ถูกยืมเงินบ่อย ๆ ควรปฏิเสธอย่างไร เพราะอะไรเราถึงมักตกเป็นเหยื่อการขอยืมเงิน ?

คะน้าใบเขียว
ผู้เขียน: คะน้าใบเขียว Published: กรกฎาคม 23, 2024
คะน้าใบเขียว
คะน้าใบเขียว
นักเขียนรุ่นไฮบริด เขียนบทความด้านการบริหารเงินส่วนบุคคลและการลงทุนต่าง ๆ กว่า 7 ปี เริ่มต้นที่งานเขียนที่ Rabbit Finance จนย้ายมาที่ Rabbit Care และ Asia Direct
ยืมเงิน

ปัญหาชวนปวดหัวอย่างการถูกยืมเงินถือเป็นปัญหาที่ไม่ว่าใครก็ไม่อยากเผชิญ ไม่ว่าจะด้วยเพราะสถานการณ์การเงินที่เป็นอยู่ลำพังเอาตัวเองให้รอดก็ลำบาก หรือจะมีเหลืออยู่บ้างแต่ก็อยากจะเก็บไว้ใช้ตอบแทนความเหนื่อยยากที่หลังขดหลังแข็งหามา แล้วหากต้องการปฏิเสธควรจะปฏิเสธอย่างไรไม่ให้เสียน้ำใจและทำลายความสัมพันธ์

วันนี้ แรบบิท แคร์ ได้รวบรวมวิธีการปฏิเสธเมื่อถูกขอยืมเงินมาฝาก พร้อมข้อสังเกตที่ว่าคนแบบไหนที่มักตกเป็นเป้าหมายของการถูกยืมเงินให้ทุกคนได้ลองสังเกตตัวเองกัน จะได้ไหวตัวและปรับเปลี่ยนได้ทัน ไม่ต้องตกเป็นเหยื่อของการถูกขอยืมอีกต่อไป

บัตรไหนคุ้ม เปรียบเทียบเลย แค่ 30 วิ เช็คเลย!
icon angle up or down

สามารถเลือกได้มากกว่า 1 ข้อ

เด็กจบใหม่ เด็กจบใหม่ icon รักการท่องเที่ยว รักการท่องเที่ยว icon รักการช้อปปิ้ง รักการช้อปปิ้ง icon รักความหรูหรา รักความหรูหรา icon รักสุขภาพ รักสุขภาพ icon รักการกิน รักการกิน

วิธีปฏิเสธเมื่อถูกยืมเงิน

แน่นอนว่าเมื่อต้องปฏิเสธเวลามีคนมาเล่าความทุกข์ยากและเอ่ยปากยืมเงินนั้นเป็นเรื่องที่ค่อนข้างกดดันและลำบาก แถมยังกังวลว่าจะทำลายความสัมพันธ์ดี ๆ หรือความสนิทสนมที่เคยมีให้กัน แต่ความจริงแล้วการปฏิเสธเมื่อถูกขอยืมเงินนั้นมีวิธีพูดหลายอย่างที่จะช่วยรักษาความสัมพันธ์ไว้ได้ ดังนี้เลย

ปฏิเสธการยืมเงินโดยการบอกเล่าว่าช่วงนี้เราเองก็หมุนเงินไม่ทัน

เมื่อถูกยืมเงินให้ปฏิเสธไปด้วยเหตุผลว่าช่วงนี้ตัวเราเองก็หมุนเงินไม่ทัน ชักหน้าไม่ถึงหลังอยู่เช่นกันเนื่องจากมีปัญหาการเงินติดขัด หรือค่าใช้จ่ายไม่คาดคิดที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ทำให้ในตอนนี้ถึงอยากช่วยเหลือและให้ยืมเงินก็ไม่สามารถหามาให้ยืมได้จริง ๆ  

