยงจากเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เช่น การซื้อประกันสุขภาพ ประกันรถยนต์ ประกันอุบัติเหตุ หรือจะเลือกซื้อประกันออมทรัพย์ กับ แรบบิท แคร์ ก็นับเป็นทางเลือกที่ดี เนื่องจากสามารถช่วยในการเก็บออมเงิน ในขณะเดียวกันก็ได้รับการคุ้มครองชีวิตเหมือนกับการซื้อประกันชีวิตแบบฟรี ๆ เลยทีเดียว

    ส่วนที่ 2 ของสามเหลี่ยมทางการเงิน : การสะสมความมั่งคั่ง (Wealth Accumulation)

    สำหรับส่วนที่ 2 ของสามเหลี่ยมทางการเงินนั้น ในส่วนนี้จะเป็นส่วนของการลงทุนและตั้งเป้าหมายทางการเงินในอนาคต หรือการวางแผนเพื่อการเกษียณอายุ (Retirement Planning) และการวางแผนการศึกษา (Education Planning) โดยในปัจจุบันนั้นก็ได้มีผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เป็นเสมือนดังตัวช่วยที่เหมาะสมกับการวางแผนการเกษียณอายุและการวางแผนการศึกษาอยู่มากมาย ซึ่งการลงทุนในส่วนนี้นั้นถือเป็นการลงทุนในระยะที่ค่อนข้างยาวนาน 

    ดังนั้นสำหรับการลงทุนในส่วนที่ 2 ของสามเหลี่ยมทางการเงินนี้นั้น ใครที่มีความรู้ความสามารถในเรื่องของการลงทุนในกองทุนรวมหรือการลงทุนในหุ้นก็สามารถทำการซื้อและลงทุนได้ด้วยตนเองในทันที แต่สำหรับใครที่ไม่มีความรู้ทางด้านนี้อีกทั้งยังมีเวลาในการศึกษาเกี่ยวกับการลงทุนอย่างจำกัด ก็ขอแนะนำว่าให้เริ่มต้นศึกษาลงทุนในกองทุนรวมที่มีความเสี่ยงในระดับ 5 ขึ้นไป และวิธีการออมเงินที่แนะนำก็คือ การเปิดบัญชีฝากประจำ กองทุนรวมผสม กองทุนรวมหุ้น หรือการซื้อประกันที่มีเงื่อนไขในระยะสั้นหรือระยะกลางนั่นเอง

    ส่วนที่ 3 ของสามเหลี่ยมทางการเงิน : การลงทุน (Investment)

    ส่วนที่ 3 ของสามเหลี่ยมทางการเงิน หรืออาจเรียกได้ว่าเป็นชั้นบนสุดของพีระมิดทางการเงินนั้น คือส่วนของการลงทุนตามความต้องการส่วนบุคคล ซึ่งสำหรับการเลือกลงทุนในส่วนนี้นั้นจะต้องพิจารณาจากความถนัดของผู้ลงทุนว่ามีความเชี่ยวชาญหรือความสามารถในการลงทุนในรูปแบบใด เหตุผลที่การลงทุนในส่วนยอดของสามเหลี่ยมทางการเงินนี้สามารถเลือกลงทุนตามความต้องการได้ เนื่องจากส่วนนี้เป็นส่วนที่สามารถรับความเสี่ยงได้อย่างเต็มที่นั่นเอง

    การลงทุนส่วนนี้นั้นสามารถแบ่งเป้าหมายการลงทุนเป็น 3 ส่วนด้วยกัน คือ การลงทุนระยะสั้น การลงทุนระยะกลาง และการลงทุนระยะยาว

    • เป้าหมายระยะสั้น ลงทุนในระยะเวลา 0-3 ปี เช่น การออมเงินโดยการฝากประจำหรือการซื้อกองทุนรวมตลาดเงิน
    • เป้าหมายระยะกลาง ลงทุนในระยะเวลา 3-7 ปี เช่น การลงทุนในกองทุนรวม กองทุนรวมหุ้นระยะยาว หุ้นสามัญ หรือตราสารหนี้
    • เป้าหมายระยะยาว ลงทุนในระยะเวลา 7 ปีขึ้นไป เช่น การลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ การทำประกัน

    สามเหลี่ยมการเงิน

    ความสำคัญของสามเหลี่ยมทางการเงิน

    หลังจากรู้รายละเอียดเกี่ยวกับสามเหลี่ยมทางการเงินกันไปแล้ว อาจมีบางคนเริ่มสงสัยและอาจจะยังมองเห็นภาพได้ไม่ชัดนักว่าเจ้าสามเหลี่ยมทางการเงินนั้นมีความสำคัญอย่างไร ความจริงแล้วสามเหลี่ยมทางการเงินซึ่งถือเป็นรูปแบบการวางแผนทางการเงินนี้นั้นมีความสำคัญมาก คือ

    • สามเหลี่ยมทางการเงินช่วยสร้างพื้นฐานชีวิตและพื้นฐานทางการเงินให้อย่างมั่นคง
    • สามเหลี่ยมทางการเงินช่วยบริหารจัดการความเสี่ยงทางการเงินในอนาคตได้
    • สามเหลี่ยมทางการเงินทำให้เรามองภาพอนาคตและวางแผนทางการเงินในระยะไกล
    • เป็นสิ่งกระตุ้นให้เราเริ่มศึกษาเกี่ยวกับการทำให้เงินงอกเงยในทุกวัน
    • เป็นตัวช่วยให้สามารถบรรลุเป้าหมายในการมีชีวิตที่มั่นคง และมีอิสระทางการเงิน