ปฏิเสธการยืมเงินโดยการบอกเหตุผลว่าตัวเราเองก็มีภาระค่าใช้จ่าย

เมื่อถูกยืมเงินให้ปฏิเสธไปว่าตัวเราเองก็มีภาระค่าใช้จ่ายที่รออยู่มากมาย ตอนนี้ลำพังรับภาระค่าใช้จ่ายที่รออยู่ก็เต็มกลืนแล้ว ไม่มีเงินเหลือหรือเงินสำรองจ่ายที่จะสามารถให้ยืมก่อนได้ โดยอาจยกตัววอย่างภาระค่าใช้จ่ายให้ฟังเหมือนเพื่อนชวนเพื่อนคุย เล่าเรื่องราวต่าง ๆ ให้ฟังแบบดูเป็นธรรมชาติเพื่อป้องกันการถูกตื้อยืมเงินต่อ เช่น เล่าให้ฟังว่าช่วงนี้ลูกเพิ่งเข้าโรงเรียน ค่าใช้จ่ายเยอะมาก หาเงินหัวหมุนตัวเป็นเกลียวเลย แถมบางครั้งยังไม่พอต้องไปรบกวนพ่อตาแม่ยายอีก รับรองว่าเจอแบบนี้เข้าไปไม่กล้าตื้อยืมเงินต่ออย่างแน่นอน

ปฏิเสธการยืมเงินโดยการบอกว่านำเงินไปลงทุนหมดแล้ว

วิธีต่อไปในการปฏิเสธเมื่อถูกยืมเงินก็คือ ปฏิเสธโดยการบอกเหตุผลว่าเราได้นำเงินส่วนที่เหลือจากการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันไปลงทุนหมดแล้ว ยังไม่ได้ทุนคืน ยังไม่เกิดกำไร จึงไม่สามารถให้เงินหรือมีเงินให้ยืมได้เพราะรอบนี้ลงทุนไปหมดหน้าตักรอเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ระยะยาว

ปฏิเสธการยืมเงินโดยการบอกว่านำเงินไปฝากไว้ในที่ที่ไม่สามารถถอนออกได้

วิธีนี้มีความคล้ายคลึงกับวิธีก่อนหน้า ก็คือให้เหตุผลในการปฏิเสธว่าได้นำเงินที่มีไปฝากไว้ในที่ที่ไม่สามารถถอนออกมาได้ เช่น ในบัญชีธนาคารที่ถอนออกไม่ได้ บัญชีฝากประจำ หรือได้นำเงินที่มีไปซื้อประกัน เช่น ประกันออมทรัพย์ กับ แรบบิท แคร์ ทำให้ไม่มีเงินสำรองมาช่วยเหลือหรือให้ยืมได้นั่นเอง

ปฏิเสธการยืมเงินโดยการบอกว่าให้คนอื่นยืมไปแล้วปัจจุบันยังไม่ได้คืน

อีกวิธีที่ดีในการปฏิเสธแบบบัวไม่ให้ช้ำน้ำไม่ให้ขุ่นก็คือการบอกผู้ที่มายืมเงินว่าเมื่อไม่นานมานี้เพิ่งจะช่วยเหลือผู้อื่นให้ผู้อื่นยืมเงินไป แล้วในปัจจุบันคน ๆ นั้นก็ยังไม่ได้คืนเงินที่ยืมไปมา ทำให้ตอนนี้เราไม่มีเงินให้ยืมแถมตัวเราเองก็กำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบากเช่นกัน

ปฏิเสธโดยการช่วยคิดหาทางออกทางอื่นแทนการให้ยืมเงิน

นอกจากการปฏิเสธโดยการให้เหตุผลว่าเราไม่สะดวกหรือมีเรื่องติดขัดต่าง ๆ แล้วยังอาจช่วยคิดหรือเสนอทางออกอื่น ๆ ให้กับผู้ที่มายืมเงินเป็นการช่วยเหลือ เช่น แนะนำงานพิเศษให้ทำ แนะนำช่องทางหารายได้พิเศษ แนะนำการกู้สินเชื่อกับ แรบบิท แคร์ เป็นการแสดงความจริงใจว่าแม้เราจะไม่มีเงินให้แต่เราเองนั้นก็พยายามที่จะช่วยเต็มที่เช่นกัน

ขอยืมเงิน

ลักษณะของผู้ที่มักตกเป็นเป้าหมายของการยืมเงิน

สำหรับบางคนอาจจะสังเกตเห็นได้ว่าตนเองมักตกเป็นเหยื่อของการยืมเงินหลายครั้ง ซึ่งก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นเพราะอะไร วันนี้ แรบบิท แคร์​ จึงได้นำลักษณะของคนที่มักตกเป็นเหยื่อของการถูกยืมเงินมาให้ เผื่อใครกำลังสงสัยจะได้เอาไปสำรวจตัวเอง