    ใครบ้างที่เหมาะกับการใช้สามเหลี่ยมทางการเงิน

    สำหรับผู้ที่กำลังสงสัยว่าใครบ้างที่จะเหมาะกับการใช้การวางแผนทางการเงินในรูปแบบการใช้สามเหลี่ยมทางการเงินนั้น บอกได้เลยว่าไม่ว่าใครก็ล้วนสามารถใช้สามเหลี่ยมทางการเงินได้ เพราะถึงแม้คุณจะไม่ได้มีความสามารถทางการเงินมากนักในปัจจุบัน ก็สามารถเริ่มวางแผนจัดการส่วนที่หนึ่งหรือส่วนฐานของสามเหลี่ยมทางการเงินได้ จากนั้นค่อย ๆ ขยับขึ้นไป จนกลายเป็นบุคคลที่มีความมั่นคงและมีอิสระทางการเงินในท้ายที่สุดได้นั่นเอง

    เงินเดือนน้อยสามารถใช้สามเหลี่ยมทางการเงินได้ไหม ?

    บางคนอาจมีความคิดและความรู้สึกว่า การวางแผนทางการเงิน โดยเฉพาะในรูปแบบของการใช้สามเหลี่ยมทางการเงินนั้นเป็นสิ่งที่มีแต่คนรวยที่จะทำได้เพียงเท่านั้น หากเป็นคนที่หาเช้ากินค่ำ คงไม่สามารถที่จะนำเงินมาเก็บออมหรือใช้ลงทุนในส่วนต่าง ๆ ได้ เพราะแค่จะกินข้าวและใช้จ่ายในชีวิตประจำวันก็ยังแทบไม่พอใช้นั่นเอง

    สำหรับความกังวลและความคิดเช่นนี้นั้นความจริงแล้วก็ไม่อาจปฏิเสธได้ ว่าสำหรับผู้ที่มีภาระมากมายสวนทางกับความสามารถในการสร้างรายได้นั้นก็คงยากที่จะทำใจลงทุนกับการวางแผนทางการเงิน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องไม่ลืมว่า สำหรับการวางแผนทางการเงิน เราสามารถเริ่มทำได้เท่าที่เรามีเท่าที่เราไหว ดีกว่าที่จะไม่ทำอะไร หากเป็นเช่นนั้นชีวิตคงไม่มีวันที่จะหลุดพ้นจากวงจรการหาเช้ากินค่ำใช้เงินเดือนชนเดือน บางเดือนชักหน้าไม่ถึงหลังจนต้องไปกู้หนี้ยืมสิน

    ดังนั้นสำหรับคำถามที่ว่าคนเงินเดือนน้อยสามารถใช้สามเหลี่ยมทางการเงินได้หรือไม่นั้น แรบบิท แคร์ ขอตอบว่าสามารถใช้ได้ เพียงแต่ต้องค่อย ๆ เริ่มต้นตามที่เราไหว ค่อย ๆ ใช้เวลาสร้างและทำในส่วนพื้นฐานให้ได้ จากนั้นก็ค่อย ๆ ขยับไปทีละขั้น สักวันจะต้องประสบความสำเร็จและสามารถสร้างสามเหลี่ยมทางการเงินที่สมบูรณ์ได้อย่างแน่นอน


    บทความแนะนำอื่นๆ : การเงินส่วนบุคคล

    คน Gen Y ออมเงินรูปแบบไหนได้บ้างให้มีเงินออม ? เก็บเงินอย่างไร ถ้าต้อง work from home อีกครั้ง ไอเดียปฏิเสธเมื่อถูกยืมเงินจากคนรอบตัว ไอเดียเก็บเงินกับคนรัก เพื่อสร้างอนาคตร่วมกัน อิสรภาพทางการเงิน คืออะไร มีความสำคัญอย่างไร?

    บทความแคร์การเงิน

    Rabbit Care Blog Image 101965

    แคร์การเงิน

    ดอกเบี้ยลอยตัว คืออะไร? ต่างกับดอกเบี้ยคงที่อย่างไร? มาลองคำนวณกัน

    ดอกเบี้ยลอยตัว คืออะไร? ดอกเบี้ยลอยตัว (Floating Interest Rate) หรือที่เรียกว่า อัตราดอกเบี้ยผันแปร คือ อัตราดอกเบี้ยที่มีการเปลี่ยนแปลงตามสภาวะเศรษฐกิจ
    กองบรรณาธิการ
    09/06/2025
    Rabbit Care Blog Image 101805

    แคร์การเงิน

    คำนวณยอดเงินดาวน์ที่เหมาะสม ง่ายๆ ในไม่กี่คลิก!

    ทำไมต้องวางเงินดาวน์ให้เหมาะสม? การวางเงินดาวน์ที่เหมาะสมช่วยลดภาระดอกเบี้ยและค่างวดผ่อนชำระในอนาคต
    กองบรรณาธิการ
    06/06/2025
    Rabbit Care Blog Image 99755

    แคร์การเงิน

    การโปะงวดรถ คืออะไร เหมือนการปิดงวดรถก่อนกำหนดไหม มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร ?

    เรื่องสำคัญที่เจ้าของรถทุกคนจะต้องรู้ไว้โปะงวดรถ คืออะไร จ่ายค่างวดรถเกินยอด ทำได้หรือไม่ การโปะรถยนต์มีข้อดี หรือข้อเสียอย่างไร ควรทำไหม ?
    คะน้าใบเขียว
    11/03/2025