เป็นคนขี้สงสาร ขี้ใจอ่อน

คนที่ขี้สงสาร ขี้ใจอ่อนมักตกเป็นเป้าหมายแรก ๆ ในการยืมเงิน โดยผู้ที่มาขอยืมเงินมักจะมีวิธีขอยืมเงินร้อยแปดพันเก้าที่จะเล่าเรื่องราวให้เรารู้สึกสงสารและเห็นใจในความลำบาก โดยเมื่อเราเริ่มรู้สึกมีอารมณ์ร่วมและสงสารก็จะเริ่มปฏิบัติการหว่านล้อมต่าง ๆ เพื่อยืมเงินของเราในทันที

เป็นคนที่ชอบรับฟังและช่วยเหลือผู้อื่น

คนประเภทนี้มีความใกล้เคียงกับคนที่ขี้ใจอ่อนและขี้สงสาร นั่นก็คือคนที่ชอบรับฟังและช่วยเหลือผู้อื่น เป็นศาลาบรรเทาทุกข์ให้กับคนรอบข้างเมื่อใครประสบปัญหาก็มักที่จะพร้อมรับฟังและให้ความช่วยเหลือแบบไม่ขาด คนแบบนี้นั้นนอกจากจะโดนนึกถึงเป็นอันดับแรก ๆ เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นแล้วยังถูกมองว่าสามารถยืมเงินได้ง่าย เพียงเข้ามาเนียนปรึกษาปัญหาชีวิตอย่างที่เคยไม่นานก็คงตายใจ และอาจเอ่ยปากให้ยืมเงินแบบไม่ต้องออกปากขอเองเลยนั่นเอง

เป็นคนที่ปฏิเสธคนไม่เป็น

เวลาที่ใครไหว้วานอะไร หรือใครเอ่ยปากขออะไรก็มักจะปฏิเสธไม่ได้เพราะเป็นคนที่ปฏิเสธคนไม่เป็น คนแบบนี้ก็มักตกเป็นเหยื่อในการยืมเงินอันดับต้น ๆ เพราะผู้ที่มาขอนั้นล้วนมั่นใจว่าหากเอ่ยปากไปแล้วต้องให้แน่ ๆ หรือแม้จะไม่อยากให้ในทีแรกเพียงหว่านล้อมไม่นานก็จะยอมให้แน่นอนเพราะเป็นคนที่ปฏิเสธคนไม่เป็นหรือปฏิเสธคนไม่เก่งนั่นเอง

เป็นคนยอมคนง่าย ไม่โผงผาง

แม้จะโดนทำให้ลำบากใจก็ไม่เป็นไร ถึงบางทีจะโดนเอาเปรียบก็ได้แต่ปล่อย ๆ ให้เรื่องจบ ช่างมันไปจะได้ไม่ต้องกลายเป็นปัญหาใหญ่ คนที่มีนิสัยเช่นนี้ก็มักตกเป็นเป้าหมายในการยืมเงินเช่นกัน เพราะเมื่อยืมไปแล้วมักจะไม่โดนตามทวงแบบจริง ๆ จัง ๆ หลายครั้งก็ยอมยกหนี้ให้ไปซะเฉย ๆ ไม่เหมือนคนประเภทที่ไม่ยอมคน คนโผงผางที่นอกจากจะตามจิกตามทวงแล้วหลายครั้งยังทำการประจานเมื่อไม่ได้เงินคืนอีกด้วย

สัญญากู้ยืมเงิน

วิธีป้องกันไม่ให้ถูกยืมเงินบ่อย ๆ 

  • ฝึกฝนตนเองให้เป็นคนใจแข็ง และเด็ดขาด
  • เผยด้านที่ลำบากของตนเองบ้างแบบพอดี ๆ
  • มองคนให้ขาด และหัดปฏิเสธคนให้เป็น
  • หากให้ยืมแล้วต้องจริงจังในการทวง ไม่ปล่อยผ่านไปง่าย ๆ 
  • หากให้ยืมแล้วไม่ได้คืน ให้เลิกติดต่อเลิกคบอย่างถาวร

สิ่งที่ต้องคำนึงเมื่อตัดสินใจให้ยืมเงิน

เมื่อสุดท้ายแล้วยังไม่สามารถใจแข็งปฏิเสธที่จะไม่ให้ยืมเงินเมื่อมีคนมาขอยืมเงินได้นั้น ก็มีสิ่งที่ต้องระวังและต้องคำนึงก่อนที่จะให้ยืมเงินจำนวนนั้นไป ได้แก่

  • จะต้องมีการถามย้ำถึงเหตุผลที่ให้ยืมและกำหนดการที่จะคืนเงิน
  • ย้ำเตือนไปว่าตัวเราเองก็ลำบากแต่ก็จะช่วยเพราะเห็นแก่ความสัมพันธ์
  • ไม่จำเป็นต้องให้ยืมตามจำนวนที่ขอมาแต่ให้ยืมเท่าที่เราพอไหวและสะดวกใจ
  • ไม่ว่าเงินจะน้อยหรือมาก และสนิทกันมากแค่ไหนก็จำเป็นที่จะต้องมีสัญญากู้ยืมเงิน

สิ่งเหล่านี้ถือเป็นสิ่งที่สำคัญมาก อย่าเชื่อถือคำสัญญาของใครเพียงแค่ลมปาก เพราะสุดท้ายหากเขาไม่ยอมคืนคนที่เดือดร้อนก็คือตัวเราและครอบครัว

วิธีเหล่านี้คือวิธีที่ดีและละมุนละม่อมที่สามารถใช้ในการปฏิเสธเมื่อถูกยืมเงินได้ ต้องไม่ลืมว่าหากเป็นความสัมพันธ์ที่ดีและจริงใจ เพียงแค่เราปฏิเสธเมื่อเขาร้องขอสิ่งที่เราไม่สะดวกใจก็จะไม่ทำลายความสัมพันธ์อย่างแน่นอน นอกจากนี้สำหรับใครที่มีลักษณะซึ่งมักตกเป็นเป้าหมายของการยืมเงินบ่อย ๆ ก็อย่าลืมฝึกฝนตนเองเพื่อหลีกเลี่ยงการตกเป็นเป้าเข้าไว้ เพราะแน่นอนว่าการต้องปฏิเสธบ่อย ๆ นั้นสร้างความลำบากใจ ไม่ถูกขอยืมแต่แรกจึงจะดี

สรุป

โดยสรุปแล้ว ผู้ที่มักจะถูกขอยืมเงินมักจะลักษณะ เป็นคนขี้สงสาร ขี้ใจอ่อน, ชอบรับฟังและช่วยเหลือผู้อื่น, เป็นคนที่ปฏิเสธคนไม่เป็น, ยอมคนง่าย ไม่โผงผาง ทำให้มักจะถูกขอยืมเงินได้ง่าย ดังนั้นใครที่ไม่อยากตกเป็นเป้าหมายของการถูกยืมเงินบ่อย ๆ จะต้องฝึกฝนตนเองให้เป็นคนใจแข็ง และเด็ดขาด นอกจากนี้การทำสัญญากู้ยืมอย่างเป็นทางการ จริงจัง มากกว่าการให้ยืมเงินด้วยปากเปล่าจะช่วยได้มากขึ้น และช่วยคัดกรองคนที่จะมายืมเงินได้ด้วย

ที่มา


บทความแนะนำอื่นๆ : การเงินส่วนบุคคล

คน Gen Y ออมเงินรูปแบบไหนได้บ้างให้มีเงินออม ? เก็บเงินอย่างไร ถ้าต้อง work from home อีกครั้ง ไอเดียเก็บเงินกับคนรัก เพื่อสร้างอนาคตร่วมกัน อิสรภาพทางการเงิน คืออะไร มีความสำคัญอย่างไร? รู้จักสามเหลี่ยมทางการเงิน เพื่อวางแผนอนาคต

บทความแคร์การเงิน

Rabbit Care Blog Image 102347

แคร์การเงิน

หนี้เยอะ จ่ายไม่ไหว ทำยังไงดี? ประนอมหนี้ดีไหม?

เมื่อหนี้สินพอกพูนจนเริ่มแบกรับไม่ไหว หลายคนอาจรู้สึกท้อแท้และหาทางออกไม่เจอ หากคุณกำลังเจอกับปัญหา หนี้บัตรเครดิตท่วม, หนี้เสียถูกฟ้อง,
คะน้าใบเขียว
01/07/2025
Rabbit Care Blog Image 102326

แคร์การเงิน

ไขข้อสงสัย ผ่อนบ้านกี่ปีถึงรีไฟแนนซ์ได้? รีไฟแนนซ์บ้านคุ้มไหม?

สำหรับเจ้าของบ้านหลายคน ภาระผ่อนบ้านต่อเดือนถือเป็นค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ที่ต้องแบกรับอยู่ไม่น้อย
คะน้าใบเขียว
27/06/2025